ฉินสือโอวโบกมือให้ตั๋วตั่วแนะนำเธอให้รู้จักกับเชอร์ลี่ย์
แม้บางครั้งจอมโลลิจะแสดงออกเป็นสาวห้าวอยู่บ้าง แต่ส่วนมากก็เชื่อใจได้ วินนี่กำลังบรรยายความเป็นกุลสตรีของเธอ ฉินสือโอวรู้สึกว่าไม่ค่อยสำเร็จเท่าไรแต่ให้เธอดูแลตั๋วตั่วก็ยังเหมาะสมมาก
ตั๋วตั่วยืนอยู่ข้างๆ จอมโลลิอย่างกลัวๆ จอมโลลิยื่นมือไปหาเธอ หนูน้อยหันหน้ากลับไปมองแม่พอเห็นรอยยิ้มของแม่ก็วางมือเล็กๆ ลงในมือของเชอร์ลี่ย์อย่างกล้าหาญ
กอร์ดอนตบอกพูดขึ้นมาสุ่มสี่สุ่มห้า “คนมาใหม่ ฉันจะแนะนำตัวให้นายรู้จัก ฉันคือพี่ใหญ่ของที่นี่… โอ้ย เจ็บๆๆ เชอร์ลี่ย์ เธอมันบ้า…”
เชอร์ลี่ย์มือไวอย่างกับลมยื่นมือไปบิดหูลากกอร์ดอนมาด้านหน้าแล้วพูดด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา “นายเป็นอะไร? พี่ใหญ่? นายทำไมไม่บอกล่ะว่านายเป็นเครื่องอินเตอร์คอม? ต่อไปอยู่ที่นี่กับพี่สาวต้องนอบน้อม เข้าใจไหม?”
ชาร์คน้อยเห็นตั๋วตั่วน่ารักก็หัวเราะฮ่าฮ่าพลางพูด “สวัสดี น้องสาวตัวน้อยฉันเป็นพี่ชายของหนูนะ ฉันจะดูแลหนูให้ดี… โอ๊ย บ้าเอ้ย! เชอร์ลี่ย์ เธอบิดหูฉันทำไม?”
เชอร์ลี่ย์รีบปล่อยมือและยักไหล่พูด “ขอโทษทีชาร์ค ฉันชินแล้ว”
พูดจบเธอก็หันมาจูงตั๋วตั่วออกไปอย่างเชิดๆ ชาร์คน้อยด่าออกไปอย่างไม่พอใจ พ่อเขาอยู่ข้างๆ พอดีเลยตบไปที่ท้ายทอยเขาหนึ่งฉาดแล้วพูดอย่างเกรี้ยวกราด “อย่าด่าใครหยาบคาย! พระเจ้าท่านรู้ เด็กเวรถ้าครั้งหน้าให้พ่อได้ยินแกพูดคำหยาบอีกจะไม่ทำความสะอาดกางเกงที่เต็มไปด้วยอึของแกให้!”
ซีมอนสเตอร์เดินมาตำหนิชาร์ค “ดูๆ ดูเอาเถอะ แบบนี้นายจะสั่งสอนลูกให้ดีได้อย่างไร? นายไม่ชอบให้ลูกพูดคำหยาบแต่ทำไมตัวนายเองถึงพูดจาหยาบคาย?”
ชาร์คน้อยพยักหน้า ใช่แล้วๆ คุณลุงซีมอนสเตอร์พูดได้ดีจริงๆ
ซีมอนสเตอร์พูดต่อ “ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคืออย่าพูดคำหยาบคาย เด็กเวรอะไรพวกนี้น่ะต้องถูกตี! อย่าพูดเยอะ จับเขาได้ครั้งหนึ่งก็ตีครั้งหนึ่ง ตีจนต่อไปก่อนเขาจะอ้าปากด่าใครต้องนึกถึงความโหดของนายขึ้นมาก่อน!”
ชาร์คน้อยร้องครวญคราง เจ้าบ้านี่ทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ นายไปตีลูกนายไป พ่อใช้คำพูดเป็นอาวุธสั่งสอนฉันแล้วเกี่ยวอะไรกับนายด้วย?
ในสนามครึกครื้นเหมาเหว่ยหลงเห็นพวกเขาพูดคุยหัวเราะกันครื้นเครงบนใบหน้าก็เผยความอิจฉาพลางพูดกับฉินสือโอว “ความสัมพันธ์ของนายที่นี่ดีจริงๆ ฉันรู้สึกเหมือนว่าพวกนายเป็นครอบครัวเดียวกันเลย”
ฉินสือโอวพูดตามปกติ “เพื่อนรัก ใจคนเรามันมีความรู้สึก นายดีกับเขา เขาก็ดีกับนายเป็นธรรมดา พวกเราไม่ได้เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เราเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ!”
นีลเซ็นหยิบเบียร์หิมะของนิวฟันด์แลนด์มาสองขวดให้ฉินสือโอวและเหมาเหว่ยหลง ทั้งสองนอนพิงอยู่ที่ราวบันไดของบ้านมองแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าทั้งสี่ทิศของฟาร์มปลา ไม่พูดไม่จากันชั่วขณะ ฉินสือโอวรอให้เหมาเหว่ยหลงพูดส่วนเหมาเหว่ยหลงก็ไม่รู้จะพูดอะไร
ดื่มเบียร์หมดไปเหยือกหนึ่ง ฉินสือโอวนั่งคร่อมที่ราวบันไดแล้วถาม “แกไม่อยากพูดอะไรกับฉันหน่อยเหรอ?”
เหมาเหว่ยหลงจำใจหัวเราะ “มีอะไรให้น่าพูดล่ะ น้ำเน่าเหลือเกิน ฉันอยากจะสู่ขอหลิวซูเหยียน ทางบ้านฉันหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่เห็นด้วย ยังจัดแจงคู่เดตไว้ให้ฉันอีกคนหนึ่ง ฝ่ายหญิงนายก็คงรู้จัก ชื่อจงฉูชู่ เป็นสาวแอ๊บแบ๊วคนหนึ่ง”
ฉินสือโอวนิ่งไปแล้วหัวเราออกมา “หญิงสาวคนนี้ฉันรู้จักจริงๆ เธอเคยมาที่เกาะแฟร์เวล แม้ว่าเธอจะชอบแอ๊บแบ๊วแต่ฉันรู้สึกว่าเด็กคนนี้ไม่เลวเลยนะ”
เหมาเหว่ยหลงถอนหายใจพลางส่ายหน้า “ไม่รู้สึกอะไรด้วยเลย อันที่จริงฉันรู้จักสาวสวยเยอะนะ เล่นๆ กับพวกเธอน่ะไม่มีปัญหาหรอกแต่ถ้าคิดว่าจะต้องใช้ชีวิตร่วมกับพวกเธอจริง อย่างนั้นฉันคงเป็นบ้า!”
จุดนี้ทั้งสองคนเป็นเหมือนกัน เมื่อก่อนที่เมืองไหเต่า ฉินสือโอวไม่ได้รันทดถึงขนาดจะหาแฟนไม่ได้ อย่างไรเสียก็เสียก็เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ บอกสถานะไปก็ยังยอดเยี่ยมมาก ถ้าอาศัยแบคอัพก็เป็นถึงหนึ่งในสองบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่
แต่ฉินสือโอวมีมาตรฐานในการคบหาผู้หญิงนั่นคือหลังจากสนิทกันแล้วจะคิดดูว่าทั้งสองคนจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นสิบๆ ปีอย่างเข้ากันได้ดีหรือไม่ เป็นการจำลองอนาคตนั่นเอง
ล้วนเป็นเช่นนี้ หญิงสาวเหล่านั้นล้วนไม่สามารถจับมือร่วมกันไปทั้งชีวิตได้ จนต่อมาได้มาเจอกับวินนี่ที่เดิมทีเขาถูกดึงดูดด้วยความสวยสง่าของเธอเป็นรักแรกพบโดยแท้ แต่หลังจากได้รู้จักกันเขารู้สึกว่าวินนี่คือผู้หญิงที่เหมาะสมที่จะอยู่กับเขาทั้งชีวิตคนนั้น
แน่นอนว่าถ้าจะพูดว่าฉินสือโอวใช้รูปร่างหน้าตาในการเลือกคนก็ไม่ผิด ผู้หญิงแบบวินนี่จะมีผู้ชายที่ไหนปฏิเสธได้?
และก็แน่นอนว่าคำพูดนี้ไม่สามารถพูดอย่างเด็ดขาดเกินไปได้ เหมาเหว่ยหลงอาจจะปฏิเสธดูอย่างตอนเรียนที่เขาชอบส่งเสื้อไหมพรมไปขอความรักจากนักเรียนสาวนั่นคือเขากำลังเล่นสนุก อย่างไรเสียก็เป็นคุณชายองครักษ์ผ้าแพรเมืองหลวง ผู้หญิงแบบไหนจะรอดมือเขาไปได้?
“แกมีความรู้สึกกับหลิวซูเหยียนเหรอ? ตั๋วตั่วคืออะไรกัน?” ฉินสือโอวถามเน้น
เหมาเหว่ยหลงยิ้มอย่างจนใจ “ใช่สิ ฉันมีความรู้สึกต่อเธอมาก แกไม่รู้หรอกว่ารู้สึกมาก! แกก็รู้ว่ามีบางครั้งที่ฉันโง่ เดิมทีฉันแค่รู้สึกว่าหลิวซูเหยียนเซ็กซี่ มีครั้งหนึ่งตอนที่ฉันจีบเธอเพื่อนของเธอคนหนึ่งพูดว่ากระเป๋าของหลุยส์วิคตองที่ใหม่สวยมาก ฉันพูดเหยียดหยามไปว่า ‘SCARไม่ได้น้อยสวยไปกว่ากระเป๋าพังๆ นั่น’…”
“แกมันเสแสร้งจริงๆ!” ฉินสือโอวอดที่จะขัดจังหวะเหมาเหว่ยหลงไม่ได้
SCAR คือตัวย่อของ SOF-Combat-Assault-Rifle เรียกเต็มๆ ว่า ‘ปืนไรเฟิลจู่โจมสำหรับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ’ ที่ FNH บริษัทผู้ผลิตอาวุธปืนที่มีชื่อเสียงของประเทศเบลเยียมสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการตามแผนการประกอบอาวุธของหน่วยปฏิบัติการพิเศษกองทัพสหรัฐ เป็นปืนไรเฟิลรุ่นใหม่ที่สุดยอดออกมาไม่กี่ปีแต่มีชื่อเสียงมากในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบเกี่ยวกับการทหาร
อย่างที่เหมาเหว่ยหลงพูดปืนนี้สวยงามมาก ใชการออกแบบด้วยระบบสำเร็จรูปกระฉับกระเฉงเป็นอย่างมาก
เหมาเหว่ยหลงหัวเราะแล้วพูดต่อ “ตอนนั้นผู้หญิงคนอื่นๆ ต่างถามฉันว่า SCAR คือกระเป๋าแบรนด์เนมเจ้าไหน มีแต่หลิวซูเหยียนที่หัวเราะและตอบกลับมาประโยคหนึ่ง แกรู้ไหมว่าเธอตอบว่าอะไร?”
“เธอพูดว่า SCAR เป็นชื่อของปืน?” ฉินสือโอวเดา
เหมาเหว่ยหลงส่ายหน้า “ไม่ เธอบอกว่าRFBสวยกว่า”
RFB คือตัวย่อของ ‘ปืนไรเฟิลบุลพัป’ ปืนบุลพัปที่วิจัยผลิตโดยบริษัทอุตสาหกรรมซีเอ็นซีเคลเทค ความโดดเด่นของปืนนี้ก็คือ ‘ความสวยงาม’ ถูกยอมรับว่าเป็นปืนมาตรฐานที่พวกสาวสวยในภาพยนตร์ฮอลลีวูดจะใช้กันในอนาคต
ปืนนี้ยังไม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนการผลิต เพียงแค่เผยโฉมในวงการพัฒนาปืนไม่กี่ครั้งเท่านั้น คนที่รู้จักปืนนี้ได้ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ อย่างน้อยฉินสือโอวก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าปืนนี้คืออะไร
“จากนั้นฉันก็รู้สึกว่าระหว่างเรามีสิ่งที่เหมือนๆ กันอยู่ จากนั้นฉันก็ตั้งใจไปหาเธอไม่กี่ครั้ง ยิ่งรู้จักเธอมากขึ้นฉันก็ยิ่งชอบเธอ มีครั้งหนึ่งฉันลองคิดภาพดูว่าถ้าฉันกับเธอใช้ชีวิตร่วมกันมันจะเป็นอย่างไร? ที่ฉันคิดได้คือนั่นจะต้องดีมากๆ แน่ๆ ก็เหมือนแกกับวินนี่แบบนั้น” เหมาเหว่ยหลงพูดไปตามความปรารถนา
“เธอแต่งงานแล้วหรือว่าอย่างไร เธอมีลูกแล้วหรือเปล่าคนที่บ้านแกถึงไม่เห็นด้วย?” ฉินสือโอวมองเหมาเหว่ยหลงด้วยความเห็นใจ
เหมาเหว่ยหลงมองเขาพลางยิ้มแล้วพูด “จำที่ฉันพูดประโยคแรกได้ไหม? ‘น้ำเน่ามาก’ หลิวซูเหยียนเป็นแม่เล้าในไนต์คลับ ตอนที่ฉันเจอเธอครั้งแรกคือตอนที่ฉันพาพวกเพื่อนๆ ไปฉลอง ตอนนั้นผู้หญิงทุกคนในนั้นล้วนเป็นผู้หญิงที่เธอพามา”
………………………………
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 575 น้ำเน่า
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!