ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ใช่นักบาสมืออาชีพ มีแค่มนุษย์ต่างดาวเท่านั้นที่สามารถนำมาบรรยายถึงคุณสมบัติร่างกายของฉินสือโอวได้ พวกเขาตามระดับความว่องไวของเขาไม่ทันจริงๆ รับพลังกำลังของเขาที่เกิดอย่างฉับพลันไม่ได้ อีกทั้งยังต้านพละกำลังของเขาไม่ได้อีกด้วย ตลอดการซ้อมของทีม มีแค่ฉินสือโอวที่เอาชนะได้อย่างง่ายดาย
ทำแต้มติดต่อกันได้ถึงสิบครั้งอย่างเด็ดเดี่ยว ฉินสือโอวใช้มือข้างเดียวฉีกตาข่ายบาสเกตบอลจนร่วงลงบนพื้น จอห์นสันที่อยู่ใต้ห่วงบาสหอบหายใจหนัก แล้วพูดขึ้นมาว่า “พระ พระ พระเจ้า ฉันจะพูดว่า ฉิน พระเจ้า นายควรจะไปเล่นเอ็นบีเอนะ! นายต้องเล่นบาสเอ็นบีเอได้แน่!”
คุณสมบัติร่างกายของฉินสือโอว น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านักบาสตำแหน่งกองหลังของเอ็นบีเออยู่ตั้งเยอะ ความสามารถรอบด้านที่แข็งแกร่งของเขา ไม่เพียงแต่มีความว่องไวหรือมีพละกำลังมาก แต่ว่าทุกๆ อย่างสามารถบดขยี้คู่ต่อสู้ได้ทั้งนั้น และนี่ยังไม่นับว่าเป็นความสามารถขั้นสุดของเขา…….
ฮิวจ์พูดอย่างไม่ลังเลว่า “โอเค พี่ชายน้องชายของเรา ฉันคิดว่าพวกเราปรับตัวเข้ากับทีมได้โอเคแล้วล่ะ แล้วก็ได้ยุทธวิธีมาแล้วเช่นกัน นั่นก็คือส่งบอลให้กับฉิน ส่วนพวกเราก็จะช่วยเขาบัง ช่วยเปิดช่องว่างให้เขา ที่เหลือก็ยกให้เป็นหน้าที่เขาแล้วกัน!”
ฉินสือโอวชูลูกบอลขึ้นด้วยมือข้างเดียว เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “วางใจเถอะ ส่งเจ้านี่มาให้ฉัน”
ถึงแม้จะพูดด้วยความพึงพอใจเช่นนี้ แต่ความจริงแล้ว หลายวันต่อมาฉินสือโอวก็ยังเข้าร่วมการฝึกซ้อมของพวกเขาอยู่ ถึงอย่างไรบาสเกตบอลก็เป็นกีฬาที่ใช้คนห้าคนอยู่แล้ว ต่อให้เขาเก่งกว่านี้ก็มีเขาแค่คนเดียว เขาไม่สามารถลงเล่นตั้งแต่นาทีแรกที่เริ่มต้นจนถึงนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน แล้วเอาชนะฝ่ายตรงข้ามที่มีถึงห้าคนได้ทั้งหมดหรอก
หลังกลับมาจากสกายซิตี้ได้หนึ่งสัปดาห์ ก็มีสายโทรศัพท์ที่เขาตั้งตารอจากโทรศัพท์โอเมอร์ที่โทรเข้ามา เครื่องบินถูกส่งมาแล้ว สถานที่คือท่าอากาศยานนานาชาตินครเซนต์จอห์น
ฉินสือโอวออกเดินทางด้วยความเร่งรีบ สนามบินอยู่ห่างจากเขตเมืองหกกิโลเมตร หลังจากที่เขามาถึงแล้ว เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ทั้งสองลำก็กำลังถูกนำออกมาจากเครื่องบินขนส่งพอดี
เครื่องบิน AT-802Cเป็นเหมือนกับสัตว์ร้ายที่ถูกเคลือบด้วยแล็คเกอร์สีทอง มันหมอบอยู่บนพื้นอย่างสงบนิ่ง ปีกขนาดมหึมาทั้งสองด้านกางออก หัวเครื่องบินเชิดขึ้นไปทางด้านบนเล็กน้อย ราวกับเตรียมตัวที่จะทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ทุกเมื่อ
เฮลิคอปเตอร์ AC-310 เพิ่งจะถูกปล่อยลงมา วิศวกรทั้งหลายช่วยกันกางใบพัดที่ถูกปิดไว้ให้หมุนแผ่ออกมา นกอินทรีที่สง่างามจากเมืองจีนก็โชว์ให้เห็นทุกๆ ด้านของมัน กระจกนิรภัยทั่วทุกส่วน บางครั้งก็จะเห็นเส้นโลหะ ทาลายเมฆที่สวยงามเอาไว้ด้านบน
นอกจากนี้ ที่ตำแหน่งท้องของเฮลิคอปเตอร์ก็ยังมีเรดาห์ตรวจจับรังสีอินฟราเรดแขวนอยู่ตรงนั้นอีกด้วย โอเมอร์พาฉินสือโอวเข้าไปชมบริเวณด้านในของห้องขับขี่เครื่องบินสักหน่อย เขาเปิดหน้าจอด้านหน้าแล้วพูดกับฉินสือโอวว่า “เครื่องบินทุกลำมีการทำงานที่ชาญฉลาด โดยจะใช้คอมพิวเตอร์ในการควบคุมทุกๆ อย่าง หลังจากเรดาห์ตรวจพบวัตถุก็จะตอบสนองต่อคอมพิวเตอร์จากนั้นก็จะแสดงผลผ่านบนหน้าจอ”
ฉินสือโอวลองขึ้นไปดูเครื่องบินแทรกเตอร์สักหน่อย เขาเปิดประตูเครื่องบินออก ด้านข้างมีแลนดิ้งเกียร์อยู่หนึ่งอัน โอเมอร์แย้มยิ้ม เขาดึงมันลงอย่างเต็มแรง ต่อมาก็ลากกล่องกระสุนออกมาหนึ่งกล่อง ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ทุกคนก็เข้าใจดีอยู่แล้ว
เมื่อตรวจแล้วไม่พบปัญหาอะไรก็ทดลองบินดู โอเมอร์ให้นักบินของสกายซิตี้แยกกันขับเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ทั้งสองลำก่อน ลำละสิบห้านาที จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “มิสเตอร์ฉิน คุณให้นักบินของคุณขึ้นไปลองขับได้เลยครับ”
ฉินสือโอวนิ่งอึ้งไปทันที เวรแล้ว ยังมีนักบินด้วยนี่หว่า เขาลืมเรื่องจ้างนักบินไปได้ยังไงกัน?!
โชคดีที่เขาพานีลเซ็นมาด้วย ก็เลยพูดกับเขาว่า “นีล ขึ้นไปขับเครื่องบินหน่อย”
มาถึงคราวนีลเซ็นต้องอึ้งบ้างแล้ว เขาทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้แล้วตอบกลับไปว่า “บอส ผมขับเครื่องบินไม่เป็น”
“นายไม่ใช่ทหารหน่วยรบพิเศษหรอกเหรอ?”
“ใช่ครับ ทหารหน่วยรบพิเศษ ตำแหน่งมือปืนซุ่มยิง”
“นายเป็นทหารหน่วยรบพิเศษแต่นายจะบอกฉันว่านายขับเครื่องบินไม่เป็นอย่างนั้นน่ะเหรอ?”
“ทหารหน่วยรบพิเศษก็เป็นแค่หน่วยทหารหนึ่งหน่วยเท่านั้น ไม่ใช่นักรบสารพัดความสามารถสักหน่อย ผมแค่รับหน้าที่ซุ่มยิงกับคุ้มกัน ขับเครื่องบินไม่ใช่หน้าที่ของผมแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงขับเรือยอชต์กับเรือจับปลาได้ล่ะ?”
“ปู่กับพ่อของผมเป็นชาวประมง ผมต้องขับเรือเป็นอยู่แล้ว ที่บ้านของผมก็มีเรือเหมือนกันครับ”
“แม่มเอ๊ย ไม่ต้องพูดแล้ว ขนาดแรมโบ้ยังขับเครื่องบินได้เลย แต่นายขับไม่ได้น่ะนะ?”
“บอส นี่ไม่ใช่ในหนังนะ……”
โอเมอร์ได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ เขาพยายามอย่างหนักถึงได้ไม่ระเบิดหัวเราะออกมา
ฉินสือโอวหน้าม่อยคอตก เขาโทรศัพท์ไปหาบิล บริษัทผลิตภัณฑ์ทางทะเลของเขามีนักบินอยู่ด้วย ทุกครั้งที่ซื้อเมล็ดพันธุ์หญ้าทะเลกับสาหร่ายทะเล ก็มีแต่เครื่องบินคาเมลของพวกเขาทั้งนั้นที่มาช่วยหว่านเมล็ดพันธุ์
ตอนนี้บิลกำลังติดค้างน้ำใจของฉินสือโอวอยู่ แค่สั่งไปคำเดียว เขาก็รีบพานักบินอายุห้าสิบกว่าปีคนหนึ่งมาที่นี่ทันที
“นี่คือเดลมอนท์ ฉิน อยากจะทดลองใช้เครื่องบินลำไหนเหรอ?” บิลถาม
เดลมอนท์ดูภายนอกเป็นแล้วเป็นคนหยาบๆ เขาเกาหัวจนผมยุ่งขณะที่กำลังมองไปที่เครื่องบิน AT-802C ตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที เขาพูดขึ้นมาว่า “เฮ้ นี่ยังต้องถามอีกเหรอ ต้องเป็นเครื่องบินแทรกเตอร์แน่ๆ ใช่ไหม?”
ทีละอย่างแล้วกัน ฉินสือโอวพยักหน้า เดลมอนท์ขึ้นไปบนเครื่องบิน AT-802C เร่งความเร็วบนรันเวย์เป็นเวลาสั้นๆ ทันใดนั้นหัวของเครื่องบินก็ยก แล้วทะยานขึ้นไปบนฟ้า!
ขับอยู่บนท้องฟ้า บินทะยาน เลี้ยวโค้ง เพิ่มความเร็ว ลดความเร็ว บินไต่ระดับขึ้นรวมทั้งบินด้วยท่วงท่าอื่นๆ ไปหนึ่งรอบ ในที่สุดเครื่องบิน AT-802C ก็บินลงมา “ไม่มีปัญหา เป็นเครื่องบินที่แจ่มมาก”
เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ฉินสือโอวยังขาดอยู่ก็คือนักบินหนึ่งคน ขณะที่เขากำลังโทรศัพท์หาเจนนิเฟอร์ตัวแทนจำหน่ายจากบริษัท เอ็กซ์เพรส นีลเซ็นก็ถามขัดขึ้นมาก่อน “บอส คุณต้องการนักบินใช่ไหม?”
“ถ้านายขับเป็น ก็คงไม่ขาดหรอก” ฉินสือโอวตอบ
นีลเซ็นยักไหลแล้วพูดกับเขาว่า “ผมขับไม่เป็น แต่ผมช่วยแนะนำมือดีให้คุณได้นะ! ยังจำบิ๊กเบิร์ดได้ไหม? บิ๊กเบิร์ด ฮัดสัน เบิร์ด ครูฝึกกับเพื่อนสนิทตอนที่ผมยังอยู่ที่ซีเอ็มที เขาเป็นนักบินชั้นยอด ฟังฉายาของเขาก็รู้แล้ว บิ๊กเบิร์ดไง!”
ฉินสือโอวถามกับเขาว่า “ฝีมือของเขาเป็นยังไงบ้าง? เครื่องบินที่ใช้ในการเกษตรกับเฮลิคอปเตอร์ พวกนี้ไม่เหมือนเครื่องบินรบของพวกนายนะ”
“บินได้เหมือนกันเลยครับ” โอเมอร์ช่วยนีลเซ็นอธิบายเล็กน้อย “ถ้ามิสเตอร์คนนั้นสามารถขับเครื่องบินรบและเครื่องบินทิ้งระเบิดได้ ถ้าอย่างนั้นเครื่องบินที่ใช้ในการเกษตรก็คงเป็นแค่ของเล่นสำหรับเขา ฮัดสัน เบิร์ดที่พวกคุณพูดถึง คือฮัดสัน เบิร์ดที่เป็นตำรวจหน่วยรักษาการณ์ชายฝั่งหน่วยลาดตระเวนซีจี12 ฮัดสัน เบิร์ดใช่ไหมครับ?”
นีลเซ็นไม่เข้าใจที่เขาจะสื่อ เลยตอบไปว่า “น่าจะใช่นะ ฉันคิดว่าตำรวจหน่วยรักษาการณ์ชายฝั่งก็คงไม่มีฮัดสัน เบิร์ดที่เหมือนกันเป๊ะๆ อยู่สองคนหรอกใช่ไหม? ที่ผมจะสื่อก็คือ นามสกุลนี้พบได้ไม่บ่อยนัก เขาเป็นคนที่อพยพมาจากเท็กซัสน่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็พูดถึงคนเดียวกันแล้วล่ะครับ” โอเมอร์ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ฮัดสัน เบิร์ด เขาเป็นนักบินที่ยอดเยี่ยมมาก ตอนนี้ฝ่ายบุคคลของบริษัทเรากำลังดึงตัวเขาอยู่ ถ้าพวกคุณจะลงมือ ทางที่ดีก็ต้องรีบหน่อยนะครับ”
เมื่อพูดมาขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่ต้องเลือกแล้ว ฉินสือโอวบอกใบ้ให้นีลเซ็นโทรศัพท์ไปหาเขา “เรื่องเงินเดือนให้เขาเป็นคนกำหนดเอง หรือไม่ก็ให้มากกว่าสกายซิตี้สองเท่า”
โอเมอร์พูดด้วยรอยยิ้ม “เป็นเจ้านายที่กล้าได้กล้าเสียมากครับ พูดตามตรง ผมเองก็อยากย้ายไปทำงานด้วยแล้วล่ะ”
นีลเซ็นยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทร ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น พอบอกว่าฉินสือโอวอยากจะดึงตัวเขา เบิร์ดก็ถามว่าพวกเขาจะได้ทำงานด้วยกันใช่ไหม? ถ้าได้ทำงานด้วยกัน ถ้าอย่างนั้นเรื่องเงินเดือนก็คงคุยกันได้ง่าย ภายในหนึ่งสัปดาห์ก็สามารถทำเรื่องลาออกแล้วรีบไปที่นั่นได้แล้ว
ไม่ได้คาดคิดว่า จะแก้ปัญหาเรื่องนักบินได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ โอเมอร์ทำดีจนถึงที่สุด เขาให้นักบินของสกายซิตี้อยู่ที่ฟาร์มปลาของฉินสือโอวก่อนชั่วคราว ก่อนที่เบิร์ดจะมาถึง นักบินคนนี้จะช่วยทำงานให้ฉินสือโอวไปก่อน
………………………………………
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 296 บิ๊กเบิร์ดบินมาแล้ว
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!