ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 769 เลี้ยงไก่เป็ดแบบปล่อย

บทที่ 769 เลี้ยงไก่เป็ดแบบปล่อย
โดย
Ink Stone_Fantasy
ตอนบ่ายวินนี่กลับมาอย่างมีความสุข ฉินสือโอวรีบถาม “เฮ้ที่รัก คุณเป็นไงบ้าง?”
วินนี่ลูบคางฉินสือโอวแล้วพูดอย่างทะเล้น “ถือว่าคุณรู้ความ ถ้าคุณถามว่าลูกของผมเป็นไงบ้างก่อนละก็ ฉันจะให้คุณไปนอนกับฉงต้าสักเดือนหนึ่ง! โอเค ฉันจะบอกให้ก็ได้ ฉันกับลูกแข็งแรงดี แต่มันยังเล็กเกินไป…”
“มัน?!” ฉินสือโอวตะลึง ในภาษาอังกฤษคำว่า เขา เธอ มัน ไม่ใช่คำเดียวกัน
วินนี่กลอกตา “ใช้แทนไปก่อน ตอนนี้จะดูออกได้ยังไงว่าเป็นเขาหรือเธอ?”
ฉินสือโอวยิ้มเจื่อน “ทำให้ลูกตกใจแล้ว คราวหลังอย่างใช้คำมั่วๆ อีกนะ”
พอพูดจบเขาก็โทรหาพ่อแม่เพื่อบอกว่าการตรวจของวินนี่เป็นไปด้วยดีทุกอย่าง จากนั้นก็ให้พี่สาวบังคับพ่อแม่ให้มาหา
พี่สาวพูดอย่างจนใจ “ฉันเองก็อยาก พ่อกับแม่ดื้อเหลือเกิน ฉันกับเสี่ยวฮุยพูดแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย! ทีแรกเสี่ยวฮุยจะปิดเทอมฤดูร้อนเดือนกรกฎาคม ฉันยังคิดว่าจะพาเขาไปเที่ยวหานายที่นั่น แต่คราวนี้คงไปไม่ได้แล้ว!”
ฉินสือโอวให้หลานชายมารับโทรศัพท์ แล้วถามเขาว่าอยากมาหาลุงเพื่อมาดูปลาวาฬไหม? เสี่ยวฮุยโอดครวญ ต้องอยากไปหาเขาแน่นอนอยู่แล้ว
จากนั้นฉินสือโอวก็ยิ้มอย่างร้ายกาจพลางเสนอความคิดให้เขา “ชวนตากับยายมาด้วยสิ ถ้าพวกเขาไม่ยอม หนูก็ลงไปดิ้นกับพื้นเลย”
เด็กน้อยไม่ได้หลอกได้ง่ายๆ เสี่ยวฮุยพูดอย่างไม่พอใจ “ลุงอย่าคิดว่าผมโง่นะ จะใช้ผมเป็นเครื่องมือเหรอ? ไม่มีทาง!”
เชรด ฉินสือโอวตะลึงไปครู่หนึ่ง ตอนนี้เด็กฉลาดขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย?
ช่วยไม่ได้ เขาได้แต่เสนอข้อแลกเปลี่ยนดีๆ “หนูลงไปดิ้นเถอะ พอมาแล้วลุงจะให้ขี่ปลาวาฬ! เจ๋งสุดๆ ไปเลยนะ เดี๋ยวลุงถ่ายรูปให้ด้วย หนูจะได้เอากลับไปให้เพื่อนดู ให้พวกเขาอิจฉาตาร้อน!”
พิจารณาดูครู่หนึ่ง ในที่สุดกิเลสก็ชนะ เจ้าหนูพูดอย่างตื่นเต้น “โอเค ถ้ามีโอกาสผมจะลงไปดิ้น!”
เสียงพี่เขยดังขึ้น “ทำอะไร? ชักดิ้นชักงอ? ฉันจะตัดขาแกให้ขาดเลย!”
ฉินสือโอวยิ้มอย่างร้ายกาจแล้ววางสาย รู้สึกว่าตัวเองเป็นลุงที่เลวมาก
ตอนเย็นฉินสือโอวพาพวกชาวประมงไปเปิดไฟส่องไปที่ผิวน้ำ หอยทากทะเลที่ถูกดึงดูดมาครั้งนี้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ถึงขนาดว่ารอบๆ ไฟบางดวงมีแค่สองสามตัวเท่านั้น
พวกชาวประมงไม่เข้าใจสถานการณ์ ชาร์คพูดอย่างมีความสุขว่า “ดูสิ สวรรค์เมตตาฟาร์มปลาของเราจริงๆ ว่ากันว่าฟาร์มอื่นสู้รบกันทั้งคืน แต่ฟาร์มปลาของพวกเรามีหอยทากทะเลอยู่ไม่กี่ตัวเอง”
ซีมอนสเตอร์เริ่มอธิบายถึงสาเหตุ “ฉันพนันได้เลยว่าต้องเป็นเพราะฟาร์มปลาของเรามีมลพิษน้อยที่สุด หอยทากทะเลไม่มีทางที่จะไม่ชอบน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์…เฮ้ พวกนายใช้สายตาแบบนั้นมองฉันทำไม? ”
“ไม่มีอะไร ปกติแล้วทุกคนคงไม่ค่อยได้เห็นคนโง่” นีลเซ็นหัวเราะ
บลูหัวเราะพลางพูด “ไม่ใช่ว่าจะได้เห็นอีวิลสันได้ทุกวันนะ…โอ้ว พิเศษจริง!”
อีวิลสันถีบออกไปหนึ่งครั้ง บลูก็บินจากบนเรือลงน้ำไป
ชาวประมงคนอื่นๆ หัวเราะเกรียวกราว ไม่มีใครสนใจว่าทำไมจำนวนหอยทากทะเลในฟาร์มปลาถึงได้น้อยลงแปลกๆ แบบนี้
พอเก็บกวาดความยุ่งเหยิงที่เหลืออยู่แล้ว ฉินสือโอวก็กลับไปนอนกอดวินนี่ ผลสุดท้ายวินนี่เจอของล้ำค่าที่มาริโอ้มอบให้เขา แล้วมองเขาด้วยความประหลาดใจ “คุณไม่อยากให้เราสองแม่ลูกมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ?”
ฉินสือโอวยักไหล่พลางพูด “คุณเข้าใจผิดแล้ว อันนี้ผมจะเอาให้เจ้าโคโกโร่เหมา”
วินนี่คิดๆ ดูแล้วพูดอย่างเหนียมอาย “หรือคุณเก็บไว้เองดีไหม? ถึงอย่างไรก็ตากแห้งมาแล้ว ต่อไปอาจจะต้องใช้”
ฉินสือโอวเกือบจะแพ้เธอแล้ว เรื่องนี้ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด เขาแผดเสียงพูด “เป็นไปไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้อย่างแน่นอน!”
ตื่นเช้าขึ้นมาแล้ว ฉินสือโอวก็เรียกเด็กๆ มาเอาตะกร้าไปเก็บหอยทากทะเล
“เจ้าสิ่งนี้กินได้จริงๆ เหรอครับ?” มิเชลเหยียบอยู่บนสาหร่ายคอมบุหนาๆ บีบหอยทากทะเลที่โปร่งแสงไปครึ่งหนึ่งพลางถาม ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
ฉินสือโอวเก็บหอยทากทะเลไป พูดเรื่อยเปื่อยไป “แน่นอน รสชาติเหมือนเนื้อไก่เลยนะ กรุบๆ”
การ์เซียที่เตรียมจะทำงานเดินมาบอก “ฉิน บนชายหาดของเราก็มีหอยทากทะเลเยอะเหมือนกัน”
แน่นอนอยู่แล้ว แม้หอยทากทะเลจะอยู่ในทะเลน้ำลึก แต่พวกมันอยู่ได้ทั้งในน้ำและบนบก เก่งกาจขนาดนี้ พอขึ้นมาบนบกได้สักระยะแล้ว พวกมันก็จะสร้างกระดองออกมาใหม่ได้ ถึงได้บอกว่าพวกมันรับมือได้ยาก
ฉินสือโอวพยักหน้าบอกว่ารู้แล้ว เดิมทีเขาหวังให้พวกห่านขาวจัดการพวกหอยทากทะเล เขาจำได้ว่าพวกห่านขาวที่บ้านเก่ากินเจ้าสิ่งนี้ แต่ดูจากสองวันนี้แล้ว ดูเหมือนว่าจะพึ่งพาไม่ได้ พวกห่านขาวเหมือนจะชินกับการกินปลาแคปลินไปแล้ว เลยไม่สนใจหอยทากทะเล
ไม่ใช่ว่าไม่อร่อย แต่ตัวเล็กเกินไป เปลืองแรงกินเปล่าๆ
ทุกวันเชอร์ลี่ย์จะไปเก็บไข่ไก่และไข่เป็ด เช้าตรู่วันนี้ก็เช่นกัน หลังจากนั้นเธอก็วิ่งกลับมาด้วยความดีใจแล้วตะโกน “ฉิน ไก่น้อยและเป็ดน้อยชอบกินหอยทากทะเล พวกเราเก็บหอยทากทะเลไปให้พวกมันกินกันดีไหมคะ?”
ฉินสือโอวแบมือพลางพูด “ไม่ดีแน่นอน พวกเราจะเอาไว้กินเองนะ”
เชอร์ลี่ย์ทำปากจู๋ พูดลากเสียงยาว “ก็ได้!”
อาทิตย์ยามเช้าสีทองส่องอยู่บนผมของโลลิต้า แสงแดดที่นุ่มนวลส่องลงมาตามผมยาว ดูเหมือนกับเป็นน้ำตกเล็กๆ สีทอง
หันหลังให้ดวงอาทิตย์ ผิวของเชอร์ลี่ย์เป็นสีชมพูอ่อนๆ ดูไปแล้วเหมือนจะโปร่งแสง ขนตายาวๆ ขยับขึ้นลง ไม่รู้ว่ามองเห็นอะไร มุมปากแดงระเรื่อของเธอยกขึ้นเบาๆ สวยบริสุทธิ์ราวกับปีศาจน้อย
“น้องสาวคนสวย!” กอร์ดอนพูดอย่างตกตะลึง
พอเชอร์ลี่ย์ได้ยินเข้า บนใบหน้าก็มีรอยยิ้มหวานๆ เธอเดินมาบิดหูของกอร์ดอนอย่างรวดเร็ว กัดฟันพูด “นาย! พูด! อะ! ไร?! นายเรียกพี่สาวตัวเองว่า น้องสาว? อยากตายเหรอไง?!”
“โอ้ยๆๆ เจ็บจะตายอยู่แล้ว ยัยสาวห้าว! เมื่อครู่ฉันต้องโดนซาตานดลใจแน่ๆ!” กอร์ดอนร้องขึ้นมาอย่างเจ็บปวด
ฉินสือโอวหัวเราะ ดึงเชอร์ลี่ย์ออกมาแล้วพูด “โอเคๆ สาวน้อย ปล่อยเขาไปเถอะ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นน้องชายของเธอนะ”
เชอร์ลี่ย์ยังอยากพูดต่อ ฉินสือโอวรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อเบนความสนใจของเธอ “เมื่อครู่นี้เธอเสนอความคิดดีๆ มาอย่างหนึ่ง บนชายหาดมีหอยทากทะเลเยอะขนาดนี้ ทำไมเราไม่ปล่อยไก่เป็ดให้พวกมันออกมาหากินเองล่ะ?”
ก่อนหน้านี้ฉินสือโอวไม่อนุญาตให้เลี้ยงเป็ดไก่แบบปล่อย เพราะมีแค่ฟาร์มปลาต้าฉินยังค่อนข้างเล็ก กลัวว่าไก่เป็ดจะทำฟาร์มปลาสกปรกไปทั่ว ยากต่อการทำความสะอาด อีกอย่างถ้าไก่เป็ดออกไข่ไปทั่ว อย่างนั้นก็จะยุ่งยากต่อการเก็บ
ความจริงพิสูจน์แล้วให้เห็นว่าเขาคิดมากไป ฟาร์มปลาใหญ่ขนาดนี้ ขี้เป็ดขี้ไก่ก็เหมือนหมอกที่ผ่านตาไป ส่วนเรื่องออกไข่ก็ไม่เกี่ยวกันเลย ห่านขาวต้องรวมฝูงอยู่ด้วยกันถึงจะออกไข่ ไก่เป็ดก็เป็นเหมือนกัน
เชอร์ลี่ย์ไปเปิดประตูเล้า พวกไก่เป็ดถูกเลี้ยงในเล้ามาตลอด แม้ประตูจะเปิดแล้วก็ยังไม่กล้าออกมา
ฉินสือโอวเข้าไปไล่ไก่จอมอันธพาลตัวนั้นออกมา และมันก็เป็นไก่ตัวผู้ตัวแรกด้วย จากนั้นฝูงแม่ไก่ก็วิ่งตามออกมา พวกมันไม่กล้าออกห่างจากผู้ชายของบ้านไปไกลนัก
ไก่ตัวผู้นำแม่ไก่ออกมา แม่ไก่ก็นำลูกไก่ออกมา พวกเป็ดก็เหมือนกัน แล้วพวกไก่เป็ดก็กระจายไปในฟาร์มปลาอย่างรวดเร็ว
หมูดินที่อยู่ในคอกก็อยากออกมาด้วย แต่เร็วกว่าที่คิด ฉงต้ายืนน้ำลายไหนอยู่หน้าประตู ทำให้หมูไม่กี่ตัวตกใจจนอึไหลออกมา
ฉินสือโอวพาเด็กๆ ไปเก็บหอยทากทะเล ในขณะนั้นวิทยุก็ดังขึ้น ชาร์คพูด “บอส นายหญิงให้ผมบอกว่ามีคนจากตระกูลมอร์รี่มาหา”
……………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset