บทที่ 248 กองกำลังทหารธงฟ้าของฉัน
โดย
Ink Stone_Fantasy
ตามที่ฉินสือโอวรู้มา ทูน่าครีบน้ำเงินต้องใช้เวลาสามปีถึงจะเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ ถ้าเป็นแถบทะเลน้ำอุ่นเหมือนอย่างนิวฟันด์แลนด์ อาจจะต้องใช้เวลานานสักหน่อยสักสี่ห้าปี
อย่าลืมว่านี่คืออายุที่ปลาทูน่าครีบน้ำเงินถึงวัยเจริญพันธุ์ ยังไม่ใช่อายุที่พวกมันโตถึงสองสามเมตรพร้อมขาย ทูน่าครีบน้ำเงินในตอนนี้อย่างมากก็หนึ่งร้อยกว่าปอนด์
ที่จริงปลาชนิดนี้โตช้ามาก เห็นปลาทูน่าครีบน้ำเงินโตได้ถึงสองสามเมตร หนักห้าหกร้อยปอนด์แบบนี้ จริงๆ แล้วลูกปลาที่เพิ่งฟักยาวแค่ประมาณสามมิลลิเมตรเท่านั้น ลูกปลาจะโตหนึ่งมิลลิเมตรในทุกๆ วัน ถ้าจะโตถึงสองเมตรก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามปี
แบบนี้ถ้าฉินสือโอวจะเพาะพันธุ์ปลาทูน่าครีบน้ำเงินโดยพึ่งแค่การวางไข่ของแม่ปลาแล้วละก็ เห็นได้ชัดว่าไม่ไหวแน่ ระยะเวลาการเลี้ยงนานเกินไป ฉะนั้นเมื่อกี้จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าบางทีเขาอาจจะต้องดึงทูน่าครีบน้ำเงินเข้าฟาร์มมาเรื่อยๆ
ตอนแรกเขาไม่ได้มีความคิดนี้ ตอนนี้มีคนจากสมาคมตกปลามาตกปลามากมาย โปรยเหยื่อก็เยอะ ทูน่าครีบน้ำเงินที่โดนดึงดูดมาก็เยอะเสียกว่า เขาใช้จิตสำนึกโพไซดอนควบคุมเหล่าปลาเล็กปลาน้อยแล้วพากลับมาที่ฟาร์มปลาต้าฉินดีกว่า
เขาไม่สนว่าเหล่าชาวประมงจะตกปลา เพราะพวกเขาอาศัยมันหาเลี้ยงตัว ส่วนพวกที่ทำเป็นงานอดิเรกเวลาว่างน่ะไม่เหมือนกัน ที่พวกเขาตกปลาส่วนใหญ่ก็เพื่อความสนุกและหน้าตา ถ้าทูน่าครีบน้ำเงินตกอยู่ในมือพวกนั้นละก็ นั่นมันเหมือนของล้ำค่าที่อยู่ผิดมือชัดๆ!
นอกจากนั้น เรื่องหาสมบัติที่จมอยู่ในทรายก็หาหนทางไม่ได้เหมือนกัน จะให้ใช้พลังโพไซดอนพลิกหน้าทรายทั้งหมดตามเส้นทางกระแสใต้ทะเลก็ไม่ได้หรือเปล่า? เขาเหนื่อยตายแหงๆ!
แต่ถ้าเขาสามารถรวบรวมกองทัพที่ประกอบไปด้วยทูน่าครีบน้ำเงินที่มากพอ งั้นก็ไม่เหมือนกันแล้ว ปลาทูน่าครีบน้ำเงินแรงเยอะ ว่ายน้ำเร็ว ขอแค่พวกมันจับกลุ่มว่ายไปตามแนวทรายก็จะสามารถตีทรายขึ้นมา ดีไม่ดีอาจจะบังเอิญหาสมบัติพวกนั้นเจอก็ได้
นั่นก็คือจุดประสงค์ที่ฉินสือโอวพนันกับพวกนักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟ ขอแค่คนพวกนั้นตามหาทูน่าครีบน้ำเงินอย่างเอาเป็นเอาตาย แล้วเขาก็ใช้จิตสำนึกโพไซดอนสำรวจไปรอบๆ เรือของพวกนั้น พอหาทูน่าครีบน้ำเงินเจอก็พาไปได้เลย จะมีอะไรดีกว่านี้อีก
พอเป็นแบบนี้ ฉินสือโอวเลยหิ้วเก้าอี้ผ้าใบมาเริ่มอาบแดด เขาพูดกับพวกชาร์ค และซีมอนสเตอร์ว่า “ฉันไม่ตกปลาแล้ว เพื่อน พวกนายไปเล่นกันเองเถอะ”
จิตสำนึกโพไซดอนรวมอยู่ในตัวของทูน่าครีบน้ำเงินตัวนั้น พลังโพไซดอนให้แรงว่ายพุ่งที่ไร้ขีดจำกัดกับมัน มันว่ายไปในแถบทะเลแถวนั้นไม่หยุด จุดประสงค์ก็คือคอยดูแถบทะเลรอบข้างเรือประมงพวกนี้ว่ามีปลาทูน่าครีบน้ำเงินปรากฏตัวขึ้นหรือเปล่า
พวกอาร์บีเอฟเอฟก็ทุ่มสุดตัวอยู่เหมือนกัน แต่ละคนโยนเหยื่อล่อกันอย่างไม่เสียดาย ต่างกับพวกชาวประมงที่ค่อนข้างขี้เหนียว เพื่อที่จะตกปลาให้ได้ พวกเขาโยนเหยื่อไม่จำกัดโดยไม่ได้คำนึงถึงราคาเลย
วันนี้เป็นวันดีที่จะตกปลา ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ลมทะเลพัดโกรก พายุที่เพิ่งสงบเมื่อกี้ทำให้มีแพลงก์ตอนและเศษสาหร่ายมากมายบนผิวน้ำชวนให้ปลาทะเลจำนวนมากมาหาอาหารกิน
แบบนั้นเงาร่างทูน่าครีบน้ำเงินก็ปรากฏขึ้นผลุบๆ โผล่ๆ ฉินสือโอวจ้องเรือประมงของอาร์บีเอฟเอฟเป็นพิเศษ ขอแค่มีทูน่าครีบน้ำเงินออกมาแถวๆ นั้น ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ จับหมดไม่เว้น
ก่อนหน้านี้วันๆ หนึ่งจะเจอทูน่าครีบน้ำเงินสักตัวสองตัวยังยาก ครั้งนี้แทบจะเจอตัวหนึ่งทุกยี่สิบกว่านาที คิดตั้งแต่ตอนกลางวันที่เริ่มพนันไปจนถึงสี่โมงในตอนบ่าย ฉินสือโอวได้ทูน่าครีบน้ำเงินมาทั้งหมดสิบสี่ตัว!
แน่นอนว่ามีทั้งปลาตัวเล็กและตัวใหญ่ โดยรวมแล้วค่อนข้างเล็ก ที่ใหญ่ที่สุดก็ยางเพียงประมาณสองเมตร หนักราวแปดร้อยปอนด์
แค่นี้ก็พอแล้ว ปลาพวกนี้เอากลับไปฟาร์ม แล้วใช้พลังโพไซดอนปรับคุณภาพเนื้อเสร็จแล้วค่อยเอาเข้าประมูล ก็เป็นผลผลิตปลาที่น่าชมพอตัว
เพราะพายุเพิ่งจะสงบ ลมทะเลในตอนกลางคืนจึงแรงกว่าเดิม ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นชาวประมงหรือนักตกปลาล้วนพากันเลือกที่จะแล่นเรือกลับกลอสเตอร์ พวกเขาไม่ได้อยากจะเอาตัวเองไปอยู่ในจุดเสี่ยงตายแค่เพื่อที่จะเอาชนะหรอก
เรือประมงบอลหิมะของฉินสือโอวแล่นกลับเป็นลำสุดท้าย แต่เขาอารมณ์ดีมาก ทูน่าครีบน้ำเงินตั้งสิบสี่ตัวเชียวนะ กองกำลังทหารธงฟ้าของเขาเริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว บวกกับปลาที่มีในฟาร์มปลา จำนวนของปลาชนิดนี้ก็เกิน40ตัวแล้ว
พอกลับไปถึงท่ากลอสเตอร์ ตาแก่เจมส์ก็ถามอย่างสงสัย “สวัสดี กัปตันโชคช่วย วันนี้นายไม่มีปลากับมาด้วยเหรอนี่? อีกอย่างฉันได้ยินแคริแลนด์บอกว่านายกับพวกอาร์บีเอฟเอฟพนันกันด้วย?”
“แค่เล่นงั้นๆ แหละครับ คุณก็รู้นี่ตาแก่เจมส์ ไม่ใช่ทุกครั้งที่ออกทะเลแล้วจะเจอทอง ผมก็เลยเบื่อ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลอกให้พวกบื้อพนันด้วยน่ะเป็นวิธีแก้เบื่อที่ดีทีเดียว” ฉินสือโอวพูดยิ้มๆ
เหล่าชาวประมงกับพวกนักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟมาเจอกันที่ท่าเรือ ฝ่ายแรกทำท่าทีผยองภูมิใจ ส่วนอีกฝ่ายกลับอารมณ์บูด
ฉินสือโอวไม่ได้เข้าไปดูพวกชาวประมง ในหมู่พวกเขาได้ปลากันมาไม่มากก็น้อย อย่างไรเสียหลังพายุก็เป็นช่วงที่ดีที่สุดที่จะจับทูน่าครีบน้ำเงิน แต่เหล่านักตกปลากลับไม่มีอะไรติดไม้ติดมือมาเลย แบบนี้พวกชาวประมงจะไม่ดีใจได้ไง?
ดังนั้น ที่ท่าบริษัทไทรเด้นท์ฟิชชิ่ง ชาวประมงกลุ่มหนึ่งกำลังเริ่มตะเบ็งเสียงตะโกน
“ตาแก่เคนต์ วันนี้ได้อะไรมาบ้างละ? พระเจ้าคุ้มครอง ฉันตกปลาได้ตัวหนึ่ง ใช้ได้ทีเดียว คงได้เงินสักสามพันกว่าดอลลาร์”
“โอ้ เพื่อน ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ได้มาไม่เลว ขายได้สามพันห้าร้อยดอลลาร์ ไปดื่มได้สักหน่อยแล้วละ เฮ้ ชาลส์ นายล่ะ?”
“ฉันตกทูน่าครีบน้ำเงินไม่ได้ แต่ได้ทูน่าครีบเหลืองมาสองตัว นายก็รู้ว่าช่วงนี้ราคาเจ้าพวกนี้ก็ไม่ต่ำ สองตัวนี้คงทำเงินได้สักสองพันกว่าดอลลาร์”
“เฮ้ คุณพนักงานออฟฟิศตรงนั้นน่ะ พวกคุณได้อะไรมาบ้าง? กัปตันโชคช่วยของเรายังต้องพนันกับพวกคุณอีกนะ”
พอเห็นพวกชาวประมงที่จงใจแซวตัวเองก็มีบางคนที่ตะโกนออกมาอย่างอดไม่ได้ “พวกแกยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ ไอ้นั่นน่ะมันคนแคนาดา พวกเราควรจะต่อกรศัตรูด้วยกันสิถึงจะถูก”
ชาลส์ได้ยินแบบนั้นก็โกรธทันใด เขาชี้ไปที่คนพูดก่อนจะตะคอก “ต่อกรศัตรูด้วยกันบ้านแกสิ ใครคือศัตรู? ฉินคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้! ไอ้เบื๊อกอย่างพวกแกต่างหากที่เป็นศัตรู พวกแกนั่นแหละที่ทำให้ผลผลิตปลาเราลดลงทุกวันนี้ ไอ้เวร!”
ฉินสือโอวเกยอยู่บนเรือประมงมองดูทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันยิ้มๆ เรือลำหนึ่งที่แขวนธงใบเมเปิลเหมือนกับเรือประมงบอลหิมะแล่นเข้ามา คนบนเรือนั้นถามขึ้น “เพื่อน คุณก็คนแคนาดาเหมือนกันเหรอ? โอ้ ฉันมาจากรัฐโนวาสโกเชีย”
“นิวฟันด์แลนด์ เซนต์จอห์น” ฉินสือโอวโบกมือ
หลังจากขึ้นฝั่ง คนคนนั้นก็เดินเข้ามาหาแล้วกระตือรือร้นจับมือกับเขา “ผมชื่ออาร์ม็อง เฮนรี เกรเตียง กัปตันเรือชาร์ลส์เดอเกล เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับคุณในเมืองกลอสเตอร์ คุณก็ย้ายสัญชาติมาเหรอ?”
จากชื่อคนและเรือ ฉินสือโอวก็รู้ว่าเขาเป็นคนฝรั่งเศสที่ย้ายสัญชาติมา แคนาดาเป็นประเทศที่ประกอบไปด้วยคนหลากชนชาติ ชนพื้นเมืองอินเดียนแดงในตอนนี้หาได้แค่ที่เทือกเขาร็อกกี้
“ใช่ ชาวจีน” ฉินสือโอวไม่ค่อยยินดีจะผูกมิตร คนฝรั่งเศสมักไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนจีน พวกเขาเหยียดชนชาติมาก เป็นรองเพียงสเปนเท่านั้น
อาร์ม็องเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความเย็นชาของฉินสือโอวจึงยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้น “คุณเป็นคนจีน? ฮ่ะ น้องสาวภรรยาผมชอบประเทศของคุณมาก ตอนเด็กๆ เธอเคยอยู่ที่นั่นมาก่อน ตอนหลังก็ไปเที่ยวอีกหลายรอบ ในบ้านผมยังมีรูปที่เธอยืนอยู่บนกำแพงเมืองจีนอยู่เลย”
ฉินสือโอวตอบตามมารยาทเล็กน้อย หลังจากนั้นอาร์ม็องก็พูดประเด็นหลักออกมา “ผมมาเมืองกลอสเตอร์หลายรอบแล้ว แต่พูดจริงๆ นะ ผมยังไม่เคยเจอคนแคนาดาคนไหนที่เป็นที่รู้จักที่นี่ขนาดนี้ คุณช่างน่านับถือจริงๆ ”
…………………………………………………