ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1032 งานแสดงสินค้าโลก

ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่าการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่จำเป็นมาก บัตเลอร์ที่อยู่ในมาดนักเลงก่อนหน้านั้น แต่พอหลังจากเข้าไปในสถานีตำรวจแล้วเขาก็มีวิธีที่จะพาฉินสือโอวออกมาได้
บัตเลอร์พาคนคนหนึ่งมาพร้อมกับโทรศัพท์หนึ่งเครื่อง ซึ่งเขาเป็นทนายความที่มีชื่อเสียงในอัมสเตอร์ดัมและในสายโทรศัพท์คือสมาชิกสภาเมืองในอัมสเตอร์ดัมโทรมา หลังจากหัวหน้าสถานีตำรวจรับสายแล้วจึงออกมาพูดว่า “คดีคนจีนฉิน ใครเป็นคนรับช่วงต่อ? หลังจากสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ไม่มีปัญหาในการปล่อยตัว”
ฉินสือโอวและเด็กหนุ่มคนนั้นจึงถูกนำตัวไปที่ห้องสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงรูปร่างอ้วนท้วมคนหนึ่งพูดว่า “เมื่อสองวันก่อน เราได้รับข่าวว่ามีผู้เยาว์ขายกัญชาที่ร้านกาแฟเหมือนความรัก เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบของเราจึงเข้าไปตั้งจุดสังเกตติดต่อกันสองวันและในที่สุดก็จับกุมคุณทั้งสองได้ คุณฉิน คุณต้องการจะพูดอะไรไหม?”
ทนายความกระแอมแทรกขึ้นเพื่อต้องการจะพูด ฉินสือโอวจึงส่ายหัวและชิงพูดเองว่า “คุณตำรวจหญิง ผมเป็นชาวตะวันออกที่หัวโบราณคนหนึ่ง การศึกษาที่ผมได้รับมาตั้งแต่เด็กก็คือการสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและผมเป็นคนไม่สูบบุหรี่ นอกจากนี้หลังจากที่ผมจากบ้านเกิดมา ผมก็อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่ห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่ในแคนาดามาตลอด ที่นั่นเด็กๆ มักจะทำธุรกิจเล็กๆ ในฐานะที่พวกเราเป็นพ่อแม่สิ่งที่ต้องทำก็คือการสนับสนุน ซึ่งเราต้องสนับสนุนความเป็นอิสระของพวกเขา”
“ดังนั้น เมื่อผมเห็นเด็กคนหนึ่งมาขายบุหรี่ให้ผม ผมก็คิดว่าผมควรจะช่วยเขา นั่นคือเหตุผลที่ผมซื้อบุหรี่ ความจริงผมไม่คิดจะสูบบุหรี่เลย เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิดทั้งนั้น ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่สามารถกระจายกัญชาแบบนี้ได้!”
ทนายความจึงพูดเสริมฉินสือโอวว่า “แคนาดาไม่ผ่านการยื่นขอคำร้องขอกัญชาให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ ในเซนต์จอห์นมีกัญชาถือเป็นเรื่องถูกกฎหมายก็จริง แต่การขนส่งและขายกัญชานั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ผมคิดว่าลูกความของผมไม่มีประสบการณ์ที่คล้ายกับกรณีนี้ ดังนั้นจึงขาดประสบการณ์ที่จะมีส่วนเกี่ยวข้อง”
ตำรวจหญิงมองไปที่ฉินสือโอว จากนั้นก็ตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์และเริ่มปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ทั้งซ้ายขวาอย่างเงียบๆ
ฉินสือโอวได้ยินคนเหล่านี้พูดคุยกันเกี่ยวกับกิจกรรมการกุศลที่เขาเข้าร่วม รวมถึงการแข่งขันการกุศลข้ามช่องแคบที่จัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ดูเหมือนว่ากิจกรรมเหล่านี้จะเพิ่มคะแนนให้เขาเป็นอย่างมาก ต่อมาคนเหล่านี้ก็พากันพยักหน้าและจบการปรึกษาหารือกัน
ตำรวจหญิงยื่นเอกสารที่เขียนด้วยลายมือให้ฉินสือโอว เพื่อให้เขาดูว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่และถ้าไม่มีปัญหาแล้วก็แค่ลงชื่อถือว่าเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ทนายความอ่านเอกสารนั้นก่อนหนึ่งรอบ จากนั้นก็พยักหน้าแล้วยื่นให้ฉินสือโอวแสดงให้รู้ว่าไม่มีปัญหา
หลังจากฉินสือโอวลงชื่อแล้ว ตำรวจหญิงก็จับมือเขาและพูดว่า “เราเชื่อว่าครั้งนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ถ้าเกิดเรื่องคล้ายกรณีแบบนี้อีก คงจะไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดแล้ว นอกจากนี้ยินดีต้อนรับสู่อัมสเตอร์ดัม คุณเจ้าของฟาร์มปลา”
ในที่สุดเรื่องนี้ก็จบลง
ในขณะที่ฉินสือโอวกำลังจะกลับก็เห็นเด็กหนุ่มยังถูกขังอยู่ เขาจึงถามตำรวจหญิงว่าจะทำอย่างไรกับเขา ตำรวจหญิงจึงพูดด้วยท่าทีปวดหัวว่า “หลังจากอบรมสองวันเขาจะได้รับการปล่อยตัว ใครให้เขาเป็นผู้เยาว์กันล่ะ? ความเป็นจริงเราต้องการให้พวกเขาเห็นความผิดพลาดที่เลวร้ายของการขายกัญชาเท่านั้น แต่มันก็เป็นไปไม่ได้”
เรื่องนี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของฉินสือโอว สังคมนี้มีกฎการดำเนินการในตัวมันตัวเองและกฎชุดนี้ก็ซับซ้อนกว่าห่วงโซ่อาหารในมหาสมุทรซะอีก เขาเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป ไม่ใช่พระเจ้า จึงไม่สามารถช่วยเด็กที่ทำความผิดเหล่านี้ได้
หลังจากเดินออกจากสถานีตำรวจ ฉินสือโอวตบไหล่บัตเลอร์เบาๆ และพูดว่า “ขอบคุณมากเพื่อน โชคดีที่มีคุณ”
บัตเลอร์โบกมืออย่างไม่สนใจและพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันยังไม่ได้ออกแรงทำอะไรเลย นายก็ออกมาได้แล้ว อันที่จริงถ้าสถานีตำรวจไม่ยอมให้ความร่วมมือ ฉันก็เตรียมวิธีที่ดีกว่านี้ไว้รอแล้ว”
“คืออะไรเหรอ?” ฉินสือโอวถามอย่างสงสัย
บัตเลอร์หัวเราะแล้วพูดว่า “บังคับใช้กฎหมายประมงไงล่ะ! ฉันจะฟ้องพวกเขาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายประมง ฉันแค่ให้เงินเด็กคนนั้นหนึ่งหมื่นยูโร เขาก็ยอมเรียกฉันว่าพ่อแล้ว!”
นี่เป็นอุบายตื้นๆ ที่บัตเลอร์เอามาใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญ ตอนที่เขาอยู่ในสลัมที่สหรัฐอเมริกาและนักเลงตัวเล็กๆ เหล่านั้นก็เป็นสิ่งที่เขารู้ดีที่สุด พูดแล้วจะหาว่าโอ้อวดบัตเลอร์รู้จักพวกเขาดีกว่าที่พวกเขารู้จักตัวเองซะอีก
หลังจากสถานการณ์นี้ผ่านพ้นไป ตอนนี้ก็เป็นช่วงที่พระจันทร์เต็มดวงและมีดวงดาวระยิบระยับอยู่บ้างเล็กน้อย ฉินสือโอวจึงออกไปเลี้ยงข้าวบัตเลอร์และคนอื่นๆ ที่ติดตามมาด้วย จากนั้นก็ให้เงินพวกเขาห้าพันยูโร เพื่อให้บัตเลอร์พานีลเซ็นและเบิร์ดไปเที่ยวกันอย่างจัดเต็มในคืนนี้
ก่อนหน้านั้นทั้งสามคนคาดเดากันว่าจะถูกฉินสือโอวลากกลับหลังจากเดินเล่นเสร็จ ซึ่งเรื่องนี้ฉินสือโอวก็ยังคงไม่พอใจอยู่เล็กน้อย
ถึงอย่างไรเบิร์ดและนีลเซ็นก็ไม่ยอมไปเพราะพวกเขาทั้งสองรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ฉินสือโอวจนทำให้เขาถูกตำรวจจับ ถ้าพวกเขาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ฉินสือโอวก็คงจะไม่ซื้อกัญชาที่เด็กเอามาขายให้อย่างไม่รู้เรื่องอะไร
เมื่อเป็นเช่นนี้ บัตเลอร์จึงชวนพวกเขาไปที่น้ำพุร้อน เพราะน้ำพุร้อนในยามค่ำคืนที่อัมสเตอร์ดัมมีชื่อเสียงไปทั่วยุโรป
พอถึงสระน้ำพุร้อน ฉินสือโอวก็เพลิดเพลินไปกับความสบายของน้ำพุร้อน ร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้าของเขาก็ได้รับความผ่อนคลายมากขึ้น
บัตเลอร์มานั่งข้างๆ เขา ฉินสือโอวจึงหันหน้าไปและกำลังจะพูด แต่ก็เห็นโซ่ทองเส้นหนาลอยอยู่เหนือน้ำ…
“พระเจ้า นี่เป็นโซ่ทองหรือโซ่พลาสติก?” ฉินสือโอวพูดด้วยความตกใจจนลืมเรื่องที่ตัวเองจะพูด
บัตเลอร์ยิ้มพร้อมกับถอดโซ่ทองออกวางไว้ข้างๆ แล้วอธิบายว่า “จริงๆ แล้วมันชุบด้วยทอง เพื่อที่จะหล่อให้เป็นรูปเป็นร่าง จึงมีพลาสติกอยู่ในนั้น ดังนั้นไม่มีอะไรแปลกหรอก โซ่ทองหนาๆ ทุกเส้นก็เป็นแบบนี้หมดแหละ”
นอกจากนี้ โซ่ทองที่บัตเลอร์สวมก็หนาพอๆ กับนิ้วหัวแม่มือของผู้ใหญ่และเหมือนกับโซ่ล่ามสุนัขพันธุ์ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ถ้าเป็นทองคำบริสุทธิ์จริงๆ สวมแค่วันเดียวก็สามารถถ่วงกระดูกต้นคอให้อยู่ผิดตำแหน่งได้
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ฉินสือโอวและลูกน้องก็กลับโรงแรมและงานแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ประมงจะเริ่มในวันรุ่งขึ้น
งานแสดงสินค้าจะเริ่มตั้งแต่เวลาสิบโมงเช้า ซึ่งในช่วงเช้าจะไม่เกี่ยวกับฉินสือโอว เขาอยู่ในโรงแรมรอจนถึงเที่ยงพร้อมกับกินข้าวเสร็จถึงจะไปที่งานแสดงสินค้า สถานที่จัดงานเป็นโรงยิม
ในโรงยิมแออัดไปด้วยผู้คนจำนวนมาก ส่วนด้านนอกก็มีธงปักอยู่จำนวนมากเช่นกัน ธงแดงระดับห้าดาวของจีนและธงใบเมเปิลของแคนาดาที่กำลังปลิวสะบัดไปมา บูธของแผนกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำและบริษัทอาหารทะเลมากกว่าหนึ่งร้อยประเทศจากภูมิภาคทั่วโลกมีอยู่มากมายจนทำให้โรงยิมขนาดใหญ่แห่งนี้เริ่มแออัด
เมื่อเข้ามาทางประตูหลัก จะมีคนกำลังกล่าวสุนทรพจน์ในห้องโถง ฉินสือโอวจึงหยุดฟังสักพัก “…อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ประมงเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีกำลังและคาดเดาไม่ได้มากที่สุดในโลก ทุกๆ ปีอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ประมงต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ๆ มากมาย บริษัทภายในอุตสาหกรรมไม่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายได้ในทันทีและยังพบว่าการพัฒนาในระยะยาวก็เป็นไปได้ยากด้วยเช่นกัน…งานแสดงสินค้าเฉพาะทางเช่นงานแสดงสินค้าการประมงนานาชาติแห่งอัมสเตอร์ดัมที่มีระดับสูงแบบนี้ สามารถดึงดูดผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมประมงจากทั่วทุกมุมโลกให้มารวมตัวกันเพื่อรับมือกับโอกาสใหม่ๆ และความท้าทายในอุตสาหกรรมร่วมกัน…”
หลังจากฟังได้สักพักฉินสือโอวเริ่มรู้สึกเบื่อ จึงพานีลเซ็นและเบิร์ดออกไป จุดสำคัญของการจัดแสดงในวันนี้นอกจากผลิตภัณฑ์ประมงของประเทศต่างๆ แล้ว ยังมีธุรกิจแปรรูปผลิตภัณฑ์ประมงขนาดใหญ่ ผู้ให้บริการอุปกรณ์แปรรูป ฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและบริษัทประมงในทะเลก็มาจัดแสดงอุปกรณ์ การบริการและเทคโนโลยีใหม่ๆ ของพวกเขา
ผลิตภัณฑ์ประมงไม่มีประโยชน์สำหรับฉินสือโอว คุณภาพสินค้าเหล่านั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟาร์มปลาต้าฉิน ในทางตรงกันข้ามอุปกรณ์แปรรูปและเทคโนโลยีการพัฒนาใหม่ๆ เหล่านี้ต่างหากที่มีประโยชน์กับเขามากกว่า
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset