โรงแรมจงเทียน
ปกติธุรกิจดีมาก โรงแรมที่คนเข้าออกมากมาย ตอนนี้ถูกเคลียร์คนออกหมดแล้ว เงียบสงบไม่มีคน ปิดประตูไม่รับแขก
ห้องโถงรับแขกที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ถูกทุกอย่างเละเทะทุกจุด กระจก ไฟ คริสทัล แตกกระจายเต็มพื้น สภาพย่ำแย่
ไม่เพียงแค่ห้องโถงใหญ่ แม้แต่เขตห้องอาหารจีน อาหารตะวันตก เขตแข่งบอล ห้องแข่งเกม ร้านกาแฟ ห้องคาราโอเกะ ห้องพักสิบกว่าชั้น ล้วนถูกทุบจนดูไม่ได้ กำแพงก็เป็นรูเป็นหลุม บนพื้นยังมีปลอกกระสุน
ไม่พูดเรื่องอื่น เพียงแค่ซ่อมแซมโรงแรมใหม่ ซ่อมแซมความเสียหายเหล่านี้ ก็ต้องใช้เงินร้อยล้าน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าถูกทุบโรงแรมครั้งนี้ จะมีผลกระทบด้านลบต่อชื่อเสียงโรงแรมอีก
หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย มีฮาเดสกับถังฮุยอยู่เป็นเพื่อน เดินดูแต่ละเขตในโรงแรม
สุดท้าย กลับไปที่ออฟฟิศประธานในโรงแรม หลินอิ่งนั่งลงบนเก้าอี้ประธาน ถังฮุยยกน้ำชามาให้
“ท่านอิ่ง ผมไร้ความสามารถ จัดการเรื่องไม่ได้ ยินยอมรับโทษครับ” ถังฮุยพูดอย่างหวาดกลัว สีหน้าตื่นเต้น สายตาโมโห
ครั้งนี้เหยียนหลงฉวยโอกาสตอนเขาไม่อยู่ พาคนมาทุบโรงแรมเละเทะจนสภาพเสียหายแบบนี้
แม้แต่กิจการของท่านอิ่งยังกล้าทุบ อยากตายแล้ว
หลินอิ่งดื่มชาไปคำหนึ่ง ถามว่า “เหยียนหลงกับสวีฉางเฟิง ตอนนี้อยู่ไหน?”
“ท่านอิ่ง ผมส่งคนไปหาเหยียนหลงที่เขตเหยียนหวงทันที แต่พบว่า เหยียนหลงซ่อนตัวแล้ว ไม่ได้อยู่ที่โรงแรมเหยียนซื่อที่เขาอยู่ประจำการแล้ว” ถังฮุยพูดอย่างเคารพ “ผมให้คนไปสืบต่อ ได้ข่าวมาว่า วันนี้เหยียนหลงพาคนไปที่วิลล่าตงหลิงของตระกูลสวีแล้ว”
“ผมคิดว่า เหยียนหลงกลัวผมไปแก้แค้น คงเตรียมตัวอย่างดี พาลูกน้องติดตามตัวมากมาย ตอนนี้เขามีที่พึ่งอย่างตระกูลสวีคอยหนุนหลัง ยิ่งอวดดีมาก” ถังฮุยพูด “ส่วนสวีฉางเฟิง เขาเป็นผู้ครองอำนาจของตระกูลสวีอยู่แล้ว ปกติก็จะอยู่ที่วิลล่าตงหลิง จะทำอะไรเขาไม่ใช่เรื่องง่าย”
“เหอะ ตระกูลสวี” หลินอิ่งหัวเราะเย็นชา
เขากับตระกูลสวีแห่งตี้จิงไม่ค่อยไปมาหาสู่กัน ครั้งที่แล้วที่เขตเหยียนหวงต่อยสวีชิงซงคุณชายทั้งสี่แห่งตี้จิง แค่ตีหมาขวางทางเท่านั้น คิดไม่ถึง ตระกูลสวียังกล้ากลับมากัดเขา
“ท่านอิ่ง สวีฉางเฟิงพูดแล้ว บอกว่าผมไปทำร้ายลูกชายเขา ให้ผมกับหัวหน้าหยูเข้าไปตระกูลสวีเพื่อขอโทษด้วยตัวเอง ยังบอกว่าถ้าไม่ใช่เห็นแกหน้าฉีหยิ่น ทำพวกผมสองคนพิการไปนานแล้ว” ถังฮุยพูดด้วยความโกรธ
“ขอให้โอกาสผมอีกครั้ง คืนนี้ผมจะพาคนไปเขตเหยียนหวง ทุบโรงแรมเหยียนซื่อของเหยียนหลง” ถังฮุยพูดอย่างจริงจัง ทนไม่ไหวที่จะเอาคืน
เขาถังฮุยไม่ว่ายังไงก็ออกมาจากโลกแห่งความมืด ในโลกแห่งความมืดมีกฎระเบียบของโลกแห่งความมืด
ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
เหยียนหลงกับสวีฉางเฟิงใช้วิธีเปิดสงครามแบบนี้ ไม่ทนแน่นอน ไม่อย่างนั้น จากนี้ไปเขาก็ไม่ต้องอยู่ในโลกใต้ดินแล้ว
“ถ้าตระกูลสวีจะเล่นแบบนี้ ก็เล่นเป็นเพื่อนพวกเขาให้ใหญ่ไปเลย” หลินอิ่งพูดด้วยเสียงเรียบเฉย
“คืนนี้เตรียมตัวให้ดี พรุ่งนี้ ไประเบิดท่าเรือตี้เจียงของตระกูลสวี”
“ระเบิดท่าเรือตระกูลสวี?” ถังฮุยสีหน้าตะลึง คิดไม่ถึงว่าท่านอิ่งขึ้นมาก็ทำการใหญ่โตขนาดนี้
“พรุ่งนี้ ผมต้องการให้บนแม่น้ำตี้หวาง ไม่เห็นเรือของตระกูลสวีแม้แต่ลำเดียว” หลินอิ่งพูดด้วยเสียงเย็นชา
ตระกูลสวีกล้าหาเรื่องก่อน ไม่ทำรุนแรงหน่อยให้พวกเขาดู พวกเขาจะไม่รู้จักอะไรเรียกว่าฉีหยิ่นแห่งตี้จิง
ถังฮุยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พูดอย่างจริงจัง “ได้ครับ ท่านอิ่ง ผมจะรีบกลับไปเตรียมตัว ต้องทำอย่างดีแน่นอน”
เขาคิดไม่ถึงเลย ท่านอิ่งที่ดูเรียบง่าย เมื่อเอาจริงแล้ว จะทำหนักขนาดนี้
ต้องรู้ว่า ตระกูลสวีแห่งตี้จิงเป็นตระกูลระดับสูงในประเทศหลุง ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในนั้นก็คือ ธุรกิจทางน้ำ ธุรกิจการขนส่งทางเรือทำได้อย่างราบรื่น จนตัดขาดทั้งหมด
บนท่าเรือขนส่งแม่น้ำตี้หวาง ตระกูลสวีอย่างน้อยมีเรือจอดอยู่ร้อยกว่าลำ ขนแต่ของมีค่าราคาแพง สิ่งของหายากราคาแพงในท้องตลาด จนพูดได้ว่า เป็นเรือแต่ละลำที่บรรจุทองคำเงินทอง เป็นทรัพย์สินที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดมหาศาลได้ตลอดเวลา
เรือร้อยกว่าลำของตระกูลสวี อย่างน้อยราคาอยู่เป็นเงินจำนวนตัวเลขสิบหลัก
ระเบิดรอบนี้ คือการระเบิดขุมทรัพย์ของตระกูลสวีแห่งตี้จิงเลย
ท่านอิ่งบอกว่าระเบิดเรือ เรื่องนี้ก็ไม่เหมือนกันแล้ว
ตอนแรกเป็นเพียงเรื่องบาดหมางระหว่างเขาถังฮุยกับตระกูลสวี การกระทบกันของอำนาจใต้ดิน
พอระเบิดเรือแล้ว ก็เหมือนระเบิดฉีกท้องฟ้าตี้จิงแห่งนี้แล้ว เท่ากับเป็นการแข่งขันแย่งชิงอย่างรุนแรงระหว่างตระกูลฉีแห่งตี้จิง
และตระกูลสวีทั้งสองตระกูลใหญ่
ถังฮุยรู้สึกได้กลิ่น เลือดนองทั้งเมืองตี้จิงลอยมาแล้ว
…….
ในเวลาเดียวกัน วิลล่าตงหลิง ภูเขาตงหลิง เขตเหยียนหวงตี้จิง
ภายในคฤหาสน์อันสวยหรูแห่งหนึ่ง จัดงานเลี้ยงแห่งชัยชนะ ชายวัยกลางคนสองคนนั่งอยู่
ก็คือเหยียนหลงและสวีฉางเฟิง สวีฉางเฟิงดูแล้วบุคลิกสง่างาม สายตาโหดเหี้ยมในวัยกลางคน
เหยียนหลงยกเหล้าเคารพ พูดว่า “พี่เฟิง พวกเราทุบโรงแรมจงเทียนแบบนี้ จะรุนแรงไปไหม หยูจื๋อเฉิงต้องหาวิธีแก้แค้นแน่นอน”
“น้องเหยียนหลง ไม่ต้องเป็นห่วง ช่างแม่มัน ตัวหยูจื๋อเฉิงคนเดียว สุนัขรับใช้ตระกูลฉีเท่านั้น ลูกชายฉันแค่รังแกลูกน้องมันคนเดียว ชื่ออะไรนะ หลินอิ่ง? มันก็ใช้อำนาจตระกูลฉีกล้าจัดการกับน้อง ยังกล้าใช้ปืนยิงลูกชายฉัน? ไม่สั่งสอนมันหน่อย อีกหน่อยฉันจะอยู่ตี้จิงต่อยังไง?” สวีฉางเฟิงพูดเสียงเย็นชา
สวีฉางเฟิงดื่มเหล้าไปคำหนึ่ง พูดอย่างเชื่องช้า “ฉันให้นายไปทุบโรงแรมจงเทียน หยูจื๋อเฉิงจะทำอะไรได้? ไปเชิญฉีหยิ่นคนนั้นมาออกหน้าแทน?”
“ใช่ ผมกังวลฉีหยิ่น คนคนนี้โหดเกินไป แม้แต่ตระกูลเหวิน บอกฆ่าล้างก็ฆ่าไปทั่วค่ำคืน” เหยียนหลงพูดอย่างครุ่นคิด
“เหอะ ไอ้ฉีหยิ่นคนนี้ก็ไม่รู้ไปผุดออกมาจากไหน คาดว่าข้างหลังคงมีคนหนุน นายเชื่อหรือว่าเขาฆ่าล้างตระกูลเหวินเพียงคนเดียว?” สวีฉางเฟิงพูดอย่างใจเย็น “ฉีหยิ่นฉันไม่รู้จัก ถือว่าเป็นคนรุ่นหลัง พ่อเขาฉีเหอถู ก็เคยไปมาหาสู่บ้าง ในอดีตฉีเหอถูอยู่ในตี้จิงก็ไม่ได้มีบารมีอะไรขนาดนี้ ลูกน้องยังกล้ายิงลูกชายฉัน?”
“วางใจเถอะ ถึงแม้ฉีหยิ่นออกหน้าแทน นับรุ่นแล้ว ก็ต้องเรียกฉันว่าอา พ่อเขายังเคยดื่มเหล้ากับฉันบ่อยๆ ให้คนที่เป็นหลานอย่างเขา ส่งลูกน้องมาขอโทษที่ตระกูลสวีจะเป็นไรไป? เขาจะไปไว้หน้าฉันเลยเหรอ?” สวีฉางเฟิงพูดอย่างไม่ใส่ใจ
เหยียนหลงพยักหน้า กรอกเหล้าเข้าไป ในใจรู้สึกไม่ค่อยดี ถ้าไม่ใช่อยู่เรือลำเดียวกับตระกูลสวี เขาก็ไม่ยอมเล่นไม้แข็ง กับหยูจื๋อเฉิง
“น้องเหยียนหลง อย่าคิดว่าฉันทำอะไรไม่มีเป้าหมาย ทำเรื่องอะไรที่ควบคุมไม่ได้” สวีฉางเฟิงพูดจาลึกลับ “จะบอกอะไรให้ ฉันกำลังช่วยผู้ใหญ่ท่านหนึ่งจัดการเรื่องอยู่ ได้รับคำสั่งมา ไม่อย่างนั้น ฉันก็ไม่กล้าหาเรื่องกับตระกูลฉี…….”
“ฮาฮา น้องฉางเฟิง งานนี้จัดการได้ดีมาก คุณจี้พอใจมาก ชื่นชมนาย ตอนนี้ ก็รอทางหยูจื๋อเฉิงโต้กลับ”
เวลานี้เอง เสียงหัวเราะก็ดังขึ้น เห็นเพียงผู้อาวุโสในชุดโบราณสีเขียวเดินมาจากประตู อายุประมาณห้าสิบ
“น้องฉางเฟิง ทางด้านคุณจี้ มีคำพูดฝากให้ฉันมาพูดกับนาย” ผู้อาวุโสชุดโบราณนั่งลง พูดด้วยรอยยิ้ม