ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 234 เกิดเรื่องไม่หยุด

บทที่ 234 เกิดเรื่องไม่หยุด
โดย
Ink Stone_Fantasy

สมรรถนะของเรือบอลหิมะจัดว่าเป็นเรือระดับสูงที่สุดในบรรดาเรือประมงที่ท่าเรือกลอสเตอร์ โดยดูได้จากความเร็วที่เริ่มเพิ่มขึ้นตั้งแต่เปิดหวูดออกท่าเรือได้สูงสุดแทบทะลุสามสิบนอต
ออกเรือไปได้สักพัก เสียงวิทยุก็ดังขึ้น ฉินสือโอวรับสาย เป็นเสียงหยาบกระด้างกล่าวว่า “บอลหิมะ บอลหิมะ นี่คือเรือแห่งชีวิต ผมคือกัปตันชาลส์ ชาลส์ เนท”
เงียบไปครู่หนึ่ง ก็พูดขึ้นต่อ “คืออย่างนี้ ผมต้องเตือนหน่อย พวกคุณได้เติมน้ำแข็งมาหรือเปล่า? “
ฉินสือโอวค่อนข้างประทับใจกับเสียงนั้น เขาอาจเป็นคนที่ถูกตาแก่เจมส์ตำหนิว่าตกปลาไม่ได้ตอนอยู่ท่าเรือก็ได้ อีกฝ่ายอุตส่าห์เตือนตนด้วยความหวังดี เขาคงต้องขอบคุณเสียหน่อย ไม่ว่าเจตนาฝ่ายนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม
ดังนั้น เขาจึงกระแอมทีหนึ่งและตอบว่า “สวัสดีกัปตันเนท ผมกัปตันฉินเรือบอลหิมะ ถังน้ำแข็งของเราใช้วัสดุโพลี่ยูริเทนโฟมแบบแข็ง เลยไม่จำเป็นต้องเติมน้ำแข็งทุกวันครับ แค่เปลี่ยนสี่ห้าก้อนต่อครั้งก็พอ”
อธิบายเสร็จฉินสือโอวก็วางสายแล้วช่วยชาร์คเตรียมเหยื่อปลา
ทางเขาเงียบไปแล้ว จู่ๆ วิทยุของเรือประมงอีกสี่ห้าลำด้านหลังก็วุ่นวายขึ้นมา มีคนติดต่อหาชาลส์ไม่หยุด ถามว่า “พวก นายเพิ่งคุยอะไรกับพวกเขาน่ะ?”
“อ้อ ฉันเตือนไปว่าเขาเติมน้ำแข็งมาหรือยัง”
“ฮ่าๆ นายนี่เป็นคนดีเสียจริง ไม่งั้นพวกเขาคงลืมเติมน้ำแข็งที่ชายฝั่งไปแล้ว ดูคนแคนาดาสมัยนี้สิเขาตกปลายังไงกัน”
“เจ้าโง่ พวกเขาตกปลาได้อยู่แล้ว รู้ไหมว่าถังน้ำแข็งพวกเขาทำมาจากอะไร? ฉนวนโพลี่ยูริเทนโฟมไงเล่า!”
“บ้าน่า ใช้โพลี่ยูริเทนโฟมแบบแข็งทำถังน้ำแข็ง? วัสดุนั้นสำหรับทำตู้อบแพงๆ ไม่ใช่เหรอ? นายนั่นเอามาใช้ทำถังน้ำแข็งเนี่ยนะ? ให้ตาย เขารวยขนาดนั้นแล้วยังจะมาแข่งหาทูน่ากับพวกเราเพื่ออะไร?!”
ลมทะเลพัดผ่าน ฉินสือโอวหยอกล้อกับเจ้าพวกฉงต้าและหู่จือ จนสามชั่วโมงกว่าจึงมาถึงน่านน้ำชายหาดจอร์จ
เวลานี้ชายหาดจอร์จมีคนมาตกปลาก่อนแล้ว มีเรือประมงแยกกระจัดกระจายเหมือนเมื่อวาน แน่นอนว่าเรือประมงเหล่านั้นอยู่ห่างออกไปมาก พอมองจากฝั่งฉินสือโอว จึงเห็นเพียงแค่จุดขาวเล็กๆ
เพราะส่งทูน่าครีบน้ำเงินกลับไปหมดแล้ว ฉินสือโอวเลยจำต้องพึ่งจิตสำนึกแห่งโพไซดอนที่ค้นหาในน่านน้ำได้ช้า เมื่อเทียบกับตอนอาศัยร่างทูน่า ความเร็วของตัวจิตสำนึกเพียงอย่างเดียว ถือว่าค่อนข้างช้ามาก
ฉินสือโอวพิงรั้วมองหาเงาปลาทูน่า รวมถึงดูว่ามีซากเรืออับปางตรงก้นทะเลบ้างไหม ผลที่ได้ไม่ราบรื่นนัก ไม่มีทูน่าผ่านมาเลย และเรืออับปางก็หาไม่เจอ
ตอนนั้นเองวิทยุของเรือประมงก็ส่งเสียงขึ้น ฉินสือโอวรับสาย ปลายสายยังคงเป็นเสียงชาลส์จากเรือแห่งชีวิต “พวก ลองไปหาตำแหน่งเรือลักกี้สตาร์ดูสิ เอ่อ อยู่ตรงทิศใต้ของเรือคุณน่ะ ถ้ามองทางนั้นพวกคุณน่าจะหาปลาตัวใหญ่เจอได้”
“ต้องการอะไรจากพวกผมกันแน่ครับ?” ฉินสือโอวถามด้วยความแปลกใจ
ชาลส์สำลักไปเล็กน้อย ก่อนพูดอย่างจำใจ “นายต้องมีแรงผลักดัน เจ้าหนุ่ม นายต้องมีแรงผลักดันเข้าไว้ ถ้าตกปลาใหญ่ได้แล้ว ไม่ใช่ว่านายก็อยากรีบกลับไปตกปลาที่เดิมเมื่อวานอีกเหรอ?”
ฉินสือโอวพลันกระจ่าง อ้อ ที่แท้ก็ช่วยเขาเพื่อให้พาไปน่านน้ำเมื่อวานแล้วตัวเองค่อยตามไปนั่นเอง
เรื่องนี้มีส่วนมาจากพฤติกรรมของปลาทูน่าด้วย แม้พวกมันจะเดินทางโยกย้ายในทะเลตลอด กล่าวได้ว่าไม่ต่างจากปลาชนิดอื่นๆ และชอบอยู่รวมเป็นกลุ่ม ปกติถ้าตกปลาได้ที่ไหน ก็จะมีโอกาสพบปลาเป็นฝูงอยู่แถวนั้นด้วย
แน่นอนว่าไม่มีอะไรยืนยันได้ อย่างเมื่อวานที่ฉินสือโอวหาทูน่าครีบน้ำเงินได้สองที่ กลับมีแค่พวกมันอยู่ตามลำพัง ไม่ใช่ว่าไม่มีฝูงปลาแต่ส่วนใหญ่เป็นปลาตัวเล็ก ที่ไม่คุ้มค่า
ทว่าอุตส่าห์มีคนตกปลาได้ทั้งที ฉินสือโอวจึงคิดไปดูเสียหน่อย
จิตสำนึกโพไซดอนเริ่มเคลื่อนไหว มีปลาใหญ่ตัวหนึ่งกำลังแหวกว่ายอยู่ห่างจากใต้ท้องเรือยี่สิบกว่าเมตรอยู่จริงๆ และยังเป็นทูน่าครีบน้ำเงินด้วย ตัวประมาณหนึ่งจุดสองเมตรได้ เป็นตัวเมีย
ถ้าเกิดปลาตัวนี้ถูกคนในเรือลักกี้สตาร์ตกได้ หรือเป็นตัวผู้ ฉินสือโอวก็จะไม่จับ เขามีขอบเขตของตัวเอง คือไม่ฉวยโอกาสใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนแย่งตกปลาของคนอื่น
แต่ตอนนี้ปลามันยังไม่กินเบ็ดแถมเป็นตัวเมีย ฉินสือโอวจึงไม่เกรงใจ เข้าควบคุมพามาทันที
บนเรือลักกี้สตาร์ กัปตันเฟล็ปส์กำลังจ้องเขม็งไปยังผิวน้ำอย่างเคร่งเครียด โดยมีผู้ช่วยเขากับหลานชายเคอร์ริสคอยโยนเหยื่อลงไปในน้ำ พร้อมเร่งเฟล็ปส์ว่า “เร็ว กินเหยื่อสิ ลุงครับ เร็วเข้า เจ้าตัวพันดอลลาร์อเมริกากำลังมาให้เราจับแล้ว”
เฟล็ปส์ตอบนิ่งๆ “ใจเย็น ใจเย็น เคอร์ริส ปกติลุงสอนเธอว่ายังไง? ปลาตัวนี้มันยังหยั่งเชิงอยู่ อีกเดี๋ยวค่อย…”
เขายังสอนไม่ทันจบ เครื่องโซนาร์หาปลาก็หยุดส่งเสียง เฟล็ปส์งุนงงจึงหันกลับไปดูในห้องบังคับการ แล้วพบว่าสัญญาณของปลาทูน่าในเครื่องหาปลาได้หายไปแล้ว
“บัดซบเอ้ย!” เขาคำราม
ทูน่าไม่เหมาะสำหรับการตกเท่าไร และความสนใจของฉินสือโอวไม่ได้อยู่ที่ทูน่า หลังเขาควบคุมปลาได้ก็เริ่มทำการค้นหาใต้ทะเลต่อ เพื่อมองหาร่องรอยของเรืออับปาง
ปลาทูน่าตัวหนึ่งอย่างมากก็ขายได้หมื่นสองหมื่น ซึ่งที่ชายน้ำตื้นนี้มีปลาตัวใหญ่ไม่มาก แต่เรืออับปางอย่างต่ำก็มีมูลค่ายี่สิบล้านดอลลาร์อเมริกาแล้ว ต้องทำธุรกิจอย่างไรเขารู้ดี
ขณะที่เป้าหมายของเขาคือเรือ พวกชาวประมงที่มาตกปลาทูน่า ก็ตามฉินสือโอวไปเพื่อหวังจะเจอแหล่งชุกชุมปลา
แต่เหล่าชาวประมงก็ไม่ได้ถึงขั้นหน้าไม่อาย พอตามฉินสือโอวถึงน่านน้ำนี้ต่างก็แยกย้ายกัน พวกกัปตันใช้ประสบการณ์ของตัวเองค้นหาตามหาสถานที่ที่มีโอกาสจะเจอแหล่งอาศัยของทูน่า
มีเพียงเรือลำเดียวที่ยังคงตามเรือบอลหิมะตลอด โดยรักษาระยะห่างในหนึ่งไมล์ทะเลไว้ ชาร์คทนไม่ไหวเลยติดต่อผ่านวิทยุไปยังเรือลำนั้นว่า “เฮ้ย เรือแห่งชีวิต พวกนายช่วยห่างกว่าอีกหน่อยโอเคไหม? ใกล้ไปแล้ว ระยะห่างพวกเราเสี่ยงเกินไป เดี๋ยวก็เกิดเรื่องยุ่งเข้าหรอก”
บนเรือแห่งชีวิต ชาลส์ทำหน้าทะเล้นตอบว่า “พวกเราอยู่ห่างกันตั้งเยอะ ไม่มีปัญหาอะไรน่า พวกนายรีบตกปลาเถอะ”
ชาร์คเริ่มโมโห ฉินสือโอวโบกมือบอกให้เขาใจเย็น ถึงอย่างไรบริเวณนี้ก็มีแค่ทูน่าที่เขาควบคุมอยู่ตัวเดียว ให้พวกเขาตามไปเถอะ
ดังคาด จนเวลาเที่ยงแล้ว ยังไม่มีใครจับปลาทูน่าได้สักคน แต่เป็นเรือชื่อ ‘คอนสแตนติน’ ลำหนึ่งที่ตกปลาฉลามหางยาวได้ ทำคนบนเรือดีใจกันถ้วนหน้า
ทว่าช่วงเที่ยง สถานการณ์กลับเลวร้ายลง เมื่อเรือ ประมงอวนลากประมาณสี่ห้าตันปรากฏขึ้นบนน่านน้ำ
ซึ่งเรือ ประมงอวนลากไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้จับปลาทูน่าครีบน้ำเงิน แต่ที่ชายหาดน้ำตื้นจอร์จไม่ได้มีแค่ปลาชนิดเดียว ยังมีปลาค็อด ปลาแซลมอนแปซิฟิก ปลาแฮร์ริ่ง ปลาทะเลตัวแบน ปลากะพงทะเล ฯลฯ อีกจำนวนมาก เป้าหมายของพวกเขาคือปลาพวกนี้ ถ้าจับได้จำนวนมากพอก็แทบขายได้ราคาดีพอกัน
เดิมชายหาดน้ำตื้นจอร์จก็มีพื้นที่ไม่น้อย ไม่เกิดการขวางทางระหว่างเรือประมงกับเรือตกปลาอย่างใด แต่พอหลังเรือ ประมงอวนลากแล่นเข้ามา การตกปลาก็พาลต้องหยุดชะงักลง
ฉินสือโอวไม่ได้รู้สึกอะไร ระยะระหว่างกันยังห่างอยู่ จึงมองคนทั้งสองบนท้ายเรือตกปลาเล็กที่เริ่มตะโกนใส่เรือประมง
เนื่องจากอยู่ไกลเกินไป เขาเลยฟังไม่ชัดว่าตะโกนอะไรกัน แต่ดูค่อนข้างร้อนรน เพราะสองคนนั้นไม่เพียงตะโกนยังกระโดดไปมาอีกด้วย
ฉินสือโอวถามด้วยความประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้น?”
ชาร์คตอบอย่างร้อนใจ “ให้ตาย กัปตันเรือประมงนั่นบ้าไปแล้ว! คืออย่างนี้ครับ เรือ ประมงอวนลากมีอวนลากอยู่ใต้ทะเล แต่สมอของเรือตกปลาก็อยู่ด้านล่างนั่นเหมือนกัน บอสก็รู้ว่าสมอเวลาอยู่ในน้ำมันจะเอนลง แบบนี้ต่อให้เรือประมงกับเรือตกปลาไม่ได้อยู่ใกล้กัน มันก็จะถูกอวนเกี่ยวเชือกสมอไปด้วย”
“แล้วยิ่งเป็นอวนขนาดใหญ่ไปเกี่ยวสมอเข้า เรือก็จะโดนลากตามไป ยิ่งสมอที่อยู่ข้างเรือประมงที่ขับด้วยความเร็ว ถ้าตะขอหลุดเมื่อไรเรือก็จะเสียสมดุลแล้วจมในที่สุดครับ”
ได้ฟังชาร์คอธิบายดังนั้น ฉินสือโอวจึงกระจ่างทันทีว่าเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คิด
เรือจมไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้าคนโดนดึงจมไปด้วย ยิ่งแย่กว่าเดิมแน่ เพราะถ้าคนบนเรือกระโดดลงน้ำก่อนไม่ทันจนเรือพลิกขึ้นมาก็แทบหมดทางหนี!
เรือตกปลาลำอื่นๆ อยู่ไกลเกินไป ถึงอยากช่วยก็ช่วยไม่ได้ แถมยังลงสมอไว้แล้ว ซึ่งตอนนี้ที่อยู่ใกล้ที่สุดก็คือเรือบอลหิมะของฉินสือโอวนั่นเอง
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset