ตุ๊บตั๊บ
โม่เก๋อติงสีหน้าซีดขาว คุกเข่าลงไปอย่างไม่ลังเล
แม้แต่บอดี้การ์ดสองคนที่พยุงตัวเซียวจวงก็ตกใจจนเข่าอ่อน คุกเข่าลงบนพื้น
เซียวจวงก็ล้มลงอย่างทรหด ล้มนอนอยู่บนพื้นเหมือนหมา สีหน้าย่ำแย่ยิ่งกว่าพ่อเสียชีวิตอีก
“หลินอิ่ง ขอร้อง อย่าฆ่าฉันเลย ฉัน ฉันยอมทำทุกอย่าง” โม่เก๋อติงคุกเข่าขอร้อง ไม่มีความคิดต่อต้านแม้แต่น้อย
“ฉัน ฉัน หลินอิ่ง เซียวซื่อกรุ๊ปของเราเป็นบริษัทข้ามชาติ แกอยากได้อะไร ฉันให้แกได้หมด ให้แกทุกอย่าง ขอแค่ไว้ชีวิตฉันด้วย” เซียวจวงขอร้องอย่างหวาดกลัว ตกใจจนกางเกงเปียกหมดแล้ว
ต่อหน้าหลินอิ่ง พวกเขาไม่มีความคิดที่จะต่อต้านแม้แต่น้อย
ท่าทางหลินอิ่งดั่งเทวดาลงสู่สวรรค์ พวกเขาก็เห็นมากับตาแล้ว
แม้แต่ทหารรับจ้างอุปกรณ์อาวุธพร้อมเป็นสิบคน ยังขัดขวางหลินอิ่งไม่ได้
แต่กลับ ถูกหลินอิ่งไล่ฆ่ามาถึงในลิฟต์ ตัดขาดทางหนีไปแล้ว
ในใจโม่เก๋อติงและเซียวจวง หมดสิ้นความหวังแล้ว
พวกเขาไปมีเรื่องกับเทวดาอะไรกันเนี่ย
หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย ลงมาในลิฟต์ที่กว้างขวาง เสียงดังปัง เหยียบอยู่บนหน้าของเซียวจวง เหยียบหัวเขาแนบพื้นขยับไม่ได้
“เอื้อกอ้าก”
เซียวจวงกระอักเลือดออกจากสองครั้ง น้ำมูกน้ำตาไหลออกมา
“ยังจำคำพูดของผมได้ไหม?” หลินอิ่งถามเสียงเรียบ
“แก ท่าน ท่านบอกว่าห้ามผมเข้ามาในประเทศหลุงแม้แต่ก้าวเดียว” เซียวจวงเลือดเต็มปาก ตอบด้วยความหวาดกลัว
ปัง
หลินอิ่งเหยียบลงไปอย่างแรง สั่นสะเทือนไปทั่วลิฟต์ ร่างท่อนบนของเซียวจวงแบนราบลงไป กระดูกแตกละเอียด
“เห็นคำพูดของผมเป็นแค่ลม?” หลินอิ่งแววตาเย็นชา มุมปากมีแววแห่งความโหดเหี้ยม
“เอื้อกอ้ากอ้าก”
เซียวจวงตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกระตุกอย่างบ้าคลั่ง ถูกกำลังภายในทะลุไปทั่วร่าง ทนรับความเจ็บทรมานยิ่งกว่าตาย
“ขอร้องจริงๆ ให้โอกาสพวกเราอีกครั้ง คุณต้องการอะไรก็ได้ ฆ่าพวกเรา ไม่มีข้อดีสำหรับคุณเลย” โม่เก๋อติงพูดอ้อนวอนขอร้อง
“ฆ่าเราสองคน จะได้รับความโกรธแค้นจากสำนักงานใหญ่ลาตินกรุ๊ปกับเซียวซื่อกรุ๊ปแห่งประเทศMเท่านั้น” โม่เก๋อติงพูดเสียงสั่น “คุณ คุณเป็นนักธุรกิจ ต้องรู้ว่าควรจัดการยังไง ถึงจะได้รับผลประโยชน์ที่ดีที่สุด”
“ขอร้องคุณแจ้งจำนวนเงินมาเลย ไม่ว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ไม่ว่าข้อเสนออะไร ผมยินดียอมรับทุกอย่าง”
โม่เก๋อติงคุกเข่าก้มหัวโขกพื้น ขอร้องตัวสั่น
“ผมไม่ใช่นักธุรกิจ”
“ผมรู้แค่ว่า คุณเดิมพันชีวิตแพ้ผมแล้ว ในโลกนี้ ไม่มีควรติดหนี้ผมได้” หลินอิ่งพูดอย่างเย็นชา
พูดจบ หลิงอิ่งสะบัดมือบีบคอของโม่เก๋อติงไว้ บีบจนเขาหน้าแดง น้ำลายฟูมปาก
เขาสะบัดมืออีกครั้ง เหวี่ยงร่างอันอวบอ้วนของโม่เก๋อติงลงไปทับบนร่างของเซียวจวง ทั้งสองคนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
สามนาทีผ่านไป
ลิฟต์มาถึงชั้นหนึ่ง
หลินอิ่งปัดฝุ่นบนไหล่ เดินออกจากลิฟต์
ในลิฟต์ เป็นร่างที่นอนตายไร้ลมหายใจของโม่เก๋อติงและเซียวจวง
ณ ตอนนี้ อาคารสุ่ยจินสัญญาณแจ้งเตือนดังขึ้น ถูกโม่เก๋อติงออกคำสั่งเคลียร์สถานที่ อาคารสูงแปดสิบกว่าชั้น เหลือไว้เพียงบอดี้การ์ดมือปืนของโม่เก๋อติง
ในแผนกต้อนรับชั้นหนึ่ง มีบอดี้การ์ดต่างชาติของโม่เก๋อติงยืนกันเป็นแถว ในห้องโถงยังมีรถธุรกิจสีดำจอดอยู่หนึ่งคน
บอดี้การ์ดต่างชาติทุกคนในชั้นหนึ่ง สายตาตะลึง
วินาทีที่พวกเขาเห็นหลินอิ่งเดินออกมา ในสายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
จากนั้น มองเห็นโม่เก๋อติงและเซียวจวงที่อยู่ในลิฟต์แล้ว
ตุ๊บ ตุ๊บ
ทุกคน คุกเข่าลงไปทันที โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
หลินอิ่ง สำหรับบอดี้การ์ดต่างชาติอย่างพวกเขาแล้ว ก็เหมือนกับปีศาจซาตาน แรงอาฆาตเช่นนี้ ทำให้พวกเขาตัวสั่น
พวกเขาเห็นกับตาแล้ว คนประเทศหลุงคนนี้ มีพลังต่อสู้เหมือนดั่งผู้ล้างโลก อาวุธปืนยังต้านไม่อยู่
หลินอิ่งเดินออกไปสีหน้าเรียบเฉย หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาคริส
“ฮัลโหล ประธานหลิน สถานการณ์ทางโน้นเป็นยังไงบ้าง?” ในโทรศัพท์ เป็นเสียงของคริสที่กังวล
“พาคนมาที่อาคารสุ่ยจิน เคลียร์สถานที่” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ
……
ในคืนนั้น ความโกลาหลในวงการธุรกิจเมืองก่าง
ข่าวเรื่องลาตินกรุ๊ปเมืองก่างเปลี่ยนเจ้าของกระจายไปทั่ว
ประธานลาตินกรุ๊ปคนเดิม โม่เก๋อติง หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ยังมีข่าวลือว่า โม่เก๋อติงและเซียวซื่อกรุ๊ปไปมีเรื่องกับผู้มีอำนาจลึกลับท่านหนึ่ง ถูกจัดการไปแล้ว……
ตัวแทนเขตภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คริสควบคุมลาตินกรุ๊ปเมืองก่าง และประกาศออกไปว่า ลาตินกรุ๊ปเมืองก่างถอนตัวออกจากสำนักงานใหญ่ลาตินกรุ๊ป เปลี่ยนชื่อเป็นหลินซื่อกรุ๊ป มีเงินทุนเป็นของตัวเอง บริหารจัดการเอง
ข่าวทั้งหมดนี้ สะเทือนไปทั้งวงการธุรกิจเมืองก่าง
ถอนตัวออกจากสำนักงานใหญ่ลาตินกรุ๊ป? ยังเปลี่ยนชื่อบริหารจัดการเอง?
นี่ทำให้ผู้คนไม่อยากเชื่อ เป็นใครกันแน่ที่มีความสามารถกลืนบริษัทนายทุนต่างชาติได้ และยังมีเงินทุนมหาศาล สามารถถอนตัวออกจากสำนักงานใหญ่ลาตินกรุ๊ป ไร้การสนับสนุนจากสำนักงานใหญ่ การบริหารจัดการยังไม่ล่ม?
ผู้มีอำนาจในวงการธุรกิจเมืองก่างมากมาย ได้ยินข่าวที่สะเทือนไปทั้งวงการ ดูเหมือน วงการธุรกิจเมืองก่าง ต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว
วันที่สอง
อาคารสุ่ยจิน ออฟฟิศประธานชั้น88
หลินอิ่งมือกอดอกยืนอยู่ข้างหน้าต่าง มองไปยังเมืองก่างอันเจริญรุ่งเรือง อาคารสูงเรียงกันมากมาย มองไปไกล ก็คือทะเลสีฟ้าอันสดใส
ก๊อกก๊อก
เสียงเคาะประตูสองครั้ง
“เข้ามา” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ
คริสเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคารพ ในมือเป็นเอกสารสัญญา ก้มตัววางไว้บนโต๊ะทำงาน
“ประธานหลิน ผมให้กลุ่มการตลาดและทีมทนายสิบกว่าทีมเร่งจัดการทั้งคืน เรื่องการส่งมอบงานทั้งหมดเรียบร้อยหมดแล้ว” คริสพูดอย่างจริงจัง “วันนี้ อาคารสุ่ยจินเป็นชื่อของท่านแล้ว กิจการทั้งหมดที่อยู่ในนามของลาตินกรุ๊ปเมืองก่าง ก็ติดตามเรียบร้อยหมดแล้ว
“ผมรับรองได้ ถึงแม้สำนักงานใหญ่ลาตินกรุ๊ปจะถอนทุนทั้งหมด ก็จะไม่มีผลกระทบต่อพวกเรามาก” คริสพูดอย่างตื่นเต้น เขาติดตามหลินอิ่ง ก้าวออกไปหนึ่งก้าวที่เหนือความคาดหมายในชีวิตของเขา
“ทำได้ดีมาก” หลินอิ่งพยักหน้า กลับไปนั่งที่เก้าอี้ เทน้ำชาแก้วหนึ่ง จีบไปหนึ่งคำ
เมื่อคืน จัดการโม่เก๋อติงกับเซียวจวงแล้ว หลินอิ่งก็ออกคำสั่ง ให้คริสรีบหาคนมาเร็วที่สุด เคลียร์บัญชีทุกอย่างของลาตินกรุ๊ปเมืองก่างให้หมด
เวลาเดียวกัน หลินอิ่งสั่งถังฮุย ดึงเงินทุนมาจากตี้จิง มาต่อยอดให้กับลาตินกรุ๊ปเมืองก่าง
ต้องรู้ว่า ลาตินกรุ๊ปเมืองก่างมีผลกระทบและมีแหล่งทรัพยากรอย่างมหาศาล แต่ว่า จุดสำคัญที่สุดของบริษัท แหล่งการเงิน ถูกควบคุมโดยสำนักงานใหญ่
อย่างโม่เก๋อติงกับคริส ก็เป็นแค่ตัวแทนทางธุรกิจของลาตินกรุ๊ปที่อยู่ข้างนอกเท่านั้น ไม่ใช่ผู้ควบคุมการเงินตัวจริง
สำนักงานใหญ่ลาตินกรุ๊ปไม่ล้ม หลินอิ่งจะทำเหมือนฆ่าล้างตระกูลเหวินแบบนั้นไม่ได้ กลืนไปทั้งบริษัท
สิ่งที่เขาต้องการ คือสมบัติทางวงการธุรกิจ
รับผลกระทบทางธุรกิจของลาตินกรุ๊ปทั้งหมด แล้วลงทุนใหม่ทั้งหมด จุดไฟเริ่มใหม่
และนี่ก็เพียงพอสำหรับผลกระทบในเมืองก่าง สามารถสะเทือนรากฐานธุรกิจแห่งเมืองก่าง
เงินทุน หลินอิ่งไม่เคยขาด
สิ่งที่เขาขาด ก็คือหมากรุกที่จะเข้าไปทำลายเกมในวงการธุรกิจเมืองก่างเท่านั้น สามารถทำให้จี้ฉงซานที่เป็นหมากรุกตัวเดียวของเมืองก่าง ก็ไม่สามารถควบคุมเกมได้
“ใช่แล้ว ประธานหลิน ทางด้านบริษัทวั่นซานของมหาเศรษฐีเมืองก่างจี้ฉงซาน ส่งตัวแทนมาทักทาย” คริสนึกอะไรขึ้นมาได้ รายงานอย่างจริงจัง