ไม่จำเป็นต้องถกเถียงกัน ความคิดเห็นของทุกคนต่างก็เป็นเอกฉันท์ ถ้าหากว่าหมาป่าสองตัวนี้เป็นหมาป่าขาวนิวฟันด์แลนด์จริงๆ ก็จะฆ่ามันไม่ได้ ต้องพาพวกมันกลับไปที่เทือกเขาเคอร์บัล แล้วถ้าหากเป็นไปได้ก็ต้องพยายามช่วยให้พวกมันแพร่พันธุ์ด้วย
สัตว์ป่าที่ถูกคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้วปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง แรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากเรื่องนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าการประสูติของเจ้าชายแห่งประเทศอังกฤษเลย
แต่ตอนนี้มีปัญหาที่ค่อนข้างจัดการได้ยาก นั่นก็คือถ้าปล่อยพวกมันตามสบายไม่จัดการหมาป่าสองตัวนี้ ถ้าอย่างนั้นจะทำยังไงกับเป็ดไก่และหมูในฟาร์มล่ะ? เลี้ยงมาอย่างยากลำบากตั้งหนึ่งปีเต็มๆ จะปล่อยให้หมาป่าพวกนี้กินจนหมดก็ไม่ได้เหมือนกัน
หนึ่งคนคิดไม่เท่าสามคนคิด แค่ครู่เดียวก็คิดวิธีออกมาได้ มีสิ่งที่สำคัญอยู่สองอย่าง
วิธีที่หนึ่งคือการย้ายฟาร์ม ต้องย้ายฟาร์มมาตั้งไว้ในจุดที่ค่อนข้างไกลจากป่า ไม่มีภูเขาสูงกับแม่น้ำสายเล็กเป็นทางเข้าลับ หมาป่าขาวก็เข้าออกไม่ได้แล้ว วิธีที่สองคือการใช้เนื้อจำพวกเนื้อกวาง เนื้อหมูเพื่อให้อาหารหมาป่าขาว เหตุผลที่อยู่ๆ หมาป่าสองตัวนี้ก็ลงมาจากภูเขา คงจะเป็นเพราะปีนี้บนภูเขามีหิมะตกอาหารจึงไม่มีอาหาร พอถึงฤดูใบไม้ผลิพวกมันก็คงจะกลับไปที่ยอดเขาเคอร์บัลและไม่ออกมาอีก
เมื่อแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างมีความสุข ทุกๆ คนต่างก็ค่อนข้างตื่นเต้นกับเรื่องนี้ พวกเขาพบสัตว์ป่าที่ทางการคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว อีกทั้งยังต้องพยายามคุ้มครองสัตว์ชนิดนี้ ไม่ว่าจะมองยังไงเรื่องนี้ก็เป็นเกียรติกับพวกเขา
ฉินสือโอวกับทุกๆ คน โดยเฉพาะเด็กๆ ทั้งสี่คนนั้นสัญญากันไว้แล้วว่า ไม่ว่าใครก็ห้ามเผยแพร่ข่าวการมีชีวิตอยู่ของหมาป่าขาวนิวฟันด์แลนด์ อีกเดี๋ยวก็ลบวิดีโอทิ้ง แล้วปล่อยให้ความจริงเรื่องนี้ถูกฝังไว้ในประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ทำเหมือนว่าไม่เคยพบพวกมัน ถึงจะเป็นการปกป้องที่ดีที่สุด
ทว่า ฉินสือโอวกับคนอื่นๆ ต่างก็ลืมไปแล้วว่า ที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงคนหนึ่งกลุ่ม แต่ยังมีหมีหนึ่งตัวกับสุนัขอีกสองตัวอยู่ด้วย
ในฟาร์มมีเป็ดไก่กับหมูอยู่จำนวนไม่น้อย การเคลื่อนย้ายพวกมันจึงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย ตอนกลางวันฉินสือโอวเลือกที่ตั้งใหม่ของฟาร์มไว้แล้ว อยู่ห่างจากโรงเรือนเพาะปลูกไปไม่ไกลนัก อีกทั้งที่ตรงนี้ยังใกล้กับประตูทางเข้าของฟาร์มปลาอยู่มาก ถ้าหมาป่าขาวมาที่นี่อีก พวกมันก็ต้องเผชิญกับเทพนักรบของฟาร์มปลาอย่างห่านขาวกับกวางอูฐขี้โมโหอย่างปอหลัว
แน่นอนว่าห่านขาวกับปอหลัวคงจะสู้กับหมาป่าขาวที่ขึ้นชื่อเรื่องความกล้าหาญไม่ได้อยู่แล้ว แต่เท่าที่ดูจากวิดีโอแล้ว หมาป่าสองตัวนี้มีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก พวกมันไม่มีทางที่จะยุแหย่ห่านขาวที่มีจำนวนมากขนาดนี้แน่ๆ เหมือนพวกมันจะรู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ให้พวกมนุษย์พบเจอร่องรอยของตนเอง
เมื่อเลือกสถานที่เรียบร้อยแล้ว สองขั้นตอนถัดมาก็คือการสร้างโรงเรือนและต่อเติมลวดหนาม ตอนกลางวันก็ยุ่งกับงานจนเหนื่อยแทบทนไม่ไหว ตกกลางคืนฉินสือโอวก็ยังต้องลาดตระเวนฟาร์มปลาอีกต่างหาก จึงไม่ทันได้สังเกตว่าอยู่ๆ เหล่าสัตว์เลี้ยงที่ก่อนหน้านี้มักจะเข้ามานอนกับเขาในห้องไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว
จนกระทั่งคืนหนึ่งในกลางเดือนมกราคม ระหว่างที่ฉินสือโอวกำลังสะลึมสะลืออยู่ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงร้องแหลมของหมาป่าดังมาจากที่ไกลๆ นอกจากนี้ยังมีเสียงร้องคำรามของฉงต้าที่ดังตามติดกันมากับเสียงหมาป่า รวมไปถึงเสียงเห่าที่แฝงไปด้วยความเดือดดาลของหู่จือกับเป้าจือ
“แย่แล้ว!” ฉินสือโอวตื่นเต็มตาในทันที หู่จือเป้าจือกับฉงต้าพบกับหมาป่าขาวเข้าเสียแล้ว!
หลังจากที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉินสือโอวก็รีบร้อนขึ้นมาทันที เขาเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าหลายคืนมานี้ไม่ได้เจอพวกมันเลย ก่อนหน้านี้เขาไม่ทันได้คิดให้รอบคอบ ดูท่าว่าตอนนี้พวกมันคงจะไปดักซุ่มโจมตีที่ฟาร์มแน่ๆ แล้ว
ฉินสือโอวสวมเสื้อขนเป็ดอย่างลุกลี้ลุกลน วินนี่ก็ตกใจตื่นขึ้นมาแล้วเหมือนกัน เธอโทรศัพท์ไปหาเบิร์ดกับนีลเซ็นเพื่อให้พวกเขาตามฉินสือโอวไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนเธอก็รอด้วยความร้อนอกร้อนใจ
เขาขับรถเอทีวีออกไปอย่างเร่งรีบ ฉินสือโอวมาถึงฟาร์มในเวลาอันสั้น เขาสาดไฟรถเข้าไปตั้งแต่ยังอยู่ห่างออกไปไกลๆ แค่ครู่เดียวก็มองเห็นฟาร์มที่อยู่ทางด้านหน้า
ที่ด้านข้างแม่น้ำสายย่อยจากภูเขาสูง หมาป่าขาวตัวใหญ่เปี่ยมไปด้วยพละกำลังทั้งสองตัวกับพวกหู่เป้าฉงกำลังสู้รบกันอยู่ ทั้งสองฝ่ายเริ่มสู้กันอย่างน่าเวทนา สถานการณ์น่าเป็นห่วง พวกมันต่างก็ไม่มีใครยอมใคร
ทางฝั่งหู่เป้าฉงมีฉงต้าเป็นกำลังหลัก มันโบกอุ้งเท้าใหญ่เข้าโจมตีจากเลนกลาง ปากของมันก็ส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความเดือดดาลอยู่ตลอดเวลา ร่างกายอ้วนท้วมแข็งแรงพุ่งเข้าใส่จากทั้งทางซ้ายและขวา ราวกับทหารม้าหนักในสนามรบ กล้าหาญหาใดเปรียบ!
ส่วนทางด้านหู่จือกับเป้าจือก็โจมตีขนาบข้างจากทางฝั่งซ้ายและฝั่งขวา เพียงแค่หมาป่าขาวถูกฉงต้าดึงดูดความสนใจเอาไว้ พวกมันก็จะบุกเข้าไปกัดทึ้งทันที อ้าปากออก ฟันแหลมคมสีขาวดูดุร้าย พลังการทำลายล้างเต็มเปี่ยม
กล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกายของหมาป่าทั้งสองตัวเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง ดวงตาทั้งสองข้างทอประกายความดุร้าย ขายาวทั้งสี่ข้างที่แตะอยู่บนพื้นก็ถูกยกขึ้น มันกระโดดหลบด้วยความรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าพวกมันผ่านประสบการณ์การต่อสู้มามาก
ถึงแม้ว่าจะเป็นรองเรื่องจำนวน ทว่าหมาป่าขาวก็ไม่ได้เสียเปรียบแต่อย่างใด ขณะที่กำลังต่อสู้กับศัตรูพวกมันช่วยกันคุ้มกันซึ่งกันและกัน ตีเสมอกับฉงต้าและต้านทานหู่จือกับเป้าจือด้วยท่าทางน่ายำเกรง
หู่จือ เป้าจือและฉงต้าเป็นสัตว์เลี้ยงขนาดกลาง ภายใต้สภาวะปกติพวกมันไม่มีทางสู้หมาป่าขาวโตเต็มวัยได้
ทว่าร่างกายของพวกมันได้รับการปรับเปลี่ยน จากพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนมาแล้ว คุณสมบัติร่างกายของพวกมันทั้งสามตัวมีความยอดเยี่ยมอย่างเหนือชั้น แรงระเบิดพลังที่แข็งแกร่ง มีความรวดเร็ว พละกำลังมาก ลงมืออย่างโหดเหี้ยม ในการโรมรันต่อสู้ก็สามารถหยุดยั้งหมาป่าขาวทั้งสองตัวไว้ได้ บนร่างกายของพวกมันไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงแต่กลับสามารถสร้างบาดแผลให้กับหมาป่าขาวได้หลายแผล
หมาป่าขาวต่อสู้มานานแต่ไม่ได้รับชัยชนะจึงเริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย และในตอนที่ฉินสือโอวส่องไฟหน้ารถเข้ามา พวกมันก็รู้แล้วว่าตัวเองไม่มีหวัง จึงรีบก้าวถอยหลังแล้ววิ่งกลับไป
หลังจากหู่เป้าฉงมองเห็นแสงไฟพวกมันก็สู้อย่างกล้าหาญยิ่งกว่าเดิม พอพวกมันรู้ว่าตัวเองมีคนคอยหนุนหลัง ก็ยิ่งกำเริบเสิบสานขึ้นไปอีก
แต่ฉินสือโอวไม่อยากให้พวกมันทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน พอเขาเห็นว่าหมาป่าขาวกำลังจะหนีไปแต่หู่เป้าฉงยังตามไปก่อกวนอย่างไม่ลดละ จึงตวาดขึ้นมาเสียงดังว่า “หยุดเดี๋ยวนี้ กลับมานี่!”
หู่เป้าฉงที่ฮึกเหิมจนตาแดงก็ไม่ได้ฟังความนัก พวกมันยังอยากจะออกไปโจมตีต่อ แต่เมื่อฉินสือโอวผิวปากออกมาด้วยเสียงดังกังวาน หู่จือกับเป้าจือก็กระดิกหูไปมา ส่งเสียงร้องครวญครางในลำคอต่อ แต่ในที่สุดพวกมันก็สงบลงได้ จากนั้นจึงค่อยๆ หยุดลงอย่างช้าๆ
พอไม่มีหู่จือกับเป้าจือเป็นปีกข้างที่คอยสนับสนุนแล้ว ฉงต้าเองก็ไม่กล้าเสี่ยง มันโบกอุ้งเท้าโตๆ ของตัวเองทุบลงไปบนพื้น ฉงต้ายังส่งเสียงคำรามขู่เข็ญไปให้หมาป่าขาวสองผัวเมียต่อ
หลังจากหู่เป้าฉงพากันหยุดแล้ว สองผัวเมียหมาป่าขาวก็ยังไม่ได้หนีไปทันที ตัวหนึ่งแยกเขี้ยวยิงฟันก้มหัวถลึงมองมาด้วยความโกรธแค้น ส่วนอีกตัวก็เงยหน้าขึ้นแล้วหอนออกมา พอฉินสือโอวได้ยิน กลับรู้สึกว่าเสียงหอนของมันโศกเศร้าและเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง
ต่อมาเสียงดังกังวานของปืนเอสไอจีก็ดังขึ้น นีลเซ็นกับเบิร์ดตามมาถึงแล้ว พวกเขากลัวว่าฉินสือโอวจะเสียเปรียบ จึงยิงปืนขู่มาตั้งแต่ไกลๆ
เมื่อได้ยินเสียงปืน หมาป่าขาวสองผัวเมียก็หนีไปในที่สุด พวกมันถอยกลับเข้าไปในป่า สายตายังคงจับจ้องมาที่ฉินสือโอวโดยตลอด ปากก็ร้องฮือๆ ออกมาอย่างเจ็บปวด จนทำให้ฉินสือโอวรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
หมาป่าขาวหายไปแล้ว ฉินสือโอวเข้าไปเกาหัวสัตว์เลี้ยงทั้งสามทีละตัวด้วยความรู้สึกจนปัญญา เขาถอนหายใจแล้วพูดขึ้นมาว่า “พวกแกสามตัวนี่นะ เจตนาดีแต่การกระทำร้าย! แต่ยังไงป๊ะป๋าก็ดีใจนะ ที่พวกแกโตขึ้นแล้ว ช่วยป๊ะป๋าแบ่งเบาภาระได้แล้ว”
เบิร์ดกับนีลเซ็นรีบวิ่งเข้ามาหาด้วยความรวดเร็ว พอเห็นว่าฉินสือโอวกับเหล่าสัตว์เลี้ยงทั้งสามไม่ได้รับบาดเจ็บก็รู้สึกโล่งใจ แล้วพูดขึ้นมาว่า “ดีจริงๆ ที่พวกคุณไม่เป็นอะไร แล้วหมาป่าขาวล่ะเป็นยังบ้าง?”
ฉินสือโอวตอบกลับไปว่า “มีตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บ ถูกหู่จือกับเป้าจือกัดจนเป็นแผล แต่น่าจะไม่เป็นอะไรมาก ถูกเจอตัวคราวนี้ คิดว่าต่อไปนี้พวกมันคงไม่มาที่นี่อีกแล้วล่ะ ช่างมันเถอะ กลับกันดีกว่า”
เขากำลังจะพาหู่เป้าฉงกลับ แต่ปรากฏว่าเดินไปได้แค่สองก้าว ทันใดนั้นหู่จือก็หันกลับไป มันวิ่งกระโดดสองก้าวก็ไปถึงลำธารตรงตำแหน่งทางเข้าฟาร์ม หูของมันตั้งขึ้นแล้วเห่าเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง
ขณะที่ฉินสือโอวกำลังรู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจอยู่นั้น ละอองน้ำก็สาดกระเซ็นขึ้นมา หัวสีขาวๆ ก็มุดขึ้นมาอย่างสั่นๆ ลืมตาดวงเล็กสีดำใสมองไปที่หู่จือ มันอ้าปากแล้วส่งเสียงเล็กๆ ออกมา “บ๊อกๆ!”
หู่จือลงมือในทันที ฉินสือโอวจึงตะโกนเสียงดังว่า “อย่า…”
แต่ปรากฏว่า หู่จือไม่ได้กัดเจ้าตัวเล็กจนตาย แต่คาบหลังคอของมันเพื่อลากมันขึ้นมาจากน้ำ แล้ววิ่งช้าๆ มาที่ด้านข้างฉินสือโอวจากนั้นก็วางมันลง
นี่คือลูกหมาป่าขาว ที่น่าเพิ่งจะคลอดได้ไม่นาน มันเหมือนกันกับลูกสุนัขตัวเล็กๆ ไม่มีผิด ความยาวลำตัวไม่ถึงยี่สิบเซนติเมตร ผอมแห้งแรงน้อย ขนของมันเปียกจนลู่เข้าหาตัว พอลมหนาวพัดมา ตัวของมันก็สั่นขึ้นมาทันที
ฉินสือโอวคว้าเสื้อที่เบิร์ดถอดออกมาเอาไว้จากนั้นก็ใช้มันห่มให้กับลูกหมาป่าขาว ลูกหมาป่าขาวนึกว่าเขาจะทำร้ายมัน จึงค่อยๆ อ้าปากออกเพื่อที่จะกัดเขา
แต่มันช้าเกินไป ฉินสือโอวจึงใช้เสื้อผ้าห่อมันเอาไว้ได้ก่อน ลูกหมาป่าขาวไม่ยอมลดละ มันอ้าปากกัดทึ้งเสื้อขนเป็ดอีกครั้ง คาดว่าแค่ครู่เดียวมันก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น มันจึงเลิกกัด มันขดตัวอยู่ในเสื้อขนเป็ดแล้วจามออกมา
เมื่อมองดูลูกหมาป่าขาวตัวนี้ ฉินสือโอวก็เข้าใจแล้วว่าทำไมพ่อแม่หมาป่าขาวถึงไม่ยอมจากไปเสียที เพราะพวกมันไม่อยากทิ้งลูกของตัวเองไว้ยังไงล่ะ! ถ้าไม่ใช่เพราะนีลเซ็นยิงปืนขู่ คิดว่าเพื่อลูกแล้ว หมาป่าขาวทั้งสองตัวคงจะปักหลักรบอยู่ตรงนี้อย่างสุดชีวิต!
บนตัวของลูกหมาป่าขาวเต็มไปด้วยน้ำกับน้ำแข็ง จึงไม่ควรจะอยู่ในป่าต่อ ฉินสือโอวต้องพามันกลับไปที่วิลล่าก่อนชั่วคราว
รอจนพวกเขาเดินออกไปไกลแล้ว ทางด้านหลังของเขาก็มีเสียงหอนครวญครางของหมาป่าขาวดังขึ้น ก่อนหน้านั้นพวกมันคงไม่ได้เดินไปไหนไกล แต่ยังอยู่ในป่ารอให้พวกมนุษย์เดินจากไปแล้วค่อยไปพาลูกของพวกมันกลับมา
ได้ยินเสียงหอนของพ่อแม่ ลูกหมาป่าขาวก็พยายามแหงนหน้าขึ้นแล้วอ้าปากเล็กๆ ของมันเพื่อหอนกลับไปเหมือนแมวร้อง ฉินสือโอวฟังยังไงก็ได้ยินไม่ชัด
ฉินสือโอวไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว พ่อแม่หมาป่าพวกนี้ไม่ยังไม่เหมาะที่จะทำหน้าที่ จะพาลูกหมาป่าที่ยังอายุน้อยขนาดนี้มุดเข้าไปในแม่น้ำที่หนาวเหน็บได้ยังไงกัน? ถ้าหากเขามอบลูกหมาป่าขาวให้พ่อแม่ของมัน พวกมันก็ยากที่จะคุ้มครองชีวิตของลูกหมาป่าขาวไว้ได้ เจ้าตัวน้อยต้องแข็งตายแน่ๆ!
จากการตัดสินใจในชั่วพริบตา เขาทำได้แค่พาลูกหมาป่าขาวกลับไปดูแลที่วิลล่าก่อน รอให้ผ่านไปสักสองวันค่อยพามันกลับมาส่งให้พ่อแม่หมาป่าขาว
………………………………………………………
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 401 หู่เป้าฉง VS หมาป่า
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!