พอได้เห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวของบิลลี่ ฉินสือโอวก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
แร่ทองคำงมขึ้นมาได้แล้ว!
หลังจากที่กลับมาจากโซมาเลีย ฉินสือโอวก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องนั้นอีก แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่สนใจเงินก้อนนี้ ต่อให้ตอนนี้เขาค่อนข้างเฉยๆ กับเงินทองก็ตาม
พูดถึงเขาเองก็ช่างกล้าจริงๆ แบรนดอน เบลคจะเชิดทองชุดนี้ไปเลยก็ได้ นี่มันเงินมูลค่าหลายร้อยล้านเลยนะ!
ถ้าเป็นก่อนหน้าที่เขามีหัวใจโพไซดอน ถ้าฉินสือโอวได้โอกาสทำเงินหลายร้อยล้าน ไม่ ไม่ต้องถึงหลายร้อยล้าน ขอแค่หลายล้านดอลลาร์ เขาต้องคิดหาวิธีฮุบเงินจำนวนนี้ไว้เองแน่!
พอคำนึงถึงธรรมชาติของมนุษย์ไปในทางที่ดำมืด งั้นถ้าเบลคกับคนอื่นทั้งสามคนจะจ้างนักฆ่ามาเก็บฉินสือโอวทิ้งเสียก็เป็นไปได้ ไม่มีฉินสือโอว เงินส่วนแบ่งที่พวกเขาจะได้ก็เยอะขึ้นเป็นทวีคูณ
โดยเฉพาะบิลลี่ เขาเป็นคนคุ้ยข่าวเรือขนทองอับปางออกมา พิกัดคร่าวๆ ของเรืออับปางเขาก็เป็นคนหาเจอ สุดท้ายตอนงมก็ได้เขาเป็นคนลงมือ คนแคนาดาอย่างฉินสือโอวทำอะไรบ้าง? ก็แค่ยืนยันพิกัดที่ชัดเจนของเรือขนทองที่อับปาง
แน่นอนว่าถ้ามองตามปกติ ฉินสือโอวมีความดีความชอบมาก เรือขนทองอับปางอยู่ในเขตทะเลลึก ไม่สามารถให้คนดำลงไปได้ ได้แต่ใช้เครื่องกล เป็นงานที่ยากลำบากเอาการ
แต่ว่ามีเงินหลักหลายร้อยล้านเป็นตัวกระตุ้น ใครจะยังเป็นคนปกติอยู่ล่ะ?
ที่จริงฉินสือโอวไม่ค่อยห่วงเรื่องนี้เท่าไร เขา บิลลี่ เบลค แบรนดอนเป็นกลุ่มสี่คนที่ทุกคนต่างจำกัดกันและกัน ข้อมูลเกี่ยวกับเรือขนทองอับปางพวกเขาต่างก็รู้หมด และมีเพียงพวกเขาที่รู้ และพวกเขาต้องเก็บเป็นความลับทุกคน
ในสี่คน ไม่ว่าใครที่ทำความลับรั่วไหล แร่ทองคำนี้ก็อย่าคิดจะขนกลับไป
ตอนนี้เรือกู้ซากคงจะเพิ่งออกจากเขตทะเลโซมาเลีย ขอแค่ข่าวแพร่ออกไป ก็จะมีเรือโจรสลัดหลายร้อยลำมาปล้น และอีกอย่างในหมู่เรือโจรสลัดนี้ จะต้องมีทัพเรือของประเทศอย่างอเมริกา รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่นโผล่มาด้วยแน่
แร่ทองคำที่มากขนาดนี้ ถ้าโผล่ขึ้นมาในที่แจ้ง จะต้องไม่ใช่เรื่องที่ทั้งสี่คนรับได้แน่นอน คำกล่าวที่ว่าซวยเพราะสมบัติก็หมายถึงแบบนี้
ฉะนั้นพวกเขาต้องแบ่งแร่พวกนี้กันเงียบๆ ใครก็ห้ามแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นใครก็ไม่ได้เงิน
บางทีพวกเขาอาจเลือกร่วมมือกับฝ่ายที่แข็งแกร่งได้ แต่ว่าพวกเขาไม่กล้า พื้นฐานของการร่วมมือกันคืออำนาจที่เท่าเทียม อำนาจที่ฮุบแร่นี้ไปได้จะเป็นสิ่งที่เท่าเทียมกันได้อย่างไร?
ถ้าพวกเขามีฝ่ายไหนที่ไปหารัฐหรือตระกูลใหญ่เพื่อหาหุ้นส่วน เกรงว่าพอข่าวออกไปพวกเขาคงถูกจัดการก่อนเป็นอันดับแรก
ฉินสือโอวรู้ถึงหลักการนี้ดีจึงรักษาท่าทีที่สงบต่อเรือขนทองอับปาง งานของเขาเสร็จแล้ว งานควรถึงมือใครก็ไปทำ ใครทำพลาดก็ซวยไป!
ก็ยังคงคำเดิม แร่ทองคำพวกนี้ไม่สามารถพลาดได้เลย ใครทำผิดพลาด ไม่ต้องรอให้อีกสามคนคิดหาวิธีแก้ปัญหา จะมีคนช่วยพวกเขาจัดการคนที่ทำพลาดอย่างแน่นอน
แน่นอนว่าถึงตอนนั้นพวกเขาก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องจะได้แร่ทองคำแล้ว
บิลลี่กอดฉินสือโอวพลางตะโกนโหวกเหวก ตะโกนไปว่าจะซื้อไมอามี โค่นอเมริกา ครองทั้งโลกอะไรสักอย่าง คนรอบๆ ที่ได้ยินก็มีไม่น้อยแต่ไม่มีใครสนใจ นึกว่าพวกเขาแค่ล้อเล่น
ฉินสือโอวลากบิลลี่เข้าในห้อง พอปิดประตูก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “นายใจเย็นหน่อยจะได้ไหม? ให้ตายสิ เรื่องนี้ใหญ่ขนาดไหนนายก็ใช่ว่าไม่รู้! แค่ผิดพลาดเพียงนิดเดียว พวกเราต้องจบเห่แน่ นายเข้าใจไหม?!”
บิลลี่พยักหน้ารัวราวกับไก่กำลังจิกกินอาหาร “เข้าใจๆ ฉันเข้าใจแล้ว” หลังจากนั้นน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป พูดอย่างหน้าชื่นตาบานว่า “แต่ตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรไม่ใช่เหรอ? อย่าห่วงเลยเพื่อน ไม่มีปัญหาอะไรหรอก!”
ฉินสือโอวโยนโค้กให้เขาขวดหนึ่ง บิลลี่โวยว่า “ทำไมถึงไม่ใช่เบียร์ล่ะ?”
“บอกเบลคกับแบรนดอน ก่อนหน้าที่จะได้เงิน ไม่ว่าใครก็ห้ามกินเหล้า!” ฉินสือโอวพูดอย่างจริงจัง
บิลลี่ยักไหล่ก่อนเอ่ยขึ้น “โอเค ไม่ต้องเคร่งเครียดขนาดนั้นก็ได้ พวกเราเข้าใจถึงความสำคัญของเรื่องนี้…”
“ไม่ใช่สำคัญ แต่น่ากลัว!” ฉินสือโอวแก้คำต่อ “บอกฉันที ตอนนี้เรือกู้ซากไปถึงไหนแล้ว? พวกเราต้องวางแผนให้สมบูรณ์แบบ”
ที่ก่อนหน้านี้เขาไม่ใส่ใจก็เพราะงานกู้ซากไม่ต้องมีเขาช่วย ตอนนี้เข้าสู่ขั้นตอนขนส่ง เขาก็ต้องใส่ใจหน่อย คราเคนต้องมาคอยคุ้มกันการขนส่ง อีกอย่างคราวที่แล้วกองกำลังทหารงูทะเลที่เขาส่งไปยังมีส่วนหนึ่งที่ยังอยู่ในแถบมหาสมุทรอินเดีย มีแต่กองกำลังแกร่งๆ ทั้งนั้น
บิลลี่เปิดคอมพิวเตอร์แล้วดึงภาพแผนที่ดาวเทียมที่ชัดเจนขึ้นมา บนรูปมีพวกเส้นสีแดง เขียว ดำ ขาวระโยงระยางเต็มไปหมด พอเขากดเส้นพวกนี้ก็หายไป สุดท้ายเหลือไว้เพียงแค่เส้นสีดำและสีแดง
“เส้นสีดำคือเส้นทางเดินเรือปัจจุบัน เส้นสีแดงคือเส้นทางตามแผน ผ่านประเทศเซเชลส์เพื่อเติมเสบียง น้ำจืด และน้ำมัน แล่นตรงไปที่มาดากัสการ์แล้วก็เติมของอีกครั้งค่อยอ้อมเคปทาวน์และเข้ามหาสมุทรแอตแลนติก” บิลลี่พูดไปในที่สุดสีหน้าก็จริงจังขึ้นมา
เวลาทำเรื่องจริงจังบิลลี่ก็ถือว่าพึ่งพาได้มากๆ อย่างไรก็เป็นทายาทของบริษัทกู้ซากในมหาสมุทรอันดับหนึ่งของโลกที่ถูกฝึกฝนมา
“แร่ทองคำพวกนี้จะเข้าตรวจในศุลกากรได้อย่างไร? ใช้วิธีเดิม บอกว่างมขึ้นมาจากที่ไหนสักที่ในเขตทะเลสาธารณะของมหาสมุทรแอตแลนติกเหรอ?” ฉินสือโอวถาม
ทุกวันนี้กฎนานาชาติที่เกี่ยวข้องกับโบราณวัตถุจากเรืออับปางก็คือ “ใครงมได้ก็เป็นของคนนั้น” สิ่งนี้ไม่ได้ใช้แค่กับเรืออับปางในน่านน้ำสากล โบราณวัตถุทางวัฒนธรรมจากเรืออับปางภายในน่านน้ำของบางประเทศยังถูกบริษัทกู้ซากยึดไปเป็นของตนเองหลังจากที่กู้ขึ้นมา
การกู้ซากวัตถุโบราณหลายครั้งก่อนนี้ พวกเขาก็ล้วนทำตามกฎนั้น บิลลี่กับเบลคใช้คอนเนคชั่นทำรายงานการค้นพบซากเรือปลอมขึ้นมาก็ได้แล้ว
บิลลี่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ครั้งนี้จะเอาเข้าอเมริกาอีกไม่ได้แล้ว พวกเราต้องเข้าแคนาดา ส่งให้ตระกูลของเบลคกับแบรนดอนจัดการโดยตรง รัฐบาลอเมริกาเคี่ยวมาก ถ้าพวกเขาดันทุรังบอกว่าตำแหน่งของเรืออับปางอยู่ในทะเลอาณาเขตจะทำอย่างไร?”
ความเป็นไปได้นี้ใช่ว่าจะไม่มี รัฐบาลอเมริกามีกฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับด้านการจัดการกับโบราณวัตถุภายในทะเลอาณาเขต นั่นก็คือกฎหมายเรืออับปาง
ตามกฎหมายแล้ว กรรมสิทธิ์วัตถุโบราณที่อยู่ภายในทะเลอาณาเขตของอเมริกาจะต้องเป็นของอเมริกาทั้งหมด จากนั้นค่อยโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมดให้รัฐที่เรืออับปางอยู่
หรือก็คือ ต่อให้เจอเรืออับปางในฟาร์มปลาอเมริกา สมบัติก็ถือว่าเป็นของรัฐบาลอเมริกา ไม่ค่อยเหมือนกับที่ประกาศใช่ไหมล่ะ? ในประกาศบอกว่าอเมริกาเคารพสมบัติส่วนบุคคล ขอแค่เป็นที่ดินของคุณ แร่ น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติที่ขุดขึ้นมาก็เป็นของคุณ
มีแค่สมบัติจากเรืออับปางที่ไม่ใช่แบบนั้น คำอธิบายที่ทางรัฐบาลแถลงคือพวกพลังงาน แร่มาจากดิน เป็นสารอนุพันธ์ของดิน สมบัติไม่ใช่สารอนุพันธ์ของฟาร์มปลา มันเคยมีเจ้าของมาก่อน ถ้าเจ้าของเดิมไม่อยู่แล้วก็เป็นของรัฐ
กาทั้งโลกเป็นสีดำเช่นไร รัฐบาลบนโลกก็เคี่ยวเช่นนั้น!
………………………………………
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1313 แร่ไปไหน
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!