ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1279 ลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ

พอได้รับคำสั่งของฉินสือโอวแล้ว เหล่าลูกๆ ฉลามวาฬทั้งสามก็ดีใจและพร้อมปฏิบัติหน้าที่ในทันที
แต่บอลหิมะเข้าไปใกล้แถบชายฝั่งไม่ได้ เพราะจากลูกวาฬเบลูกามาถึงตอนนี้ได้กลายเป็นวาฬเบลูกาโตเต็มวัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลำตัวมีความยาวถึงสี่เมตรครึ่ง และทั้งตัวก็มีแสงระยิบระยับแวววาว เปล่งประกายเผยถึงรูปโฉมงดงามเพียงหนึ่งเดียวในทะเล
นอกจากเหล่าเด็กๆ ฉลามวาฬทั้งสามแล้ว ฉินสือโอวยังส่งกองทัพนักฆ่าที่ไม่ได้ใช้งานมานานอย่างกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีออกไปด้วย
คำสั่งที่เขาได้ให้ไว้กับกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีคือ ให้เคลื่อนที่จากบริเวณริมชายฝั่งของฟาร์มปลาสาธารณะมุ่งสู่ส่วนที่ลึกลงไปของมหาสมุทร ระหว่างทางหากเจอหอยพวกนั้นก็ให้ทุบให้แตกและกินพวกมันให้สิ้นซาก!
ถ้าไม่ใช่ว่าที่เกาะประสบปัญหากับเรื่องหอยพิษ ฉินสือโอวก็คงจะคิดไม่ออกว่าเขาสามารถสั่งให้เหล่ากั้งตั๊กแตนเจ็ดสีไปจัดการได้ เพราะพวกมันชอบทุบหอยให้แตกจากนั้นก็จับกินจนหมด อย่างตอนที่อยู่ในฟาร์มปลาพวกมันก็คอยทำลายหอยที่ฉินสือโอวเลี้ยงอยู่ทุกๆ วัน
ในฟาร์มปลาต้าฉินไม่ว่าจะเป็นปลากุ้งปูต่างก็มีอยู่จำนวนมาก จะมีก็แต่หอยที่มีอยู่น้อยมาก ด้วยเพราะการอาศัยอยู่ในแหล่งธรรมชาติเพียงลำพังจะทำให้การสืบพันธุ์ลดลงและไม่สามารถขยายสายพันธุ์ให้แพร่กระจายออกไปได้
และหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์นี้ ก็คือการที่เหล่ากั้งตั๊กแตนเจ็ดสีเจริญอาหาร เนื่องจากตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจนค่ำพวกมันไม่ทำอะไร คอยแต่จะกวาดล้างบริเวณใต้ท้องทะเลที่อยู่แถบชายฝั่งของฟาร์มปลา คอยแต่จะทุบหอยและกินพวกมันจนหมด!
ไปจนถึงกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีที่เจริญอาหารเหล่านั้นสามารถที่จะขุดเอาหอยงวงช้างขึ้นมาจากโคลนทะเลได้ ฉินสือโอวก็จนปัญญาแล้วจริงๆ กินกันเก่งเสียเหลือเกิน
ในขณะที่ส่งให้ลูกน้องออกไปช่วยหา ฉินสือโอวการก็ได้ส่งจิตสำนึกแห่งโพไซดอนออกไปค้นหาตามแนวเลียบชายฝั่งทั่วทั้งสี่ทิศ
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนที่แผ่ขยายปกคลุมน่านน้ำใหญ่พอจนทำให้การเคลื่อนไหวรวดเร็วตามไปด้วย แต่บริเวณแถบชายฝั่งทะเลของเมืองเล็กๆ ยาวมาก หนึ่งชั่วโมงครึ่งผ่านไปเขาก็ยังไม่สามารถค้นหาจนทั่วได้
เวลาเช่นนี้ทำให้เห็นว่ายิ่งคนเยอะก็ยิ่งมีกำลังในการค้นหาเยอะตามไปด้วย อีกทั้งยังเป็นบีนที่เจอหอยเต้าปูนก่อนหนึ่งตัว จากนั้นพอเห็นจิตสำนึกแห่งโพไซดอนก็เลยพาเขาว่ายเข้าไปดู
โลมาปากขวดเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ชอบออกกำลังกายเป็นอย่างมาก ในทุกๆ วันบีนจะว่ายเตร็ดเตร่อยู่บริเวณรอบๆ ทะเล ซึ่งตรงส่วนนี้ก็ถือเป็นอาณาเขตของมันอยู่แล้ว ดังนั้นสำหรับหอยเต้าปูนแล้วมันจึงสามารถหาพวกมันเจอได้ก่อนใครเพื่อน
แต่อย่าดูที่ไอคิวของโลมาปากขวด เพราะในบางด้านไอคิวของพวกมันก็สูงเทียบเท่าไอคิวระดับเด็กอายุสิบสองขวบ โดยเฉพาะบีนที่ดูดซับพลังโพไซดอนมามากขนาดนั้น นับว่ามีไอคิวค่อนข้างสูงทีเดียว
เมื่อตามบีนไป ฉินสือโอวจึงเจอหอยเต้าปูนตัวหนึ่งในทันที
หอยตัวนี้มีความยาวประมาณสิบเซนติเมตร กระดองแข็ง ใหญ่และหนัก กระดองหอยของมันเป็นรูปทรงกรวย ยอดเกลียวไม่สูง สีพื้นเป็นสีขาว ส่วนภายนอกของหอยมีลายจุดสีดำน้ำตาลกระจายเต็มไปหมด ประกอบกับมีลายเส้นตรงแนวดิ่งสั้นๆ
ฉินสือโอวจึงนำโทรศัพท์มือถือออกมาค้นหาในอินเทอร์เน็ต หลังจากนั้นจึงแน่ใจตัวตนของมันว่าเป็นหอยเต้าปูนลายเสือ หอยเต้าปูนลายเสือเป็นสายพันธุ์ที่พบเจอมากที่สุด ซึ่งพิษของมันอยู่ในระดับกลาง
ตอนที่เขาพบเจอหอยตัวนี้ มันกำลังจับเหยื่อที่เป็นปลาหมึกขนาดเท่าฝ่ามือตัวหนึ่งที่ค่อยๆ ว่ายเข้าไปใกล้หอยเต้าปูน เนื่องจากลวดลายของหอยชนิดนี้มีความซับซ้อน ทำให้สิ่งมีชีวิตในมหาสมุทรจำนวนมากเข้าใจผิดนึกว่าเป็นหินโสโครกเลยจะมาหลบอาศัย
หลังจากปลาหมึกขนาดเล็กเข้าไปใกล้หอยเต้าปูนลายเสือ หอยเต้าปูนลายเสือตัวนั้นก็ค่อยๆ ยื่นอวัยวะที่เป็นเหมือนลูกศรอันหนึ่งออกมา ซึ่งก็คือแรดูลาที่มันใช้เวลาจู่โจม
ภายในตัวของหอยเต้าปูนมีพิษ ซึ่งสารพิษนั้นจะถูกลำเลียงผ่านหลอดพิษและส่งไปยังส่วนที่เป็นแรดูลาที่สามารถพ่นสารพิษเข้าไปในเหยื่อได้โดยตรง
แต่หอยเต้าปูนจะไม่จู่โจมไปทั่ว เนื่องจากแรดูลาของมันเมื่อใช้ไปหนึ่งครั้งพิษในครั้งนั้นก็จะหมดไป จึงจำเป็นต้องแน่ใจว่าจะต้องเอาชีวิตเหยื่อได้สำเร็จ พวกมันถึงจะลงมือ มิเช่นนั้นมันก็จะหิวอยู่ช่วงหนึ่ง
จึงไม่ต้องสงสัยเลย ปลาหมึกน้อยตัวนี้ถือเป็นอาหารชั้นยอด หอยเต้าปูนรอให้มันเข้ามาใกล้บริเวณแรดูลา จากนั้นแรดูลาที่อ่อนนุ่มก็จะยืดตรงออกมาทันที หลังจากที่ปลาหมึกน้อยโดนเข้าก็จะขาดออก แล้วแรดูลาก็จะไปฝังอยู่ในตัวของปลาหมึกน้อย
ปลาหมึกน้อยตกใจ มันกำลังจะว่ายน้ำหนีไปทางด้านหลัง แต่พิษก็ออกฤทธิ์แล้ว ทำให้มันขยับตัวไม่ได้หลังจากนั้นก็ตาย
พิษของหอยเต้าปูนเป็นสารพิษประเภทโปรตีน มีพิษต่อระบบประสาทคล้ายกับพิษของงูจงอาง
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเมื่อถูกกัดและรับพิษเข้าไป จะทำให้มีอาการอักเสบบวมแดง บาดแผลจะมีอาการแสบร้อนก่อน ไปจนถึงมีอาการชา หลังจากนั้นถึงค่อยๆ แพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ทำให้แขนขาไม่มีแรง กล้ามเนื้อปลายประสาทชา จิตใจอ่อนแรง จากนั้นก็จะค่อยๆ สลบไป แล้วตายในที่สุด ซึ่งสาเหตุนั้นก็มาจากกล้ามเนื้อหัวใจไม่มีแรง นี่จึงเป็นเหมือนกับพิษของงูจงอาง
แต่ปลาและกุ้งขนาดเล็กที่เป็นสัตว์ลำตัวอ่อนนุ่มเมื่อถูกกัดเข้าไป จะไม่แสดงอาการมากขนาดนี้ แต่จะชาและตายไปเลย เหมือนกับปลาหมึกน้อยตัวนี้!
หลังจากหอยเต้าปูนลายเสือจู่โจมสำเร็จ ฉินสือโอวใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนทำเครื่องหมายไว้บนตัวของมัน เพื่อที่ว่าพรุ่งนี้มาหาก็จะง่ายขึ้น
จากนั้นเขาก็ค้นหาต่อทันที โดยใช้หอยเต้าปูนลายเสือตัวนี้เป็นจุดศูนย์กลางในการมองไปรอบด้าน ไม่นานก็เจอหอยเต้าปูนลายเสืออีกสี่ห้าตัวอย่างรวดเร็ว
หอยเต้าปูนลายเสือเหล่านี้กระจายตัวอยู่ในบริเวณรัศมีประมาณสองร้อยกว่าตารางเมตร เป็นที่ดำรงชีวิตที่นับว่าเป็นจุดศูนย์รวมมากที่สุด
และพอเขาหาต่อไปข้างหน้าก็ค้นพบหอยเต้าปูนชนิดอื่นตัวหนึ่ง
หอยเต้าปูนชนิดนี้งดงามมาก ลักษณะคล้ายกับขวดแก้วเซรามิกเล็กๆ ขวดหนึ่ง สีของพื้นกระดองเป็นสีขาวบริสุทธิ์ แต่ภายนอกมีลายจุดสีน้ำตาลแดงที่ซับซ้อนมาก แถมผิวสัมผัสของกระดองยังลื่นเป็นเงางดงาม มองดูแล้วทำให้รู้สึกดึงดูดอย่างกับขวดที่งดงามประณีต
หอยเต้าปูนชนิดนี้ค่อนข้างเป็นที่รู้จักมาก มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่าหอยเต้าปูนขนนกแดง ความยาวสูงสุดสามารถยาวได้ถึงยี่สิบสี่เซนติเมตร แต่ถ้าหากความยาวเกินสิบเซนติเมตรจะมีมูลค่ามาก สามารถประมูลราคาได้ถึงหนึ่งแสนสองแสนหยวนได้เลยทีเดียว
สำหรับหอยเต้าปูนขนนกแดงที่มีความยาวถึงยี่สิบเซนติเมตร ราคาก็คงต่ำกว่าหอยนมสาวทะเลยักษ์ที่ฉินสือโอวเลี้ยงไว้ไม่เท่าไร
แต่หอยเต้าปูนขนนกแดงชนิดตัวนี้ไม่ได้มีมูลค่ามากมายขนาดนั้น เพราะมันมีความยาวเพียงห้าถึงหกเซนติเมตร หอยชนิดนี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ในตลาดปลาสวยงามจ่ายเพียงไม่กี่ร้อยหยวนแคนาดาก็สามารถซื้อได้แล้ว
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ราคาของหอยเต้าปูนขนนกแดงทั้งหลายตกต่ำ ก็คือพวกมันมีพิษ โดยปกติแล้วคนไม่ยินยอมที่จะเพาะเลี้ยงพวกมัน มิเช่นนั้นก็คงจะสามารถเพิ่มราคาขึ้นมาได้อีกระดับหนึ่งอยู่
หลังจากที่ค้นพบหอยเต้าปูนขนนกแดง ฉินสือโอวก็ยังคงค้นหาต่อไป แล้วเขาก็เจอเข้ากับหอยเต้าปูนลายเสืออีกจำนวนหนึ่ง เช่นนี้จึงทำให้เขาสันนิษฐานเบื้องต้นว่าหอยเต้าปูนเหล่านี้ต้องมีคนนำมาปล่อยไว้เป็นแน่
ถ้าพูดถึงว่าตัวอ่อนของหอยเต้าปูนขนนกแดงถ้าบังเอิญลอยตามกระแสน้ำมายังเขตทะเลของเกาะเล็กๆ นี้ ก็พอจะน่าเชื่ออยู่ แต่ขณะเดียวกันถ้าพูดว่ามีทั้งหอยเต้าปูนลายเสือและหอยเต้าปูนขนนกแดงลอยตามกระแสน้ำมาคงจะเป็นไปไม่ได้
นอกจากนี้ หากฉินสือโอวกระจายวางหอยแต่ละชนิดไว้เป็นจุดๆ โดยเมื่อสามจุดนั้นเชื่อมต่อกันก็เกือบจะเป็นเส้นตรง และเส้นตรงเส้นนี้ก็เชื่อมกันไปยังท่าเรือของเกาะพอดี!
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเดาได้ไม่ยากจริงๆ น่าจะมีคนโดยสารเรือข้ามฟากหรือขับเรือมาเองเข้ามาใกล้บริเวณหมู่เกาะแล้วสาดหอยพิษเหล่านี้มาด้วยเจตนาร้าย ด้วยใจที่คิดอยากจะทำลายธุรกิจการท่องเที่ยวบนเกาะแฟร์เวล
ฉินสือโอวเดาถึงเพียงแค่นี้ ทั้งนี้อาจจะมีมือมืดที่คอยอยู่เบื้องหลังซึ่งหากพูดไปก็จะไม่เป็นการดี หรือจะเป็นตระกูลมอร์รี่ หรือคนที่เขาเคยผิดใจอย่างพ่อแม่ของลินตัน วอเทอเรนซ์ หรืออาจจะเป็นใครที่คิดอิจฉาเศรษฐกิจของเมืองแฟร์เวลก็เป็นได้
แต่ถ้าจะพึ่งการเดาก็คงเดาไม่ออกอยู่ดีว่าเป็นใคร ฉินสือโอวจึงทำการค้นหาอีกครั้ง จนสุดท้ายก็เจอหอยเต้าปูนขนนกแดงสองตัวและหอยเต้าปูนลายเสืออีกสิบสี่ตัว
เขาเลยนำหอยเต้าปูนขนนกแดงกลับมายังฟาร์มปลาในเขตแนวปะการัง พร้อมกับบอกเหล่าลูกๆ ฉลามวาฬทั้งสามว่า ไม่ให้ไปก่อกวนพวกมันอีก หลังจากนั้นหอยเต้าปูนลายเสือทั้งสิบสี่ตัวก็ม้วนตัวไปอยู่ตามริมทะเล โดยกระจายตัวแบ่งกันไปอยู่สองที่ ทำให้ง่ายต่อการค้นหาในวันพรุ่งนี้
หลังจากนั้นเขาก็ไปที่ลำธารแคบบนเขาสูงเพื่อไปดูปลาไส้ตันฟลอริดา ซึ่งตัวเมียออกไข่แล้วเป็นที่เรียบร้อย ภารกิจของปลาตัวผู้เป็นอันประสบผลสำเร็จ ซึ่งแต่ละตัวก็อยู่ดีกินดีจนอ้วนท้วมสมบูรณ์
เห็นเช่นนี้แล้วฉินสือโอวเลยพาพวกมันกลับไปยังมหาสมุทร แต่ปลาเล็กยังคงต้องรอเวลาอีกสองเดือนถึงจะสามารถฟักไข่ได้ ส่วนปลาตัวเมียจะอยู่ในน้ำจืดนานไม่ได้
……………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset