ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 294 บัตรแบล็ก อาเม็กซ์ ระดับแอลวี 2

หลังจากคว้าฟาร์มปลาบ้านของปลาค็อดมาได้แล้ว อาณาจักรต้าฉินก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้นอีก ฟาร์มปลาของฉินสือโอวโอบล้อมเกาะแฟร์เวลไว้จากทั้งสามด้าน ตอนนี้เหลือฟาร์มปลาอยู่สองแห่ง แห่งหนึ่งคือฟาร์มปลาแกธเธอริง อีกแห่งหนึ่งคือฟาร์มปลาของรัฐที่เขาซื้อไม่ได้
สำหรับฟาร์มปลาแกธเธอริง ฉินสือโอวยังไม่ได้วางแผนที่จะซื้อฟาร์มปลาแห่งนี้ เจ้าของที่นี่ไม่เหมือนกับรอทและกู๊ดแล็ค เขาเป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ แรกเริ่มเดิมทีที่ซื้อฟาร์มปลา เขาวางแผนไว้ว่าจะสร้างวิลล่าตากอากาศริมทะเลสักหนึ่งหลัง
แต่ปรากฏว่า หลังจากที่เขาซื้อฟาร์มปลาได้ไม่นาน โรงงานอุตสาหกรรมเคมีทั้งสองแห่งก็มาที่นี่เช่นกัน แบบนี้วิลล่าท่ามกลางธรรมชาติก็สร้างไม่สำเร็จแล้ว ใครจะอยากซื้อบ้านอยู่ข้างๆ โรงงานกันล่ะ?
ตอนนี้ฉินสือโอวไล่โรงงานทั้งสองแห่งไปแล้ว ฟาร์มปลาแกธเธอริงก็ได้ประโยชน์ไปด้วย อีกนิดเดียวก็จะสามารถเริ่มดำเนินการโครงการก่อสร้างวิลล่าได้แล้ว
ไม่ว่าอย่างไร วิวทิวทัศน์และอากาศที่เกาะแฟร์เวลก็ดีอย่างไร้ที่ติ
เมื่อกลับมาถึงวิลล่า ฉินสือโอวก็ใช้ปากกาสีแดงเขียนรวมเอาบริเวณอาณาเขตของฟาร์มปลาบ้านเกิดของปลาค็อดบนแผนที่ ที่แขวนอยู่บนผนังในห้องนอนของเขารวมเข้าไว้กับอาณาเขตของเขาเอง จากนั้นก็หยิบเอาตราประทับหินเถียนหวงมาประทับลงไปด้านบน
วันต่อมาแบรนดอนก็โทรศัพท์มาหาฉินสือโอว เขาถามฉินสือโอวว่า “นายมีเวลาแวะมาที่นี่สักครั้งไหม ฉันมีของจะให้นายน่ะ?”
“ของอะไรเหรอ?” ฉินสือโอวถาม
แบรนดอนหัวเราคิกคัก แล้วตอบเขากลับมาว่า “เป็นความลับน่ะ มาเถอะ ต้องเซอร์ไพรส์แน่ๆ”
ฉินสือโอวคิดว่าหรือว่าจะเป็นธุระเกี่ยวกับบริษัทปลาน้อยกู้ซากในมหาสมุทรกันนะ? เขารีบออกเดินทาง เมื่อมาถึงสำนักงานใหญ่ธนาคารมอนทรีออลสาขานครเซนต์จอห์น สาวผมบลอนด์รูปร่างสูงเพรียวสวยหยาดเยิ้ม ก็มารอเขาอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อมองเห็นเขา สาวสวยก็โค้งตัวนิดๆ แล้วยื่นมือไปหาเขา ฉินสือโอวจับมือทักทายกับเธอ เขามองไปข้างหน้า ก็พบกับร่องสีเนื้อที่อยู่ใต้คอเสื้อชุดทำงานของสาวสวยคนนั้น เขาแสยะปาก แอบคิดว่าผู้หญิงคนนี้ช่างไม่ระวังตัวเลยจริงๆ จากนั้นจึงรีบเงยหน้าขึ้น
ใครจะรู้ว่าหลังจากที่ทั้งสองคนจับมือทักทายกันแล้ว หญิงสาวจะใช้นิ้วมือเขี่ยฝ่ามือเขาไปสองรอบ จากนั้นจึงปล่อยมือแล้วเดินนำเขาขึ้นบันไดไป
ฉินสือโอวค่อนข้างอึดอัด เขาเข้าใจความหมายที่หญิงสาวทำมือแบบนั้น ก็เพื่อยั่วยวนเขานั่นเอง
เห็นได้ชัดว่าก้อนเนื้อชิ้นใหญ่อย่างเขานับวันก็ยิ่งเป็นที่โหยหา เมื่อเป็นแบบนี้ฉินสือโอวยิ่งต้องรักษาความใสสะอาดของตัวเอง ป้องกันไม่ให้มีเรื่องทำนองที่ว่ามีผู้หญิงพาเด็กมาเคาะประตูถามหาความรับผิดชอบจากเขาถึงหน้าบ้านได้ในภายหลัง
เขาอยากดื่มด่ำกับชีวิต ไม่ใช่ดื่มด่ำกับความวุ่นวายที่ผู้หญิงนำมาให้
ที่เขาระแวดระวังเรื่องผู้หญิงขนาดนี้ก็เพราะเงาที่วินนี่ทิ้งเอาไว้ให้เขา ผู้หญิงพวกนี้ไม่ใช่คนที่รับมือด้วยได้ง่ายๆ พวกเธอต่างก็เป็นคนฉลาดกันทั้งนั้น
เขาเข้าใจถึงอีคิวและไอคิวของตัวเองอย่างชัดเจน อย่างการเล่นเกมจำพวกจอมนางแห่งวังหลัง เขาไม่เคยสู้กับพวกผู้หญิงที่คิดแต่จะจับคนรวยได้เลยสักครั้ง เพียงแค่เอนตัวลงไปบนเตียง เขาเชื่อว่าย่อมมีราคาที่ต้องจ่ายอย่างแน่นอน
เข้ามาในห้องทำงานของแบรนดอน ฉินสือโอวยังไม่ได้พูดอะไร เขาก็ส่งบัตรสีดำของธนาคารออกมาให้เขาหนึ่งใบ
บัตรใบนี้ดูเกือบจะคล้ายกันกับบัตรแบล็ก อาเม็กซ์ของเขา สิ่งที่ไม่เหมือนกันก็คือบริเวณตรงกลางของบัตร เมื่อก่อนจะเป็นรูปเงา แต่คราวนี้ มันถูกเปลี่ยนเป็นรูปหันหน้าตรงแทน
“บัตรเครดิตของนายถูกยกระดับขึ้นแล้ว อีกทั้งตามการคำนวณของฉันแล้ว นายเป็นลูกค้า ที่เลื่อนระดับบัตรแบล็ก อาเม็กซ์ได้เร็วที่สุด” แบรนดอนพูดไปยิ้มไป เขาส่งบัตรแบล็ก อาเม็กซ์ใบเก่าของฉินสือโอว ส่งไปให้เลขาผมสีบลอนด์คนนั้น เพื่อให้เธอนำมันไปยกเลิก แล้วเปลี่ยนเป็นบัตรใบใหม่แทน
ฉินสือโอวพิจารณาดูบัตรใบใหม่ ในใจของเขามีความตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย มนุษย์เราก็เป็นอย่างนี้ ให้ความสำคัญกับพวกข้อกำหนดพิเศษและความเอ็กซ์คลูซีฟเป็นอย่างมาก บัตรแบล็ก อาเม็กซ์ใบนี้มีรูปของเขาอยู่ เมื่อหยิบออกมาใช้ ก็เป็นเหมือนอาวุธร้ายแรงของเขาจริงๆ
ฉินสือโอวที่กำลังเล่นกับบัตรใบใหม่อยู่ก็ถามขึ้นมาว่า “บัตรใบนี้มันเลื่อนระดับยังไง? แล้วยังมีเหลืออีกกี่ระดับ?”
“ใช้จ่ายเงินห้าสิบล้านในเวลาครึ่งปี บริษัทอเมริกัน เอ็กซ์เพรสก็เลยมอบบัตรที่ทำขึ้นพิเศษให้กับนาย บัตรใบนี้ไม่ได้ให้มาฟรีๆ ต่อไปนายจะต้องใช้จ่ายมากกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์ในแต่ละปี ไม่อย่างนั้นก็จะถูกลดระดับลง”
“นอกจากนี้ ข้างบนยังมีอีกหนึ่งระดับขั้น จะแสดงให้เห็นถึงระดับถัดไปของบัตร สามารถประทับลายเซ็นของนายไว้ได้ อีกทั้งนายยังสามารถเลือกรูปเองได้ด้วย อย่างเช่นรูปครอบครัวอะไรประมาณนั้น” แบรนดอนอธิบายให้เขาฟัง
เขามอบสมุดที่คล้ายกับพจนานุกรมเล่มเล็กๆ ให้กับฉินสือโอว สมุดเล่มนี้อธิบายเกี่ยวกับบัตรแบล็ก อาเม็กซ์ระดับ แอลวี2 รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่ธุรกิจแต่ละสาขาจะได้รับ
ฉินสือโอวลองอ่านดูผ่านๆ บัตรแบล็ก อาเม็กซ์ ระดับแอลวี2 มีอำนาจค่อนข้างมากเลยล่ะ เขาสามารถสั่งให้เครื่องบิน รถไฟและการขนส่งสาธารณะประเภทต่างๆ ให้ออกเดินได้ทางช้ากว่าเดิม สามารถบอกให้ภัตตาคารระดับสูงปิดบริการในวันนั้นเพื่อให้เขาได้ทานอาหารได้อย่างสะดวกสบาย
ว่ากันว่ามันทำได้กระทั่งสั่งให้เครื่องบินบินกลับ สั่งให้การแข่งขันขนาดใหญ่เลื่อนเวลาเริ่มการแข่งขันออกไปเพื่อรอเขาอะไรทำนองนั้น แต่ต้องรอให้ถึงบัตรระดับแอลวี 3 เสียก่อนถึงจะทำได้
ฉินสือโอวคิดว่า ตัวเองแทบจะไม่สามารถเลื่อนระดับไปที่ ระดับแอลวี3 ได้ เนื่องจากมีข้อกำหนดให้ลูกค้าต้องใช้จ่ายผ่านบัตรถึงสองร้อยล้านดอลลาร์ภายในหนึ่งปี ต่อไปต้องใช้จ่ายปีละสิบล้านเป็นอย่างต่ำ คิดว่าน่าจะเป็นพวกคนรวยแบบเศรษฐีตะวันออกกลางนั่นล่ะที่จะทำได้ถึงมาตรฐานแบบนี้
“บริษัทอเมริกัน เอ็กซ์เพรสกำหนดไว้ว่า หลังจากที่ลูกค้าทุกคนได้รับการเลื่อนระดับเป็นแอลวี 2 แล้วจะได้รับประสบการณ์ขั้นสุดยอดของสมาชิกฟรีหนึ่งครั้ง เป็นไงบ้าง นายอยากจะลองสัมผัสประสบการณ์นั้นสักหน่อยไหม?” แบรนดอนเอ่ยถามเขาพร้อมทั้งยิ้มจนตาหยี
ฉินสือโอวยักไหล่น้อยๆ “มีอะไรบ้างเหรอ?”
“มีประสบการณ์หลายรูปแบบ อย่างเช่น นายสามารถทานอาหารไม่ก็เล่นกอล์ฟกับเศรษฐีที่รวยเป็นอันดับหนึ่งของแคนาดาหรือไม่ก็มหาเศรษฐีชั้นเฟิร์สคลาสของอเมริกาอะไรพวกนั้นได้ สามารถขอให้นักร้องมาจัดคอนเสิร์ตส่วนตัวให้นายได้ นอกจากนี้ยังสามารถขอให้ดาราสาวสวยของฮอลลีวูดมาบริการนายได้หนึ่งคืน” แบรนดอนด้วยความใฝ่ฝันหา
ฉินสือโอวถามเขาว่า “ตอนนั้นนายเลือกอะไรล่ะ?”
ได้ยินเช่นนี้ แบรนดอนก็ก้มหน้าลงทันที เขาตอบกลับไปอย่างจนใจ “ความจริงแล้ว ฉันไม่มีบัตรแบล็ก อาเม็กซ์เลยสักใบ ให้ตายเถอะ อย่ามองฉันด้วยสายตาอย่างนั้นสิ นายคิดว่านี่คืออะไร? บัตรเครดิตทั่วๆ ไปที่ชาวมอนทรีออลใช้กันงั้นเหรอ? ไม่ นี่คือบัตรแบล็ก อาเม็กซ์เชียวนะ!”
ฉินสือโอวลองนึกๆ ดู แล้วพูดกับเขาว่า “ไม่ใช่สิ ฉันจำได้ว่านายเคยใช้บัตรพวกนี้นี่?”
แบรนดอนก็ก้มหน้าคอตกยิ่งกว่าเดิม เขาพูดด้วยความผิดหวังว่า “นั่นเป็นของพ่อฉันน่ะ ฉันใช้บัตรของพ่อฉันมาโดยตลอด”
เห็นเขาแสดงท่าทางอ่อนแอแบบนี้ออกมา ฉินสือโอวก็ยิ้มด้วยความเบิกบานใจ แบรนดอนเองก็เป็นคนที่ชอบหาความสุขให้ตัวเองเช่นกัน เขายิ้มออกมาแล้วพูดว่า “เบลคก็เหมือนกันกับฉัน บัตรแบล็ก อาเม็กซ์ที่เขาใช้ก็เป็นของพ่อเขาเหมือนกัน”
พวกเขาคุยกันสบายๆ ฉินสือโอวนั่งอยู่บนโซฟาศึกษาประสบการณ์เหนือชั้นที่เขาจะได้รับจากการเป็นสมาชิก ในท้ายที่สุดเขาก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ เขารอกลับไปถามวินนี่ พอถึงตอนนั้นก็ค่อยจัดเซอร์ไพรส์ให้กับเธอ แค่นี้ก็น่าจะได้ใจเธอแล้ว
ขณะที่เขากำลังวางแผนว่าพิชิตใจวินนี่ยังไงดี ทางด้านเลขาสาวสวยเซ็กซี่ของแบรนดอนก็ใช้สารพัดวิธีมายั่วยวนเขา แต่ฉินสือโอวไม่ได้สนใจผู้หญิงแบบนี้อยู่แล้ว
ก็ผู้ชายนี่นะ ไม่ได้ชอบการเอาชนะหรอกเหรอ? ของที่ได้มาง่ายๆ แบบนี้จะไปน่าสนใจอะไร ต่างกับผู้หญิงขายบริการแค่เสียเงินมากหรือน้อยก็เท่านั้น
เมื่อกลับมาถึงฟาร์มปลา ฉินสือโอวกำลังจะกางร่มกันแดดเพื่อนอนพัก ทว่าฮิวจ์ก็มาหาเขาเสียก่อน เขาตะโกนมาตั้งแต่ไกลๆ ว่า “เพื่อน นายกำลังจะทำอะไรเหรอ? อ้อ พระเจ้า นายนี่มีอารมณ์สุนทรีย์จริงๆ กำลังจะนอนกลางวันเหรอ? น่าตายจริงๆ ไปซ้อมกัน นายต้องร่วมฝึกซ้อมกับทีมบาสเกตบอลของเมืองเรา!”
ฉินสือโอวที่ฟุบอยู่บนเก้าอี้นอนก็เกาหัวแกรกๆ เขาถามว่า “การแข่งขันลีกฤดูร้อนของพวกนายยังไม่เปิดอีกเหรอ?”
ฮิวจ์ตอบ “เปิดแล้ว เปิดมาสองรอบแล้ว มีแต่ทีมอ่อนๆ พวกเราก็เลยเอาชนะได้ง่ายๆ ต่อไปจะเจอกับทีมที่เก่งมากๆ แล้ว นายต้องเข้าร่วมด้วยนะ”
…………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset