กินข้าวเสร็จแล้ว ตอนกลับเกาะแฟร์เวล นีลเซ็นที่รับหน้าที่เป็นคนขับรถก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “บอส ที่จริงคุณไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้บริษัทดาวเคมิคอลก็ได้ แค่แปดแสนห้าหมื่นดอลลาร์แคนาดาก็สามารถเอาโรงงานพังๆ พวกนั้นมาได้แล้วล่ะครับ!”
ฉินสือโอวยิ้มไม่พูดอะไร เออร์บักพูด “เงินพวกนี้ ฉินสือโอวไม่ได้จ่ายเพื่อบริษัทดาวเคมิคอลแต่เป็นเงินที่จ่ายเพื่อรักษาหน้าคุณนายบรูซ ที่จริงแล้วฉินสือโอวและประธานบริษัทดาวเคมิคอลแคนาดาล้วนจ่ายเงินเพื่อรักษาหน้าคุณนายบรูซ แต่พวกเขาได้การยอมแพ้ที่จะสร้างสายการผลิตบนเกาะเป็นการตอบแทน”
อย่างที่เออร์บักพูด ฉินสือโอวจ่ายเงินไปเยอะถือเป็นค่าตอบแทนให้เคอร์เรท เหมือนที่เขาพูด เขาต้องให้คำอธิบายกับพวกกรรมการบริหาร
อีกอย่าง ทำไมฉินสือโอวต้องวุ่นวายกับเคอร์เรทขนาดนั้นด้วยล่ะ? การเลือกที่ตั้งของสายการผลิตไม่ใช่เขาคนเดียวที่จะตัดสินใจ คนที่เขาต่อต้านคือบริษัทดาวเคมิคอลไม่ใช่เคอร์เรท ให้ราคาที่ดีกับเคอร์เรทไปก็เท่ากับเขาได้เพื่อนที่มีอำนาจมากขึ้นอีกหนึ่งคน
คงเพราะเห็นท่าทางที่คุณนายบรูซมีต่อฉินสือโอว เคอร์เรทถึงได้รับมิตรภาพจากเขาอย่างเต็มใจ
สรุปแล้ว ปัญหาที่ทำให้ฉินสือโอวลำบากมาหลายวันได้ถูกแก้ไขแล้ว คุณนายบรูซมาได้ทันเวลาเหลือเกิน อีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก็จะถึงตรุษจีน ฉินสือโอวไม่อยากเอาความหนักใจมาฉลองตรุษจีนครั้งแรกบนเกาะแฟร์เวลของเขา
วันรุ่งขึ้นหลังจากจ่ายเงินไปแล้ว ฉินสือโอวก็ขับรถไปที่ท่าเรือของเมือง เหล่าอาสาสมัครและชาวเมืองยังคงล้อมอยู่ที่นั่น
คนพวกนี้ต่างก็แปลกใจ เพราะพวกตำรวจที่มาถึงเกาะแฟร์เวลเมื่อหลายวันก่อนเก็บกวาดสิ่งของไปตั้งแต่เช้าแล้ว คนที่ฉลาดก็พอจะเดาออก เพียงแต่พวกเขาไม่กล้ายืนยัน จนกระทั่งฉินสือโอวมาถึง
เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายกลุ่มคน ทางเมืองเลยเอาเครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่มาติดไว้ทั้งสี่ด้านของท่าเรือ ฉินสือโอวหยิบไมค์แล้วขึ้นมายืนบนรถ ผู้คนก็เข้ามาล้อมรอบทันที
เห็นผู้คนที่ใส่เสื้อยัดขนสัตว์และเสื้อโค้ตหลายสีหลายแบบ ฉินสือสือโอวสูดหายใจเข้าแล้วตะโกนสุดเสียง “ชาวเมือง อาสาสมัครและเพื่อนชาวประมงทุกท่าน! ผมคือฉิน ผมจะประกาศข่าวเรื่องหนึ่ง! บริษัทดาวเคมิคอลยอมประนีประนอมแล้ว!!”
ทุกคนเงียบกริบไปชั่วขณะ มองไปที่ฉินสือโอวกันอย่างงุนงง หลังจากนั้นประมาณไม่กี่วินาทีที่นั่นก็คึกคักขึ้นมา ทุกคนโห่ร้องกระโดดโลดเต้นอย่างยินดี
“อะไรนะ? บริษัทดาวเคมิคอลยอมประนีประนอมแล้ว? พวกเขาล้มเลิกการสร้างโรงงานเคมีบนเกาะแล้ว?”
“ไชโย! พระเจ้าอวยพรให้เกาะแฟร์เวล! พระเจ้าอวยพรให้แคนาดา!”
“พวกเราชนะแล้ว! พวกเราชนะนักลงทุนบัดซบแล้ว!”
“เวรเอ๊ย! เวรเอ๊ย! เวรเอ๊ย! ฉันรักษาบ้านฉันไว้ได้แล้ว! โอ้วโอ้วโอว ฉันรักษาบ้านฉันไว้ได้แล้ว!”
อ่านนิยาย
เจ้าของฟาร์มปลาและพวกโดนัลด์ชกมือกันอย่างดีใจ ผู้คนโอบกอดกัน แสดงความรู้สึกตื่นเต้นที่อยู่ในใจอย่างเต็มที่
พวกเขาชนะแล้ว ชาวเมืองชนะสงครามปกป้องบ้านเมืองแล้ว เหล่าอาสาสมัครชนะสงครามปกป้องเต่ามะเฟือง เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาชนะสงครามปกป้องแหล่งเศรษฐกิจ
การคมนาคมที่นครเซนต์จอห์นสะดวกมาก ถ้ากลายเป็นนิคมโรงงานเคมี สำหรับฟาร์มปลาแล้วนั่นจะเป็นการทำลายล้างอย่างพังพินาศ!
ฉินสือโอวยืนอยู่บนรถมองผู้คนโห่ร้อง เขาเร่งเสียงเครื่องขยายเสียงขึ้นให้ดังที่สุดแล้วตะโกน “โห่ร้องออกมา! กระโดดขึ้นมา! พวก คืนนี้ผมจะจัดปาร์ตี้ที่ร้อนแรงที่สุด! คืนนี้ผมจะทำให้เกาะแฟร์เวลลุกเป็นไฟ!”
“โอ้วๆ! ทำให้กลางคืนลุกเป็นไฟ!” ผู้คนโห่ร้องกันอย่างบ้าคลั่ง
จ่ายเงินให้บริษัทดาวเคมิคอลไปแล้ว สัญญามีผลแล้ว นี่หมายความว่าโรงงานทั้งสี่แห่งบนเกาะรวมถึงโรงงานเคมีชุนเทียนและโรงงานสารเคมีสตีฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นของเขาแล้ว
แน่นอนว่าปัจจุบันโรงงานเคมีพวกนี้มีแต่เปลือก ด้านในไม่มีอะไรเลย ไม่อย่างนั้นราคาคงไม่ถูกอย่างนี้
แต่ฉินสือโอวไม่สนใจ โรงงานพวกนี้สามารถเอาไปใช้อย่างอื่นได้ อย่างเช่น โรงจอดรถที่ใหญ่ที่สุดของโรงงานเคมีสตีฟ พอเก็บกวาดแล้วก็เป็นสถานที่ที่ดีในการรองรับคนหลายร้อยสำหรับงานรื่นเริง
โดยไม่ต้องใช้กุญแจ ฉินสือโอวให้แบล็คไนฟ์พังประตูโรงงานเคมีสตีฟเข้าไป ชาร์คไปที่เมืองรวบรวมชาวเมืองเพื่อทำความสะอาด งานปาร์ตี้ในคืนนี้จะจัดขึ้นที่นี่อย่างแน่นอน
คนเยอะจึงทำงานได้ง่าย คนไม่กี่สิบคนถือพลั่ว ไม้กวาด ผ้าชุบน้ำเข้ามาที่โรงรถ ไม่นานก็ทำความสะอาดที่นี่จนสะอาดโล่ง
ฮิวจ์ขับรถกำจัดหิมะของเมืองเข้ามา หิมะที่อยู่รอบๆ โรงจอดรถถูกกำจัดออกไปอย่างง่ายดาย แบบนี้เมื่อมองไปรอบๆ โรงรถก็ยังสะอาดมาก
ฮิวจ์คนน้องเอาอุปกรณ์ดีเจเข้ามาหนึ่งชุด ลองแล้วที่โรงงานยังมีไฟฟ้าอยู่ พอใส่เครื่องจ่ายไฟไปแล้ว เสียงเพลงก็ดังออกมาดังสนั่น
อ่านนิยาย
ฉินสือโอวกำลังปรึกษากับคนกลุ่มหนึ่งว่าจะซื้ออะไรดี ผลสุดท้ายเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาพูดอย่างสบายใจว่า “โทรศัพท์ใคร?”
ทุกคนมองเขา
ฉินสือโอวรีบรับโทรศัพท์ ผลสุดท้ายเป็นสถานีตำรวจนครเซนต์จอห์นโทรมาถามว่า “คุณฉิน ไม่ทราบว่าคุณรู้จัก คุณ‘กว่างเก้าเจีย’ กับ ‘ลิงเจี้ยนผาน ’ไหม? พวกเขาเป็นคนจีน ชื่อออกเสียงยาก พวกเขาพูดว่าเป็นคนที่เกาะแฟร์เวล”
ฉินสือโอวนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วตอบสนองอย่างรวดเร็ว “ใช่หวงเฮ่าเจียและเจี้ยนผานโฮ่วใช่ไหมครับ?”
“ใช่ น่าจะอย่างนี้ แต่ชื่อของพวกเขาออกเสียงยากจริงๆ…” ตำรวจคนนั้นเริ่มบ่นอย่างไม่หยุด
ฉินสือโอวพูดตัดบทเขา “ใช่ครับ พวกเราเป็นเพื่อนร่วมชาติกัน พวกเขาเป็นพนักงานบนเกาะของเรา มีอะไรเหรอครับ?”
พูดไปแล้วก็แปลกๆ ไม่กี่วันนี้มีเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขาไม่เห็นเจ้าบ้าโหวจื่อเซวียนกับหวงเฮ่าเจียเลย นี่ไม่ปกติเลย
พอได้รับการยืนยันจากเขา ตำรวจม้าก็ถอนหายใจพลางพูด “อย่างนั้นคุณรีบมาประกันตัวทั้งสองคนที่สถานีตำรวจเถอะ พวกเขาต้องสงสัยว่าทำร้ายคุณเคอร์เรท ถูกรปภ.ที่บริษัทดาวเคมิคอลจับส่งมาที่สถานีตำรวจ”
ได้ยินข่าวนี้แล้วฉินสือโอวก็ตกใจ เขาวางสายแล้วนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปสถานีตำรวจนครเซนต์จอห์น
ถึงสถานีตำรวจแล้วก็มีคนมารับรองเขาแล้วพาไปที่ห้องขัง จากนั้นเจ้าตัวแสบที่หมดอาลัยตายอยากทั้งสองคน พอเห็นเขาก็รีบกระโดดขึ้นมาแล้วพุ่งมาที่ลูกกรงเหล็กพลางถาม “พี่ฉิน ไอ้บริษัทดาวเคมิคอลเวรนั่นก่อเรื่องเหรอ? พวกเรายังไม่ทันออกแรง เขาล้มลงไปได้ยังไง?”
ฉินสือโอวมองทั้งสองด้วยสายตาที่มองคนโง่ บนหัวของทั้งสองมีสายรัดสีขาวรัดอยู่ อันหนึ่งเขียนว่า ‘ปกป้องแม่น้ำหวงเหอ’ อีกอันเขียนว่า ‘ปกป้องแม่น้ำฉางเจียง’ ด้วยหมึกสีแดงราวกับเลือด ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร?
เออร์บักไปจัดการขั้นตอนการประกันตัว ซึ่งง่ายดายมาก เขาเซ็นชื่อรับประกันแล้วจ่ายเงินก็เสร็จแล้ว
ฉินสือโอวถาม “พวกนายสองคนมีเรื่องอะไร? ทำไมถูกส่งมาที่สถานีตำรวจ?”
พูดถึงเรื่องนี้ทั้งสองก็มีท่าทางหมดอาลัยตายอยากขึ้นมา ตำรวจที่อยู่ข้างๆ พูด “ตามหลักฐานที่พวกเราตรวจสอบได้ ทั้งสองคนนี้ไปที่โรงแรมที่ประธานบริษัทดาวเคมิคอลพักอยู่ จากนั้นก็คิดจะโจมตีเขา…”
โหวจื่อเซวียนพูด “อย่าใส่ความกัน พวกเราสองคนไปแสดงการต่อต้าน ไปโจมตีเขาตอนไหนกัน?”
“อย่างนั้นขวดสเปรย์ที่ตัวคุณมันคืออะไร?” ตำรวจคนนั้นถามอย่างหมดความอดทน
…………………………………………..
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 991 ประกันตัว
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!