“รีบไสหัวออกจากที่นี่เดี๋ยวนี้”
อูหยางพูดอย่างโมโห บอดี้การ์ดทั้งสองคนพุ่งเข้าไปถีบอย่างแรง ลงมืออย่างหนัก ถีบจนกงซุนจื่อจู๋ทั้งสามคนทั้งกลิ้งทั้งคลานออกไป ร้องด้วยความเจ็บปวด
จัดการกับไอ้หน้าโง่สามคนนี้แล้ว อูหยางตบฝุ่นบนตัว ทำเสียงดูถูก หันกลับไปด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
อูหยางหันกลับไปอย่างดูถูก ทำให้กงซุนจื่อจูหน้าแดง รู้สึกอึดอัดในใจ รู้สึกอับอายขายหน้าอย่างที่สุด
คิดถึงตัวเองเป็นถึงลูกหลานตระกูลกงซุนชัดๆ เดินไปถึงไหนก็มีแต่คนเข้าแถวคอยประจบ วันนี้กลับถูกคนซ้อมเหมือนหมาเร่ร่อน ต้องกลิ้งออกมาจากอาคารนิ่งซื่อ
“พี่จู๋ ไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่งคนนี้ ไปประจบพ่อบ้านตระกูลนิ่ง ก็กล้าไม่เกรงกลัวกฎหมายแบบนี้ แม้แต่ท่านยังกล้าทำร้าย ต้องหาวิธีสั่งสอนมันดีๆหน่อยแล้ว” โจยู่ถานพูดจากใส่ไฟ ในตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม
“ใช่แล้ว ก็แค่หมาสองตัวไม่รู้หัวนอนปลายเท้า ยังกล้าทำตัวไร้มารยาทกับพี่จู๋อีก รนหาที่ตายชัดๆ” โจตงก็พูดอย่างไม่พอใจว่า “พี่จู๋ อำนาจความสัมพันธ์ที่พี่มีในตี้จิง จะจัดการมันสองคน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเหรอ?”
พวกเขาสองคนรู้สึกไม่พอใจมาก อึดอัดใจอย่างสุดขีด ถูกไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่งนี่รังแกครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่หาโอกาสแก้แค้นกลับ จะไปยอมได้ยังไง?
กงซุนจื่อจู๋ทำเสียงเย็นชา พูดด้วยสีหน้าหม่นหมอง “แน่นอน พวกมันกล้าหาเรื่องฉัน ไม่ได้ตายดีแน่ ไป ฉันจะกลับตระกูลกงซุนตอนนี้ กลับไปเรียกคนมา รอหลินอิ่งออกจากอาคารนิ่งซื่อเมื่อไหร่ ฉันหาโอกาสเอามันตายแน่”
พูดไป กงซุนจื่อจู๋ก็พอสองคนนี้ขึ้นรถFerrariสีแดง ขับออกจากอาคารนิ่งซื่อ อยากรีบกลับไปที่ตระกูลกงซุนเพื่อเรียกคนและใช้อำนาจจัดการกับหลินอิ่ง
อีกฝั่งหนึ่ง ชั้นสามอาคารนิ่งซื่อ
ในออฟฟิศประธานบริษัท ตกแต่งอย่างสวยหรู มีโต๊ะไม้จีนชิงชังขนาดใหญ่ในแบบโบราณ
หลินอิ่งนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ ในมือเป็นเหยือกชาดำกลิ่นหอมเย้ายวน ค่อยๆเทให้ตัวเองอีกแก้ว
นิ่งซวนใส่ชุดสูทสีแข้มอย่างเป็นทางการ ยืนอยู่ข้างโต๊ะอย่างเคารพ
นิ่งซวนวันนี้ท่าทางสง่า สีหน้าสดใส แววตาแหลมคม
ปกติ คนเราเมื่อประสบความสำเร็จก็จะดูสดใสร่าเริง
เพียงแต่ ต่อหน้าหลินอิ่ง นิ่งซวนยังคงรักษาความเคารพ เพราะว่า ในใจเขารู้ดี ตำแหน่งอันสูงส่งในวันนี้ ทุกอย่างที่มีอยู่นี้ ประธานหลินเป็นคนให้เขา
ประธานหลินเป็นคนเปลี่ยนชะตาชีวิตเขา ถ้าไม่มีประธานหลิน ก็ไม่มีเขาในวันนี้
“ประธานหลิน ตัวแทนของตระกูลต่างๆในตี้จิง และหัวหน้าตระกูลต่างๆ มาด้วยตัวเองกันแล้ว” นิ่งซวนพูดสีหน้าจริงจัง “ตัวแทนของแต่ละตระกูล ต่างส่งของขวัญชิ้นใหญ่มา อยากพบท่าน จะให้พบไหมครับ?”
“คุณไปพบพวกเขาก็พอ” หลินอิ่งดื่มน้ำชาไปคำหนึ่ง พูดเสียงเรียบ
นิ่งซวนพยักหน้า สีหน้าลังเล “แต่ว่า ประธานหลิน งานเลี้ยงขึ้นครองตำแหน่งครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อท่านโดยเฉพาะ จะแจ้งให้ทุกคนในวงการตี้จิงรู้ ว่ามีท่านอยู่……”
“ส่วนเหล่ามหาเศรษฐีนักธุรกิจที่มานั้น ต่างก็มาเพื่อเจอท่าน……”
วันนี้ตัวแทนตระกูลมหาเศรษฐีที่ในตี้จิงส่งของขวัญมาถึงอาคารนิ่งซื่อ และข้ารัชกาลชั้นสูง ต่างก็มาเพราะชื่อเสียงของประธานหลินทั้งนั้น
ไม่ได้รับคำสั่งจากประธานหลิน นิ่งซวนไม่กล้าล้ำเส้น ตัดสินใจแทนประธานหลิน
“พวกเขาไม่มีสิทธิ์รู้จักผม” หลินอิ่งยิ้มอย่างเรียบเฉย “ผมไม่จำเป็นต้องออกหน้า คุณไปเข้าสังคมกับพวกเขาก็พอ”
นิ่งซวนแววตากะพริบ พยักหน้าอย่างหนักแน่น เข้าใจความหมายของประธานหลินแล้ว
ดูแล้ว ประธานหลินไม่ได้ใส่ใจเหล่ามหาอำนาจของตี้จิงแม้แต่น้อย แน่นอน จากความสามารถของประธานหลินแล้ว ในโลกนี้คงมีไม่กี่คนที่สามารถเทียบกับเขาได้
“ประธานหลิน ถ้าอย่างนั้น ท่านอยากให้ผมพูดอะไรกับบรรดาผู้มีอำนาจของตี้จิงทั้งหลายอะไรบ้างครับ?” นิ่งซวนถามอย่างระวัง
“แล้วก็ประธานหลิน อีกหน่อยตระกูลนิ่งพัฒนายังไง ผมควรจัดการความสัมพันธ์ยังไงกับเหล่าตระกูลมหาอำนาจพวกนี้ยังไง มีอะไรจะสั่งเป็นพิเศษไหม” นิ่งซวนถามด้วยสีหน้าจริงจัง “หวังว่าประธานจะช่วยแนะนำด้วย”
ประธานหลินจีบชาไปนิดหนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะ
เขาเข้าใจความหมายของนิ่งซวน อยากรู้ทัศนคติที่ตัวเองมีต่อพวกมหาอำนาจของตี้จิง จากนี้นิ่งซวนถึงรู้ว่าควรจัดการยังไงกับความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลมหาอำนาจพวกนี้
คิดไปสักครู่ หลินอิ่งหยิบกระดาษสีขาวออกมาแผ่นหนึ่ง นิ่งซวนยื่นปากกาให้อย่างเคารพ
วันนี้ที่มาร่วมงานของตระกูลนิ่งนั้น ล้วนมีแต่ข้ารัชกาลระดับสูงที่สามารถทำอะไรได้ทุกอย่างในตี้จิงทั้งนั้น จากประสบการณ์ของนิ่งซวนแล้วอาจจะยังควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่
ถึงเขาไม่ปรากฏตัว แต่ก็ต้องแสดงทัศนคติให้เหล่าตระกูลมหาอำนาจรู้ ให้พวกเขาทุกคนรู้ เข้าใจความหมายของผู้อาวุโสตระกูลนิ่งคนนี้
“นิ่งซวน วันนี้ ผมจะให้ข้อความคุณ” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ “จากนี้ ผมไม่หวังว่าเรื่องของตระกูลนิ่ง ยังต้องให้ผมออกหน้า”
พูดไป หลินอิ่งก็เริ่มเขียนหนังสือ ร่างตัวหนังสือด้วยแรงอย่างกระฉับกระเฉงบนกระดาษ
นิ่งซวนรับกระดาษมาอย่างระมัดระวัง ดูไปรอบหนึ่ง สายตาตะลึง เข้าใจความหมายของประธานหลินแล้ว แอบถอนหายใจ
“ประธานหลิน ผมเข้าใจแล้ว จากนี้ ผมจะดูแลเรื่องทั้งหมดของตระกูลนิ่งแทนประธานหลินอย่างดี” นิ่งซวนพูดอย่างเคารพ “ตัวหนังสือนี้ผมจะแขวนไว้ที่อาคารนิ่งซื่อ จะจดจำคำสอนของประธานหลินไว้อย่างดี”
หลินอิ่งพยักหน้า พูดด้วยเสียงเรียบ “ไปเถอะ”
“ครับ”
นิ่งซวนนำหนังสือที่หลินอิ่งเขียนให้ ออกจากออฟฟิศประธานอย่างเคารพ
ภายในห้องรับรองอาคารนิ่งซื่อ คนมีอำนาจใหญ่โตแต่ละคน นั่งประจำที่ของตัวเอง
“ตระกูลหูเขตจงเทียน มอบหยกกินบ่เซี่ยงหนึ่งคู่ ขอแสดงความยินดีกับผู้อาวุโส”
“ตระกูลหลี่เขตหัวหยาง มอบลูกแก้วเย่หมิงจูลายเกล็ดปลาสิบสองลูก ยินดีกับผู้อาวุโส”
“ตระกูลหยังเขตเสิ่นหนง มอบแหวนฟีนิกซ์สีม่วงทองสิบแปดคู่ ขอแสดงความยินดีกับผู้อาวุโสขึ้นครองตำแหน่งผู้นำตระกูลนิ่ง”
อูหยางยืนด้านล่างเวที แจ้งรายชื่อผู้มอบของขวัญด้วยสีหน้าจริงจัง
ของขวัญเหล่านี้ ล้วนมาจากตระกูลต่างๆในตี้จิงเป็นคนส่งมอบให้ ของขวัญทุกชิ้น ล้วนเป็นของมีค่าระดับประเทศ มูลค่าล้ำค่า
สถานการณ์นี้ ก็ทำให้คนในงานต่างก็รู้สึกทึ่ง หรูหราอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ถึงแม้ผู้ดีตระกูลใหญ่ในตี้จิงพวกนี้จะเห็นอะไรมาเยอะแล้ว ก็ต้องตะลึงกับของขวัญแต่ละชิ้น
“ไม่เสียที่เป็นผู้มีอำนาจของตระกูลนิ่งแห่งตี้จิง จัดงานเลี้ยงขึ้นตำแหน่งยังยิ่งใหญ่ขนาดนี้”
“จะไม่ใช่ได้ยังไง ตระกูลนิ่งเปลี่ยนผู้นำใหม่ ในแวดวงตระกูลใหญ่ในตี้จิง ใครที่ไม่อยากเกาะผู้อาวุโสผู้ลึกลับท่านนี้เพื่อเจริญก้าวหน้า? แม้แต่เหล่าผู้ดีตระกูลใหญ่ก็ไม่ยกเว้น”
ขณะที่ทุกคนกำลังสนทนากันอยู่ นิ่งซวนก็เดินขึ้นไปบนเวทีที่ปูด้วยพรมแดง มองไปที่แขกในงานสีหน้าเคร่งเครียด
“ทุกท่าน ผู้อาวุโสขอขอบคุณทุกท่าน งานเลี้ยงตระกูลนิ่งในครั้งนี้ มีผมนิ่งซวนคอยต้อนรับทุกท่าน” นิ่งซวนพูดอย่างจริงจัง
คำพูดนี้ออกไป ทุกคนในงานต่างก็เกิดความฮือฮา
“นี่มัน? ผู้อาวุโสท่านนี้เป็นจักรพรรดิตระกูลนิ่งไปแล้วเหรอ? ให้นิ่งซวนมาต้อนรับพวกเรา?”