ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 551 เริ่มต้นพิธีบูชาทะเล เริ่มต้นเทศกาลจับปลา

ช่องทางการจัดหาอาหารทะเลของบัตเลอร์กระจายอยู่ทั่วชายฝั่งตะวันออกอเมริกา โดยมีนิวยอร์กเป็นศูนย์กลาง แผ่ขยายไปทางชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก
มีช่องทางไว้ในมือ การติดต่อสื่อสารก็เป็นเลิศ มนุษยสัมพันธ์ของบัตเลอร์ในแวดวงอเมริกาจึงไม่แย่อย่างแน่นแน เพื่อนของเขาในเมืองอย่างไมอามีมีไม่น้อย
ฉินสือโอวก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับการเลือกไมอามีเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายอาหารทะเล เพราะว่านั่นเป็นถิ่นของบิลลี่ แม้ว่าบริษัทโอดิสซีย์ มารีน เอ็กซ์โพลเรชั่น ของพวกเขาจะทำงานที่เกี่ยวกับการกู้ซาก แต่ต่างก็เกี่ยวข้องกับทะเล ความสัมพันธ์ของพวกเขากับพ่อค้าอาหารทะเลเองก็ค่อนข้างดี
บัตเลอร์และฉินสือโอววางแผนกันว่าจะหาที่พักในไมอามีสักที่ จากนั้นฉินสือโอวก็ขนส่งอาหารทางจากทางนี้ไปยังไมอามี บัตเลอร์ติดต่อกับโรงแรมและภัตตาคารระดับสูงเพื่อทำการขาย
“แม้ว่าฉันยังเข้าใจไม่ลึกซึ้งพอ แต่ว่าเพื่อน ฉันต้องขอยอมรับว่านายเป็นคนที่มองการณ์ไกลคนหนึ่งเลย ดูสิ สนามบินที่นายสร้างเมื่อตอนหน้าหนาวตอนนี้ได้ใช้งานแล้ว มันมีประโยชน์อย่างมากเลย!” สุดท้ายบัตเลอร์ก็ชื่นชมฉินสือโอวอย่างตื่นเต้น “บอกฉันหน่อยเพื่อน นายมีความตั้งใจนี้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม?”
ฉินสือโอวตอบกลับอย่างกำกวมว่า “ก็ทำนองนั้น แต่ว่าฉันแค่คิดว่าจะขายอาหารทะเลไปยังพวกเมืองออตตาวา โทรอนโต และมอนทรีออล ไม่ได้คิดว่าจะบินไกลขนาดนี้”
บัตเลอร์ตบโต๊ะตะโกนว่า “อย่าเล่นตลกกับฉันเลย เพื่อน ออตตาวา? โทรอนโต? มอนทรีออล? ไม่! ที่ชนบทเหล่านั้นจะมีปัญญากินอาหารทะเลระดับแบบนี้ของนายได้ยังไงกัน? อยู่ที่นั่นราคายกสูงไม่ได้เลย ราคาปลาแฮดดัคและปลาพอลล็อคของนายจะถูกวางไว้ในระดับเดียวกัน”
ฉินสือโอวไม่มีอะไรจะตอบ ในสายตาคนอเมริกาโดยเฉพาะคนนิวยอร์ก ทั่วทุกที่ของแคนาดาล้วนเป็นชนบท
พอได้ยินเสียงตบโต๊ะ หู่จือกับเป้าจือที่อยู่หน้าประตูก็รีบพุ่งเข้ามา ยืนจ้องเขม็งบัตเลอร์อยู่ข้างฉินสือโอว พวกมันคิดว่าบัตเลอร์และพ่อตัวเองกำลังมีเรื่องกันอยู่
“โอเคๆ เจ้าตัวเล็ก พวกเรากำลังคุยธุระกันอยู่ พวกแกอย่าใช้สายตาแบบนั้นมองฉันได้ไหม?”บัตเลอร์รีบขยับไปทางโซฟา ท่าทางของหู่จือกับเป้าจือมีโอกาสจะตะครุบเข้ามาตลอดเวลา
ฉินสือโอวนำเจ้าตัวเล็กทั้งสองมาหมอบอยู่ข้างตัวเองบนโซฟา เขาบอกว่า “อย่างนั้นก็ทำอย่างนี้แหละ นายไปติดต่อเครื่องบินขนส่งสินค้า ฉันจะไปรวบรวมชาวประมงของฉันเริ่มงาน ให้พวกเรามาพิชิตชายฝั่งอเมริกาตะวันออกด้วยกันเถอะ!”
บัตเลอร์และฉินสือโอวตบมือกัน พูดอย่างเสียดายเล็กน้อยว่า “เสียดาย WFE หกปีถึงจะจัดครั้งหนึ่ง ปีหน้าถึงเข้าร่วมได้ ไม่อย่างนั้นอาหารทะเลของพวกเราส่งไปยังสนาม WFE โดยตรง จะต้องดังเป็นพลุแตกแน่!”
WFE เป็นชื่อย่อของงานแสดงสินค้าอาหารทะเลระดับโลก ก่อตั้งเมื่อปี 1973 จัดขึ้นทุกๆ หกปี ผ่านการจัดแสดงมาแล้วสิบกว่าปี มันได้กลายเป็นงานจัดแสดงสินค้าอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลกว้างขวางมากที่สุดของโลกไปแล้ว
แต่ก็มีงานจัดแสดงสินค้าอาหารทะเลยุโรปที่จัดขึ้นสองปีครั้งที่จะจัดในปีนี้ ถูกจัดขึ้นในศูนย์แสดงสินค้าของกรุงบรัสเซลส์เมืองหลวงของเบลเยียม ระยะเวลาสามวัน ได้ข่าวว่าได้รับเชิญบริษัทกว่า 1600 บริษัทใน 144 ประเทศและภูมิภาคเข้าร่วม
แต่ฉินสือโอวไม่อยากไป ไปแล้วก็เหมือนไปร่วมเฉยๆ ไม่ได้อะไร คนยุโรปดูแล้วเหมือนจะใจกว้างแต่ที่จริงแล้วตระหนี่ ดูไปแล้วเหมือนเปิดกว้างแต่ในความเป็นจริงอนุรักษนิยม งานจัดแสดงสินค้าอาหารทะเลนี้เป็นการเปิดให้กับบริษัทส่งออกอาหารทะเลและบริษัทประมงของยุโรป บริษัทอาหารทะเลต่างประเทศยากที่จะได้การประเมินที่ดีจากที่นี่
วางแผนตกลงกันแล้ว ก็รีบเริ่มงานกันเลย คิดจะทำก็ทำเลย คิดอยากจะทำธุรกิจก็ต้องมีแรงฮึดสู้ แบบนี้
และแน่นอน นี่เป็นเพียงแค่มุมมองของบัตเลอร์ ภายในใจฉินสือโอวอาหารทะเลในฟาร์มปลาจะขายได้เท่าไหร่ไม่ได้สำคัญอะไรมาก เพราะเขาไม่ได้ขาดแคลนเรื่องเงิน
สิ่งที่ดึงดูดฉินสือโอว เพียงแค่ชื่อเสียงหนึ่งเท่านั้น ชื่อเสียงที่ฟาร์มปลาต้าฉินกระจายไปทั่วอเมริกาเหนือ
หนึ่งปีกว่าก่อนหน้า ฉินสือโอวถือพินัยกรรมมาถึงที่นี่ สืบทอดฟาร์มปลาของคุณปู่ เขายังจำคำที่เออร์บักเคยบอกเอาไว้ เขาบอกว่าตัวเองสามารถทำให้ฟาร์มปลาต้าฉินกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง สามารถทำให้ฟาร์มปลาต้าฉินฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
ตอนนี้ ฉินสือโอวก็จะทำอย่างนั้น
ได้ข่าวว่าฟาร์มปลาเริ่มทำการประมงครั้งใหญ่อีกครั้ง กลุ่มชาวประมงเองก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมา ใช่แล้ว พวกเขารับค่าจ้างจากการจ้างงานของฟาร์มปลาต้าฉิน แต่ว่าตามกฎของฟาร์มปลา ขอเพียงเริ่มมีการจับปลาขึ้น พวกเขาก็จะได้ส่วนแบ่ง
ความใจกว้างของฉินสือโอว พวกชาวประมงต่างก็ตระหนักถึงมันอย่างลึกซึ้งแล้ว พวกเขารู้ดีว่ารายได้ของฟาร์มปลาเป็นอย่างไร ซึ่งก็คือสามารถได้รับส่วนแบ่งหลายหมื่นต่อเดือนก็ไม่เป็นปัญหา!
ฉินสือโอวคิดว่านำเรือฮาวิซทออกไปจับปลาก็พอแล้ว แต่ปรากฏว่าพวกชาวประมงกลับเริ่มเตรียมของกัน ไม่ว่าจะเป็นปลา กุ้ง ปู ผลไม้ที่อยู่บนจาน กองเพลิงและโต๊ะ ดูไปแล้วเหมือนกับการกินเลี้ยงไม่เหมือนกับจะออกทะเล
ชาร์คอธิบายให้เขาฟังว่า “ก่อนที่เทศกาลจับปลาของฟาร์มปลาจะเริ่มขึ้น เพราะว่าฟาร์มปลาในแคนาดาต่างก็รับช่วงต่อจากชนพื้นเมืองอเมริกัน จึงมีชนพื้นเมืองอเมริกันบางกลุ่มที่สืบทอดวัฒนธรรมลงมาด้วย”
หลังจากเข้าใจแล้วฉินสือโอวก็หัวเราะออกมา ให้ตายสิเขายังคิดว่าแคนาดาจะเน้นวิทยาศาสตร์เสียอีก แต่ทั่วโลกก็เหมือนกันหมด ต่างก็มีความเชื่อหลงเหลืออยู่
เห็นว่าฉินสือโอวไม่ค่อยจะสนใจ ชาร์คพูดอย่างตั้งใจว่า “ไม่ บอส พวกเราไม่ได้งมงาย แต่พวกเราแสดงความเคารพและนับถือต่อมหาสมุทร ยังมี ‘พระเจ้าปกครองท้องนภาและแผ่นดิน มหาสมุทรและนรกยังคงว่างเปล่า’ ใน ‘พระคัมภีร์’ บอกไม่ผิดแน่นอน”
ที่ชาร์คพูดก็ถูก อารมณ์ของมหาสมุทรนั้นลึกลับปริศนา เป็นสิ่งที่ชาวประมงกลัวที่สุด การรักษาความนับถือต่อมันจึงเป็นเรื่องที่ดีแล้ว
พิธีบูชาทะเลเรียกอีกอย่างว่าพิธีกรรมจับปลา สืบทอดจากชนพื้นเมืองอเมริกันชาวบีโอธัคในนิวฟันด์แลนด์ หรือก็คือชาวอินเดียนแดงที่คนอเมริกันบอกกัน ในชนกลุ่มของพวกเขา พิธีกรรมจับปลาเป็นพิธีกรรมหนึ่งที่รองลงมาจากพิธีกรรมเทศกาลเก็บเกี่ยว
ตามธรรมเนียมประเพณีของชาวอินเดียนแดง กิจกรรมจับปลามักจะจัดหลังงานมงคลและงานอวมงคล หลังจากนั้นก็พัฒนาจนกลายมาเป็นพิธีบูชาทะเลเพื่อเริ่มต้นกิจกรรมจับปลา พิธีกรรมเทศกาลเก็บเกี่ยวแสดงถึงการสิ้นสุดของกิจกรรมจับปลา หลังจากชาวอังกฤษขึ้นฝั่งที่นิวฟันด์แลนด์ ชาวอินเดียนแดงเคยเชิญชวนพวกเขาให้เข้าร่วมเทศกาลนี้อย่างจริงใจ
นี่เป็นเรื่องน่าขันเล็กน้อย ชาวอังกฤษฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนพื้นเมืองนี้ แต่กลับสืบทอดขนบธรรมเนียมบางอย่างของคนอื่นมา
ชาร์คเล่าลำดับการของพิธีบูชาทะเลให้กับฉินสือโอว ที่จริงแล้วก็ง่ายดายมาก ไม่ได้มีความยุ่งยากจริงจังอย่างนั้นเท่าชาวอินเดียนแดงแล้ว
เมื่อก่อนเวลาที่ชาวอินเดียนแดงจัดพิธีบูชาทะเล ก่อนอื่นคือจะต้องสร้างเต็นท์ยางที่ท่าเรือ ทุกคนในชนเผ่าต้องโยกย้ายมาหมด จากนั้นเก็บก้อนหินใหญ่รอบๆ ชายฝั่งทะเลสร้างเป็นแท่นบูชา คนทรงนำเครื่องบูชาและเครื่องมือจับปลาวางไว้บนแท่นบูชาอย่างระมัดระวัง ว่ายบูชาต่อทะเลและอ่านบทสวดภาวนา
หลังจากสิ้นสุดพิธีบูชาทะเล หัวหน้าเผ่าทุกคนของชาวบีโอธัคจะรับฟังคำสั่งสอนจากคนทรง เตรียมพร้อมค้นหาฟาร์มปลาเพื่อทำการจับปลา
พวกเขาจะต้องอาศัยอยู่นอกทะเลสามวันสองคืน ห้ามผู้หญิงขึ้นเรือ ห้ามกินอาหารที่นำขึ้นมาจากแผ่นดิน นำติดตัวไปเพียงเครื่องมือจับปลาและน้ำจืดขึ้นเรือ จากนั้นก็จะหาวัตถุดิบในทะเลอย่างกินปลาดิบเป็นต้น สุดท้ายจะกลับมาพร้อมกับสัตว์น้ำที่อุดมสมบูรณ์
ซีมอนสเตอร์ แลนซ์และบูลให้คนยกโต๊ะไม้ขึ้นดาดฟ้าเรือฮาวิซท ชายหาดจุดกองเพลิง วางเครื่องบูชาพวกปลาค็อด กุ้งล็อบสเตอร์และปูราชินีต่างๆ ในจานบนโต๊ะไม้ เรือฮาวิซทออกจากท่า
เริ่มต้นพิธีบูชาทะเล และเทศกาลจับปลาก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว
………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset