ซุปเปอร์เจ้าสำราญ – ตอนที่ 331 ลูกชายของตระกูลฉีกำลังรนหาที่ตาย

วิลล่าตงหลิง คฤหาสน์ตระกูลสวี

ภายในห้องโถงใหญ่ ชายชราผมหงอกนั่งอยู่บนเก้าอี้จีนชิงชันตัวใหญ่อยู่ตรงกลาง ดวงตาของเขาหรี่ลง พลังงานของเขากำลังเบ่งบาน และดูฉลาดหลักแหลมมาก

ท่านผู้นี้ ก็คือคุณท่านตระกูลฉีแห่งตี้จิง สวีจิ่วหลิง

สวีจิ่วหลิงเป็นเหมือนโบราณวัตถุเก่าแก่ในแวดวงของตระกูลที่ร่ำรวยแห่งตี้จิง เขาเป็นที่เคารพนับถือ และมีสถานะสูงส่ง เขามีเครือข่ายความสัมพันธิ์ขนาดใหญ่ในแวดวงการเมืองและธุรกิจของประเทศหลุง และมีนักเรียนจำนวนมากมายอยู่ทั่วอาณาจักร

ภายใต้ของสวีจิ่วหลิง บนที่นั่งสองแถว มีชายหญิงวัยกลางคนที่มีท่าทางเคร่งขรึมนั่งอยู่ ซึ่งเป็นบุคคลรุ่นที่สองที่มีอำนาจที่แท้จริงของตระกูลสวี คนในแวดวงหลักของตระกูลสวี ทั้งหมดสิบหกคนเต็ม

“ท่านพ่อ เหตุการณ์ทั้งหมดในครั้งนี้ เป็นเช่นนี้” สวีไป๋เห้อรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นในท่าจอดเรือด้วยความเคารพ และนั่งลงที่ตำแหน่งของเขาเอง

หลังจากฟังรายงานจบ สวีจิ่งหลิงเหล่สายตา และตกอยู่ในความคิด

หลังจากขบคิดสักครู่ สวีจิ่วหลิงก็กล่าวด้วยสีหน้าอันจริงจังว่า “ลูกชายของผมฉางเฟิง ในเรื่องนี้ คุณมีความคิดแบบไหนบ้าง?”

สวีฉางเฟิงสั่นสะท้านอยู่ในหัวใจของเขา และลุกขึ้นยืนอยู่ตรงกลางของห้องโถงด้วยความเคารพ

“ท่านพ่อ ในความคิดของผม เกี่ยวกับในเรื่องนี้ ฉีหยิ่นกำลังท้าทายอำนาจของตระกูลสวีของเราอยู่!” สวีฉางเฟิงกล่าวอย่างขมขื่น “ฉีหยิ่นหยิ่งผยองเช่นนี้ ลูกไม่พอใจเลย!”

“ไม่พอใจงั้นเหรอ?” สวีจิ่วหลิงมองตามปกติ แล้วถามต่อว่า “ไม่พอใจแบบไหน? ไม่พอใจ แล้วคุณอยากจะทำยังไง?”

เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของคุณท่าน สวีฉางเฟิงเหงื่อออกที่หน้าผากของเขา และพูดว่า “ท่านพ่อ ผมคิดว่าผมจะต่อสู้กลับไป!ถ้าเราไม่ให้ฉีหยิ่นทนทุกข์ทรมานเล็กน้อย เขาคงจะคิดว่าตระกูลสวีของเราเป็นลูกพลับที่อ่อนนุ่มและบีบได้ง่าย!”

“ลูกก็แค่ทุบโรงแรมจงเทียนไปแค่นั้น มันเป็นแค่อุตสาหกรรมบันเทิงของหยูจื๋อเฉิงผู้ใต้บังคับบัญชาของฉีหยิ่น พูดจนฟ้าพังทลาย ผมก็จะชดเชยให้เขา 100 ล้าน ซึ่งเพียงพอสำหรับการชดเชยความสูญเสีย” สวีฉางเฟิงกล่าวอย่างช้าๆ “แต่ฉีหยิ่นกลับระเบิดทีมเรือทั้งทีมของตระกูลสวีของเรา นี่ เป็นการสูญเสียนับร้อยเท่าเลยทีเดียว!”

สวีจิ่วหลิงไม่ได้พูด หลับตาและลูบแหวนหยกบนนิ้วมือของเขา ราวกับว่ากำลังคิดคำนึงถึงสิ่งใดอยู่

“ฉางเฟิง คุณบอกว่าเรื่องมันเกิดขึ้นโดยมีสาเหตุ เป็นเพราะชิงซงลงมือกับถังฮุยลูกน้องของหยูจื๋อเฉิง ในเวลานั้น ความขัดแย้งระหว่างชิงซงกับ ถัลฮุยคืออะไรกันแน่?” สวีจิ่วหลิงถามอย่างช้าๆ

“ท่านพ่อ! ชิงซงเป็นหลานชายของคุณ คุณรู้ไหมว่า กลุ่มคนของหยูจื๋อเฉิงนั้นหยิ่งผยองขนาดไหน? เพียงเพราะว่าถังฮุยไม่ชอบหน้าของชิงซง เขาก็ทุบตีชิงซง และในที่สุด ยังจะให้ชิงซงคุกเข่าลงก้มกราบเขาอีกด้วย!” สวีฉางเฟิงกล่าวด้วยท่าทางโกรธบนใบหน้าของเขา และใส่ไข่เติมเกลือเข้าไปด้วย “ชิงซงแจ้งชื่อของตระกูลสวีออกมามันก็ไม่มีประโยชน์ หยูจื๋อเฉิงยังออกหน้ามาและยิงเขา!บอกว่าตระกูลนิ่งของเราแล้วยังไง!”

“ท่านพ่อ ลูกชายไม่เคยไปยั่วยุฉีหยิ่นเลย เพียงเพราะว่าคนที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเขาได้ทำมากเกินไป ไม่สามารถทนได้ และมีความขัดแย้งเกิดขึ้นแค่นั้น เขาก็มาแก้แค้นตระกูลสวีของเราด้วยตัวเอง และไม่ได้ทักทายก่อนเลย คุณว่า นี่คือการดูถูกเหยียบหยามตระกูลสวีของเรามากเกินไปหรือไม่?”

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในท่าเรือแม่น้ำตี้หวาง ปัจจุบันกำลังเป็นเรื่องที่ถูกจับตามองอยู่ในแวดวงตี้จิงทั้งหมด หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ศักดิ์ศรีตระกูลสวีของเราจะเสียหายอย่างใหญ่หลวง ต่อไปเราจะดำรงชีวิตอยู่ในตี้จิงได้อย่างไร?”

สวีจิ่งหลิงยิ่งฟังมากเท่าไหร่ สีหน้าของเขาก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้น

“หึ่!” สวีจิ่วหลิงตะคอกอย่างเย็นชา “ลูกชายคนเล็กของตระกูลฉีรังแกคนมากเกินไปแล้ว!”

“ยั่วยวนเขาเพียงเล็กน้อย ก็ต้องคืนมันร้อยเท่า? แม้แต่ลูกน้องของเขายังลงมือทำไม่ได้?” สวีจิ่วหลิงพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา “กล้าที่จะระเบิดทีมเรือตระกูลสวีของกู!ลูกชายคนเล็กของตระกูลฉีกำลังรนหาที่ตาย!”

ผลกระทบของการถูกระเบิดเรือของแม่น้ำตี้หวาง ที่มีต่อตระกูลสวีนั้น มันได้สูญเสียทรัพย์สินไปแล้วหลายหมื่นล้านเลยทีเดียว นี่คือสิ่งที่แม้แต่ชายชราที่อายุมากท่านนี้เคยผ่านเหตุการณ์ขนาดใหญ่มามากมาย ยังไม่สามารถยอมรับได้!

“ฉางเฟิง คุณท่านของตระกูลฉี ผมจะไปทักทายเป็นการส่วนตัวเอง และสอบถามจนได้ผลกลับมา!” สวีจิ่วหลิงพูดด้วยเสียงทุ้ม “ในเรื่องนี้ ผมจะให้การสนับสนุนกับคุณ คุณต้องไปจัดการมันให้ดี และจะต้องเอาศักดิ์ศรีของตระกูลสวีกลับคืนมาให้ได้!”

“ลูกชายคนเล็กของตระกูลฉีต้องถูกบังคับให้ก้มหัวต่อตระกูลสวี! เขาเป็นแค่รุ่นหลังคนหนึ่ง หรือว่ายังจะรังแกตระกูลสวีเพราะไม่มีคนงั้นเหรอ? พวกคุณที่นั่งอยู่ในนี้ ใครสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้อย่างสวยงาม ผม ก็จะมีรางวัลหนักให้เอง!”

ตามคำพูดของสวีจิ่วหลิง ดวงตาของผู้มีอำนาจในตระกูลสวีที่นั่งอยู่ในสถานที่ ล้วนแสดงแสงแปลกๆ

คุณท่านสวีจิ่วหลิงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากเช่นนี้ และพวกเขาต่างก็เกิดความคิดอยู่ในใจ

ถ้าเพียงแค่จะไปช่วยสวีฉางเฟิงแสดงความยิ่งใหญ่ พวกเขาคงไม่เต็มใจหนึ่งหมื่นเปอร์เซ็นต์

แต่ในตอนนี้คุณท่านได้ออกคำสั่งแล้ว ถ้าอย่างนั้น ตราบใดที่ใครก็ตามสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้ดี สามารถกดขี่ฉีหยิ่นได้ในด้านพลังและก้มศีรษะลง เขาก็จะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากคุณท่าน

ด้วยเครดิตนี้ มันก็เพียงพอแล้วที่จะไต่ระดับสถานะอยู่ภายในของตระกูลสวีอย่างมั่นคง และนั่งอยู่ในที่สามแถวแรกอย่างมั่นคง!

“เอาล่ะ กลับไปกันเถอะ ไปจัดการกับเรื่องนี้ให้ดีๆ และอย่าให้คนนอกมาดูถูกตระกูลสวีของเรา พวกคุณแต่ละคนต่างก็คือผู้ยิ่งใหญ่ของตี้จิงเมื่อคุณออกไปข้างนอก หรือว่าแม้แต่กเด็กน้อยของตระกูลฉี และเด็กขนดกคนหนึ่งยังจัดการกับมันไม่ได้งั้นเหรอ?” สวีจิ่วหลิงพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น สีหน้าของเขาไม่พึงพอใจอย่างมาก

“ครับ ท่านพ่อ ไม่ต้องกังวลไป มีลูกหลานของตระกูลสวีมากมาย และจะไม่ทำให้คุณต้องทำงานหนักกับเรื่องนี้อีกแน่นอน”

“ท่านพ่อ มีคำสั่งจากคุณ เราก็จะทำอย่างดีที่สุด จะต้องทำให้ลูกชายคนเล็กของตระกูลฉีชดใช้อย่างเจ็บปวด!”

สมาชิกในตระกูลสวีที่อยู่ในสถานที่ ทุกคนต่างยืนขึ้นด้วยความเคร่งขรึม และพูดพร้อมกัน

………

ตี้จิง จื่อหลงซาน โรงพยาบาลพักฟื้น

หลินอิ่งมาที่จื่อหลงซานเพียงลำพัง และมาเพื่อเยี่ยมคุณท่านของเขาเอง

วันนี้เขาก็คือได้รับโทรศัพท์จากคุณท่าน โดยบอกว่าให้เขามาพูดคุยเรื่องที่เกี่ยวกับตระกูลสวีต่อหน้ากัน

ไม่เกินความคาดหมายของหลินอิ่ง ตัวเองใช้ตัวตนของฉีหยิ่นลงมืออย่างโหดร้ายต่อตระกูลสวี ตระกูลสวีตามหาตัวเองไม่พบ ดังนั้นพวกเขาถึงจะทักทายคุณท่านอย่างแน่นอน

ในสวนดอกไม้ของบ้านพักพักฟื้น ฉีเวิ่นติ่งกำลังตัดแต่งดอกไม้และใบของกระถางต้นไม้ และดูเหมือนว่าชีวิตของเขาจะสงบและเงียบสบายมาก

“ท่านปู่ ผมมาแล้ว” หลินอิ่งกล่าวทักทาย และนั่งลงที่โต๊ะไม้

“อิ่งเอ๋อ นั่งเถอะ” ฉีเวิ่นติ่งหันกลับมา พูดอย่างใจดี และนั่งลงตรงข้ามกับหลินอิ่ง

“นี่คือชาหางมังกรอายุนับร้อยปีที่ชิวอวี่นำมาให้ผม เด็กผู้หญิงคนนี้รู้ว่าผมชอบดื่มชานี้ และเธอก็หาคนไปหาใบชานี้เป็นพิเศษมาจากมณฑลยูนนานทางใต้” ฉีเวิ่นติ่งยื่นน้ำชามาหนึ่งถ้วย ด้วยรอยยิ้ม และพูดเหมือนพูดเล่นทั่วไป

หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อย หยิบถ้วยน้ำชา จิบไปทีหนึ่ง และกลิ่นหอมของใบชาก็ออกมาสู่จมูก

“ได้ยินจากชิวอวี่ว่า ครั้งที่แล้วคุณไปที่มณฑลเกาหยาง? ทางตระกูลกงซุนเป็นยังไงบ้าง?” ฉีเวิ่นติ่งพูดอย่างช้าๆ ในขณะที่กำลังดื่มน้ำชา

“เรื่องของตระกูลกงซุนมันค่อนข้างซับซ้อน ผมรักษากงซุนฉงหลงหายแล้ว ไม่ได้สนใจในเรื่องอื่นเลย” หลินอิ่งกล่าวว่า

ฉีเวิ่นติ่งพยักหน้าเล็กน้อย และกล่าวว่า “คุณทำถูกต้องที่ทำเช่นนี้ การรักษากงซุนฉงหลงหาย ก็ถือว่าดีที่สุดเช่นกันแล้ว กงซุนฉงหลงโทรศัพท์มา และขอบคุณผมโดยเฉพาะ”

หลังจากหยุดชั่วครู่ ฉีเวิ่นติ่งพูดต่อว่า “อิ่งเอ๋อ ทางด้านตระกูลสวี เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ผมเห็นข่าวในวันนี้ มีอุบัติเหตุครั้งใหญ่เกิดขึ้น อยู่ที่ท่าเรือแม่น้ำตี้หวาง กองเรือถูกทิ้งระเบิด และเสียหายไปจำนวนมาก ในเรื่องนี้ คุณคือผู้ทำหรือไม่? ”

หลินอิ่งพยักหน้า และพูดว่า “ผมเป็นคนทำเอง”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset