ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 462 ไม่เคยมีมาก่อน

เหล่าชาวประมงมองฉินสือโอว พวกเขารู้ดีว่าคนจีนเกลียดการที่คนรอบข้างสูบกัญชาเสพสารเสพติด ตอนที่บูลเอากัญชาขึ้นเรือมาด้วยตามความเคยชินพวกเขาก็เลยไม่ได้แตะเลย ครั้งนี้ทั้งเหนื่อยทั้งหมดเรี่ยวหมดแรงบวกกับไม่อยากเอากลับขึ้นฝั่งอีกก็เลยเอาออกมา
พวกเขากังวลว่าถ้าฉินสือโอวเจอว่าพวกเขาสูบสิ่งนี้แล้วจะปฏิเสธรับพวกเขาเป็นลูกเรือ แบบนั้นก็แย่สิ ตอนนี้พวกเขานับถือฉินสือโอวมาก แล้วก็รู้ว่ามีแค่การติดตามฉินสือโอวเท่านั้นถึงจะหาเงินได้
ฉินสือโอวไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล เขาเห็นชาวประมงแต่ละคนกดดันก็โบกมือพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันแค่หวังว่าพวกนายจะไม่ติด เพราะฉันเชื่อว่านี่มันไม่ใช่ของดี แต่ถ้าพวกนายสูบเป็นบางครั้งตอนออกทะเลฉันก็ไม่ว่าอะไร อย่างห่วงไปเลย ฉันไม่ใช่พวกความคิดคร่ำครึอย่างพวกลาดตระเวนชายฝั่ง”
หน้าที่พื้นฐานอย่างหนึ่งของหน่วยลาดตระเวนชายฝั่งก็คือตรวจเรือที่เสพยา ตอนนี้บนบกตรวจกันเข้มงวดมาก พวกที่อยากยาก็เลยจัดเรือกลนั่งออกทะเลแล้วไปทำเละเทะในทะเล การขายยาเสพติดในทะเลก็เป็นปัญหาช่องทางขนส่งยาเสพติดที่แต่ละประเทศกำลังปวดหัวเป็นที่สุด
ขอแค่เจอว่ามีเรือจัดปาร์ตี้ในทะเล หน่วยลาดตระเวนก็จะทำการตรวจ งานแบบนั้นหากัญชาหรือสารเสพติดชนิดอ่อนได้ง่าย
พอเห็นว่าฉินสือโอวไม่ได้ห้ามข้อนี้แบบเด็ดขาดเหล่าชาวประมงก็ถอนหายใจ บูลยิ้มแบบอักอ่วน “ผมกลัวว่าคุณจะไล่พวกเราออกเพราะเรื่องนี้ พระเจ้าก็รู้ว่าตอนอยู่บนเรือฮาวิซทมีความสุขแค่ไหน พวกเราชอบที่นี่”
ฉินสือโอวยิ้มก่อนจะเข้าไปในห้องพัก ชาร์คสูบบุหรี่ให้กระปรี้กระเปร่าแล้วเข้าไปในห้องคนขับ
เรือฮาวิซทค่อยๆ เข้าเทียบท่าเรือ เรือที่ผ่านไปมาก็พากันทักทายเมื่อเห็นพวกเขา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่ท่าเรือบาสก์ เรือฮาวิซทคู่ควรกับการเป็นดาวเด่นที่สุด
ในตอนที่ฉินสือโอวเตรียมเข้าเทียบท่า เรือเร็วลำหนึ่งก็เข้ามาใกล้เรือฮาวิซทแล้วเอ่ยถาม “กัปตันฉิน?”
“ฉันอยู่นี่ มีอะไรเหรอ?” ฉินสือโอวชะโงกหัวออกมาถาม
“ช่วยมากับผมหน่อย มาที่ท่าตรงนี้” ชายหนุ่มผิวขาวบนเรือเร็วพูดยิ้มๆ “ทีแรกพวกเราเตรียมเซอร์ไพรส์อย่างหนึ่งไว้ให้คุณ ตอนนี้ดูท่าจะไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไร แต่ก็ไม่แย่นะ”
ฉินสือโอวไม่เข้าใจ แต่ก็ยังคงตามเรือเร็วไปทางท่าเรือที่ตั้งอยู่ที่ขอบ นั่นคือท่าเรือสำหรับเรือประมงขนาดเล็กถึงปานกลาง
ท่าเรือนี้มีที่จอดเรือมากมายอย่างเช่นท่าเรือบาสก์ หลักๆ แบ่งเป็นท่าเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ ท่าเรือบรรทุกสินค้าหมื่นตัน ท่าจอดเรือยอชต์ ท่าจอดเรือสินค้าธรรมดา และท่าจอดเรือประมง
ที่จอดเรือพวกนี้รับผิดชอบโดยบริษัทท่าเรือบริษัทเดียว ตอนที่เรือเข้าเทียบท่าต้องจ่ายเงิน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแพงกว่าค่าจอดรถมาก นอกจากนี้ปากท่าจอดเรือเล็กบางที่ก็ให้บริษัทประมงหรือไม่ก็บริษัทโลจิสติกส์เช่า เก็บเงินแบบสัญญา
ท่าเรือบาสก์เป็นท่าเรือประมง หลักๆ ก็รับผิดชอบการเทียบท่าของเรือประมง ที่จอดที่เกี่ยวข้องก็เลยเยอะ ตั้งแต่ท่าเบอร์หนึ่งถึงเบอร์หกล้วนให้เป็นที่จอดของฟาร์มปลา
ตอนที่เรือฮาวิซทเข้ามาใกล้ที่จอดเบอร์สี่ก็เห็นว่ากำลังสร้างซุ้มประตูอยู่ ดำเนินไปใกล้เสร็จสิ้น แต่ยังไม่แล้วเสร็จ สามารถเห็นชื่อท่าได้บนซุ้มประตูนั้น ท่าเรือฮาวิซท
“โห!”หลังจากที่เหล่าชาวประมงเห็นชื่อบนซุ้มประตูก็พากันแปะมือฉลอง การมีที่จอดเรือที่ตั้งชื่อตามเรือของตัวเองเป็นเกียรติสูงสุดของชาวประมงในทะเล
ซุ้มประตูนั้นนอกจากชื่อ ‘ท่าเรือฮาวิซท’ ยังมีลายเส้นแบบเรียบง่ายของเรือฮาวิซทด้วย ที่ด้านหลังยังมีชื่อของฉินสือโอวและชาวประมงทุกคนที่อยู่บนเรือตอนนั้น และเล่าเรื่องเหตุการณ์ช่วยชีวิตท่ามกลางพายุแบบง่ายๆ ให้ชื่อพวกเขาว่า ‘ความภาคภูมิใจของท่าเรือบาสก์’
ฉินสือโอวก็ยิ้มออกมา พวกเขารีบเอาเรือเทียบท่าแล้วถ่ายรูปให้กัน พวกชาวประมงเล่นทวิตเตอร์กันทั้งนั้น ถ่ายรูปเสร็จก็อัปกันใหญ่ ฉินสือโอวเองก็ได้แต่อัปคิวคิว ช่วงนี้เขาไม่ค่อยได้ลงอะไร ปฏิกิริยาทั่วไปของพวกเพื่อนๆ ก็เป็นท่าทางทะเล้นแบบสุดๆ
การมีสิทธิตั้งชื่อที่จอดเรือมีข้อดีอีกอย่างหนึ่งซึ่งก็คือต่อไปเวลาเรือฮาวิซทเข้ามาจอดที่ท่านี้ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ไม่ต้องจ่ายเงิน พอฉินสือโอวรู้ก็ส่ายหน้า ถ้ารู้แบบนี้แต่แรกก็ไม่ไปสโนว์ดิคแล้ว อยู่ที่ท่าเรือบาสก์ดีกว่า
หลังจากที่พวกฉินสือโอวมาที่ท่าเรือบาสก์ก็อยู่หนึ่งวัน วันที่สองรถขนส่งของบริษัทอาหารทะเลก็มาถึง
เพราะไปควิเบกจากท่าเรือบาสก์ไกลเกินไป ฉะนั้นค่าขนส่งก็เลยเพิ่มมากขึ้น ราคาของปลากุ้งตกลง แต่ก็ลดลงค่อนข้างน้อย กุ้งมังกรจะลดหนึ่งดอลลาร์ในทุกสิบปอนด์ ส่วนปลาทะเลจะลดหนึ่งดอลลาร์ในทุกห้าปอนด์
ชื่อเสียงของเรือฮาวิซทที่ท่าเรือบาสก์มีแค่ช่วยชีวิตในพายุ ชื่อเสียงเรื่องผลงานประมงยังดังไม่ถึงที่นี่ ต่อให้ดังมาถึงที่นี่ก็ไม่มีทางดังไปกว่าตำนานกู้ภัยในทะเล ฉะนั้นตอนที่ปลาของพวกเขาออกจากช่องแช่ก็ไม่ค่อยมีคนมามุงเท่าไร
กุ้งมังกรสิบเก้าตันครึ่ง ปลาแซลมอนโคโฮยี่สิบสองตัน ปลาแซลมอนชัมแอตแลนติกยี่สิบแปดตัน ปลาค็อดแอตแลนติกสี่ตัน ปลาแฮดดัคสี่ตัน ปลากระโทงร่มหนึ่งตัน นี่ก็คือที่พวกเขาได้จากการออกทะเลครั้งนี้!
ตอนนี้ราคาของกุ้งมังกรเปลี่ยนไปในแต่ละวัน ครั้งนี้กุ้งมังกรขึ้นราคาอีกแล้ว ตอนนี้ปอนด์ละสี่สิบสี่ดอลลาร์ หนึ่งกิโลเกือบๆ เก้าสิบดอลลาร์ ปลาแซลมอนโคโฮกิโลกรัมละสามสิบหกดอลลาร์ ปลาแซลมอนชัมแอตแลนติกกิโลละสี่สิบดอลลาร์ ปลากระโทงร่มกับปลาแฮดดัคราคาก็ลงมาหน่อย
ได้กุ้งมังกรหนึ่งล้านแปดแสน ปลาแซลมอนชัมทั้งสองประเภทได้มาสองล้านบวกกับปลาแฮดดัคและปลากระโทงสีน้ำเงิน รายได้ครั้งนี้สูงถึงสี่ล้าน!
ครั้งนี้เกย์มาด้วยตัวเอง เพราะฉินสือโอวบอกรายได้โดยประมาณให้เขารู้ผ่านโทรศัพท์ดาวเทียม เงินที่เข้ามาเกี่ยวข้องเยอะเกินไป ผู้ช่วยของเขาตัดสินใจเองไม่ได้
หลังจากตรวจสอบคุณภาพของกุ้งมังกรกับปลาทะเล เกย์ก็ทึ่งไป “โห พระเจ้า พวกนายไปเอาของดีมากมายขนาดนี้มาจากไหน? โอ้โห ฉันไม่เคยเจอชาวประมงที่ไหนบ้าพลังอย่างพวกนายมาก่อนเลย!”
“ฉันมีชาวประมงที่ดีที่สุดในโลก แน่นอนว่าจับได้เยอะ”ฉินสือโอวตอบด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
เกย์เขียนเช็คให้ฉินสือโอวแล้วพูดขึ้น “เพื่อน นายนี่แจ๋วจริงๆ พูดจริงๆ ตอนนี้ฉันอิจฉาพวกนายมากๆ ตอนนี้ฉันคิดอยู่ว่าควรจะปิดตลาดอาหารทะเลแล้วไปทำงานบนเรือนายดีไหม”
ฉินสือโอวถอนหายใจพลางยิ้มฝืนๆ “อย่ามาไม้นี้ดีกว่า นายแค่เห็นเราตอนเฉิดฉาย นายไม่อยากรู้หรอกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาเราผ่านมาได้ยังไง!”
เขาชี้ไปทางพวกชาวประมง “เห็นสภาพพวกเขาไหม? แย่ไม่มีอะไรเทียบ! พวกชาวประมงของฉันแต่ละคนเฉลี่ยแล้วน้ำหนักลดคนละห้ากิโล! โอ้โห ครั้งหน้าไม่เอาแล้ว พวกเราไม่ทำงานไม่คิดชีวิตแบบนี้แล้ว”
รายได้ครั้งนี้สามารถใช้คำว่าน่าทึ่งมาอธิบาย เรือประมงทะเลไกลออกไปครึ่งปีรายได้ถึงสี่ห้าล้านก็ไม่เลวแล้ว ประเด็นคือฉินสือโอวมีแต่ปลาราคาสูงๆ ถ้าไม่มีของดีอย่างจิตสำนึกโพไซดอนก็ไม่มีทางจับปลาเเซลมอนแปซิฟิกที่มีราคาได้มากมายขนาดนี้
แต่เพื่อรายได้พวกนี้ ฉินสือโอวทุ่มเทไปเท่าไรมีแค่เขาที่รู้ ในทุกๆ วันพลังโพไซดอนจะหมด ตั้งแต่ที่เขามาที่แคนาดา ไม่เคยเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน
คราวที่แล้วที่เขาเหนื่อยขนาดนี้ต้องย้อนกลับไปตอนที่เขายังอยู่บริษัทน้ำมันของจีน มีครั้งหนึ่งเขาต้องทำงานล่วงเวลาครึ่งเดือนเพื่อจัดการเรื่องการตรวจสอบเงินเดือนพนักงานฝ่ายบุคคลของสำนักงานใหญ่
ผลลัพธ์กับการลงแรงสัมพันธ์กัน ประโยคนี้จริงเสมอ!
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset