ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 390 การเปิดฉากครั้งใหญ่

ตาดวงเล็กๆ ของฉงต้าที่กำลังจะเดินหนีก็เป็นประกายขึ้นมาทันที มันร้องครวญครางพร้อมทั้งโผเข้ามาแลบลิ้นเลียอย่างบ้าคลั่ง
ฉินสือโอวทั้งขัดขืนทั้งหันกลับไปมองอย่างโกรธๆ ก็เห็นวินนี่ที่กำลังหัวเราะคิกคักพร้อมกับสะบัดน้ำเชื่อมในมือ
กว่าเขาจะจัดการกับฉงต้าได้ หู่จือกับเป้าจือก็วิ่งแลบลิ้นมาด้วยความร่าเริง พวกมันสะบัดหางแล้วมองมาที่ฉินสือโอวด้วยความตื่นเต้น
“ไปเลย!” ฉินสือโอวเอาท่าทางน่าเกรงขามแบบพ่อออกมาใช้
น่าเสียดายที่ไม่ค่อยได้ผลเท่าไร พวกมันนั่งลงอย่างน่าสงสารใช้แววตาหวาดกลัวมองไปที่เขา เหมือนกับเด็กๆ ที่ถูกทิ้ง
ฉินสือโอวใจอ่อนขึ้นมาทันที เขานั่งยองๆ ลงเพื่อลูบหัวสุนัขสองพี่น้อง แต่ปรากฏว่าสองพี่น้องนั่นก็ลุกขึ้นแล้วโน้มเข้ามาใกล้กับเขาทันที พวกมันแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของเขา เลียจนน้ำเชื่อมเมเปิลหยดสุดท้ายถูกเลียจนแห้ง
“ในหนึ่งสัปดาห์นี้ ฉันจะไม่จูบกับคุณแน่ๆ !” วินนี่ปิดปากหัวเราะแล้วพูดกับเขา
ฉินสือโอวตามไปจับเธอไว้ แล้วร้องออกมาว่า “คุณฝันไปเถอะ!”
ทั้งสองคนหยอกล้อกัน ชาร์คและคนอื่นๆ เลิกวุ่นวายแล้วกลับไปจัดการกวางเรนเดียร์ต่อ
ทักษะการใช้มีดของเบิร์ดโดดเด่นมาก ฉินสือโอวไม่เคยรู้มาก่อน วันนี้ได้เห็นเป็นประจักษ์กับสายตาแล้ว
ชาร์คถลกหนังกวางเรนเดียร์ กับเครื่องในของกวางออก อีวิลสันสะบัดขวานลงไป ‘ป้าบๆ ๆ ’ ไม่กี่ครั้งก็หั่นกวางเรนเดียร์ออกเป็นชิ้นใหญ่ ต่อมาเบิร์ดก็เป็นคนลงมือ
เขานำขาหลังของกวางเรนเดียร์หนึ่งข้างวางลงไปบนเขียง มีดทหารในมือของเบิร์ดเหมือนกับผีเสื้อขยับปีก ฉินสือโอวเห็นท่าทางของเขาไม่ชัด เห็นเพียงแต่แสงสีเงินในมือของเบิร์ดที่กำลังสะบัดขึ้นลง ต่อจากนั้นเนื้อกวางที่มีความหนาบางเท่าๆ กันก็ถูกเฉือนออกมา
ทุกคนถึงกับตกตะลึง เบิร์ดเองก็เริ่มรู้สึกสนุกขึ้นมาแล้ว เขาให้นีลเซ็นช่วยจับขากวางไว้ มือของเขาถือมีดทั้งสองข้าง นักรบดาบคู่มาแล้ว ระดับความเร็วไม่ลดลงเลยแม้แต่นิดเดียว
มีดทหารของเขาพลิกม้วนไปมาอยู่บนขากวาง เนื้อแต่ละแผ่นก็ค่อยๆ ร่วงลงมา ในตอนสุดท้ายขากวางก็ถูกขูดออกจนสะอาดหมดจด ไม่เหลือเนื้อแม้แต่เส้นเดียว
“นี่คือหมัดพ่อครัวปล่อยวัวหรือเปล่า?” ฉินสือโอวถามด้วยความตกตะลึง วินนี่ใช้มือถือบันทึกวิดีโอไว้อย่างชอบอกชอบใจ แล้วรีบโพสต์ลงในทวิตเตอร์ของเธอเอง
คนอื่นๆ จัดการผักกับเนื้อกวาง ส่วนฉินสือโอวก็ไปเตรียมหม้อไฟ ยกหม้อไฟฟ้าทั้งสองใบขึ้นมาไว้บนโต๊ะ ชาร์คกลับไปเอามาจากที่บ้านอีกสองใบ เขายังไม่ได้ใช้เครื่องปรุงหม้อไฟที่เหมาเหว่ยหลงเอามาให้ จึงเป็นประโยชน์อย่างมากในคราวนี้
เนื่องจากมีคนอยู่หลายคน วัตถุดิบในการทำหม้อไฟจึงมีอยู่อย่างหลากหลาย หมูป่าที่ฆ่าเมื่อครั้งที่พ่อลูกสเตราส์มาก็มีอีกครึ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้ทาน เอามาหั่นทานด้วยกันได้พอดี แถมยังมีกระต่ายป่าสโนว์ชูในตู้แช่แข็งอีก นี่ก็เอามาจุ่มทานกับหม้อไฟได้เหมือนกัน
ชาร์คขับเรือออกทะเลไปตกหมึกกับปลาค็อดมาเล็กน้อย ฉินสือโอวอยากจะเอาปลาลิ้นหมามาจุ่มทานด้วย น่าเสียดายที่น่านน้ำริมฝั่งทะเลหนาวเกินไป ปลาที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวแบบพวกมันเลยหนีลงน้ำลึกไปแล้ว
นีลเซ็นไปที่ฟาร์มแล้วจับไก่กับเป็ดมาสองตัว แถมยังฆ่าห่านขาวมาด้วยตัวหนึ่ง ทั้งโต๊ะเต็มไปด้วยเนื้อสัตว์
เออร์บักขับรถเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อผักมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตอีกหนึ่งกองโตๆ เลือกซื้อผักสดๆ กลับมาทั้งหมด อีกทั้งพวกเชอร์ลี่ย์ก็ช่วยกันคั้นน้ำผลไม้ จนได้น้ำผลไม้มาสองขวดใหญ่เต็มๆ
ในตอนกลางคืน ด้านนอกก็มีหิมะตกโปรยปรายลงมาอีกครั้ง ชาร์คกับซีมอนสเตอร์ตอบรับคำขอของฉินสือโอว พาคนทั้งครอบครัวมาที่นี่ด้วยกัน
ฉินสือโอวยินดีให้พวกเขาเข้ามาอยู่ในอพาร์ตเมนต์ชาวประมง อยู่ด้วยกันหลายๆ คนก็ดี เนื่องจากช่วงนี้ฟาร์มปลามีการสร้างความอบอุ่นอย่างเพียงพอ ภรรยาของชาร์คกับซีมอนสเตอร์ก็พากันย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วชั่วคราว
หม้อไฟฟ้าทั้งสี่ใบเริ่มเดือด กลิ่นหอมของน้ำซุปหม้อไฟก็ลอยฟุ้งตลบอบอวลไปทั่วห้องรับแขก วินนี่กลัวว่ารสนิยมของแต่ละคนจะไม่เหมือนกันจึงแบ่งน้ำซุปออกเป็นสี่แบบ แบบแรกคือรสหม่าล่าแบบดั้งเดิม แบบที่สองคือรสซุปทะเล แบบที่สามคือน้ำซุปไก่และน้ำซุปรสอ่อนแบบที่สี่
น้ำซุปเดือดแล้ว ฉินสือโอวก็เอาเนื้อกระต่ายกับหมึกสดใส่ลงไปก่อนเพื่อเรียกรสชาติออกมา ต่อจากนั้นก็ใส่ผักลงไป ก้านผักกาดหอมกับเซลทัสถูกหั่นให้เป็นเส้นยาว ฉีกเห็ดสดกับผักปวยเล้งออกอย่างหยาบๆ หัวไชเท้ากับผักกาดขาวหั่นเป็นชิ้นๆ พอเอาผักพวกนี้ลงไปในหม้อ กลิ่นหอมก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น
วินนี่นำถ้วยน้ำจิ้มขึ้นมาวาง เธอสอนเด็กๆ ให้ใช้น้ำมันพริก ซอสถั่วเหลือง ถั่วบด น้ำจิ้มงากับงาผสมลงไปในน้ำจิ้ม ขณะเดียวกันก็ช่วยปรุงให้ฉินสือโอวด้วยหนึ่งถ้วย
ฉินสือโอวให้ทุกๆ คนดื่มน้ำผลไม้ก่อนหนึ่งแก้ว ดื่มน้ำผลไม้ก่อนทานหม้อไฟช่วยรักษาระบบย่อยอาหารได้ เพราะสามารถกระตุ้นการหลั่งสารในระบบย่อยอาหาร ช่วยในการย่อย ทั้งยังสามารถใช้บริเวณด้านบนลำไส้เล็กที่มีฤทธิ์เป็นกรด เพื่อช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส
ชาร์ค ซีมอนสเตอร์ นีลเซ็นและคนอื่นๆ ไม่ดื่ม พวกเขาพากันดื่มวิสกี้เข้าไปคนละแก้ว แล้วหัวเราะเสียงดังออกมา “บอส ต้องดื่มเหล้าสิถึงจะดี มันช่วยฆ่าเชื้อโรคกับแบคทีเรียได้นะ!”
ในสถานการณ์แบบนี้ ฉินสือโอวจะยอมแพ้ก็ไม่ได้ พอดื่มผลไม้เสร็จก็ให้เชอร์ลี่ย์ช่วยรินไอซ์ไวน์ให้ เขายกแก้วขึ้นแล้วพูดว่า “มา เหล่าสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี และเด็กๆ ที่น่ารัก ยกแก้วของพวกคุณขึ้น พวกเราจะดื่มให้แก่พระเจ้า!”
“ดื่มให้แก่พระเจ้า! ดื่มให้กับบอส!” ชาร์คและคนอื่นๆ พากันหัวเราะฮ่าๆ อีวิลสันยกแก้วใบใหญ่ของตัวเองขึ้นมาอย่างเงียบๆ แล้วดื่มลงไปรวดเดียว หลังจากนั้นก็แบะปากแล้วพูดขึ้นมาว่า “ไม่อร่อยเลย อีวิลสันชอบดื่มน้ำผลไม้มากกว่า…”
เห็นอีวิลสันดื่มวิสกี้ครึ่งขวดลงไปในครั้งเดียว ชาร์คกับคนอื่นๆ ก็พูดไม่ออก พวกเขารีบนั่งลงแล้วทานอาหารต่อทันที
ฉงต้ากำลังแทะกินกระดูกขากวางที่ตุ๋นเรียบร้อยแล้วอยู่หนึ่งชิ้น หู่จือกับเป้าจือก็อยากเข้ามาชิมบ้าง ฉงต้าก็ใช้อุ้งเท้าตบพวกมันออกไป เจ้าตัวนี้นับวันก็ยิ่งร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะแสดงออกว่าตัวเองไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น มันจึงยื่นกระดูกขากวางให้ปอหลัวกิน
ปอหลัวเบ้จมูกอย่างโกรธเคือง นี่มันน่าขยะแขยงไม่ใช่เหรอ?
วินนี่ตีก้นฉงต้าหนึ่งครั้ง เธอวิ่งวุ่นไม่หยุดทั้งตักอาหารให้เด็กๆ แถมยังต้องให้อาหารพวกหู่จือเป้าจืออีก
ด้านนอกมีหิมะตกโปรยปราย อากาศหนาวเลวร้าย แต่ในวิลล่ากลับให้ความรู้สึกร้อนระอุ พวกผู้ชายยกแก้วผลัดกันดื่ม ดื่มเหล้าอึกใหญ่ทานเนื้อคำโต บอกลาปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ บรรยากาศคึกคักร้อนแรง
“ขอให้พวกเรามีความสุขแบบนี้ตลอดไป!” เออร์บักยกแก้วเหล้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม ฉินสือโอวกับคนอื่นๆ ก็ขานรับ แล้วตะโกนเสียงดังว่า “ขอให้พระเจ้าคุ้มครองพวกเรา!”
หม้อไฟแสนอร่อยหนึ่งมื้อ ฉินสือโอวบอกลาปีแรกที่เขามาถึงเกาะแฟร์เวล
ปีนี้เป็นปีที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา เขาได้รับเงินก้อนใหญ่เป็นครั้งแรกในชีวิต ได้มีภรรยาแสนสวย ได้รับมิตรภาพจากผู้ชายหยาบกร้านอีกจำนวนหนึ่ง นี่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบเลย
ดื่มมาถึงตอนสุดท้าย ฉินสือโอวก็กอดวินนี่เอาไว้แล้วพูดอย่างเมามายว่า “ที่รักครับ เวลานี้ของปีที่แล้ว ผมไม่กล้าคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะมีวันนี้! ตอนนั้นผมถึงกับคิดว่า ทั้งชีวิตนี้ของผมอาจจะหาเมียไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ผมมีคุณแล้ว! ขอบคุณพระเจ้า! ขอบคุณคุณปู่ของผมทั้งสองคน!”
วินนี่ช่วยคีบอาหารให้เขาอย่างอ่อนโยน เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วพูดกับเขาว่า “ฉันก็เหมือนกันค่ะ พระเจ้าท่านดีกับฉันมากจริงๆ”
ใช่แล้ว พระเจ้าดีกับเขาจริงๆ ฉินสือโอวพึงพอใจกับชีวิตแบบนี้เป็นอย่างมาก…
เวลาเที่ยงคืน ทันใดนั้นบนท้องฟ้าของนครเซนต์จอห์นก็มีพลุหลายสิบดอกที่ถูกจุดขึ้น ต่อจากนั้นเมืองแฟร์เวลเองก็เริ่มจุดพลุขึ้นแล้ว ทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างเป็นประกายขึ้นมา เกล็ดหิมะที่ส่องสว่างก็ดูขาวสะอาดยิ่งกว่าเดิม…
“ปีใหม่มาถึงแล้ว ถึงเวลาที่ฟาร์มปลาจะรุ่งโรจน์ยิ่งกว่าเดิมแล้ว!” ชาร์คพูดพึมพำพร้อมรอยยิ้ม
ซีมอนสเตอร์ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “แทบจะรอไม่ไหวแล้ว ฉันอยากจะเห็นภาพฟาร์มปลาของพวกเราได้ผลเก็บเกี่ยวดีๆ ซะตอนนี้เลย จะสวยงามแค่ไหน! มันต้องสวยงามมากแน่ๆ!”
“ต้องสวยงามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนแน่นอน เพื่อนเอ๋ย ไม่ต้องสงสัยเลย ยุคใหม่ของเกาะแฟร์เวล พวกเราได้เปิดฉากมันขึ้นแล้ว!”
“นี่เป็นยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ เป็นฉากเบิกโรงที่ยิ่งใหญ่”
“อ่าฮู้ๆ! โฮ่งๆๆ! อี๊ๆ! แควกๆ! ปู้ด…”
“ใครตดน่ะ?!”
“ไสหัวไปเลย!”
……………………..………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset