ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 895 แล่นรถลากเลื่อนหิมะ

วันแรกของปีใหม่เต็มไปด้วยหิมะตกหนักที่พลิ้วไหวไปตามกระแสลม ฉินสือโอวออกกำลังกายยามเช้าได้สักพักหิมะก็ตกลงมาอย่างหนัก เกล็ดหิมะเทกระหน่ำลงมาเหมือนขนห่าน จนทำให้เขาต้องกลับมาที่วิลล่า
หู่เป้าฉงหลัวสัตว์พวกนี้ยังเล่นกันเอะอะปึงปัง พวกมันมีขนหนาสามารถต้านทานความหนาวเย็นได้ พอเล่นอยู่ในพื้นหิมะกลับทำให้รู้สึกสนุกสนานด้วยซ้ำไป
เชอร์ลี่ย์กับเด็กๆ อีกหลายคนเริ่มเล่นกันด้วยความตื่นเต้น พวกเขาไม่ได้อยากเล่นหิมะ แต่เป็นเพราะหลังจากมีหิมะตกถึงจะใช้งานรถลากเลื่อนหิมะได้ พวกเขาอยากเล่นรถลากเลื่อนหิมะ ดังนั้นเป็นเพราะเห็นว่ามีหิมะตกตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ พวกเขาถึงได้ออกมาวิ่งเล่นกันอย่างมีความสุขขนาดนี้
เพียงแต่ว่าหิมะตกลงมาอย่างหนัก พวกเขาเล่นต่อไปไม่ได้แล้วเหมือนกัน จึงต้องวิ่งตัวเปียกกลับเข้ามากันทุกคน
ฉินสือโอวกำลังเตรียมอาหารเช้า ขณะที่กำลังทอดไข่เขาก็ตะโกนเรียกพวกเด็กๆ ให้กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ฤดูหนาวของนิวฟันด์แลนด์อากาศหนาวเหน็บ ถ้าเป็นหวัดขึ้นมาจะต้องวุ่นวายมากแน่ๆ
หลังจากนั้นไม่นานวินนี่ก็ลุกขึ้นจากเตียง เธอหวีผมไปพร้อมๆ กับมองดูเกล็ดหิมะด้านนอกที่ตกลงมาเหมือนขนห่าน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “วันแรกของปีใหม่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆ พระเจ้าบันดาลหิมะตกหนักลงมาแบบนี้หมายความว่ายังไงกันนะ?”
“พายุหิมะกำลังมาแล้วไงล่ะ” ฉินสือโอวพูดอย่างจนปัญญา
ใช้เวลาก่อนปีใหม่สองวันท่ามกลางหิมะตกหนัก รอจนถึงตอนที่หิมะหยุดตกในช่วงเย็นวันของถัดมา หิมะก็หนาถึงระดับหัวเข่าของผู้ใหญ่แล้ว
ฉินสือโอวดูข่าว ที่ราบสูงเดนเวอร์ของอเมริกาก็ประสบกับปัญหาการจู่โจมของพายุหิมะเช่นกัน เพราะไม่มีลมทะเลมาไล่เมฆครึ้มออกไป ภัยพิบัติจากหิมะของเมืองเดนเวอร์เลยร้ายแรงยิ่งกว่า หิมะตกหนักปิดล้อมทั้งเมืองไว้แล้ว มีหลายเขตชุมชนที่ไฟฟ้าและน้ำประปาถูกตัดขาดทั้งหมด
ขณะที่กำลังคุยกับกลุ่มลูกน้องเรื่องปัญหาจากพายุหิมะ เสียงโทรศัพท์ของฉินสือโอวก็ดังขึ้น พอลองมองดูก็พบว่าเป็นเบอร์แปลก เขากดรับสายด้วยความประหลาดใจแล้วถามว่า “ที่นี่คือฟาร์มปลาต้าฉิน ไม่ทราบว่านั่นใครครับ?”
“สวัสดีครับ โทษนะครับนั่นใช่คุณฉินสือโอวเจ้าของฟาร์มปลาต้าฉินใช่ไหมครับ? นี่คือสายจากสำนักงานผู้อพยพย้ายถิ่นฐานฝ่ายการจัดการดูแลผู้อพยพเชื้อสายจีน พวกเราอยากถามว่าหลังจากย้ายถิ่นฐานมาที่แคนาดา มีเรื่องไหนที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจหรือเปล่าครับ?” เสียงทุ้มต่ำดังออกมาจากลำโพงของโทรศัพท์
พอฉินสือโอวได้ยินว่าที่แท้เป็นสายการบริการของสำนักงานผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน เขาจึงบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของตัวเอง ว่าไม่ได้ไม่สบายใจอะไร
หลังจากคนในสายโทรศัพท์ถามไถ่อยู่สักพัก อยู่ๆ เขาก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา ไปแนะนำสถานการณ์การจำกัดขอบเขตและการจัดการดูแลผู้อพยพในปัจจุบัน และบอกเขาว่าบัตรประจำตัวผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรของเขากำลังจะหมดอายุ เขาต้องอัปเดตสถานภาพใหม่ในภายหลัง
ฉินสือโอวเริ่มรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาแล้ว บัตรใบเมเปิลของเขาจะหมดอายุได้ยังไงกัน? บัตรมีอายุตั้งสิบปีนะ เขาเพิ่งจะทำมาได้ไม่ถึงสองปีเอง
หลังจากนั้น คนที่เรียกตัวเองว่าเจ้าหน้าที่ของสำนักงานผู้อพยพย้ายถิ่นฐานก็เผยหางจิ้งจอกออกมา บอกกับเขาว่า “เพื่อรับประกันว่าจะยังสามารถรักษาสถานะผู้อพยพย้ายถิ่นฐานของคุณไว้ได้ ตอนนี้ผมแนะนำให้คุณโอนเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์แคนาดาเข้าบัญชีสำนักงานผู้อพยพย้ายถิ่นฐานของพวกเราเพื่อเป็นเงินประกัน…”
ฉินสือโอวชะงักไปชั่วครู่ เขาบอกใบ้ให้นีลเซ็นไปเรียกเออร์บักมา หลังจากนั้นก็เปิดโหมดแฮนด์ฟรี
ทนายใหญ่ฟังอยู่ไม่กี่คำก็ยิ้มออกมา เขาถามว่า “ถ้าบัตรประจำตัวผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรหมดอายุแต่ไม่ไปทำใหม่ จะถูกปรับเงินเท่าไรเหรอ?”
คนคนนั้นชะงักไปชั่วครู่ แล้วจึงพูดอย่างคลุมเครือว่า “นั่นไม่ใช่เงินน้อยๆ เลยครับ ผมแนะนำว่าคุณอย่าเสี่ยงเลยดีกว่า”
ทนายใหญ่ไหวไหล่แล้วพูดว่า “สายโทรศัพท์ของพวกต้มตุ๋น ที่จริงแล้วถ้าบัตรประจำตัวผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรหมดอายุแล้วไม่ไปจัดการต่ออายุ จะไม่ถูกปรับเงิน เพียงแต่ว่าจะมีผลกระทบกับความปลอดภัยของบัญชีธนาคารกับบัญชีประกันสังคม”
ฉินสือโอวรู้สึกหดหู่ เขานึกว่าเกิดเรื่องขึ้นกับตัวเองแล้วจริงๆ ที่แท้ก็เป็นแค่พวกสิบแปดมงกุฎ
หลังจากนั้นนีลเซ็น เบิร์ดและคนอื่นๆ ยังไม่ยอมแพ้ ผ่านไปช่วงหนึ่ง นีลเซ็นก็ใช้โทรศัพท์ของตัวเองโทรกลับไปหาเบอร์นั้น รอจนทางนั้นรับสาย เขาค่อยเปิดแฮนด์ฟรีแล้วพูดเรื่องบัญชีผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน ส่วนเบิร์ดกับคนอื่นๆ ก็เดินไปเดินมาอยู่ข้างๆ ให้เสียงฝีเท้าทุ้มหนักดังเข้าไปในสายโทรศัพท์
คนในสายโทรศัพท์ได้ยินเสียงฝีเท้าจึงรู้สึกระแวงขึ้นมา เขาถามกลับมาว่า “คุณ คุณอยากทราบเรื่องอะไรกันแน่…”
นีลเซ็นคิดว่าพอจะโอเคแล้ว จึงตะโกนออกมาว่า “หัวหน้าครับ ระบุพิกัดของแก๊งต้มตุ๋นพวกนี้ได้แล้ว แจ้งพี่ๆ หน่วยสวาต ให้ออกปฏิบัติการทันที ล้อมบริเวณที่พวกมันใช้ซ่อนตัวเอาไว้ แล้วจัดการพวกมันซะ!”
“ตึง!” นีลเซ็นยังพูดไม่ทันจบ ทางฝั่งนั้นก็วางสายโทรศัพท์อย่างแรง
เขาโบกโทรศัพท์ไปทางฉินสือโอว ทุกๆ คนพากันหัวเราะเสียงดังออกมา ชาร์คพูดยิ้มๆ ว่า “ฉันกล้าพนันได้เลยว่า ปีใหม่ของพวกมันไม่มีทางผ่านไปอย่างมีความสุขแน่ๆ อาจจะถึงกับต้องใช้เวลาอยู่บนรถของบริษัทรับย้ายบ้านเลยก็ได้”
“นั่นก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ? พวกสิบแปดมงกุฎแบบนี้น่ารังเกียจที่สุด!” พอพูดจบ ฉินสือโอวก็บันทึกเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ หลังจากนั้นจึงนำไปแจ้งกับพวกสำนักงานตำรวจนครเซนต์จอห์น
เชอร์ลี่ย์ที่สวมเสื้อหนังเหมือนกับลูกกวางตัวน้อยวิ่งเข้ามาข้างใน เมื่อเห็นว่าฉินสือโอวกับคนอื่นๆ กำลังดื่มชาพูดคุยหัวเราะกันอย่างเฮฮา เธอก็กะพริบตาโตๆ ด้วยความสนใจใคร่รู้อยู่สักพัก เมื่อแน่ใจแล้วว่าพวกเขาไม่ได้กำลังคุยเรื่องสำคัญเธอจึงจูงมือฉินสือโอวให้เดินออกมาข้างนอกแล้วบอกกับเขาว่า “ฉิน คุณช่วยพวกเราปลอบปอหลัวหน่อยได้ไหมคะ? มันไม่ยอมลากรถลากเลื่อนหิมะให้พวกเราเลยค่ะ”
ฉินสือโอวลองหันไปดู พวกเด็กๆ เอาของขวัญคริสต์มาสที่เขากับวินนี่ให้มาประกอบกัน รถลากเลื่อนหิมะเทียมกวางเรนเดียร์สีแดงคันใหญ่จอดนิ่งอยู่บนสนามหญ้า
รถลากเลื่อนหิมะยาวประมาณสองเมตรครึ่ง คล้ายคลึงกันกับรถม้าอยู่เล็กน้อย เพียงแต่ว่าเป็นแบบไม่มีหลังคา ด้านหน้าเป็นที่นั่งคนขับ ส่วนด้านหลังยังมีที่นั่งอยู่อีกสองแถว สามารถรับเด็กๆ ได้เจ็ดคนต่อครั้ง
ตัวรถตกแต่งอย่างหรูหรา ริบบิ้นหลากสีโบกสะบัดไปตามกระแสลม ประดับไฟสีสันต่างๆ บนที่นั่งมีเบาะหนังหนาๆ กับผ้าห่มรักษาความอบอุ่น ที่จับทั้งสองข้างมีถุงลมนิรภัยฉุกเฉิน ถ้ารถจะคว่ำ เพียงแค่กดปุ่มปุ่มเดียว ถุงลมนิรภัยก็จะเติมลมจนเต็มและห่อหุ้มคนในรถเอาไว้ ปลอดภัยมากๆ
กอร์ดอนกอดคอของปอหลัวเพื่อลากให้มันไปที่หน้ารถลากเลื่อนหิมะ ปอหลัวมันฉลาดมาก แค่เห็นพาวลิสถือบังเหียนเอาไว้ในมือมันก็รู้แล้วว่าคนชั่วพวกนี้คิดจะทำอะไร ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมเข้าไปใกล้เด็ดขาด กอร์ดอนเรียกมิเชลให้เข้ามาช่วย แต่ก็ยังลากปอหลัวไปไม่ได้อยู่ดี
ฉินสือโอวเผลอหัวเราะออกมา ตอนนี้ปอหลัวโตขึ้นแล้ว อาศัยแค่เด็กไม่กี่คนถ้าลากแล้วไปสิถึงจะแปลก
เขาเดินเข้าไปตบหัวของปอหลัวเบาๆ แล้วช่วยมันจัดระเบียบขนอยู่สักพัก ระหว่างนั้นก็บอกให้วินนี่เตรียมผักกับผลไม้เอาไว้หนึ่งกะละมัง เขาหยิบออกมาป้อนปอหลัวครึ่งหนึ่ง แล้วเก็บส่วนที่เหลือเอาไว้ก่อน หลังจากนั้นก็คล้องบังเหียนลงไปบนตัวมัน
ปอหลัวมองดูผักกับผลไม้อร่อยๆ ตาปริบๆ แล้วหันกลับไปมองรถลากเลื่อนหิมะอีกครั้ง ทันใดนั้นมันก็เข้าใจเงื่อนไขในการแลกเปลี่ยน จึงยอมให้ฉินสือโอวกับชาร์คและคนอื่นๆ คล้องบังเหียนง่ายๆ
หู่จือกับเป้าจือกระโดดโลดเต้นเล่นกันอยู่ข้างๆ อย่างมีความสุข ฉินสือโอวจึงจับพลขับทั้งสองตัวมา แล้วคล้องบังเหียนให้พวกมันด้วยเช่นกัน เดิมทีรถลากเลื่อนหิมะคันนี้ต้องใช้กวางเรนเดียร์สี่ตัวมาลาก
ทีแรกฉินสือโอวอยากจะลากกวางอีกหนึ่งตัวมาเป็นพลขับ กวางตัวผู้ที่ร่างกายกลับมาแข็งแรงตัวนั้นก็ใช้ได้ แต่ปรากฏว่าปอหลัวกับกวางแดงหนุ่มตัวนั้นดันไม่ถูกกัน เข้าใกล้กันเมื่อไรก็จะยกเขาสู้กัน ฉินสือโอวลากพวกมันทั้งสองตัวออกจากกันอย่างยากลำบาก ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้ปอหลัวออกแรงแค่ตัวเดียว
คล้องบังเหียนเสร็จแล้ว ฉินสือโอวขึ้นไปนั่งบนรถลากเลื่อนหิมะ จากนั้นก็ลองสะบัดบังเหียนดู ปอหลัวฉลาดมากๆ พอบังเหียนฟาดลงมาบนก้น มันก็สะบัดขาทั้งสี่ข้างแล้ววิ่งออกไปอย่างช้าๆ
หู่จือกับเป้าจือเห็นปอหลัววิ่ง เลยรู้สึกสนุกขึ้นมาจากนั้นจึงออกแรงวิ่งอย่างเต็มกำลังเช่นกัน เมื่อเป็นแบบนี้ความเร็วของรถลากเลื่อนหิมะจึงเพิ่มขึ้น
พอวนรอบฟาร์มปลาเป็นระยะทางสั้นๆ แล้ว ฉินสือโอวก็ขับกลับไปด้วยจิตใจที่ฮึกเหิม เขาพูดขึ้นมาว่า “ไม่เลวเลย รู้สึกดีมากๆ มาเถอะ เหล่าคุณชายคุณหนูทั้งหลาย ไปเป็นซานตาคลอสกันเถอะ!”
วินนี่เดินออกมา ในมือของเธอถือกระดิ่งอยู่หลายอัน เธอติดกระดิ่งไว้ที่คอของปอหลัวกับหู่จือเป้าจือ เช่นนี้เมื่อรถลากเลื่อนหิมะออกตัว เสียงดังกังวานของกระดิ่งก็ดังกิ๊งๆ กิ๊งๆ ขึ้นมา…
…………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset