ซุปเปอร์เจ้าสำราญ – ตอนที่ 161 บีบบังคับให้ฉันรักษาเขา?

บทที่ 161 บีบบังคับให้ฉันรักษาเขา?

“ทำไมเหรอ? นายแซ่หลิน ตกตะลึงกับตัวตนของพี่สือเหรอ?” เจิ้งหยวนเป่าพูดด้วยสีหน้าภูมิใจ “คุณเองก็ลองคิดดูสิ พี่สือเป็นลูกพี่ลูกน้องของชิวอวี่นะ! คนเล็กๆ อย่างคุณยังอยากที่จะให้ชิวอวี่ช่วยเหลือเหรอ?”

“ไอ้คนบ้านนอกไม่เอาถ่าน กล้าใช้ลูกพี่ลูกน้องของผมมาโจมตีเจิ้งหยวนเป่าเหรอ? อำนาจของตระกูลกงซุนของเรา เป็นสิ่งที่คนต้อยต่ำอย่างนายเอาไปใช้ได้หรือ? เล่นเล่ห์เหลี่ยมหรือ นายอยากตายใช่ไหม? คุกเข่าขอโทษผม เดี๋ยวนี้! แล้วก็กราบน้องชายผมเจิ้งหยวนเป่าเสียดีๆ!” กงซุนสือพูดด้วยสีหน้าที่มั่นใจในตัวเอง สีหน้าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง

“หากไม่ทำตามสิ่งที่ผมพูด ผมรับรองได้เลยว่าวันนี้นายไม่มีทางได้ออกจากวิลล่าฉงหลงอย่างแน่นอน และนายก็มีชีวิตอยู่ต่อในเมืองเกาเทียนไม่ได้เช่นกัน!” กงซุนสือพูดพร้อมยิ้มแห้ง และมองดูหลินอิ่งอย่างสนุกสนาน

ก็แค่ลูกเขยไม่เอาถ่านที่มาจากเมืองชิงหยูน คิดว่าตัวเองฉลาด ก็ใช้ลูกพี่ลูกน้องเพื่อทำให้เจิ้งหยวนเป่าขายหน้า? คิดว่าที่นี่เป็นที่ไหนกัน?

ที่นี่เป็นถิ่นของตระกูลกงซุนแห่งตี้จิงนะ! มีแค่ฝีมือทางการแพทย์ที่กระจอกๆ แล้วยังกล้ามาเล่นเหลี่ยม เล่ห์กลแถวนี้อีก ช่างเป็นคนบ้านนอกที่โง่เขลาจริงๆ ใช้เล่ห์เหลี่ยมไม่ดูสถานที่เลย

หลินอิ่งค่อยๆ ลุกขึ้นยืน สายตาที่เยือกเย็นมองไปที่กงซุนสือและเจิ้งหยวนเป่า “นี่พวกคุณไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาใช่ไหม?”

บางทีก็ยากที่จะเข้าใจความคิดของคนพวกที่คิดว่าตัวเองสูงส่ง ไม่ว่าจะมีอำนาจมากขนาดไหน สุดท้ายก็เป็นแค่หนึ่งชีวิตมิใช่หรือ? หรือว่าเงินทองจะสามารถยืดพลังชีวิตของพวกเขาได้?

ต้องเจอกับเหตุความตาย จนจะตายอยู่แล้ว ถึงจะได้รู้ว่าชีวิตของตัวเองนั้นต้อยต่ำเพียงใดหรือ?

“โอ๊ย? ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตางั้นเหรอ?” กงซุนสือหัวเราะอย่างเยาะเย้ย “ผมอยากรู้จริงๆ ว่าใครกันแน่ที่ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา ชนบทมีแต่ชาวบ้านที่ดื้อรั้นจริงๆ หน้าตาดูบ้านๆ แต่กล้ามาทำตัวสูงส่งไปถึงฟ้าต่อหน้าพวกเราหรือ? หื้ม?”

ในสายตาของกงซุนสือ จังหวะนี้หลินอิ่งต้องรับคุกเข่าขอโทษ แล้วมาเลียรองเท้าเขาแล้ว คนบ้านนอกอย่างหลินอิ่ง มีสิทธิ์อะไรมาเทียบกับคุณชายแห่งเมืองตี้จิงอย่างพวกเขา?

“จริงครับ เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาๆ ถ้าพูดแบบน่าเกลียด นายสามารถเข้ามาในวิลล่าฉงหลงได้นับว่าเป็นเกียรติภูมิทั้งชีวิตของนายแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าชิวอวี่ให้เกียรตินาย ทั้งชีวิตของนายก็คงไม่มีโอกาสพูดคุยกับคนระดับอย่างพวกผม แล้วตอนนี้ยังจะมาทำสูงส่ง?” เจิ้งหยวนเป่าเยาะเย้ยเขาตามใจชอบ

“คนสถานะแบบนาย ก็เหมาะที่จะมาเลียรองเท้าให้พวกเราเข้าใจไหม? ไม่สิ ถ้าปกติแล้ว นายไม่มีแม้แต่สิทธิ์ในหารเลียรองเท้า นายก็เป็นได้แค่สุนัขที่หมอบอยู่บนพื้นแล้วเงียบหน้ามองดูพวกเรา” กงซุนสือพูดด้วยรอยยิ้มที่เยือกเย็น สีหน้าราวกับว่าตัวเองเก่งกาจมากแค่ไหน

“เร็วๆ เลย มาเลียพื้นรองเท้าของข้าเดี๋ยวนี้!” กงซุนสือตะโกนอย่างเย็นชา แล้วยกเท้าขึ้นมาวางบนโต๊ะ พลังของเขามาเต็ม แล้วก็ดีดนิ้ว พวกบอดี้การ์ดก็ถกแขนเสื้อขึ้นแล้วล้อมรอบหลินอิ่งไว้

“หึหึ นายชกเก่งใช่ไหม? พวกคนของข้าเป็นนักมวยยอดฝีมือที่มาจากต่างประเทศทั้งนั้น” กงซุนสือจุดซิการ์พร้อมพูดด้วยตาหยีว่า “กดมันไว้ วันนี้มันต้องเลียพื้นรองเท้าของข้าให้สะอาด แล้วกระทืบให้เหมือนหมา แล้วค่อยๆ ทรมานมัน”

“ใช่ครับใช่ครับ พี่สือ ต้องจัดการแบบนี้กับไอ้คนแซ่หลินนี่แหละ หยิ่งยโสมากเกินไป” เจิ้งหยวนเป่าพูดด้วยสีหน้าประจบ เขาทนรอที่จะเห็นภาพที่หลินอิ่งคุกเข่าแล้วเลียพื้นรองเท้าของพวกเขาสองคนไม่ไหวแล้ว

พรึพ บอดี้การ์ด10กว่าคนเข้าไปรุมทำร้ายหลินอิ่ง แต่หลินอิ่งกลับวิ่งพุ่งออกไปแล้วเงาร่างของเขาก็หายไปราวกับสายลม

เพียะ!

เสียงที่ดังก็องก็ดังขึ้น กงซุนสือโดนตบไปที่หน้าอย่างแรง ตบจนตัวเขาเองตกตะลึงอย่างหนัก ซิการ์ของเขากะเด็ดหลุดออกไป เขาหมุนอยู่กับที่ไป2รอบแล้วล้มลงกับพื้น จากนั้น เพียะๆๆๆๆๆ เขาโดนตบรัวๆ 7 8 ครั้ง ตบจนฟันของเจิ้มหยวนเป่าหลุดไปครึ่งปาก กงซุนสือเองก็เลือดเต็มปากแล้วหน้าก็บวมขึ้นมาทันที

พวกเขาต่างก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆ หลินอิ่งถึงพุ่งเข้ามาด้วยความเคลื่อนไหวที่เร็วมาก!

“อ๊าก! นายกล้าตบตีข้าหรือ นายอยากตายหรือไง หักแขนมันซะ!” กงซุนสือตะโกนด้วยความโกรธแค้นอย่างหนัก

ปั๊ง!

หลินอิ่งเอาเท้าเหยียบไว้ที่หน้าของกงซุนสือ จนเขาอ้วกเป็นเลือด

“ถ้าพวกนายกล้าเข้ามา ผมจะเอาเขาให้ถึงตาย!” หลินอิ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

สีหน้าของบอดี้การ์ด10กว่าคนก็เริ่มลังเลขึ้นมา มองไปที่หลินอิ่งแต่ไม่กล้าเข้าใกล้ ชายหนุ่มคนนี้เคลื่อนที่เร็วเกินไป สายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตนี้ แล้วเขาฆ่าคุณชายไปจริงๆ จะทำอย่างไร?

“เอะอะก็ให้เลียพื้นรองเท้าใช่ไหม?” หลินอิ่งขำอย่างเยือกเย็น แล้วเหยียบไปที่ปากของกงซุนสือ

แรงนั้นทำให้เขารู้สึกว่าหัวของตัวเองกำลังจะระเบิด เขาส่งเสียงโหยหวนอย่างทรมานออกมา และเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

มีสิทธิ์อะไร? ทำไมลูกเขยที่ไม่เอาไหนถึงกล้าลงมือกับเขาเช่นนี้!

จู่ๆ ประตูวิลล่าก็เปิดออก

ทันใดนั้นเอง มีชายวัยกลางคนที่บุคลิกดูมีสง่าเดินเข้ามา และมีพ่อบ้านเดินตามอยู่ข้างๆ เขา กงซุนชิวอวี่ก็มาด้วยเช่นกัน

เมื่อเห็นสถานการณ์ในวิลล่าแล้ว สีหน้าของกงซุนชิวอวี่และชายวัยกลางคนดูตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เคร่งขรึม

“คุณลุงครับ! ท่านมาแล้วเหรอครับ ไอ้คนบ้านนอกคนนี้มาทุบตีคนของวิลล่าฉงหลงไปทั่วเลยครับ กล้าดียังไงถึงได้กล้าลงมือกับผม!”

กงซุนสือตะโกนโวยวาย : “นายจบแล้ว ไอ้คนแซ่หลิน กล้าลงมือกับข้า นายต้องตายสถานเดียว ไอ้เลว อย่าคิดเลยว่านายจะได้เดินออกจากเมืองเกาเทียนอย่างมีชีวิตอยู่”

“กงซุนสือ นายหุบปาก!” ชายวัยกลางคนดุเขา สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่

“หื้ม? คุณลุงครับ…….” สีหน้าของกงซุนสือดูเจ็บช้ำ แต่เขาไม่กล้าพูดอะไรต่อ นี่เป็นคำสั่งของหัวหน้าครอบครัวที่รองลงมาจากคุณท่านเลยนะ

“ไอ้โง่ที่ไม่เอาไหน อย่าทำตัวหาเรื่องไปวันๆ!” ชายวัยกลางคนพูดด้วยเสียงต่ำ จากนั้นก็มองไปที่หลินอิ่งพร้อมใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “อาจารย์หลินครับ ผมชื่อกงซุนเฟยหง เป็นพ่อของกงซุนชิวอวี่ครับ ได้ยินชิวอวี่บอกมาว่า ครั้งนี้ที่อาจารย์หลินมาเพราะมาดูอาการป่วยให้คุณท่านใช่ไหมครับ?”

หลินอิ่งไม่ได้พูดอะไรออกมา สีหน้าเขาดูปกติ

ใจของกงซุนเฟยหงก็ร่วงลงไปทันที เขารู้สึกว่าเรื่องนี้จัดการยากและยุ่งยากมาก

ถ้าเกิดว่าเป็นแค่ผู้มีวิชาการรักษาชั้นเยี่ยมแบบธรรมดาก็ว่าไปอย่าง ไม่จำเป็นต้องเกรงใจเขาขนาดนั้น ก่อนนี้ได้ได้ข่าวจากลูกสาวกงซุนชิวอวี่แล้วว่า อาจารย์หลิน หลินอิ่งท่านนี้มีฝีมือการรักษาที่ยอดเยี่ยมมาก! โดยเฉพาะ เขาอาจจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับท่านฉีด้วย

ต้องรู้ไว้ว่า แม้ว่าตระกูลฉีจะเหลือคนอยู่แค่สองคน แต่ว่าฉีหยิ่น หัวหน้าครอบครัวของตระกูลฉีในตอนนี้ เป็นวัยรุ่นฮีโร่ในตำนานที่ลึกลับที่สุดแห่งเมืองหลุงเชียวนะ! ตระกูลกงซุนไม่กล้าทำให้ตระกูลฉีแห่งตี้จิงต้องโกรธเคืองหรอก

ประเด็นสำคัญคือ เมื่อสักครู่นี้อยู่ดีๆ นายท่านที่บ้านก็ล้มป่วยขึ้นมาอย่างกะทันหัน เกือบจะหมดลมหายใจ หมอทุกคนที่อยู่ในวิลล่าต่างก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร จึงทำได้แค่เชิญอาจารย์หลินมา

“อาจารย์หลินครับ ท่านอย่าถือสากับเด็กพวกนี้เลยนะครับ ตอนนี้ท่านตามผมไปดูอาการของนายท่านได้หรือไม่ครับ ตระกูลกงซุนของเรามีของตอบแทนหนักๆ อย่างแน่นอนครับ!” กงซุนเฟยหงพูดอย่างเคารพ

หลินอิ่งพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผมมาที่นี่ เพราะเห็นแก่ชิวอวี่ แต่ตระกูลกงซุนอย่างพวกคุณ เข้ามาท้าทายผมลงไม้ลงมือกับผมตั้งแต่ที่ผมมา? นี่กำลังบีบบังคับให้ผมต้องทำการรักษาหรือ?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset