ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1016 หลุมดำในมหาสมุทร

ในตอนเย็นฉินสือโอวกำลังกอดและร่วมรักกับวินนี่ หลังจากมีความสุขกันแล้ว วินนี่ก็ผลักเขาไปอาบน้ำ เขาขี้เกียจจึงมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มและแกล้งทำเป็นหลับ จากนั้นก็แผ่จิตสำนึกลงไปที่ฟาร์มปลา
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเคลื่อนไหวออกไปประมาณสองถึงสามกิโลเมตร กุ้งก้ามกรามก็เริ่มปรากฏขึ้นที่ใต้ท้องทะเล ฝูงกุ้งก้ามกรามเหล่านี้จะรวมตัวกันเป็นกลุ่มและย้ายไปอยู่ใต้ท้องทะเลเพื่อหาสถานที่ที่กระแสน้ำกัลฟ์สตรีมไหลผ่าน จากนั้นจะใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น
กุ้งก้ามกรามนอนแผ่อยู่บนพื้นทรายใต้ท้องทะเล ฝูงกุ้งก้ามกรามจะยื่นก้ามโตเพื่อขุดทรายและในไม่ช้าก็ขุดปลาหมึกตัวเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ออกมาทีละตัว
ก้ามโตของมันเป็นเหมือนกับมีดตัด มันจะเอาปลาหมึกตัวเล็กมาแบ่งออกเป็นหลายๆ ส่วนและกุ้งก้ามกรามที่อยู่รอบๆ ก็จะเข้ามาใกล้และเริ่มกินมันเข้าไป
กุ้งก้ามกรามเหล่านี้ส่วนใหญ่เพิ่งได้รับการผสมพันธุ์เมื่อปีที่แล้ว พวกมันเติบโตอย่างรวดเร็วและกุ้งก้ามกรามที่มีขนาดใหญ่จะมีความยาวถึงยี่สิบถึงสามสิบเซนติเมตร บางครั้งจะมีกุ้งก้ามกรามสีรุ้งที่ขนาดใหญ่กว่าปกติปรากฏออกมาให้เห็น มันมีความยาวถึงสี่สิบเซนติเมตร
ถ้าพวกมันสามารถเติบโตจนมีความยาวได้ถึงครึ่งเมตร กุ้งก้ามกรามชนิดนี้จะมีราคาสูง ซึ่งมีเฉพาะช่วงโอกาสดีๆ เท่านั้นถึงจะใช้ประโยชน์กุ้งก้ามกรามแบบนี้ได้
ฉินสือโอวมองไปที่กุ้งก้ามกรามที่กำลังจะจากไป ทันใดนั้นก็เห็นปลิงทะเลตัวอ้วนนิ่มจำนวนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนโขดหินโสโครกอยู่ไม่ไกล
ดังนั้นจึงทำให้เขานึกขึ้นมาได้ว่า น่านน้ำทะเลแห่งนี้เป็นโลกของปลิงทะเล ทางที่ดีควรจะแยกกุ้งก้ามกรามให้อยู่ห่างจากพวกมัน เพราะกุ้งก้ามกรามก็กินปลิงทะเลเป็นอาหารด้วย
ฟาร์มปลาต้าฉินมีปลิงทะเลหลายชนิด แต่ที่พบมากที่สุดคือปลิงขาวและปลิงทะเลขั้วโลกเหนือ ในหมู่ปลิงขาวจะชอบอาศัยอยู่ตามพื้นทรายปะการังที่มีสาหร่ายทะเลและชอบใช้ชีวิตอยู่ในน้ำลึกระยะห้าเมตรถึงยี่สิบเมตร แต่บางครั้งก็สามารถพบเห็นพวกมันอยู่ในบริเวณทะเลน้ำตื้น
ฉินสือโอวไล่ฝูงกุ้งก้ามกรามออกไปยังทะเลน้ำลึก กุ้งก้ามกรามนับพันตัวถือกรงเล็บขนาดใหญ่พร้อมกับยกกล้ามโตขึ้นและกระจายฝูงออกเพื่อป้องกันตัวเอง ซึ่งเหมือนกับการเดินทัพของทหารที่มีเกราะคุ้มกัน บังเอิญที่ฉลามแมวเจ็ดพี่น้องเพิ่งกลับมาจากทะเลลึกพอดี พวกมันเงยหน้ามองดูและเห็นว่ามีกุ้งก้ามกรามกำลังเดินเข้ามา พวกมันคิดว่าเจออาหารแล้ว จึงดีใจตื่นเต้นไม่หยุดทันที
สุดท้ายพวกมันจึงเตรียมตัวอ้าปากแบ่งกันกินอาหารที่พระเจ้าประทานให้ด้วยความตะกละ จากนั้นกองกำลังหลักของฝูงกุ้งก้ามกรามก็จับกลุ่มกันและปรากฏตัวขึ้น…
เมนล็อบสเตอร์เป็นกุ้งที่มีการโจมตีสูงมาก หลังจากเจอกับสัตว์ที่เป็นศัตรูพวกมันจะไม่หนีด้วยความหวาดกลัว แต่พวกมันจะอาศัยการรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เพื่อแยกกันเป็นทีละฝูงแล้วไปล้อมรอบฉลามแมว
มันเดย์เป็นตัวที่กล้าทำสิ่งต่างๆ อย่างไม่คาดคิด ในขณะที่ฝูงกุ้งก้ามกรามทั้งหมดกำลังจะถูกกินเข้าไปอย่างดุเดือดนั้น พวกมันจึงฉวยโอกาสลอยขึ้นและกางกล้ามโตออกเพื่อเริ่มโจมตีร่างกายของมันเดย์ มันเดย์เจ็บปวดเป็นอย่างมาก จึงไม่มีอารมณ์กินกุ้งเหล่านี้แล้ว มันหันหลังว่ายหนีออกไป
ฉลามแมวเจ็ดพี่น้องขี้ขลาดมาก อีกหกตัวที่เหลือเมื่อเห็นพี่ชายคนโตว่ายน้ำหนีออกไปแล้ว พวกมันก็ว่ายหนีตามออกไปโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
ฉินสือโอวไปสำรวจดูปลิงขาวอยู่พักหนึ่ง ทันใดนั้นก็พบว่ามีปลาตัวเล็กว่ายแหวกออกมาจากตัวของปลิงขาว จากการสำรวจของจิตสำนึกแห่งโพไซดอน ทำให้เห็นว่าพละกำลังของปลิงขาวไม่มีปัญหาอะไรและการดำรงชีวิตของพวกมันก็เป็นไปอย่างปกติดี
เขาคิดว่าตัวเองมองผิดไป แต่หลังจากเดินไปรอบๆ ฝูงปลิงขาว ก็ทำให้เขาก็เห็นปลาตัวเล็กจำนวนหนึ่งกำลังเข้าออกจากตัวของปลิงทะเลตัวใหญ่อยู่
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฉินสือโอวจึงรู้สึกท่าไม่ดีแล้ว จึงโทรศัพท์หาแซนเดอร์สและถามว่า “ศาสตราจารย์ ก่อนหน้านี้พวกชาวประมงรายงานผมว่าปลิงทะเลที่ผมเพาะเลี้ยงไว้เหมือนจะมีปลาตัวเล็กอยู่ข้างในตัวของมัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
แซนเดอร์สจึงแนะนำว่า “ปลิงที่มีสภาพแบบนี้เป็นปลิงขาวใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ผิด ปลาตัวเล็กเหล่านั้นเรียกว่าเพิร์ลฟิช พวกมันชอบอาศัยอยู่ในลำไส้ของปลิงทะเล พวกมันจะเอาหางแหลมๆ สอดเข้าไปในทวารรวมของปลิงทะเล จากนั้นก็จะไถลเข้าไป โดยปกตินอกจากวางไข่และออกไปหาอาหารแล้ว มันจะไม่ออกมาข้างนอกเลย”
หลังจากแนะนำง่ายๆ แล้ว เขาก็ส่งข้อมูลบางอย่างให้ฉินสือโอว เพื่อให้เขาได้ลองอ่านดู “คุณลองเอาไปอ่านเองก่อน ถ้ามีคำถามอะไรก็ถามผมได้ ความสัมพันธ์ระหว่างเพิร์ลฟิชและปลิงขาวค่อนข้างแปลก บางชนิดอาศัยอยู่ร่วมกัน บางชนิดก็เป็นปรสิต งั้นพรุ่งนี้ผมจะไปตรวจดูที่ใต้ท้องทะเลเพื่อจะได้สั่งยาที่เหมาะสมให้”
ฉินสือโอวจึงไปดูสภาพปลิงทะเลก่อนและพบว่ามีเพิร์ลฟิชจำนวนมากอยู่ในฝูงปลิงทะเล แต่ยังไม่พบการตายของปลิงทะเล พบแค่ปลิงทะเลที่มีเพิร์ลฟิชอยู่ในตัวของพวกมัน จึงทำให้พวกมันเติบโตได้ค่อนข้างช้า
ต่อมาเขาจึงสำรวจหาข้อมูลอีกครั้ง ก็พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างเพิร์ลฟิชกับปลิงขาวมีความซับซ้อนมากจริงๆ พวกมันชอบอาศัยอยู่ตามรูในตัวและส่วนปากทวารหนักของปลิงทะเล เพียงแค่ยื่นส่วนหัวออกมาก็สามารถขับออกมาได้แล้ว ดังนั้นตามปกติแล้วพวกมันจะไม่ออกมาจากปลิงทะเลบ่อยนัก
เมื่อพวกมันหิว พวกมันมักจะจับเหยื่อมากินเอง แต่ความเป็นจริงแล้วพวกมันไม่มีอาหาร จึงเกาะกินอวัยวะภายในของปลิงทะเล
ปลิงทะเลเป็นสัตว์ที่แปลกมาก พวกมันมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีอวัยวะภายใน แน่นอนว่าอวัยวะภายในของพวกมันยังสามารถเจริญเติบโตเองได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นสารอาหารจึงถูกส่งไปยังอวัยวะภายใน เพื่อเจริญเติบโตอย่างช้าๆ ตามธรรมชาติ
เพิร์ลฟิชและปลิงขาวไม่เพียงแต่มีความสัมพันธ์แบบปรสิตเท่านั้น บางครั้งมันก็มีชีวิตแบบอยู่ร่วมกัน เนื่องจากปลิงทะเลตัวอ้วนจะมีโภชนาการสูง แต่ความสามารถในการเคลื่อนไหวจะแย่มาก ไม่มีความสามารถในการโจมตีและความสามารถในการป้องกันตัว ดังนั้นการอาศัยอยู่ใต้ท้องทะเลจึงเป็นสิ่งที่อันตรายมาก
ปูและกุ้งก้ามกรามบางชนิดชอบกินปลิงทะเลเป็นอาหาร ดังนั้นเวลานี้เพิร์ลฟิชจึงมีผลประโยชน์เป็นอย่างมาก
เพิร์ลฟิชมีขนาดใกล้เคียงกับปลาไหล ในความเป็นจริงพวกมันเป็นชื่อเรียกรวมของปลาทะเลรูปร่างเรียวยาวที่มีรูปร่างคล้ายปลาไหลกว่าสิบชนิด นอกจากจะเป็นปรสิตเกาะในตัวของปลิงทะเลแล้ว พวกมันยังเป็นปรสิตในตัวสัตว์น้ำจำพวกมีเปลือกแข็งอย่างเช่นปู กุ้งก้ามกรามและอื่นๆ
กุ้งก้ามกรามและปูไม่มีความสามารถในการสร้างอวัยวะภายในให้เกิดขึ้นเองได้ใหม่ ดังนั้นเมื่อถูกเกาะกิน พวกมันจึงต้องตายอย่างเดียวเท่านั้น
พวกมันค่อนข้างโง่ จึงไม่รู้ว่าตัวเองถูกเพิร์ลฟิชฆ่าตายและยังคิดว่าปัญหาอยู่ที่ปลิงขาว เมื่อผ่านไปเป็นเวลานาน พวกมันจะจู่โจมปลิงขาวไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ปลิงขาวจึงข่มเหงพวกมันเพราะตัวเองก็มีความสามารถในการป้องกันตนเองอยู่เล็กน้อย
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว เพิร์ลฟิชก็มีมูลค่าอยู่เช่นกัน แต่หลังจากฉินสือโอวคิดดูแล้วจึงตัดสินใจจะกำจัดพวกมัน เนื่องจากเขาเพาะเลี้ยงปลิงทะเลเพื่อให้พวกมันเติบโตได้อย่างรวดเร็วและเพื่อขายทำรายได้ ถ้าเพิร์ลฟิชเกาะกินจนทำให้การเติบโตของพวกมันช้าลง อย่างนั้นก็คงต้องปล่อยไป
สำหรับความอันตรายของกุ้งก้ามกรามและปูต่อปลิงทะเล? นี่ยังเป็นความอันตรายที่ค่อนข้างเล็กน้อยมาก ปลิงทะเลจะอาศัยอยู่ในบริเวณปะการังค่อนข้างเยอะและโดยทั่วไปฝูงกุ้งก้ามกรามและปูจะไม่เข้าไปในน่านน้ำบริเวณปะการัง
ปัญหาของเพิร์ลฟิชก็ได้ให้ศาสตราจารย์แซนเดอร์สเป็นคนจัดการ ฉินสือโอวจึงไปดูระดับฟาร์มปลาของเขาสักหน่อย
หลังจากเดินเล่นอยู่บริเวณทะเลน้ำตื้นได้สักรอบ ฉินสือโอวก็ไปที่ทะเลลึก สุดท้ายหลังจากเขาเอาจิตสำนึกแห่งโพไซดอนแผ่เข้าไปในตัวของหมึกยักษ์คราเคน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล คราเคนไม่ได้อยู่ในฟาร์มปลา แต่อยู่ในทะเลลึกทางตอนใต้ของฟาร์มปลา
โดยปกติแล้วฉินสือโอวจะไม่ค่อยมาที่นี่ เพราะไม่มีการค้าปลาทะเลเชิงพาณิชย์ในทะเลลึกและฟาร์มปลาของเขาก็มีพื้นที่ใหญ่มากพอที่จะดูแลฟาร์มปลาของตัวเองได้ จึงไม่กระตือรือร้นที่จะสนใจบริเวณภายนอก
และในขณะที่ก็กำลังตามหาคราเคนอยู่รอบๆ นี้ ฉินสือโอวก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย เพราะคิดไม่ถึงว่าจะมีหลุมน้ำเงินอยู่ไม่ไกลใต้ท้องทะเล!
ที่เรียกว่าหลุมน้ำเงิน เป็นเพราะมีน้ำรูปทรงกลมสีน้ำเงินเข้มปรากฏขึ้นใกล้กับผิวน้ำมหาสมุทรอันเงียบสงบ ถ้ามองจากที่สูง หลุมชนิดนี้จะมีสีฟ้าสด มีความลึกลับและแปลกประหลาดมาก ดังนั้นจึงเรียกว่าหลุมน้ำเงิน
หลุมน้ำเงินมีขนาดและรูปร่างที่แตกต่างกันมากมายและกระจัดกระจายอยู่ในมหาสมุทรทั่วโลก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะปรากฏในน่านน้ำบริเวณชายฝั่งเท่านั้น จะไม่มีทางพบเห็นหลุมน้ำเงินในทะเลลึกเป็นอันขาด
แน่นอนว่าที่ไม่พบหลุมน้ำเงินในทะเลลึก ไม่ใช่ว่ามันไม่มี แต่เป็นเพราะมันหาได้ยาก เนื่องจากบริเวณน่านน้ำของชายฝั่งสามารถเห็นความแตกต่างระหว่างสีของหลุมน้ำเงินกับสีน้ำทะเลโดยรอบได้อย่างชัดเจน จึงทำให้พบเห็นได้ง่าย แต่ในทะเลลึก บนพื้นผิวของทะเลจะไม่พบเห็นความแตกต่างของสี จึงเป็นเรื่องยากที่จะพบหลุมน้ำเงินใต้ท้องทะเล
ขณะนี้ฉินสือโอวจึงใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนมองดู ทำให้เขาเห็นหลุมลึกขนาดใหญ่ที่อยู่ในระยะไกล ซึ่งตอนนี้ในทะเลลึก สีของหลุมขนาดใหญ่นี้ไม่ได้เป็นสีน้ำเงินเข้มแล้ว มันกลับเป็นสีดำมืดสลัว ถ้าเป็นอย่างนั้นหลุมนี้คงจะเป็นหลุมดำในมหาสมุทร!
……………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset