ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1233 เปิดม่าน

สัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม เมืองแฟร์เวลคึกคักกว่าช่วงงานเฉลิมฉลองประจำชาติเสียอีก
ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน เวทีสูงหลังหนึ่งก็ถูกสร้างขึ้น รอบๆ เวทีประดับประดาไปด้วยดอกไม้ ดอกไม้พวกนี้ยังมีคนมาคอยจัดจนถึงช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คนที่มาทำงานคือคุณลุงฮิคสัน ดอกไม้พวกนี้ก็มาจากสวนดอกไม้ของเขา
ชายวัยกลางคนผู้มีท่าทีสง่างามคนหนึ่งกำลังเตรียมกล่าวสุนทรพจน์บนเวที ชายผู้นั้นคือดิค คอฟแมน มิเชลและกอร์ดอนถามมาจากที่โรงเรียนประถมศึกษามาแล้ว เขาคือพิธีกรในการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้
ไม่ว่าการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีของนครเซนต์จอห์นจะจัดที่เมืองใดหรือครั้งไหนก็ตาม พิธีกรก็จะเป็นชายผู้นี้ พวกเขาต่างส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่น พิธีกรคนล่าสุดคือพ่อของดิค คุณปู่คอฟแมน หลังจากที่เขาจบมหาวิทยาลัย งานนี้ก็ถูกส่งต่อมายังเขาทันที
นอกจากนี้ ฮิวจ์คนน้องและพวกพ้องก็กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการปรับลำโพงอยู่ เพราะเหตุนี้จึงเกิดเสียงกรีดร้องของลำโพงดังไปทั่วท้องถนนเป็นระยะ
ถนนทั้งสองข้างถูกประดับไปด้วยธงที่ปลิวไสวไปมา ธงหลากหลายแบบแขวนอยู่ตามถนน ไม่ว่าจะเป็นธงประจำชาติแคนาดา ธงประจำรัฐนิวฟันแลนด์ และยังมีธงของเมืองแฟร์เวลอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโปสเตอร์ของผู้สมัครลงเลือกตั้งปลิวไปมาด้วยอีกจำนวนหนึ่ง บนโปสเตอร์เหล่านั้นเป็นรูปของผู้ลงสมัครเลือกตั้งทั้งห้าคน
บนถนนสายหลักหลายสาย มีคนมาแจกใบปลิวอยู่ตลอดเวลา ด้านบนใบปลิวเป็นการแนะนำผู้ลงสมัครเลือกตั้งทั้งห้าคนรวมถึงนโยบายการหาเสียงของพวกเขา โดยไม่ต้องสงสัย คนที่เป็นที่ตื่นตาตื่นใจที่สุดก็คือวินนี่
แวดวงการเมืองของนิวฟันแลนด์นั้นมีลักษณะที่เฉพาะที่สุดในแคนาดา พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ หลายอย่างนั้นเหมือนกับประเทศอังกฤษ เนื่องจากพวกเขาตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่หลายอย่างก็ยังเหมือนประเทศแคนาดา เพราะว่าหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองพวกเขาก็กลับคืนสู่แคนาดา…
แวดวงการเมืองชั้นสูงนั้นค่อนข้างวุ่นวาย การเมืองเล็กๆ ระดับเมืองจึงไม่ได้มีอะไรเป็นหลักแน่นอนเป็นธรรมดา เรื่องตลกของการเลือกตั้งในเมืองเล็กๆ จึงมีออกมาเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย สุนัขเป็นนายกเทศมนตรีบ้าง แมวเป็นนายกเทศมนตรีบ้าง ที่มากไปกว่านั้นคือ ยังมีการเอาคนตายมาเป็นนายกเทศมนตรีด้วย…
แต่เมืองแฟร์เวลถือว่าเป็นเมืองขนาดใหญ่ การเลือกตั้งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เหล่าประชาชนต่างก็รู้เรื่องนี้ดี ทิศทางการเมืองของเมืองแห่งนี้จำเป็นจะต้องได้รับการนำทัพโดยนายกเทศมนตรีที่เก่งกาจ ในเรื่องนี้พวกเขาต่างก็จริงจังกับมันมาก พวกเขาจะเลือกคนที่พวกเขาคิดว่าเหมาะสมที่จะเป็นนายกเทศมนตรีมากที่สุด
ดังนั้น แม้ว่าหนึ่งในผู้ลงสมัครในครั้งนี้จะมีสุนัขอยู่ด้วยหนึ่งตัว แต่พวกเขาก็เข้าใจดีว่านี่เป็นการสร้างบรรยากาศให้สนุกสนานครึกครื้นเท่านั้น คงไม่มีใครลงคะแนนเสียงให้สุนัขจริงๆ แน่นอน
ใช่แล้ว ผู้ลงสมัครนายกเทศมนตรีของเมืองแฟร์เวลในครั้งนี้มีสุนัขอยู่ด้วยหนึ่งตัว จนถึงตอนนี้ฉินสือโอวพึ่งจะเข้าใจเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าฮิวจ์คนน้อง เจ้าบ้านั่นไปหาพิตบูลสุนัขที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งนักสู้มาจากไหน ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วันสุนัขพันธุ์พิตบูล ตัวนั้นมีท่าทางดุร้ายมาก หลังจากนั้นมันก็ถูกลงชื่อเป็นผู้ลงสมัครเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี
“พระเจ้า” ฉินสือโอวโบกมือเรียกให้ชาร์คมาหา “สุนัขของฮิวจ์คนน้องตัวนั้นมันอะไรกัน? ไร้สาระ งานที่จริงจังขนาดนี้ ให้เขามายุ่งได้อย่างไร! ไป พาหู่จือกับเป้าจือมาจัดการมันสิ จากนั้นวินนี่ก็จะมีคู่ต่อสู้ลดน้อยลง!”
ชาร์คชี้ไปที่รูปภาพของสุนัขที่กำลังยิ้มยิงฟันอยู่แล้วพูดออกมาว่า “บอส นี่เป็นพิตบูลเลยนะ มันเก่งมาก เกรงว่าหู่จือกับเป้าจือจะตกที่นั่งลำบากได้นะครับ”
“งั้นไปพาฉงต้ามา!”
“มันสู้สุนัขเพศเมียตัวนี้ไม่ไหวหรอกครับ!”
ผู้ลงสมัครเลือกตั้งทั้งห้าคนในครั้งนี้จะมาแทนนายกเทศมนตรีฮานี่ย์ แรมโบ้ เขามีคุณสมบัติที่จะได้ลงสมัครเลือกตั้งโดยอัตโนมัติ ส่วนผู้สมัครที่เหลือสามในสี่คนได้ไปยื่นขออนุมัติจากสภาเมืองนครเซนต์จอห์นด้วยตัวเอง ส่วนอีกหนึ่งคนนั้นเป็นคนที่รัฐบาลสรรหามา
คนที่รัฐบาลสรรหามานั้นคือเสมียนศุลกากร แต่ก็ไม่มีใครสนใจเขา เรื่องนี้เป็นแฮมเล็ตที่เข้ามาช่วยฉินสือโอว เขาวางแผนให้ทุกคนทำท่าทีไม่สนใจเสมียนคนนั้น เพื่อที่จะลดความกดดันในการหาเสียงของวินนี่
ผู้ลงสมัครทั้งสามคนของเมืองได้แก่ วินนี่ ชาวประมงและเจ้าของโรงแรมอย่างเอลตัน เบิร์ตและสุนัขพิตบูลของฮิวจ์คนน้อง
เมื่อดูจากรายชื่อผู้ลงสมัครเลือกตั้งก็มองออกได้ทันทีว่า การลงสมัครเลือกตั้งของวินนี่เป็นความหวังของทุกคน พวกเขาทุกคนต่างพากันช่วยเธออย่างเต็มที่ คู่แข่งของเธอนั้นไม่ได้เรื่อง กิจกรรมหาเสียงของเธอก็ถูกจัดขึ้นมากที่สุด แขกผู้มาช่วยหาเสียงของเธอนั้นแข็งแกร่งที่สุด ถ้าหากว่าแบบนี้แล้วเธอยังไม่ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรี แบบนั้นก็ถือว่าโดนหลอกแล้วล่ะ!
ช่วงนี้วินนี่ได้ไปเป็นแขกรับเชิญทางสถานีวิทยุและสื่อต่างๆ มากขึ้น รายการข่าวเศรษฐกิจแห่งนครเซนต์จอห์นได้เชิญเธอไปสัมภาษณ์ในหัวข้อ ว่าที่นายกเทศมนตรีที่สวยที่สุดในนิวฟันแลนด์กำลังจะได้รับชัยชนะ
เหมือนกับการเลือกตั้งอื่นๆ การเลือกตั้งในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นในสุดสัปดาห์ ในวันเสาร์ผู้ลงสมัครเลือกตั้งจะกล่าวสุนทรพจน์และเปิดให้ผู้ลงสมัครตอบคำถามจากประชาชน เที่ยงคืนของวันเสาร์หรือเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะอดหลับอดนอนเพื่อรอลงเลือกตั้ง และพวกเขาจะเริ่มนับคะแนนทันที นายกเทศมนตรีจะได้รับการเลือกภายในชั่วข้ามคืน
การกล่าวสุนทรพจน์จะเริ่มตั้งแต่บ่ายโมงเป็นต้นไป ผู้สมัครเลือกตั้งทุกคนมีเวลาในการกล่าวสุนทรพจน์อย่างเต็มที่คนละครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เมื่อถึงเวลาสี่โมงเย็น ผู้ลงสมัครเลือกตั้งห้าคนจะนั่งรวมกันเพื่อรอรับคำถามจากประชาชนและผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ที่ทางรัฐบาลส่งมา ในส่วนนี้ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง หลังจากที่งานจบลงทุกคนก็สามารถกลับบ้านไปทานข้าวและหารือเรื่องที่จะสนับสนุนผู้ลงสมัครเลือกตั้งคนไหนได้
ตอนเช้าวินนี่อยู่กับเออร์บักและแมคคาลลียน พวกเขากำลังพูดคุยกันถึงเรื่องเนื้อหาในการกล่าวสุนทรพจน์ สำหรับเนื้อหาร่างฉบับสุดท้าย ฉินสือโอวได้ดูมันด้วย เมื่อเห็นว่าไม่มีตรงไหนที่ต้องการให้เขาช่วย เขาก็เลยออกไปเที่ยวเล่น
ผู้ลงสมัครเลือกตั้งทั้งห้าคนจะมีห้องพักรับรองที่โรงแรมในเมืองชั่วคราว ฉินสือโอวที่พึ่งจะออกมาจากที่นั่น เขาก็เจอเข้ากับฮิวจ์คนน้อง เขากำลังจูงสุนัขพิตบูลอยู่ในมือ แต่มันไม่ได้เป็นสุนัขโตเต็มวัย เป็นเพียงลูกสุนัขที่ค่อนข้างตัวใหญ่เท่านั้น อีกอย่างมันก็ไม่ได้ดุร้ายมาก มันยิ้มออกมาด้วยท่าทางซื่อๆ
ฉินสือโอวชี้ไปที่มันแล้วถามว่า “นี่นายกำลังเล่นอะไรอยู่?”
ฮิวจ์พูดข่มขู่เขากลับว่า “เด็กน้อย นายควรจะทำตัวดีๆ หน่อย มันชื่อบุช ต่อไปมันจะเป็นนายกเทศมนตรีของพวกเรา หลังจากที่มันได้รับเลือก นายจะให้มันกินนายเหมือนนายเป็นอาหารเลย!”
“ทำไมจู่ๆ นายถึงคิดเลี้ยงพิตบูลขึ้นมาล่ะ?” ฉินสือโอวถามออกมาด้วยความสงสัย สุนัขสายพันธุ์นี้ดุร้ายมาก ไม่เหมาะที่จะเลี้ยงในเมือง แน่นอนว่าเลี้ยงในชนบทนั้นไม่เป็นอะไร เพราะเขาก็ยังเลี้ยงหมีสีน้ำตาลและหมาป่าขาวเลย
ฮิวจ์คนน้องตอบกลับมาว่า “อะไรที่เรียกว่าจู่ๆ ก็อยากเลี้ยงขึ้นมา? ยังจำที่เราเล่นสกีกันเมื่อปีที่แล้วได้ไหม? ที่นายทำเรื่องไร้สาระในตอนนั้นน่ะ”
ฉินสือโอวทำหน้าบึ้งแล้วพูดออกมาว่า “ไม่ต้องให้นายย้ำหรอก ฉันได้ พูดเรื่องที่จะพูดตรงๆ เลยเถอะ”
“ตอนนั้นนายไม่ใช่เหรอที่ให้หู่จือกับเป้าจือมาแกล้งฉัน? ตอนนั้นฉันสาบานอย่างเงียบๆ ว่า ต่อไปฉันจะเลี้ยงสุนัขตัวใหญ่ที่ดุร้ายมาแก้แค้นนาย! ตอนนี้วันนั้นได้มาถึงแล้ว!” ฮิวจ์คนน้องจงใจกัดฟันแน่นแล้วพูดลอดฟันออกมา
ฉินสือโอวหัวเราะแห้งออกมา แล้วพูดอย่างดูถูกว่า “เพื่อน นายไม่ได้แก้แค้นหรอก นี่เป็นการเสิร์ฟอาหารชัดๆ ตอนบ่ายฉันจะพาฉงต้ามา วันนี้มันยังไม่ได้กินอะไรพอดี สุนัขของนายตัวนี้ถือว่าเป็นอาหารของมันสักมื้อแล้วกัน!”
พิตบูลนั้นโง่แต่ก็มีประสาทสัมผัสไวมาก มันสัมผัสได้ถึงเจตนามุ่งร้ายลึกๆ ที่ฉินสือโอวมีต่อมัน มันจึงอ้าปากเห่าฉินสือโอวอยู่สองสามครั้ง
ฉินสือโอวโบกมือให้ฮิวจ์คนน้องจากนั้นก็เดินออกมา เขาต้องกลับไปพาหู่จือและเป้าจือมาที่นี่
หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ ชาวเมืองต่างก็พากันเข้ามาในเมืองเพื่อที่จะเตรียมตัวเข้าร่วมการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่จัดขึ้นทุกๆ สี่ปี
การกล่าวสุนทรพจน์ของผู้เลือกตั้งทั้งห้าคน ผู้ที่ขึ้นเวทีคนแรกคือพิตบูลที่ชื่อบุชของฮิวจ์คนน้อง แม้ว่าเขาจะครอบครองสุนัขสายพันธุ์ดุร้ายที่มีนิสัยกล้าหาญ แต่คาดว่ามันคงไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน นั่นคือการที่ถูกคนนับพันจ้องมองมา…
ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่ฮิวจ์คนน้องปล่อยมือจากมันบนเวที มันก็วิ่งหนีหางจุดตูดลงเวทีไปอย่างรวดเร็ว
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset