ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 293 แนวโน้มเริ่มต้น

หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว ฉินสือโอวก็ชวนกู๊ดแล็คให้ขับรถเอทีวีเล่นในฟาร์มปลาสักรอบ พวกเขาขับไปตามเส้นชายฝั่งตั้งแต่ฟาร์มปลาต้าฉินไปจนถึงฟาร์มปลาบ้านเกิดของปลาค็อด ขับตามกันไปได้เกือบหนึ่งชั่วโมง
ระหว่างทาง ฉินสือโอวรู้สึกภาคภูมิใจอย่างถึงที่สุด นี่คืออาณาเขตของเขา ถ้าขี่ม้าจริงๆ คงต้องให้เวลาหนึ่งวันถึงจะขี่ไปถึงจุดสิ้นสุดของอาณาเขตนี้ได้
อาจจะเป็นเพราะเขาโตมาในเขตชนบท ฉินสือโอวถึงได้รู้สึกว่าตัวเองไม่มีวันกลายเป็นผู้ดีหรือคนในสังคมชั้นสูงอะไรแบบนั้น ในเนื้อในของเขา ยังคงมีความเป็นเกษตรกรอยู่อย่างแท้จริง อย่างมากที่สุดก็คงนับว่าเป็นเกษตรกรที่กลายมาเป็นเศรษฐีในชั่วพริบตา
เขามีแนวคิดของเกษตรกรรุ่นใหม่อยู่อย่างเข้มข้น อย่างเช่น หลังจากฆ่าหมูป่าแล้วก็ทำใจทิ้งมันไปเปล่าๆ ไม่ได้ หรืออย่างเช่น การที่เขาไม่ได้ซักหาเงินสี่แสนกว่าดอลลาร์ที่ขาดทุนไปจากบิลแต่ใช้พลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนที่มีค่ารักษากุ้งมังกรที่เหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งแสนตัว และในใจของเขาจะฝันถึงแต่ฟาร์มปลา ผืนดิน ชายหาด ใบหญ้าเขียวขจี และท้องฟ้าสีครามตลอดไป
ถ้าจะพูดโดยใช้คำพูดเชิงวรรณศิลป์สักหน่อย นั่นก็คือที่ดินและฟาร์มปลามีความเกี่ยวพันกับความเป็นจริงและความฝันของฉินสือโอว ผสานฟ้าสีคราม ทะเลสีมรกต และผืนดินสีทองของธรรมชาติให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน
ถึงเวลาส่งกู๊ดแล็คกลับ ทั้งสองฝ่ายนัดหมายกันไว้ว่าวันต่อมาจะเซ็นสัญญาร่วมกัน ในวันเดียวกันที่กู๊ดแล็คกลับไปเขาก็ต้องเตรียมขั้นตอนการโอนย้ายเอกสิทธิ์ด้วย
เออร์บักและทนายของกู๊ดแล็คเริ่มโทรศัพท์หากันในช่วงบ่าย ผ่านการโทรทางคอมพิวเตอร์ ในวันเดียวกันก็เขียนใบสัญญาออกมาได้สำเร็จ วันต่อมาฉินสือโอวไปหากู๊ดแล็คที่โรงพยาบาลทันตกรรมกู๊ดแล็ค ทั้งสองคนเซ็นสัญญาร่วมกัน แล้วจึงดำเนินขั้นตอนการถ่ายโอนกรรมสิทธิ์ จากนั้นธุระเรื่องนี้ก็เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว
ณ เวลานี้ ฉินสือโอวยังอยู่ที่โรงพยาบาลของกู๊ดแล็คเพื่อทำการขูดหินปูน เด็กๆ ทั้งสี่คนก็ถูกพาตัวมาด้วยเช่นกัน เด็กๆ ได้จัดฟันอย่างปลอดภัย นี่ถือว่าเป็นการสมนาคุณของกู๊ดแล็ค
การขูดหินปูนค่อนข้างรวดเร็ว หลังจากขูดหินปูนเสร็จแล้วฉินสือโอวก็ลองสังเกตดูโรงพยาบาลแห่งนี้อย่างละเอียด
สิ่งก่อสร้างในแคนาดามีจุดเด่นอยู่หนึ่งอย่าง นั่นก็คือพื้นที่กว้างขวางโอ่อ่า นี่เกี่ยวข้องกับราคาที่ดินด้วยเช่นกัน แคนาดามีพื้นที่ดินแดนกว้างขวาง ครอบครองอาณาเขตทางตอนบนของทวีปอเมริกาเหนืออยู่ครึ่งหนึ่ง มีพื้นที่ราวๆ สิบล้านตารางกิโลเมตร ตั้งแต่ทางด้านตะวันออกถึงทางฝั่งตะวันตก ครอบคลุมอาณาเขตมากถึงหกไทม์โซน!
ถึงแม้ว่าทางตอนเหนือจะมีสภาพอากาศเลวร้าย มีเพียง 12% ของพื้นที่ที่เหมาะกับการเพาะปลูกเท่านั้น ทำให้ประชากรจำนวนมากล้วนแต่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ แต่ประชากรในประเทศมีจำนวนน้อยเกินไป เพียงสามสิบล้านคนเท่านั้น เฉลี่ยแล้วเท่ากับว่าประชากรหนึ่งคนจะมีพื้นที่ถึง 30 เฮกตาร์ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเมืองไหนในประเทศนี้ ต่างก็ไม่มีความแออัดของประชากรทั้งสิ้น ราคาที่พักอาศัยจึงต่ำกว่ามาตรฐานมาโดยตลอด
อย่างที่ประเทศจีน เวลาจะแต่งงานทางฝ่ายหญิงจะมีเงื่อนไขที่ว่าฝ่ายชายจะต้องมีบ้านเป็นของตัวเองเสียก่อน แต่ที่แคนาดาจะไม่มีเรื่องแบบนี้เลยสักนิดเดียว จะอยากได้บ้านไปทำไมกัน? ขอแค่มีงานทำ กระทั่งวิลล่าหลังเล็กก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเป็นกังวล
โรงพยาบาลทันตกรรมกู๊ดแล็คมีทั้งหมดหกชั้น เป็นอาคารเดี่ยวหลังเล็กหนึ่งหลัง ทุกๆ ชั้นมีพื้นที่ราวๆ สี่พันตารางเมตร และมีพื้นที่สีเขียวมากกว่าสองหมื่นตารางเมตร แต่ถ้าเป็นที่จีน หากดูแค่พื้นที่ของสิ่งก่อสร้าง นี่ก็เท่ากับมาตรฐานของโรงพยาบาลที่รวมทุกด้านระดับสองแล้ว
ที่แคนาดา โรงพยาบาลแบบนั้นนับว่าเป็นเพียงโรงพยาบาลขนาดเล็ก
เป็นที่รู้กันดีว่า การศึกษาและการรักษาพยาบาลในแคนาดาถูกจัดอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก ที่นี่มีสถาบันด้านการรักษาพยาบาลและองค์กรทางการแพทย์ที่มีศักยภาพระดับเวิลด์คลาสอยู่หลายแห่ง ผู้เสียภาษีที่ถือวีซ่าถาวรแคนาดาสามารถรับสิทธิประโยชน์จาก ‘แผนประกันสุขภาพของแคนาดา’ ได้ทุกคน แผนการรักษาที่ได้รับการช่วยเหลือด้านการเงินในทุกรัฐ จะให้สิทธิการรักษาฟรี ให้บริการการรักษาที่จำเป็นต้องเข้าพักในโรงพยาบาลรวมถึงบริการทางการแพทย์ที่จำเป็นอื่นๆ อีกด้วย
นอกจากนี้ แคนาดายังมีระบบที่เรียกว่า ‘เครือข่ายมหาวิทยาลัยสุขภาพ’ อย่างเช่นที่นครเซนต์จอห์น เครือข่ายมหาวิทยาลัยสุขภาพของที่นี่จะประกอบไปด้วยโรงพยาบาลหลักจำนวนสามแห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเซนต์จอห์น เจนเนอรัล โรงพยาบาลเวสต์เซนต์จอห์น สถาบันแพทยศาสตร์โรงพยาบาลปริ๊นเซสมาร์กาเรตมหาวิทยาลัยนครเซนต์จอห์น โรงพยาบาลทั้งสามแห่งนี้ ถึงจะจัดว่าเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่
โดยจะใช้โรงพยาบาลทั้งสามแห่งนี้เป็นศูนย์กลาง โรงพยาบาลหลายแห่งได้เข้าร่วมกับ ‘เครือข่าย’ ของระบบนี้ โรงพยาบาลทันตกรรมกู๊ดแล็คเองก็เช่นกัน
ดังนั้นเมื่อพูดถึงเรื่องความจริงจังแล้ว ที่นี่ไม่ใช่แค่โรงพยาบาลเพื่อการทันตกรรมเท่านั้น แต่ยังมีคนไข้ที่เข้ามารับการรักษาและรับยาจากแผนกอายุรกรรมและแผนกโรคกระดูกด้วย เพียงแค่มีระบบ ‘เครือข่ายมหาวิทยาลัยสุขภาพ’ อันนี้ หมอในโรงพยาบาลทุกแห่งก็จะสามารถติดต่อประสานงานกันได้ ยิ่งทำให้คนไข้ได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น
ฉินสือโอวเอนร่างพิงกับเคาน์เตอร์บริการเพื่อชื่นชมพยาบาลสาวๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมา ถึงจะโดนเขาจ้องมอง แต่พวกเธอก็ไม่ได้เขินอายแต่อย่างใด แถมยังมีบางคนที่ส่งสายตาร้อนแรงกลับมาอีกต่างหาก เห็นได้ชัดว่าพวกเธอก็สนใจผู้ชายเอเชียแบบเขาเป็นอย่างมาก
ต่อมาคุณหมอหนุ่มอายุราวๆ สามสิบปีก็เดินเข้ามา เขาถามด้วยรอยยิ้มว่า “สาวๆ ที่นี่ไม่เลวเลย ใช่ไหมล่ะ?”
ฉินสือโอวยิ้มแล้วพยักหน้าตอบ “ใช่แล้ว ดีมากๆ ทำเอาผมอยากจะมาศัลยกรรมปรับฟันที่นี่เลยล่ะ”
คุณหมอหนุ่มดึงคางของเขาลงทันที เขายกไฟฉายอันเล็กเพื่อส่องเข้าไปดูข้างใน แล้วพูดขึ้นมาว่า “สมบูรณ์แบบ เพื่อน คุณเคยทำอะไรกับฟันมาบ้างไหมเนี่ย? สุขภาพดีมากๆ เป็นระเบียบสุดๆ น่าอิจฉาจริงๆ คุณไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโฆษณายาสีฟันได้เลยล่ะ”
ฉินสือโอวหัวเราะ คุณหมอหนุ่มยื่นมือออกมา แล้วแนะนำตัวเองกับเขาว่า “ผมชื่อโอดอม โอดอม เค กู๊ดแล็ค แพทย์อายุรแพทย์หัวใจ”
พอได้ยินนามสกุลของเขา ฉินสือโอวก็ถึงบางอ้อทันที “มิสเตอร์กู๊ดแล็คเป็นพ่อของคุณเหรอครับ?”
“ผมเองก็เป็นมิสเตอร์กู๊ดแล็คเหมือนกันนะ” คุณหมอหนุ่มเล่นมุกพอเป็นพิธี จากนั้นก็ตอบว่า “ใช่แล้ว เขาเป็นพ่อของผมเอง ผมคิดว่าคุณคงต้องขอบคุณผมสักหน่อยนะ มิสเตอร์ฉิน เพราะผมเคยโน้มน้าวให้พ่อของผมรีบๆ ขายฟาร์มปลาให้คุณอยู่ตั้งหลายครั้ง”
ฉินสือโอวรู้สึกงงงวย เขาจึงถามกลับไปด้วยความสงสัยว่า “ทำไมล่ะครับ?”
โอดอมตอบคำถามเขาพร้อมกับรอยยิ้ม “พวกเราเคยเจอกันแล้ว คิดว่าคุณคงจะลืมไปแล้วล่ะ ลองเตือนความจำคุณสักหน่อยแล้วกัน ที่บอสตันเมดิสันสแควร์การ์เดน ผมเป็นแพทย์อายุรแพทย์หัวใจ แต่ก็พอจะมีผลงานด้านระบบประสาทอยู่บ้างเหมือนกัน”
เมื่อเขาพูดแบบนี้ ฉินสือโอวจึงได้เข้าใจ เขาถามกลับไปอีกว่า “คุณเรียนอยู่ที่คณะแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเหรอ?”
โอดอมยิ้มพร้อมกับพยักหน้าน้อยๆ เขาพูดว่า “ขอบคุณมากๆ ที่ช่วยบริจาคให้โรงพยาบาล ตอนแรกพ่อของผมตั้งราคาฟาร์มปลาไว้ที่สิบล้านดอลลาร์ เมื่อก่อนผมเคยเล่าเรื่องที่คุณควักกระเป๋าบริจาคเงินอย่างใจกว้างให้เขาฟัง เขาเลยลดราคาขั้นต่ำลงมา”
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ แต่ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าโอดอมคงไม่ขี้โม้แน่ๆ เพราะว่าเรื่องการซื้อขายก็เสร็จสิ้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย
เมื่อเป็นเช่นนี้ฉินสือโอวจึงกล่าวขอบคุณโอดอม พร้อมทั้งเชิญให้เขาไปเป็นแขกของฟาร์มปลา
โอดอมพูดกับเขาว่า “ผมทำได้แค่เชิญให้คุณมาขูดหินปูนที่โรงพยาบาล ฮ่าๆ เพราะถ้าผมชวนคุณไปทำอย่างอื่น ก็ล้วนแต่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นมงคลเลยสักนิด ถ้าคุณมาขูดหินปูนที่โรงพยาบาล ผมจะช่วยทำบัตรรักษาฟรีให้คุณเอง”
ฉินสือโอวตอบ “ผมเคยขูดแล้ว ไม่เลวเลยจริงๆ ครั้งหน้าผมวางแผนจะพาลูกๆ ของผมมาด้วย ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า สุนัขพันธุ์แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์สองตัว ฮ่าๆ หวังว่าจะไม่ใช่การดูถูกคุณนะครับ”
โอดอมแกล้งพูดด้วยท่าทางจริงจังว่า “พวกเรากำลังเปิดธุรกิจขูดหินปูนสำหรับสัตว์เลี้ยงอยู่ ยินดีให้คุณมาช่วยสนับสนุนธุรกิจของเรานะครับ”
ทั้งคู่คุยกันอยู่สักพัก เข้าขากันเป็นอย่างยิ่ง โอดอมเป็นนายแพทย์ที่ได้รับการศึกษาระดับสูง มีความอดทน นอบน้อมถ่อมตัว เรียบง่าย อบอุ่น เหมาะกับการผูกมิตรมาก
มื้อเที่ยงโอดอมเชิญเขาไปทานข้าวที่ร้านอาหารควิเบกแห่งหนึ่ง เขาได้ลิ้มรสนกกระทาควิเบก เบคอนคาราเมล เพิ่มไอศกรีมเบคอนวอดก้าอีกเล็กน้อย
ในช่วงบ่าย ขั้นตอนการส่งมอบก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว พอฉินสือโอวรูดบัตรอย่างมีความสุข เงินเก้าล้านห้าแสนก็ถูกรูดออกไป ยอดเงินในบัตรเหลืออยู่ไม่ถึงสี่สิบล้านแล้ว
อีกทั้งเงินพวกนี้ ฉินสือโอวก็ไม่ได้วางแผนที่จะเก็บไว้ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเวลาที่มีวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ หลายๆ ครอบครัวในอเมริกาเหนือถึงได้ล้มละลาย
นี่มีความเกี่ยวข้องกับทัศนคติในการใช้จ่ายของคนอเมริกาและแคนาดา รัฐบาลสนับสนุนให้มีการจับจ่ายใช้สอย ถ้าคุณไม่ใช้เงิน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องจ่ายภาษีเยอะกว่าเดิม อีกทั้งการใช้จ่ายหลายๆ ด้านก็สามารถขอลดหย่อนและขอเงินภาษีคืนได้ ในบางครั้งก็เท่ากับได้รับบริการบางอย่างโดยที่ไม่ได้เสียเงิน
ในตอนนี้ที่ฉินสือโอวรูดบัตรใช้เงินอย่างต่อเนื่องแบบนี้ เมื่อถึงไตรมาสหน้าก็จะสามารถหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีได้เป็นเงินจำนวนมาก และก็สามารถขอเงินภาษีคืนได้มากยิ่งขึ้น
ยังไงซะเงินที่ฝากไว้ในธนาคารก็ไม่สามารถออกลูกได้ ไม่สู้เอาเงินมาลงทุน เพื่อช่วยทำเงิน ทั้งยังช่วยประหยัดเงินได้อีกต่างหาก…
………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset