ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 798 คนเปลี่ยนแต่ทุกอย่างคงเดิม

มันจะยุติธรรมได้อย่างไรถ้าต้องเจรจากับตำรวจทางทะเลของแคนาดาในอาณาเขตของแคนาดา? พวกเขาไม่ได้ถูกโจมตีเลยไม่ผิด กัปตันเรือของกรีนแลนด์ถึงกับพูดไม่ออก ทำได้เพียงจากไปอย่างคับแค้นใจ ก่อนไปเขาตะโกนออกมาตลอดทางว่า หลังจากที่ได้กลับประเทศแล้วจะฟ้องร้องฉินสือโอวกับตำรวจทางทะเลอย่างแน่นอน
ฉินสือโอวเหวี่ยงเครื่องส่งสัญญาณรังผึ้งเล็งไปที่เรือประมงของเขาอีกครั้ง ทำให้เจ้าของเรือตกใจกลัวจนฉี่แทบราดจนรีบวิ่งหนีออกไป
แต่เขาเองที่วิ่งหนีไม่ไหว จึงต้องให้เรือประลากไปด้วย เพราะผงแห้งและน้ำแข็งแห้งที่ระเหยออกทำให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องมือและเครื่องจักรเป็นอย่างมาก ซึ่งเรือประมงของเขาถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่หัวจรวดสองลูกและถ้ากลับไปไม่ทำการซ่อมแซมครั้งใหญ่ก็จะไม่สามารถใช้งานได้อีก
นี่คือเหตุผลที่กัปตันของกรีนแลนด์ต้องการให้ตำรวจทางทะเลเป็นผู้รับผิดชอบความยุติธรรมให้กับเขา ที่ออกมาเดินเรือในครั้งนี้เขาสูญเสียทุกอย่างแม้แต่กางเกงก็ยังไม่เหลือ
หลังจากกลับมาถึงฟาร์มปลา ฉินสือโอวก็เห็นว่าวินนี่และเด็กๆ กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานกับหญิงสูงอายุ และเออร์บักก็กลับมาเช่นเดียวกัน ดูเหมือนว่าเขาจะรู้จักแมคคาลลียน ซึ่งเขากำลังถือเครื่องดื่มเย็นๆ คุยกับเธออยู่และสีหน้าของเขายังดูมีความสุขมากด้วย
“คุยอะไรกันอยู่ ทำไมถึงมีความสุขขนาดนี้?” ฉินสือโอวถาม
หญิงชราจึงหัวเราะแล้วพูดว่า “เรากำลังพูดถึงลูกๆ ของคุณ พวกมันน่ารักมาก…”
พูดยังไม่ทันจบ เจ้าตัวไม่น่ารักก็โผล่มา
เสียงร้องโหยหวนของนกอินทรีดังขึ้น บุชจึงกางปีกทั้งสองข้างด้วยความโกรธแล้วทิ่มหัวลง เหมือนกับว่ากำลังทิ้งระเบิดลงอย่างรุนแรง แล้วจึงทะลุเข้าไปในอ้อมกอดของฉินสือโอว นิมิตส์ที่กำลังบินวนเวียนอยู่บนท้องฟ้า ท่าทางของมันช่างสง่าผ่าเผย
“นกอินทรีหัวขาว?” แมคคาลลียนถามอย่างแปลกใจ “พระเจ้า คิดไม่ถึงว่าคุณจะเลี้ยงเจ้าตัวนี้ด้วย? ฉันเคยเห็นคนที่เลี้ยงหมีสีน้ำตาลอยู่บ้าง แต่ไม่เคยเห็นคนเลี้ยงนกอินทรีหัวขาว!”
ชาวอเมริกันเลือกนกอินทรีหัวขาวเป็นนกประจำชาติ ไม่เพียงแต่เพราะความกล้าหาญและความเชี่ยวชาญในการต่อสู้เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะพวกมันเย่อหยิ่งอวดดีเหมือนกับพวกคาวบอยอเมริกันที่หยิ่งผยองที่ไม่สามารถเอาชนะได้ และไม่สามารถเลี้ยงให้เชื่องได้
ขนสีน้ำตาลของบุชพันกันยุ่งเหยิงมากและยังมีแผลเล็กๆ บนคิ้วอันสง่างามของมัน ฉินสือโอวจึงช่วยมันทำความสะอาดขน บุชจึงค่อยๆ กระดกก้นขึ้นเพื่อขับน้ำมันออกมา ซึ่งการแสดงออกแบบนี้จริงๆ แล้วมีเสน่ห์มาก ฉินสือโอวจึงมองไปที่เธอด้วยความเขินอาย
วินนี่รับบุชมาแล้วพูดว่า “ใช่แล้ว นกอินทรีหัวขาว ไม่ใช่ว่าพวกเราเลี้ยงมันหรอกนะคะ แต่แค่ทั้งสองฝ่ายต่างเลือกกันและกันเท่านั้นเอง”
จากนั้นนิมิตส์ก็ร่วงลงมา นี่คือนกที่มีชื่อเสียงที่สุดในแคนาดาและมีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นนกที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก เพราะหลังจากคาเมรอนยืนยันว่าจะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนั้น เขาก็จะเชิญให้นิมิตส์ไปแสดงตัวต้นที่แท้จริงของมัน
แมคคาลลียนก็รู้จักนิมิตส์ หลังจากมันลงมาเกาะที่แขนของฉินสือโอว เธอจึงยื่นมือไปลูบที่ปีกของมัน แล้วชื่นชมว่า “นี่คือผู้เลี้ยงสัตว์ของพระเจ้าใช่ไหม? เป็นเด็กดีจริงๆ ลักษณะท่าทางที่อยู่ท่ามกลางพายุฝนของมันทำให้ผู้คนรู้สึกประทับใจจริงๆ”
นิมิตส์ส่งเสียงร้องขึ้นเบาๆ แล้วใช้สายตาดูถูกเหยียดหยามชำเลืองมองไปที่แมคคาลลียน ฉินสือโอวจึงรีบอธิบายทันที “เจ้าเด็กนี่มองไปที่ใครก็ใช้สายตาดูถูกเหยียดหยามแบบนี้ตลอด”
ทุกครั้งที่นิมิตส์เป็นแบบนี้แสดงว่ามันไม่มีความสุข และมันทำให้ฉินสือโอวขายหน้า ซึ่งถ้าใครทำอะไรเราไว้ต้องรีบเอาคืนปล่อยไว้ข้ามคืนไม่ได้ต้องทำมันทันที
ขนของนกโจรสลัดใหญ่พันกันยุ่งเหยิง วินนี่เปลี่ยนเรื่องคุยแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าเจ้าสองตัวนี้จะไปเทือกเขาเคอร์บัลเพื่อต่อสู้กันมาแน่ๆ เพราะพวกมันกลับมากี่ครั้งก็มีบาดแผลกลับมาทุกครั้ง”
บุชได้ยินอย่างนั้นก็ส่งเสียงร้องดังขึ้นมา มันจึงกระโดดข้ามไปบนโต๊ะแล้วกระโดดโลดเต้นอย่างสุดแรง คล้ายกับว่าไม่พอใจกับคำพูดของวินนี่
แมคคาลลียนจึงหัวเราะชอบใจและพูดซ้ำๆ ว่าเจ้าเด็กนี่น่ารักจริงๆ
ฉินสือโอวเหลือบมองไปที่บุชที่กระโดดโลดเต้นและยังกวัดแกว่งปีกไปมาอย่างไม่มีมารยาทอยู่ตรงนั้น ซึ่งทำให้ไม่เห็นความน่ารักของมันเลยสักนิด ถ้าเปรียบเทียบเจ้าเด็กโง่ตัวนี้กับตอนที่มันบินไม่ได้ยิ่งดูน่าเกลียดขึ้นมากกว่าเดิม
เมื่อนั่งลงบนชายหาด ซึ่งไม่ไกลจากชายหาดนักจะเป็นคลื่นทะเลที่ค่อยๆ ซัดกระทบชายฝั่ง ลมทะเลที่พัดผ่านอย่างช้าๆ มองดูน้ำทะเลที่ใสดุจดังคริสทัลพร้อมกับฟังเสียงร้องอันไพเราะของนกนางนวล และแสงอาทิตย์ในยามบ่ายดูเหมือนว่าจะค่อยๆ แผ่วลง
เด็กๆ มองดูกันอย่างน่าสนุกสนาน จึงถอดรองเท้า เปลี่ยนใส่กางเกงและถือกระโปรงวิ่งไปที่ชายหาด แล้วร้องตะโกนพร้อมกับย่ำน้ำเล่นไปด้วย
พอเห็นเด็กๆ กำลังเล่นกันอย่างสบายใจ จู่ๆ แมคคาลลียนก็เศร้าใจขึ้นมา เธอจ้องมองคลื่นที่กำลังซัดกระทบชายฝั่งอย่างใจลอยและสีหน้าไร้ความรู้สึก
ฉินสือโอวเดาว่าเธอคงกำลังคิดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นหญิงชราก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ “ตอนที่ฉันมาฟาร์มปลาครั้งแรก น้ำทะเลก็ใสแบบนี้ ลมทะเลก็พัดอย่างอ่อนโยนแบบนี้ พอตอนนี้ได้กลับมาอีกครั้ง ทุกอย่างแทบจะไม่เปลี่ยนไปเลย ยังคงเป็นหาดทรายสีทองแบบนี้ และยังคงเป็นทะเลผืนนี้ บางทีนกนางนวลเหล่านั้นอาจจะยังเป็นฝูงเดิมอยู่ก็ได้ แต่น่าเสียดายที่คนเปลี่ยนแต่ทุกอย่างยังคงเดิม”
“ใช่ มันผ่านมากี่ปีแล้วล่ะ? คนเปลี่ยนแต่ทุกอย่างยังคงเดิม เราแก่ตัวลง บางคนก็ถึงกับไม่ได้เจอกันแล้ว” เออร์บักพูดพลางถอนหายใจไปด้วย
คำพูดนี้ทำให้ตกตะลึงไปทั่วทุกที่จริงๆ แม้ว่าจะมีเพียงฉินสือโอวและวินนี่ที่อยู่เป็นเพื่อนข้างๆ ก็ตาม แต่พวกเขาทั้งสองคนรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก
พอได้จ้องมองกัน ในใจของฉินสือโอวรู้สึกประหลาดใจมากที่เมื่อก่อนแมคคาลลียนเคยมาที่ฟาร์มปลาด้วย? อีกทั้งยังได้ยินคำพูดของเธอและเออร์บัก ก็ทำให้เห็นแล้วว่าพวกเขาทั้งสองคนรู้จักกันมาก่อน
เมื่อเห็นใบหน้าของแมคคาลลียนและเออร์บักแล้ว ฉินสือโอวก็คิดในใจขึ้นมาทันที หรือว่ามีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นตอนที่พวกเขาทั้งยังเป็นหนุ่มสาว? ไม่สิ เออร์บักอายุยังไม่ถึงเจ็ดสิบปีและแมคคาลลียนก็อายุเก้าสิบปีแล้ว ช่องว่างระหว่างวัยมีเยอะเกินไป
ต่อมความรู้ของเขาก็เริ่มกระตุกขึ้น จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างระมัดระวังแล้วก้มหาเรื่องราวความรักของแมคคาลลียน
และด้วยความหันหน้าหันหลังอย่างไม่ตั้งใจ เขาจึงเหลือบไปเห็นวินนี่ที่กำลังทำเช่นเดียวกันกับเขาอยู่ อีกอย่างพวกเขายิ่งต้องแอบทำอย่างลับๆ ถึงสายตาจะมองหญิงชราที่กำลังมองเด็กๆ อยู่ก็จริง แต่ในมือของพวกเขากลับเล่นโทรศัพท์อยู่!
“ภรรยาของฉันนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ” ฉินสือโอวแอบถอนหายใจเงียบๆ และเร่งความเร็วในการค้นหา
จากการสอบถามของเขา แมคคาลลียนมีช่วงเวลาการแต่งงานที่สมบูรณ์แบบ สามีของเธอมีอายุมากกว่าเธอและได้เสียชีวิตลงเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เห็นได้ชัดว่าการคาดเดาของเขาไม่มีเหตุผลเป็นอย่างมาก
แมคคาลลียนถอนหายใจอีกครั้ง ซึ่งอาจจะเพราะคิดว่าฉินสือโอวและวินนี่อยู่ข้างๆ และพูดบางอย่างที่ไม่ค่อยดี จึงถามอ้อมๆ ไปว่า “คุณมีฟาร์มปลาที่ดีมาก ฉันเห็นว่าที่นี่ยังมีสวนผักและฟาร์มเพาะปลูกด้วยใช่ไหม? มันดีมากเลย”
ฉินสือโอวจึงพูดอย่างสุภาพ เพื่อเชิญเธอไปทานอาหารเย็นและลองชิมปลาและผักที่เป็นผลิตภัณฑ์จากฟาร์มปลา
แมคคาลลียนยิ้มพร้อมพูดว่า “ด้วยความยินดีมาก คุณฉิน ฟาร์มของคุณยังคงรักษาความพิเศษในช่วงเวลานั้นของเรามาเสมอ สไตล์การก่อสร้างแบบนั้นกับรูปแบบของอาหารและเครื่องดื่มแบบนั้น ฉันคิดว่าอาหารของคุณที่นี่ต้องปลอดภัยมากแน่ๆ ผักและเนื้อปลาทั้งสะอาดและถูกสุขอนามัย”
“จริงๆ แล้วมันก็เป็นแบบนี้แหละครับ คุณผู้หญิง ทุกอย่างในฟาร์มปลาของเราทั้งสะอาดและถูกสุขอนามัย ผมคิดว่าคุณให้ความใส่ใจกับเรื่องความปลอดภัยของอาหารมาก เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้มีส่วนช่วยเรื่องความอายุยืนของคุณสินะ” ฉินสือโอวพูดประจบเธอ
แมคคาลลียนยิ้มและเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับความรู้ด้านการรักษาสุขภาพ เธอพูดกับวินนี่และฉินสือโอวว่า เคล็ดลับในการมีอายุยืนก็คือการกินผักให้เยอะๆ กินแต่ละมื้อให้น้อยลงและวันหนึ่งจะกินหลายมื้อก็ได้ แต่ไม่สามารถกินจนอิ่มมากเกินไป
จากนั้นเธอก็บ่นอีกว่า สภาพแวดล้อมในปัจจุบันนี้นับวันยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ โดยปกติแล้วเธอจะเลือกอาหารปลอดสารพิษได้แค่ที่บ้านเท่านั้น
บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างเรียบง่าย เหมือนกับได้คุยกันหลังอาหารกับหญิงสูงอายุทั่วไป แมคคาลลียนมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการควบคุมบทสนทนา เธอแทบจะไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระด้านการเมืองเลย หลังจากพูดถึงเรื่องอาหารและการรักษาสุขภาพเสร็จ จากนั้นก็เริ่มพูดถึงเรื่องการออกกำลังกาย
ความสามารถด้านกีฬาของหญิงสูงอายุคนนี้ดีมาก เธอแนะนำว่าเธอชอบสเกตน้ำแข็งและฮอกกี้น้ำแข็งมากที่สุด ก่อนที่เธอจะอายุเก้าสิบปี เธอมีความคล่องแคล่วว่องไวมากในสนามสเกตน้ำแข็ง แต่หลายปีมานี้เนื่องจากความกังวลของคนในครอบครัว เธอจึงค่อยๆ เบาลง และเวลาปกติเธอจะชอบจูงสุนัขไปเดินเล่นในสถานที่ที่น่าสนใจ
………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset