พืชเขียวขจีสูงชะลูดที่ปลูกอยู่ในกะละมังสูงกว่าสองเมตรแตกใบเป็นแฉกขอบใบหยักแผ่นใบเป็นรูปหอกยาวสิบกว่าเซนติเมตรเจริญงอกงาม
ฉินสือโอวไม่ค่อยคุ้นเคยกับพืชชนิดนี้แต่ฟังจากการเตือนที่จริงจังของเบิร์ดแล้ว เขานึกถึงพืชชนิดหนึ่งโดยสัญชาตญาณ “อย่าบอกนะว่านี่คือไอ้ต้นกัญชาบ้านั่น!”
เบิร์ดพักหน้าอย่างแน่วแน่ นีลเซ็นพูด “ใช่ครับ นี่คือต้นกัญชาที่ยังไม่โตเต็มที่ บ้าจริง โรงงานกลายเป็นสวนปลูกกัญชาตั้งแต่ตอนไหน? พวกเราไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรสักนิดเลย!”
ฉินสือโอวก็คิดไม่ถึงว่าที่ตัวเองมาตรวจดูอย่างไม่ได้ตั้งใจจะมาพบกับสิ่งนี้ เขาเข้าไปดูใกล้ๆ พืชลึกลับที่ขนส่งมาในประเทศอย่างประหลาดใจมาก
อันที่จริงที่แคนาดาการปลูกกัญชาในที่ร่มกลายเป็นวิธีผลิตกัญชาแบบใหม่ของพ่อค้ายา การผลิตวิธีนี้เรียกว่าไร่กัญชาในร่ม
ไร่กัญชาในที่ร่มเริ่มปรากฏที่ชายฝั่งทางตะวันตกของแคนาดาและชายฝั่งทางตะวันตกของอเมริกาและเมืองนิวฟันด์แลนด์ก็สามารถพูดได้ว่าเป็นแหล่งกำเนิด
ฉินสือโอวไม่กล้าชะล่าใจหลังออกมาจากโรงงานแล้วก็โทรบอกโรเบิร์ตว่าเขาสงสัยว่าจะมีการปลูกกัญชาที่ในโรงงานร้าง
พอได้รับข่าวโรเบิร์ตก็ขับรถตำรวจมาที่โรงงานเคมีชุนเทียนทันที พอเห็นฉินสือโอวเขาก็ถาม “พวก ทำไมนายสงสัยว่ามีการปลูกกัญชา?”
ฉินสือโอวอธิบาย “จะว่าไปแล้วก็บังเอิญช่วงนี้ทุกคนต่างถือโอกาสช่วงน้ำลดไปเก็บเพรียงตีนเต่าใช่ไหม? นายก็รู้ว่าฉันชอบกินสิ่งนี้มากและที่ฟาร์มปลาของพวกเราก็คนเยอะเพรียงตีนเต่าแค่นิดเดียวไม่พอกินฉันก็เลยอยากหาที่คนน้อยๆ มีเพรียงตีนเต่าเยอะไปเก็บ”
“สุดท้ายฉันก็เลือกที่ลาดชันด้านหลังโรงงานเคมีตอนที่ฉันเตรียมลงไปก็เห็นมิเตอร์ไฟฟ้าของโรงงานเคมีนี้พอดี ตอนนั้นเข็มมิเตอร์ขยับเร็วมากชัดเจนว่านี่ไม่ปกติ มันใช้ไฟฟ้าเยอะเกินไปฉันเลยอดสงสัยไม่ได้ว่าที่นี่ทำธุรกิจสกปรกอะไรกัน!”
เหตุผลของเขาเป็นไปไม่ได้เท่าไรเพราะแค่โรงงานร้างใช้ไฟเยอะเกินก็สงสัยว่าปลูกกัญชาเลย? แต่ที่นิวฟันด์แลนด์เหตุผลนี้ใช้ได้
การปลูกกัญชาในที่ร่มต้องมีเครื่องมือเพาะปลูกที่สมบูรณ์ประกอบด้วยห้องที่ภายในมีโคมไฟสว่างประสิทธิภาพสูง ระบบรดน้ำอัตโนมัติ และระบบระบายอากาศที่ยอดเยี่ยมเป็นต้น
อุปกรณ์พวกนี้ต้องใช้กำลังไฟฟ้ามากเป็นพิเศษดังนั้นสิ่งก่อสร้างใดที่ใช้ไฟฟ้าเยอะอย่างไม่มีเหตุผลที่เข้าใจได้ก็สามารถถูกสงสัยว่าด้านในปลูกกัญชา
ได้รับคำตอบจากฉินสือโอวแล้วโรเบิร์ตก็ไปตรวจดูที่มิเตอร์ด้วยท่าทีเคร่งขรึม
พลังงานไฟฟ้าของเมืองเล็กๆ ลากผ่านสายเคเบิลที่ก้นทะเลมาจากนครเซนต์จอห์น ดังนั้นค่าไฟเลยไม่มีความเกี่ยวข้องกับเมืองเล็กๆ ในเมืองไม่สามารถรู้ได้ว่าการใช้ไฟฟ้าของบ้านหรือผู้ใช้คนไหนมีความเปลี่ยนแปลงอะไร
ดูอย่างตอนนี้โรงงานเคมีร้างใช้ไฟฟ้าเยอะขนาดนี้ชัดเจนว่าต้องมีปัญหา โรเบิร์ตเห็นด้วยกับคำพูดของฉินสือโอวแล้วก็โทรหาสำนักงานตำรวจกลางของนครเซนต์จอห์นให้พวกเขารวบรวมตำรวจปราบปรามยาเสพติดมาตรวจสอบเรื่องนี้
อันที่จริงการทำให้แน่ใจว่าในโรงงานเคมีมีกัญชาหรือเปล่านั้นง่ายมากแค่ดำเนินการตรวจดูหน่อยเท่านั้น
แต่โรเบิร์ตไม่สามารถทำแบบนี้ได้ อันดับแรกตามกฎหมายแคนาดาไม่สามารถบุกรุกทรัพย์สินส่วนบุคคลได้ เขาไม่มีหมายค้นก็ไม่มีสิทธ์เข้าไป
สอง อาชญากรมักจะชั่วช้าโหดเหี้ยม กำลังปืนล้ำหน้ากว่าตำรวจเมืองเล็กๆ อย่างแน่นอน ถ้าโรเบิร์ตเข้าไปก็เสี่ยงเกินไป
จะให้ตำรวจธรรมดาเสี่ยงไปปราบปรามยาเสพติดนั้นเป็นไปไม่ได้และนี่ก็เกี่ยวกับสถานการณ์ในแคนาดา มีหน้าที่อะไรก็ทำสิ่งนั้นไม่ใช่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดไม่มีคำสั่งพิเศษก็ไม่สามารถไปยุ่งกับปัญหาการปลูกสิ่งและค้าเสพติดได้ นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มีการค้ากัญชาอย่างบ้าคลั่งในแคนาดา
สำนักงานกลางตำรวจเมืองเซนต์จอห์นให้ความสำคัญกับปัญหานี้มาก ไม่นานก็มีเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอคลำหนึ่งบินมาอย่างเร็ว พวกตำรวจยังไม่สามารถเข้าโรงงานเคมีได้ต้องหาหลักฐานก่อน
หาหลักฐานอย่างไรล่ะ? ง่ายมากก็เหมือนที่ฉินสือโอวเห็นในห้องใต้ดินมีแสงไฟมากมายเพราะการเพาะปลูกกัญชาต้องใช้แสงส่องมากพวกพ่อค้ายาต้องใช้หลอดไฟส่องกัญชากระตุ้นการเติบโตของพวกมัน
ทุกคนต่างรู้ความร้อนของหลอดไส้นั้นน่ากลัวสามารถทำให้ภายในห้องร้อนระอุมาก เช่นนี้แค่เพียงใช้เครื่องตรวจจับรังสีอินฟราเรดตรวจดูก็พอแล้ว เฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอคลำนี้ติดตั้งเครื่องตรวจจับรังสีอินฟราเรดที่ไวต่อความรู้สึกสามารถทะลุผ่านชั้นคอนกรีตหนาห้าเมตรและชั้นดินหนาสิบเมตรได้
เฮลิคอปเตอร์บินร่อนอยู่สองรอบแล้วร่อนลงจอดไม่ไกล ตำรวจปราบปรามยาเสพติดที่สวมหมวกเหล็กมือถือปืนกลมือหรือปืนสั้นกลุ่มหนึ่งพุ่งออกมาปืนกลมือ
โรเบิร์ตคุยกับหัวหน้าตำรวจไม่กี่ประโยคแล้วพาฉินสือโอวไป ตำรวจคนขาวคนนั้นถามอย่างเข้มงวด “ขอถามหน่อยครับว่าพวกคุณเฝ้าดูโรงงานนี้นานแค่ไหนแล้ว พบอะไรบ้างไหม?”
ฉินสือโอวส่ายหน้าทำเป็นไม่เข้าใจสถานการณ์ของโรงงานแล้วพูด “พวกผมก็เพิ่งสังเกตเห็นวันนี้ ปกติไม่มีคนเข้าออกที่โรงงานแห่งนี้เท่าไร”
หัวหน้าทีมตำรวจพยักหน้าขอบคุณเขาแล้วโบกมือ พวกตำรวจปราบปรามยาเสพติดจูงสุนัขกระแทกเปิดประตูใหญ่มุ่งไปทางโรงงานสุดท้าย
เรื่องหลังจากนั้นเรียบง่ายมากเข้าไปที่ชั้นใต้ดินของโรงงานแล้วพบกัญชาพวกนั้น พวกตำรวจปราบปรามยาเสพติดก็อายัดโรงงานเคมีชุนเทียน
ฉินสือโอวถามโรเบิร์ต “พวกเขาจับเจ้าของกัญชาได้ไหม?”
โรเบิร์ตส่ายหน้าอย่างท้อใจพลางพูด “ไม่ได้ ฝ่ายตรงข้ามเจ้าเล่ห์มากใช้ปัญญาประดิษฐ์ทำระบบเพาะปลูกทั้งหมด เพียงแค่ใช้เวลาตรวจดูระบบสักระยะหนึ่งก็พอไม่ต้องอยู่ที่นี่”
หัวหน้าทีมตำรวจมาขอบคุณเขาตามมารยาทพร้อมพูดถึงเบาะแส “พวกเราจะอายัดโรงงานนี้ไว้และจับกุมผู้รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องทันที อีกอย่าง คุณทั้งสองช่วยแจ้งชาวเมืองไม่ให้เข้าใกล้ที่นี่ในช่วงนี้”
แม้ว่าภายในประเทศแคนาดาทั้งหมดจะมีการโต้แย้งกันเรื่องกัญชาแต่การใช้กัญชานอกเหนือจากทางการแพทย์ถือว่าผิดกฎหมาย ตามกฎหมายแล้วการครอบครองกัญชาไม่เกินสามสิบกรัมมีโทษจำคุกหกเดือนปรับหนึ่งพันดอลลาร์ ปลูกกัญชามีโทษจำคุกสูงสุดสิบสี่ปี
ตามจำนวนกัญชาที่ปลูกในห้องใต้ดินถ้าเจ้าของถูกจับได้ต้องต้องโทษจำคุกสิบสี่ปีอย่างหลบเลี่ยงไม่ได้
เจ้าของโรงงานเคมีชุนเทียนก็ซวยไปด้วยถึงเขาจะไม่รู้เห็นกับเรื่องนี้อย่างน้อยเขาก็รักษาโรงงานเคมีไว้ไม่ได้ รัฐบาลแคนาดาจริงจังกับการตรวจสอบการปลูกกัญชาในร่มมากไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรสิ่งก่อสร้างที่ใช้ปลูกกัญชาก็ต้องถูกอายัดเป็นของประเทศ
ทำลายกัญชาที่มีในห้องใต้ดินทั้งหมดแล้วพวกตำรวจปราบปรามยาเสพติดคนอื่นๆ ก็นั่งเฮลิคอปเตอร์ออกจากเกาะแฟร์เวลไป เหลืออยู่จัดการงานที่เหลืออีกไม่กี่คน
ฉินสือโอวเดินไปก่อนที่จะมีคนมุงดูระหว่างทางขณะเดียวกันก็กำชับโรเบิร์ตไม่ให้แพร่งพรายว่าตัวเองเป็นคนแจ้งตำรวจ เขาไม่อยากไปท้าทายพ่อค้ายาที่โหดเหี้ยมพวกนั้น ถ้ามาเอาคืนก็คงวุ่นวาย
กลับถึงบ้านฉินสือโอวก็เปิดท้ายรถแล้วเอาต้นกล้าสีเขียวขจีออกมาจากด้านใน เป็นต้นกล้ากัญชา
……………………………………..
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 586 ปิดโรงงานเคมี
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!