ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 210 ใจเย็น

บทที่ 210 ใจเย็น
โดย
Ink Stone_Fantasy

รถวิ่งไปบนถนนอีกครั้ง ฉินสือโอวจึงเริ่มเพิ่มความเร็วขึ้น ความจริงแล้ว ถนนในออตตาวากว้างและตรงมาก ดังนั้นความเร็วล้วนแต่ไม่มีคันไหนขับช้า  ที่เมื่อสักครู่เขาขับรถอย่างระมัดระวังขนาดนั้น ก็เป็นเพราะว่านั่นเป็นครั้งแรกที่เขาขับรถซูเปอร์คาร์เขาต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองและชีวิตของผู้อื่นด้วย
ในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของแคนาดา ก็คงจะอดทอดถอนใจกับความยิ่งใหญ่ของออตตาวาไม่ได้ เมืองนี้เป็นเหมือนกระดานเกมหมากรุกที่สุขุมและมั่นคง จึงทำให้สามารถแยกทิศทางได้อย่างง่ายดาย ทุกๆช่วงถนนของเมืองนี้ โดยทั่วไปแล้วจากเหนือจรดใต้จะยาวราวๆสี่สิบห้าสิบเมตร จากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตกจะกว้างถึงราวๆหนึ่งร้อยยี่สิบเมตรกว่าๆ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้สามารถยืนยันตำแหน่งตนเองได้โดยง่าย
เมื่อรถกลับมาวิ่งบนถนนอีกครั้งก็มีรถหลายคันวิ่งแซงขึ้นมา ตอนที่รถพวกนี้กำลังจะแซงพวกเขาไปคนขับรถก็จะบีบแตรและรถหน้าต่างลงจากนั้นก็ตะโกนออกมาหาพวกเขา เห็นได้ชัดว่า ที่ออตตาวาเองก็คงจะไม่ได้พบเจอรถหรูแบบนี้ได้บ่อยๆเช่นกัน
ฉินสือโอวที่กำลังเข้าที่เข้าทางแล้ว ด้านหลังก็มีรถขับแซงขึ้นมาอีก เป็นรถมิตซูบิชิ ขณะที่กำลังจะขับแซงไปเจ้าของรถคันนั้นก็บีบแตรไม่หยุด
ความนี้ฉินสือโอวก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว เขาสบถด่าว่า “รถญี่ปุ่นบุโรทั่งแบบแกคิดจะมาสู้กับฉันงั้นเหรอ? เอาเถอะ วันนี้ฉันจะสั่งสอนแกเองว่าคนจริงเขาทำกันยังไง!”
เมื่อพูดจบ เขาก็เหยียบคันเร่งลงไป มือซ้ายบังคับพวงมาลัยไว้อย่างมั่นคงส่วนมือขวาก็เปลี่ยนเกียร์ด้วยความรวดเร็ว เครื่องยนต์ของรถพอร์ช 918 ก็เริ่มส่งเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง อัตราการหมุนรอบของล้อก็เพิ่มขึ้นทันที เสียง ‘เอี๊ยด’ ของล้อที่เสียดสีกับถนนก็ดังออกมา รถพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่ราวกับสายฟ้าฟาด
“โว้ว!”เบลคถูกความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันทำให้ตกใจจนตัวโยน คนบนรถก็ถูกแรงต้านผลักไปข้างหลังจนตัวถูกดันติดกับเบาะรถ
ได้ยินเสียงร้องคำรามอย่างเดือดดาลของเครื่องยนต์ เลือดในตัวของฉินสือโอวก็เดือดพล่านขึ้นมาเช่นกัน ลมยามค่ำคืนพัดเข้ามาปะทะกับใบหน้า รถ คน และ ต้นไม้ทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกทิ้งให้อยู่ข้างหลัง ความเร็วนำมาซึ่งความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจของผู้ชายที่ทำให้เขาเสพติด
โชคดีที่ตอนนี้รถวิ่งมาถึงถนนรอบนอกของเมืองแล้ว รถที่อยู่บนถนนก็ยิ่งน้อยลงไปอีก ฉินสือโอวเหยียบคันเร่งอย่างเต็มที่ เขารวบรวมสมาธิไว้อย่างสูง มือซ้ายจับกระชับพวงมาลัยไว้พร้อมทั้งไม่หยุดหมุนมันเพื่อบังคับทิศทาง ส่วนมือขวาก็ขยับเกียร์รถเพื่อเพิ่มความเร็วให้สอดคล้องกับเท้าที่เหยียบคันเร่ง เพียงครู่เดียวรถพอร์ช 918 ก็กลายร่างเป็นสัตว์ร้ายที่ร้องคำรามและพุ่งทะยานไปข้างหน้า
คราวนี้เบลคก็ไม่กล้าพูดแซวฉินสือโอวแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาแสดงออกถึงความวิตกกังวล ความเร็วที่ทะลุหนึ่งร้อยยี่สิบไมล์ไปจนถึงหนึ่งร้อยหกสิบไมล์ในชั่วพริบตา หรือก็เท่ากับสองร้อยห้าสิบกิโลเมตรนั่นเอง
โชคดีที่ฉินสือโอวควบคุมตัวเองได้ดีเป็นอย่างยิ่ง เขาลองขับไปแล้วสี่สิบกว่ากิโลเมตรจากนั้นถึงลดความเร็วลง เบลคจึงได้ถอนแว่นตาออกแล้วเช็ดคราบน้ำตา แล้วพูดขึ้นมาด้วยใจที่ยังมีความหวาดผวาอยู่ว่า “ฉันจะบอกว่าครั้งหน้าก่อนจะเพิ่มความเร็ว ช่วยปิดประทุนรถก่อนโอเคไหม? ฉันที่อยู่ทางนี้โดนลมพัดจนมองไม่เห็นอะไรแล้ว นายไม่เป็นอะไรเลยหรือยังไง?”
ฉินสือโอวยิ้มตอบเขาไปว่า “ถ้าเทียบกับเทพเจ้าสายฟ้ามืดของฉันแล้ว ความเร็วเท่านี้ก็ไม่เห็นจะมีอะไร”
เบลคจัดการงานปาร์ตี้ไว้เรียบร้อยแล้ว เขานั่งรถเล่นกับฉินสือโอวสักพัก รถพอร์ช 918 ก็เตรียมจะไปร่วมงานเลี้ยงแล้ว คราวนี้รถจากัวร์เอ็กซ์เคสีแดงเพลิงคันก็ขับเข้ามา
ถึงแม้ว่าจะเป็นรถซูเปอร์คาร์เหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับรถพอร์ช 918 ชปึแดร์ที่สูงค่าแล้ว รถจากัวร์เอ็กซ์เคก็เท่ากับมาตรฐานของรถซูเปอร์คาร์ทั่วไป รถยี่ห้อนี้ขนาดขายที่จีนก็ยังมีราคาไม่ถึงหนึ่งล้าน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่อเมริกาเหนือเลย ฉินสือโอวมองด้วยตาก็เดาได้ว่าน่าจะมีราคาแค่แสนสามแสนสี่ดอลลาร์แคนาดาเท่านั้น
หน้าต่างรถถูกลดระดับลงแล้ว สาวสวมเสื้อกล้าม แต่งหน้าแบบสโมคกี้อายก็ยื่นตัวออกมาพูดกับฉินสือโอวว่า “เฮ้ สุดหล่อ รถสวยจังเลยนะ มาทำความรู้จักกันหน่อยไหม?”
ฉินสือโอวกลัวจะเกิดเรื่องจึงลดความเร็วลง เขาพูดหยอกว่า “คนสวย คุณอายุเท่าไรกันเนี่ย? ผมไม่สนใจคนที่ยังไม่โตหรอกนะ ผมกลัวหมายศาลน่ะ”
ถึงแม้สาวน้อยคนนั้นจะแต่งหน้าหนาหนัก ทว่าฉินสือโอวก็เดาว่าน่าจะมีอายุมากสุดแค่สิบหกสิบเจ็ดปีเท่านั้น ยังไงก็ยังเป็นเด็กวัยรุ่นแน่นอน
ปรากฏว่า เด็กสาวคนนั้นกลับทำสิ่งทำให้เขาต้องถึงกับอึ้งออกมา เด็กสาวถอดเสื้อกล้ามออกมาทันที อีกทั้งเธอยังไม่ได้ใส่อะไรไว้ข้างใน เมื่อเป็นเช่นนี้หน้าอกคู่นั้นก็ถูกโชว์ให้เห็น
ถึงแม้ว่าจะเป็นยามอาทิตย์ลับขอบฟ้าในฝั่งตะวันตก ทว่าตอนนี้ก็ยังพอมีแสงอยู่ ฉินสือโอวที่รับการเปลี่ยนแปลงจากพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนจนทำให้มีการมองเห็นที่ดีขึ้น จึงมองเห็นแม้กระทั่งเมล็ดถั่วเล็กๆที่อยู่ในรอบวงสีเชอร์รีนั้นได้อย่างชัดเจน!
ฉินสือโอวรีบเหยียบเบรก ประสบการณ์ครั้งนี้น่าหวาดเสียวเกินไปแล้ว ชายหนุ่มบริสุทธิ์อย่างเขาค่อนข้างจะรับไม่ไหว
เบลคก็ผิวปากขึ้นมาทันที เด็กสาวคนนั้นพูดกับฉินสือโอวว่า “เห็นชัดหรือยังว่าฉันโตแล้วหรือยังไม่โต? หรือต้องให้ฉันถอดกระโปรงคุณจะพิสูจน์ได้ละเอียดๆสักหน่อยเอาไหม?”
คราวนี้ฉินสือโอวไม่กล้าพูดอะไรแล้ว เขารีบเหยียบคันเร่งเพื่อสลัดแม่สาวคนนั้นให้พ้นไป เบลคพูดกับเขาว่า  “เป็นโอกาสที่ดีนะ จากประสบการณ์ของฉันแล้ว แม่สาวคนนั้นคงจะนุ่มนิ่มน่าดู……”
“ถ้านายรู้สึกเสียดาย งั้นนายก็กลับไปสิ ยังไงรถคันนี้มันก็เป็นรถของนายอยู่แล้ว” ฉินสือโอวพูดขึ้นมาอย่างคนที่อารมณ์ไม่ดีเท่าไรนัก
เบลคส่ายหัวแล้วพูดกับเขาว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ คนสำคัญของวันนี้คือนายนะ อีกอย่าง พอไปถึงปาร์ตี้ก็คงไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีสาวๆสวยๆแล้วใช่ไหมล่ะ? แม่สาวคนเมื่อกี้น่าจะยังไม่ถึงระดับล่ะนะ”
ฉินสือโอวก็ส่ายหัวบ้างแล้ว เหมือนจะสื่อสารกันไม่รู้เรื่องเลยสินะ ในฐานะที่เป็นผู้ชาย เขาก็มักจะมีความต้องการเช่นกัน อย่างเช่นในไดรฟ์อีก็มีหนังโตเกียวสุดฮอตอะไรพวกนั้นซ่อนอยู่ เมื่อถึงเวลากลางคืนเขาก็อาจจะเพลิดเพลินกับมันด้วยตัวของเขาเอง
ทว่า เขาก็คงไม่สามารถทำตัวเละเทะโดยการไปมั่วกับผู้หญิงคนอื่นได้
อย่างแรกเลยก็เพราะว่าเกาะแฟร์เวลไม่มีผู้หญิงที่เละเทะแบบนั้น อย่างที่สองคือเขารู้สึกว่าความสามารถในการควบคุมตัวเองของเขาแท้จริงแล้วเหมือนกันกับผู้หญิงเลยด้วยซ้ำ ขอเพียงแค่คุณไม่ปล่อยให้มันหลุดจากการควบคุมออกมา เช่นนั้นแล้วไม่ว่าแรงดึงดูดใดๆก็จะสามารถต้านทานไว้ได้ หากทนไม่ได้หนึ่งครั้ง ต่อไปก็จะมีหลักการอะไรหลงเหลือแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแรงยั่วยุใดๆก็คงจะต้านทานไว้ไม่ได้แน่ๆ
สถานที่ที่เบลคจัดเตรียมงานปาร์ตี้ไว้ตั้งอยู่ที่ชานเมืองฝั่งทางตอนเหนือของออตตาวา เมื่อขับผ่านพิพิธภัณฑ์ศิลปะและโรงกษาปณ์แคนาดามา ที่นั่นก็จะเป็นตลาดกลางคืนของออตตาวาแล้ว
ตลาดกลางคืนแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนเอลจิน อยู่ติดกันกับตลาดบายวอร์ดที่มีชื่อเสียง บนถนนเส้นนี้มีไนต์คลับและบาร์เหล้าอยู่เป็นจำนวนมาก ในยามที่แสงไฟในตอนกลางคืนถูกเปิดขึ้น ที่นี่ก็จะเริ่มคึกคักขึ้นมา มีหนุ่มหล่อสาวสวยที่เพลิดเพลินจนลืมกลับบ้านหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด เต็มไปด้วยเสียงจ้อกแจ้กจอแจ
ฉินสือโอวพูดขึ้นมาว่า “ฉันนึกว่านายจะเลือกจัดปาร์ตี้ที่ถนนสปาร์ตาคัสหรือไม่ก็ที่ถนนควีนเสียอีก ได้ยินมาว่าที่นั่นมีระดับกว่านี้ไม่ใช่เหรอ?”
บนถนนสองสายนี้ก็มีบาร์เหล้าเป็นจำนวนมากเช่นกัน บรรยากาศค่อนข้างจะสงบกว่า ตนในวงการศิลปะ และคนในวงการบันเทิงจะไปที่นั่นกัน
เบลคส่ายหัวตอบ “ไม่ๆๆ ไม่ไปที่นั่นอยู่แล้ว พวกเราออกมาหาความสำราญนะ น้องชาย! ที่นั่นก็เหมือนกับหลุมศพนั่นแหละ มีแต่พวกคนอกหักอย่างฆ่าตัวตายเท่านั้นแหละที่จะไปที่นั่น ถนนเอลจินสิถึงจะเป็นสวรรค์ของเรา”
เมื่อมาถึงที่นี่ รถซูเปอร์คาร์ก็ขับต่อไปไม่ได้แล้ว อีกทั้งคนที่นี่ก็ทำให้ฉินสือโอวเร่งความเร็วไม่ได้ และแม้ว่าที่นี่จะเป็นสถานที่ที่รถหรูชื่อดังมารวมตัวกัน ทว่ารถพอร์ช 918 สไปเดอร์ก็ยังเป็นซูเปอร์สตาร์ที่ได้รับการกล่าวขานถึงอยู่ดี
รถขับจากหัวมุมถนนมาจนถึงส่วนท้ายของเส้นถนน ระหว่างนั้นก็มีคนยื่นเอากระดาษและนามบัตรส่งให้ฉินสือโอวไม่หยุด ล้วนแต่มาจากผู้หญิงเซ็กซี่ทั้งนั้นจุดประสงค์ของคนพวกนี้คืออะไรก็คงเห็นได้อย่างชัดเจน
ฉินสือโอวไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาอยากจะปิดประทุนรถขึ้น แต่เบลคบอกเขาว่าไม่จำเป็น เมื่อมาถึงสถานที่แบบนี้ก็ไม่ต้องทำเป็นเหนียมอายแล้ว ในเมื่อนายขับรถหรูมาแล้วจะยังต้องกลัวฝูงคนที่จ้องมองไปทำไมกัน? ถ้าไม่อยากเป็นจุดสนใจของคนอื่น ถ้างั้นก็ขับรถออดี้แทนซะสิ
ฉินสือโอวแอบตอบกลับไปในใจว่าถึงนายจะพูดแบบนี้ แต่รถออดี้ในประเทศฉันก็ถือว่าเป็นรถหรูที่ดึงดูดความสนใจคนได้อยู่ดีโอเคไหม แต่นายกลับพูดเหมือนมันเป็นขยะอย่างนั้นน่ะเหรอ? ถ้าหากจะเทียบกันจริงๆ ก็เอาไปเทียบกับรถโฟลคสวาเก้น ซานาเถอะ
ภายใต้การออกคำสั่งของเบลค ในที่สุดรถก็หยุดลงในบริเวณลานจอดรถที่อยู่ข้างหน้าตึกเล็กๆตึกหนึ่ง ตึกเล็กๆแห่งนี้ตั้งอยู่ที่จุดสิ้นสุดของถนนเส้นนี้ ป้ายชื่อร้านก็ทำขึ้นจากไฟนีออนอย่างง่ายๆ เขียนชื่อร้านเอาไว้ว่า ‘ลอสต์ พาราไดซ์’
“ตอแหลจริงๆ” ฉินสือโอวแบะปาก ถึงกับหลงทางไปในสวรรค์งั้นเหรอ ชื่อนี้โอเวอร์เกินไปแล้วล่ะ
รถของพวกเขาเพิ่งจะหยุดลง ก็มีรถอีกคันขับเข้ามาจอดข้างๆกันกับพวกเขา รถคันนั้นคือ บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 5 ที่เห็นได้บ่อยในแคนาดา หลังจากนั้นหญิงสาวสวมแว่นกันแดดที่มีเรือนร่างอรชรก็ลงมาจากรถ
เมื่อสาวสวยคนนั้นลงจากรถก็หันมามองรถพอร์ช 918 สไปเดอร์ ด้วยความสนอกสนใจ เธอถอดแว่นตาออกแล้วส่งยิ้มน่ามองให้กับฉินสือโอว  “รถคุณไม่เลวเลยนะคะ สวยมากเลย”
ฉินสือโอวมองเห็นลักษณะท่าทางของเธอได้ไม่ค่อยชัดเจนนัก จึงส่งยิ้มตามมารยาทกลับไป จากนั้นจึงเดินเข้าไปในไนต์คลับที่ชื่อว่าลอสต์ พาราไดซ์พร้อมกันกับเบลค
หลังจากผ่านประตูมาแล้ว เบลคก็หยอกเขาว่า “ไม่เลวเลย ฉิน นายนี่นับว่ามีมาดเลยล่ะ ครั้งแรกที่ฉันได้เจอกับอาวริล ลาวีน ฉันยังใจเย็นได้ไม่เท่านายเลยด้วยซ้ำ”
………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset