“แล้วเรื่องราคาล่ะ?” ฉินสือโอวถามผ่านทางโทรศัพท์
“แตกต่างกันค่อนข้างมากอยู่เหมือนกัน เครื่องบินน้ำรุ่นดีเอชหนึ่งลำราคาสองล้านสี่แสน สามารถปรับแต่งเพื่อใช้ในการพาณิชย์ได้ มีความสะดวกสบายและมีการตกแต่งภายในหรูหรา เรือยนต์ขนาดใหญ่อย่างรุ่นวอเตอร์สไปเดอร์ก็มีการตกแต่งภายในที่หรูหราเหมือนกัน ราคาก็ประมาณสี่ล้านดอลลาร์ เนื่องจากเรือลำนี้ใช้เครื่องยนต์กับวัสดุภายนอกที่ทำจากไทเทเนียมเลยมีราคาแพงหน่อย” แฮงค์อธิบาย
“ขอฉันลองคิดดูก่อนแล้วกันนะ สัปดาห์หน้าค่อยมาหาฉันแล้วกัน” ฉินสือโอวพูดหลังจากไตร่ตรองดูแล้ว
พอวางสายโทรศัพท์ เขาก็เริ่มค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
เขารู้เรื่องเครื่องบินน้ำไม่มากนัก เมื่อก่อนในสายตาเขาของสิ่งนี้ก็เป็นแค่ของกิ๊กก๊อกเท่านั้น มันไม่มีประโยชน์ที่สามารถใช้ได้จริง คนโซเวียตก็เคยสร้างยานบินผิวน้ำซึ่งเป็นปีศาจแห่งทะเลแคสเปียนอะไรนั่นไม่ใช่เหรอ? ในตอนนั้นมันทำให้อเมริกากับพวกยุโรปตะวันตกใจกลัวจนฉี่แทบราด แต่ต่อมาไม่ใช่เพราะใช้งานไม่ได้หรอกเหรอถึงได้กลายเป็นของไร้ประโยชน์?
แต่พอมาค้นหาในอินเทอร์เน็ตเขาก็กลายเป็นไอ้ทึ่มไปเลย เขาขาดความรู้เรื่องการทหารอย่างหนัก เครื่องบินน้ำอะไรกันล่ะ แบบที่เขารู้จักน่ะมันเรียกว่ายานบินเบาะอากาศ!
เครื่องบินน้ำ ยานบินเบาะอากาศ นอกจากนี้ยังมียานเรี่ยพื้นอีกหนึ่งอย่าง ยานพาหนะทั้งสามแบบนี้ง่ายต่อการจำสลับกันมาก
เครื่องบินน้ำก็คือเครื่องบินที่สามารถขึ้นบิน แลนดิ้งและจอดอยู่บนผิวน้ำได้ หลักการบินไม่ได้แตกต่างอะไรกับเครื่องบินทั่วไป อาศัยความดันแตกต่างของกระแสอากาศส่วนบนและส่วนล่างของปีกในการสร้างแรงยกของเครื่องบิน มันแบ่งออกเป็นสองประเภทได้แก่ ประเภทเรือบินกับประเภททุ่นลอยน้ำ ประเภทแรกมีรูปทรงพิเศษที่ออกแบบให้สามารถไถลไปกับผิวน้ำได้ ส่วนประเภทหลังก็เปลี่ยนแลนดิ้งเกียร์ของเครื่องบินบกให้กลายเป็นทุ่นลอยน้ำ
สาเหตุที่เครื่องบินชนิดนี้สามารถบินได้เร็วขนาดนั้นก็เพราะมันสามารถบินขึ้นมาได้ แต่จะบินในอากาศระดับสูงได้ยาก เนื่องจากส่วนล่างมีทุ่นลอยน้ำขนาดใหญ่
ยานบินเบาะอากาศเป็นยานบินที่สามารถบินเหนือผิวน้ำและสามารถบินติดกับผิวน้ำได้ หลักการในการทำงานก็คือการใช้กราวด์ เอฟเฟกต์กับการเพิ่มพลังงานเพื่อให้เกิดความเร็วสูงในการบินแฉลบผ่านทะเล มันสามารถแล่นทวนผิวน้ำและยังสามารถบินในอากาศระดับต่ำได้อีกด้วย มันทำได้ถึงขนาดลงจอดบนชายหาด บนที่ลุ่ม บนทางลาดที่เป็นน้ำแข็งกับบนสะพานต่ำๆ ได้ตามต้องการเลยทีเดียว
ยานเรี่ยพื้นเป็นยานพาหนะชนิดหนึ่งที่อาศัย ‘เบาะอัดอากาศ’ ที่ถูกบีบอัดระหว่างเรือและผิวน้ำเพื่อลอยออกจากผิวน้ำและลอยติดกับผิวน้ำอีกครั้ง หลักการในการบินเป็นเพราะขณะที่ยานเรี่ยพื้นเข้าใกล้ผิวดินหรือผิวน้ำในระดับความสูงที่คงที่ กระแสอากาศที่ไหลผ่านระหว่างปีกของเครื่องบินกับผิวน้ำจะถูกหยุดยั้งไว้อย่างรุนแรง ความดันใต้ปีกเครื่องบินเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงและส่งผลให้แรงยกตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็นพิเศษ ทำให้เรือลำเล็กบินไปบนผิวน้ำได้
ปีศาจแห่งทะเลแคสเปียนที่เขารู้จัก ก็คือยานบินเบาะอากาศ เป็นยานบินคนละแบบกับเครื่องบินน้ำ และสิ่งที่แฮงค์แนะนำให้กับเขาก็คือเครื่องบินน้ำนั่นเอง
สิ่งที่ฉินสือโอวให้ความสำคัญก็คือความสามารถในการบินที่รวดเร็วของเครื่องบินน้ำ ส่วนเรื่องแรงสะท้อนเขาคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่สามารถแก้ไขได้ เนื่องจากน้ำหนักเครื่องเปล่าของเครื่องบินน้ำ ดีเอชซี-ซิกห์ทวินออตโตอยู่ที่สามตัน น้ำหนักสูงสุดที่สามารถขึ้นได้อยู่ที่ห้าตันครึ่ง สามารถต้านแรงสะท้อนของเครื่องยิงวิทยุเทอร์โบเจ็ทได้
แต่ถ้าต้านไม่ไหวแล้วจะทำยังไงน่ะเหรอ? อย่างมากก็แค่แขวนสมอให้เครื่องบิน หลังจากทอดสมอแล้วก็ค่อยสตาร์ทเครื่องยิงวิทยุเทอร์โบเจ็ทอีกครั้ง
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินสือโอวก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที เขารู้สึกว่าตัวเองฉลาดเกินไปแล้วจึงอดที่จะชื่นชมตัวเองไม่ได้
ทว่าการใช้เครื่องบินน้ำยังมีปัญหาอยู่อีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือทางฝั่งเขามีนักบินไม่พอใช้ แบบนี้เบิร์ดจะต้องทำงานหนักเกินไป เขาต้องจ้างคนมาเพิ่ม
คราวนี้เขาก็รู้สึกค่อนข้างลังเลแล้ว ตอนนี้กลุ่มของพวกเขามีบรรยากาศที่ดีมาก เขากลัวว่าคนที่รับเข้ามาอาจจะมีพฤติกรรมอะไรบางอย่างที่น่าเอือมระอา ถ้าหากทำให้กลุ่มของเขาแตกกันคงจะเป็นเรื่องวุ่นแน่ๆ
โชคดีที่เขาไม่ต้องรีบตัดสินใจในเวลาอันสั้น ช่วงวันหยุดเขาต้องกลับบ้านไปกับวินนี่ คราวนี้ไปเพียงไม่นานจึงไม่จำเป็นต้องพาพวกหู่เป้าฉงกับลูกหมาป่าไปด้วย น่าเสียดายที่นั่งเครื่องบินโดยสารไม่ได้ จึงต้องจ้างเครื่องบินส่วนตัวเหมือนเดิม
บ้านของวินนี่ที่วินนิเพ็กอยู่ห่างจากนครเซนต์จอห์นค่อนข้างไกล มันตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแคนาดา อยู่ห่างจากนครเซนต์จอห์นที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกสุดเป็นระยะทางประมาณสองพันแปดร้อยกิโลเมตรแบบเส้นตรง
ระหว่างสองเมืองนี้ไม่มีเที่ยวบินตรง ถ้าหากนั่งเครื่องบินของสายการบินจากนครเซนต์จอห์นก็ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่โทรอนโต ต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางสิบกว่าชั่วโมง แต่ถ้านั่งเครื่องบินส่วนตัว ระยะเวลาในการเดินทางก็จะสั้นลงถึงครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะใช้เวลาแค่ห้าชั่วโมงเท่านั้น
วินนี่ใช้โอกาสช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กลับบ้าน จะเสียเวลากับการเดินทางไม่ได้ ดังนั้นฉินสือโอวจึงต้องใช้เครื่องบินส่วนตัว ครั้งนี้ยังคงเป็นเครื่องบินโดยสารหลายเครื่องยนต์ พีเอ-42 แบบที่เคยนั่งเมื่อครั้งที่แล้ว
ฉินสือโอวนำของขวัญที่ตั้งใจเตรียมไว้เป็นพิเศษไปด้วย เขาโทรศัพท์ไปหามาริโอ้กับมิแรนด้าไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะเขารู้จักวินนี่ดี วินนี่พอจะกลับบ้านก็จะกลายร่างเป็นเด็กเกเรคิดทำให้คนที่บ้านตั้งตัวรับไม่ทันแน่ๆ เธอไม่มีทางโทรศัพท์ไปบอกก่อนแน่นอน
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ก่อนขึ้นเครื่องบินเขาโทรศัพท์ไปหามาริโอ้ พวกเขาไม่รู้จริงๆ ว่าวินนี่กำลังจะกลับบ้าน
ทว่าตอนพวกเขาไปถึงที่บ้าน หลังจากวินนี่โทรศัพท์หาที่บ้านขณะที่มาถึงประตูทางเข้าเขตที่พักอาศัยแล้ว มิแรนด้า มาริโอ้และคนอื่นๆ ก็ยังแกล้งเปิดประตูออกมาเหมือนว่าพวกเขาประหลาดใจมากอยู่ดี
เมื่อได้เห็นคนที่บ้านถูกตัวเองแกล้งให้ตั้งรับไม่ทัน ในใจของวินนี่ก็แอบแย้มรอยยิ้มออกมา เขารู้สึกว่าวินนี่ในตอนนี้ก็คือเด็กผู้หญิงดื้อรั้น เจ้าเล่ห์ และใสซื่อบริสุทธิ์คนหนึ่ง
พอเข้ามาในบ้านมาริโอ้ก็ขยิบตาให้ฉินสือโอว ส่วนมิแรนด้าก็พูดขึ้นมาว่า “ลูกกลับมาได้ทันเวลาพอดีเลย วินนี่ คุณปู่กับคุณย่าของลูกก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน วันนี้พวกเราจะได้ทานมื้อเที่ยงอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันพอดี”
เมื่อมองเห็นคุณปู่คุณย่า วินนี่ก็เข้าไปกอดพวกท่านด้วยความดีใจ ทางด้านฉินสือโอวก็หยิบเอาของขวัญที่เตรียมไว้ออกมา
ของขวัญที่เขาเตรียมมาในครั้งนี้เป็นของขวัญที่เขาขบคิดมาอย่างหนัก ได้แก่ผลผลิตล้ำค่าจากฟาร์มปลา ไข่มุกสีดำที่เพิ่งเก็บขึ้นมาหนึ่งกล่อง ไวน์องุ่นคุณภาพสูงสี่ขวดกับผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพจำนวนหนึ่ง เรียกได้ว่ามีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มากจริงๆ
หลังจากกลับมาถึงบ้านแล้ว วินนี่ก็บอกให้ฉินสือโอวนั่งรอที่ห้องรับแขก เธอบอกว่าเธอจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องสักหน่อย
หลังจากฉินสือโอวนั่งลงแล้ว ว่าที่พ่อตาแม่ยายก็รินน้ำผลไม้ให้เขาหนึ่งแก้วแล้วพูดกับเขาด้วยรอยยิ้ม “ฉันจำได้ว่าวินนี่บอกว่าคุณชอบดื่มน้ำผลไม้ ไม่ชอบดื่มชากาแฟ ถ้าอย่างนั้นก็ลองชิมน้ำทับทิมของพวกเราสักหน่อยเถอะ รสชาติน่าจะไม่เลวเลยล่ะ”
ฉินสือโอวรู้สึกตื่นตะลึงเพราะได้รับความเอ็นดูโดยที่เขาก็คาดไม่ถึง คุณแม่ยายสุภาพเกินไปแล้ว พอดื่มเข้าไปหนึ่งอึกเขาก็รีบเอ่ยชม “รสชาติดีมากๆ เลยครับ อร่อยมาก เปรี้ยวๆ หวานๆ ผมไม่เคยดื่มน้ำผลไม้ที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดื่มเยอะๆ เลยนะ ขอบคุณมากๆ นะที่โทรศัพท์มาบอกพวกเราไว้ล่วงหน้า” มาริโอ้พูดพร้อมกับยิ้มจนตาหยี
ฉินสือโอวจึงอธิบายออกไป “นี่เป็นเรื่องที่ผมควรทำอยู่แล้ว อีกอย่างนี่ยังเป็นเรื่องที่วินนี่แอบแนะนำให้ผมทำด้วย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดออกมาชัดๆ แต่ผมรู้ว่าเธอก็อยากให้พวกคุณรู้ล่วงหน้าเหมือนกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มาริโอ้กับมิแรนด้ารวมถึงคนอื่นๆ ก็พากันยิ้มออกมา สิ่งที่พวกเขาปรารถนาก็คือการคลี่คลายความสัมพันธ์ของพวกเขากับวินนี่
ซือลั่วหวาเป็นคนชวนคุยต่อ พวกเขาคุยกันเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างในจีน โดยเฉพาะเรื่องประเพณีในช่วงวันตรุษจีน เขาพูดอย่างทอดถอนใจว่า “ฉันไม่ได้กลับไปฉลองวันตรุษจีนที่จีนมาสิบกว่าปีแล้วล่ะ คิดถึงความรู้สึกของการฉลองตรุษจีนที่บ้านเก่าจริงๆ น่าเสียดาย ตอนนี้บ้านเก่าก็ไม่มีเหลืออยู่แล้ว”
วินนี่ลงรูปที่ถ่ายตอนกลับไปฉลองตรุษจีนที่บ้านของฉินสือโอวลงในทวิตเตอร์ เธอบันทึกรูปภาพในทุกๆ แห่งที่เธอย่างก้าวไปในประเทศจีนอย่างไม่ขาดสาย เห็นได้ชัดว่าคนในครอบครัวของเธอก็ได้ดูรูปภาพของเธอกันหมดแล้ว
ฉินสือโอวจึงกล่าวคำเชิญชวนออกมา “ถ้าหากไม่รังเกียจ ช่วงตรุษจีนปีนี้พวกคุณไปที่บ้านเดิมของผมดีไหมครับ? พ่อกับแม่ของผมชอบฉลองงานตรุษจีนกันอย่างคึกคัก ถ้าหากพวกคุณยินดี… ยินดี… ยินดี…”
คำพูดที่เหลือฉินสือโอวก็พูดไม่ออกแล้ว เพราะเสียงตึงตังที่ดังขึ้นมา วินนี่เดินออกมาจากในห้องแล้ว
ออกมาจากห้องยังไม่เท่าไร แต่วินนี่… สวมเครื่องประดับเทพีแห่งรัตติกาลครบชุด…
ฉินสือโอวถึงกับนิ่งอึ้งพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
…………………………………………………
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 615 สาวน้อยขี้อวด
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!