บทที่ 261 ท่าเรือร้อนระอุแล้ว
โดย
Ink Stone_Fantasy
“แม่งเอ้ย!”
ฉินสือโอวพูดความในใจแทนนักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟคนนี้
พวกเขามาตะลอนอยู่ที่ชายหาดน้ำตื้นจอร์จหลายวันแล้ว ก็ไม่ถึงขั้นจับปลาใหญ่ไม่ได้เลย แต่จับได้แต่ปลาจำพวกฉลามหนาม ฉลามเสือทรายฉลามสีน้ำเงินเท่านั้น
บางคนถึงขั้นตกได้ฉลามขาว แต่ตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินไม่ได้เลย ไม่เพียงแต่ตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินไม่ได้ แม้แต่ปลาทูน่าครีบเหลืองก็ตกไม่ได้เช่นกัน!
พอว่างฉินสือโอวก็จะพูดแดกดันไปในคลื่นสาธารณะสองสามคำ ตอนแรกพวกนักตกปลาพวกนี้ยังคงเย่อหยิ่งมีตอกกลับบ้าง แต่พักหลังเมื่อความจริงมันโหดร้าย พวกเขาก็ไม่มีแรงและไม่มีอารมณ์ที่จะมาต่อปากต่อคำกับฉินสือโอวอีก
พักหลังๆ ฉินสือโอวตั้งใจทำให้เรื่องแนบเนียนขึ้น เขาจึงไม่จับปลาทูน่าครีบน้ำเงินทันทีที่พบ แต่จะให้พวกมันไปว่ายวนอยู่ใต้เรือนักตกปลาพวกนี้ก่อนค่อยจับไป บางทีก็มีรอให้ปลาติดเบ็ดแล้ว จากนั้นก็แผ่พลังโพไซดอนเพิ่มพลังให้พวกปลา ให้พวกมันหนีออกจากตะขอเอง
พอทำแบบนี้หลายๆ ครั้ง เขารู้สึกว่าพลังโพไซดอนของเขานั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ทำให้เขาเข้าใจในทันที เป้าหมายหลักของพลังโพไซดอนนั้น ไม่ใช่การทำลายและการฆ่าล้าง แต่เป็นการช่วยเหลือและเยียวยา!
ช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตที่บาดเจ็บ ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นปลาประเภทไหน การเยียวยาสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำต่างๆ รวมไปถึงพวกพืช
บนเรือยอชต์เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในการเป็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ดาวเทียม ห้องสูทที่ตกแต่งอย่างหรูหา ฉินสือโอวจึงถือโอกาสพักบนเรือเลย เขานอนพักอยู่บนทะเลติดต่อกันห้าหกวัน
ปิดเครื่องยนต์ กลางวันดื่มด่ำกับการอาบแดด กลางคืนรับลมทะเลมองดูดาว ชีวิตเรียบง่ายแต่ไม่ห่อเหี่ยว เพราะเขายังสามารถช่วยเหลือปลาทูน่าครีบน้ำเงินและปลาทูน่าครีบเหลืองพวกนั้นที่ติดเบ็ดได้ด้วย
ในทุกเขตน่านน้ำทะเลนั้น จำนวนปลาตัวใหญ่ก็มีเพียงเท่านี้ ภายหลังฉินสือโอวสังเกตเห็นว่าจำนวนปลาทูน่าครีบน้ำเงินนับวันยิ่งน้อยลง จากวันหนึ่งที่สามารถพบได้สิบห้าถึงสิบหกตัวลดลงไปเป็นสิบสองสิบสามตัว จากนั้นก็สิบตัว ยิ่งช่วงสองวันที่ผ่านมา ในหนึ่งวันจะเจอแค่ห้าถึงหกตัวเท่านั้น แน่นอน จำนวนที่ว่ามาคือจำนวนปลาตัวใหญ่เท่านั้น
เมื่อเป็นแบบนี้ ทำให้เขาไม่มีความจำเป็นที่ต้องอยู่ที่นี่ต่อ เห็นได้ชัดว่า ปลาทูน่าครีบน้ำเงินในชายหาดน้ำตื้นจอร์จถูกจับไปจำนวนหนึ่งแล้ว ปลาประเภทอื่นต้องใช้เวลาในการว่ายมาจากเขตน่านน้ำทะเลอื่น เขาจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรอต่อไปอีก
ผ่านไปสิบวัน กองกำลังทหารธงฟ้าของฉินสือโอวขยายจำนวนไปเป็นหนึ่งร้อยสิบกว่าตัวแล้ว ปลาพวกนี้ตัวเล็กที่สุดก็มีขนาดหนึ่งเมตรครึ่ง ส่วนปลาขนาดปานกลางที่ขนาดหนึ่งเมตรถึงหนึ่งครึ่งมีประมาณหนึ่งร้อยห้าสิบตัว ส่วนตัวที่มีขนาดครึ่งเมตรถึงหนึ่งเมตรก็มีประมาณหนึ่งร้อยห้าสิบตัวเช่นกัน
เมื่อเป็นแบบนี้ เท่ากับว่าเขามีปลาทูน่าครีบน้ำเงินมากกว่าสี่ร้อยตัวในมือ บวกกับปลาตัวใหญ่ในฟาร์มปลาอีกสี่สิบกว่าตัว เขากะว่าจะหาให้ครบห้าร้อยตัวก็จะกลับบ้านทันที
ตอนฉินสือโอวเตรียมตัวจะกลับแล้วนั้น โทรศัพท์ไร้สายในเรือก็ดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงที่คุ้นเคยว่า “ฉิน พระเจ้าช่วย นายอยู่ที่ไหนกัน? กลับมาดีไหม? ฉันตามหานายได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว!”
ไม่ต้องถาม เป็นบิลลี่นี่เองที่โทรมา
ฉินสือโอวหัวเราะขึ้นมา ตอบเขาไปว่า “ฮ้า นี่คุณชายรองสเต็มเมอร์ไม่ใช่เหรอนี่? คุณหลับเต็มอิ่มแล้วเหรอ? หากยังนอนไม่พอก็นอนต่อเถอะ ผมคงไม่กล้ารบกวนเวลาพักผ่อนของคุณหรอกนะ”
บิลลี่พูดด้วยน้ำเสียงทำอะไรไม่ถูกว่า “โอเค ฉิน ฉันขอโทษกับการที่ฉันสงสัยคุณก่อนหน้านี้ พระเจ้า ฉันถือว่าได้สัมผัสถึงความขี้น้อยใจของนายแล้ว ลูกผู้ชายใจน้อยอย่างนี้ไม่ได้นะ….แหม่ๆ ๆ ให้ตายเถอะ! ฉิน ฉันพูดว่าฉันขอโทษแล้ว ฉันขอโทษ! นายอย่างปิดโทรศัพท์อีกนะ….”
ฉินสือโอวไม่ยอมอ่อนข้อให้กับนิสัยเสียๆ ของคนพวกนี้หรอก การปฏิสัมพันธ์กับชาวยุโรปนั้น ต้องไม่มีความคิดที่ว่าเธอเคารพฉันหนึ่งนิ้ว ฉันก็จะเคารพเธอกลับหนึ่งคืบ หรือทดแทนคุณที่ว่าเธอให้หยดน้ำมา ฉันต้องทดแทนคุณด้วยบ่อน้ำแร่กลับไปเป็นอันขาด วิถีแห่งขงจื่อนั้นไม่เหมาะที่จะใช้กับชาวยุโรปที่เห็นเงินเป็นใหญ่ โดยเฉพาะกับคนชนชั้นกระฎุมพี
ในสายตาของคนชนชั้นนี้ คำว่ามิตรภาพก็เป็นเพียงลมปากเท่านั้น กำไรสิถึงจะเป็นมิตรภาพที่แท้จริง เหมือนในหนังเรื่อง‘The wolf of wall street’ จอร์แดน เบลฟอร์ทที่นำแสดงโดยลีโอนาร์โด ดิคาปริโอได้พูดไว้ว่า “ขอแค่นายมีแฟรงคลินสีเขียวมากพอ(ธนบัตรหนึ่งร้อยดอลลาร์สหรัฐ) นายก็จะมีเพื่อนและญาติที่มากพอ ไม่อย่างนั้นนายก็จะไม่มีอะไรเลย”
ทำไมพวกบิลลี่ เบลคและแบรนดอนถึงได้ดูคลั่งไคล้ฉินสือโอวถึงเพียงนี้? นั่นเพราะพวกเขารู้ ว่าฉินสือโอวสามารถนำผลประโยชน์มาให้พวกเขาได้นั่นเอง!
ไม่มีคำว่ามิตรและศัตรูตลอดไป มีแต่ทำว่าผลประโยชน์ตลอดกาลเท่านั้น
สำหรับพวกชนชั้นกระฎุมพีนั้น คำพูดนี้อาจฟังดูหดหู่ไปหน่อย แต่ก็เป็นความจริง
ความยุติธรรมมักหาเจอจากพวกฆ่าสุนัข(หมายถึงคนที่ไม่ได้มาจากครอบครัวที่ดีหรือได้รับการศึกษาที่สูง) ฉินสือโอวยอมที่จะเป็นเพื่อนกับเพื่อนชาวประมงที่ไม่มีความสามารถอะไรมากอย่างพวกชาร์ค ซีมอนสเตอร์และนีลเซ็นมากกว่า คนพวกนี้เพราะไม่มีเงิน จึงไม่ค่อยได้เห็นถึงวิธีการที่เลือดเย็นของพวกชนชั้นกระฎุมพี ทำให้พวกเขาจริงใจไร้เล่ห์
ส่วนพวกคนกลุ่มบิลลี่เหรอ? ฉินสือโอวเห็นพวกเขาเป็นเพียงเพื่อนร่วมทำธุรกิจเท่านั้น แน่นอนว่า ในสายตาของคนเหล่านี้ ฉินสือโอวก็คงอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน
พูดไปแล้ว ในต่างประเทศฉินสือโอวเชื่อใจคนเพียงสองคนเท่านั้น นั่นก็คือเออร์บักกับอีวิลสัน
ดังนั้นเขาจึงเต็มใจยอมรับเลี้ยงเด็กสี่คนที่เขาก็ไม่ชอบใจนักแทนเออร์บัก ยอมรับในความบื้อไร้สาระของอีวิลสัน เพราะสองคนนี้แหละคือคนที่จะยื่นมือมาช่วยเขาเต็มที่ในตอนที่เขาลำบาก
บิลลี่ตามมาหาถึงชายหาดน้ำตื้นจอร์จ แน่นอนว่า ในท้องทะเลที่กว้างขนาดหลายพันตารางเมตรนี้ การจะเจาะจงหาเรือลำหนึ่งนั้นก็ไม่ต่างกับการงมเข็มในมหาสมุทร ฉินสือโอวจึงเปิดโทรศัพท์ไร้สายไว้ ให้ทั้งสองฝ่ายติดต่อกันจึงทำให้มาเจอกันได้
เมื่อเห็นบิลลี่ที่ยืนอยู่บนหัวเรือแล้ว ฉินสือโอวก็อ้าแขนทั้งสองทำท่าเหมือนโอบกอด พูดเสียงดังว่า “เฮ้ บิลลี่ เพื่อนรักของฉัน ดีใจจริงๆ ที่ได้เจอ ว่าแต่นายมาเมืองกลอสเตอร์ทำไมเหรอ? อย่าบอกนะว่าคุณชายรองของบริษัทโอดิสซีย์ก็มาตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพด้วยน่ะ”
บิลลี่ตอนนี้เหมือนกับสุนัขที่ถูกทำให้เชื่อง เขาพูดอย่างนอบน้อมว่า “ฉิน ฉันขอโทษนายด้วย ฉันควรจะรีบมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว เห็นแก่ที่ว่าฉันตามมานายถึงห้าวันด้วยกัน ให้อภัยความโง่เง่าของฉันด้วยนะ“
ฉินสือโอวยิ้มแล้วพูดว่า “นายเกรงใจเกินไปแล้ว เพื่อนฝูง ฉันจะโทษนายได้ยังไง? พวกเรายังต้องทำความรู้จักกันอีก จริงไหม? พวกเรามาจากคนละประเทศ เชื้อชาติก็ต่างกัน ถูกสอนมาไม่เหมือนกัน พวกเรายังต้องทำความรู้จักและคุ้นเคยกันอีก ตอนนี้นายคุ้นเคยกับนิสัยฉันแล้วใช่ไหม?”
บิลลี่พูดว่า “คุ้นเคยแล้ว ฉิน นายเป็นซีอีโอ ต่อไปไม่ว่านายพูดอะไรก็ต้องตามนั้น”
ความจริงแล้วการที่ฉินสือโอวใช้บันทึกเดินเรือของกัปตันเพียงเล่มเดียวมาเรียกเงินจากบริษัทโอดิสซีย์ถึงยี่สิบล้านเหรียญ บิลลี่ที่เป็นถึงคุณชายรองของบริษัทโอดิสซีย์ ถ้าบอกว่าเขาไม่ติดใจเลยคงเป็นเรื่องโกหก
แต่ตอนนี้ เขาจำใจต้องเก็บความรู้สึกนั้นไว้ก่อน ฉินสือโอวได้แสดงให้เขาเห็นแล้ว คนเอเชียคนนี้ไม่เหมือนกับชาวเอเชียตะวันออกผิวเหลืองอ่อนแอปวกเปียกที่เขารู้จัก คนคนนี้ก็เหมือนเป็นหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง หินก้อนใหญ่ที่ห่อหุ้มไปด้วยระเบิด!
ฉินสือโอวทำร้ายบิลลี่ไปยกใหญ่จึงคิดจะทำดีด้วยผลตอบแทนเล็กน้อย เมื่อถึงเมืองกลอสเตอร์แล้ว ฉินสือโอวก็ให้พิกัดที่เจาะจงกับบิลลี่ บอกเขาไปว่า “เพื่อนๆ ของฉันหากล่องเหรียญทองเจอแค่แปดกล่องเท่านั้น ยังมีอีกสองกล่องที่ยังหาไม่เจอ”
บิลลี่มาพร้อมกับเรืองมซากด้วย ความลึกของพืดหินนั้นลึกถึงสี่ร้อยเมตร หากไม่มีเรืองมซากคงงมเหรียญพวกนั้นขึ้นมาไม่ได้ นอกเสียจากว่าเขาจะมีพลังโพไซดอนบนนิ้วเช่นกัน
การงมกล่องเหรียญขึ้นมางมได้ง่ายมาก เรืองมซากหยุด นักดำน้ำที่แบกถังออกซิเจนไว้บนหลังดำลงไป หลังทำการค้นหาใต้ท้องทะเลสักพักก็เจอกับกล่องพวกนั้นในจุดที่ไม่ไกลนัก
นำกล่องพวกนี้ใส่เข้าไปในกล่องงมของ เปิดเครื่องดึงขึ้นมา กล่องเหรียญทองพวกนี้ก็ถูกงมขึ้นมาแล้ว
แต่การจัดการกล่องเหรียญที่ขึ้นมาแล้วค่อนข้างยุ่งยาก เพราะไม่สามารถให้เหรียญทองพวกนี้สัมผัสโดนอากาศทันที พวกมันจมอยู่ในท้องทะเลนานถึงหนึ่งร้อยกว่าปี หากถูกสัมผัสกับอากาศทันที ก็จะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนทำให้พวกมันถอดสีและขึ้นสนิมอย่างรวดเร็ว จึงต้องนำไปดำเนินการในห้องปลอดออกซิเจนเท่านั้น
เมืองกลอสเตอร์เป็นเมืองท่าเล็กๆ จึงไม่สามารถปิดความลับอะไรได้ทั้งนั้น เมื่อเรืองมซากของบริษัทโอดิสซีย์ที่มาพร้อมกับทีมนักสื่อข่าวปรากฏอยู่บนทะเลแล้ว ก็มีชาวประมงมากมายมามุงดูกัน
กล่องเหรียญทองถูกงมขึ้นมากล่องแล้วกล่องเล่า ชาวประมงแต่ละคนต่างก็อึ้งกันไป จากนั้น เมืองเล็กๆ แห่งนี้เดือดระอุในทันที!
………………………….