วินนี่ควรนับเป็นดาวนำโชคของฉินสือโอว เธอเพิ่งมาไม่นาน ข้อมูลสองอย่างก็มาถึงสถานีตำรวจ อันหนึ่งคือจดหมายเชิญฉินสือโอวจากการแข่งขันออลสตาร์เพื่อการกุศลบอสตัน อีกอันคือเอกสารรับรองทรัพย์สินของฉินสือโอวจากธนาคารมอนทรีออล
เมื่อมีข้อมูลสองอย่างนี้ ข้อสงสัยที่มีต่อฉินสือโอวและเหมาเหว่ยหลงก็เป็นอันลบล้าง เพราะไม่มีทางที่เศรษฐีอย่างเขา จะจงใจวิ่งมายังไมอามีเพื่อปล้นร้านสะดวกซื้อเล็กๆ แน่
ตำรวจสองนายส่งฉินสือโอวออกจากสถานีอย่างนอบน้อม วินนี่ยิ้มหัวเราะกล่าวว่า “พวกเขากลัวทนายคุณจะมาทำเรื่องฟ้องน่ะสิ”
ฉินสือโอวเอ่ยอย่างสงสัย “พวกเขาแค่ทำตามกฎหมายนี่? ยังจะกลัวผมฟ้องทำไม? แล้วระหว่างดำเนินเรื่องก็ไม่มีการใช้ความรุนแรงอะไรด้วย”
วินนี่อธิบาย “เรื่องนี้มองแค่ส่วนนั้นไม่ได้ ในอเมริกามีหลายคดีที่ไม่สนใจผลลัพธ์ ถ้าคุณฟ้องสถานีตำรวจ พวกเขาก็จะทำงานกันลำบากขึ้น แล้วยังกลายเป็นข่าวไปถึงสื่อ ส่งผลต่อภาพลักษณ์และการเลื่อนขั้น ถ้าพวกเขารู้ว่าคุณจะรวยขนาดนี้ คงไม่กล้ากักตัวคุณหรอก คนรวยสามารถเชิญทนายมาฟ้องได้สบาย พวกเขาแค่ไม่อยากเสียหายน่ะ”
หลังออกจากสถานีตำรวจ วินนี่ก็ไปเรียกแท็กซี่ข้างทาง เหมาเหว่ยหลงพิจารณาเธออย่างละเอียดแล้วจู่ๆ ก็พูดขึ้นว่า “ฉินโซ่วเด็กนายนี่โอเคเลย แม่สาวแอร์คนนี้สวย นิสัยดี มิน่า นายแอบชอบเธออยู่นี่เอง ฉันแนะนำสาวไหนไปนายก็ปฏิเสธหมด ถ้าฉันได้รู้จักผู้หญิงแบบนี้ก็คงเป็นเหมือนนายแหละ แล้วไม่ขอเธอแต่งงานล่ะ”
เหมาเหว่ยหลงทำหน้าจริงจัง พูดภาษาจีนล้อฉินสือโอว
ฉินสือโอวหน้าซีด ไอ้เวรนี่พูดบ้าอะไร? นายแนะนำสาวให้ฉันตั้งแต่เมื่อไรวะ? ปัญหาความสัมพันธ์ของตัวนายนี่มันเกินเยียวยาแล้วใช่ไหม? ที่สำคัญ ไอ้เวร วินนี่ฟังภาษาจีนออกโว้ย!
คิดดังนั้น เขาลังเลว่าจะเตือนเหมาเหว่ยหลงดีไหม วินนี่ก็หันมา ส่งสายตาห้ามฉินสือโอวไว้ก่อน แล้วยิ้มตอบเป็นภาษาอังกฤษว่า “ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่หรือคะ?”
เหมาเหว่ยหลงยังทำหน้าจริงจัง ตอบกลับด้วยภาษาอังกฤษแปร่งๆ “ผมแค่กำลังชมคุณครับ”
กล่าวจบ เขาก็ขยิบตาให้ฉินสือโอว “หาสาวต่างชาติเป็นภรรยาก็ดีนะ เธอฟังที่พวกเราพูดไม่ออก นายจะได้รักษาความเป็นส่วนตัวได้ จริงสิ ไม่ใช่นายวางแผนว่าตอนมาจะซื้อดอกไม้ให้แล้วค่อยสารภาพรักหรอกเหรอ? เกิดเรื่องแบบนี้แล้วยังจะสารภาพอยู่ไหม?”
ฉินสือโอวมุมปากกระตุก เป็นเพื่อนเลวกันมาสี่ปี ทำไมเขาจะไม่เข้าใจความหมายของเหมาเหว่ยหลง?
เหมาเหว่ยหลงดูจะรู้ว่าวินนี่เข้าใจภาษาจีน ซึ่งฉินสือโอวจำได้ว่าตัวเองคงเคยบอกไปแล้ว ดังนั้นการที่เหมาเหว่ยหลงพูดเช่นนี้ ที่แท้คือคอยช่วยให้เขาได้สารภาพรักนั่นเอง เจ้าเพื่อนเลวรู้ว่าเขาอายเกินกว่าจะยอมพูดจึงพยายามช่วยเขาเป็นพิเศษ
วินนี่แสร้งมองฉินสือโอวอย่างงุนงง ส่วนเหมาเหว่ยหลงก็ทำเป็นภาคภูมิใจมาก ฉินสือโอวถอนหายใจ เขานึกว่าตัวเองเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูดมาตลอด ตอนนี้พอเห็นการแสดงของสองคนนั้น พลันรู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่คนทึ่มหัดแสดงไปเลย
เมื่อนั่งแท็กซี่ตรงมายังอพาร์ตเมนต์แอร์โฮสเตสของพวกวินนี่ หลังลงจากรถวินนี่ดึงฉินสือโอวไว้ พลางยิ้มน่ารักเอ่ยว่า “ฉิน คุณห้าม คุณห้ามบอกเพื่อนคุณ ว่าฉันรู้ภาษาจีนเด็ดขาด…”
เธอเดินไปได้สองก้าวก็หันกลับมา ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “นี่คงไม่ใช่แผนที่คุณกับเพื่อนเตรียมกันไว้หรอกนะ?”
ฉินสือโอวยิ้มขม “คุณคิดว่าผมเป็นแบบเลดี้ส์แมน[1]เหรอ?”
วินนี่หยิบชุดที่เตรียมไว้ส่งให้เขา พลางตอบ “งั้นฉันคงคิดมากไป แต่ฉันก็อยากทำให้แน่ใจว่าพวกคุณกำลังแสดง หรือ ที่เพื่อนของคุณพูดเป็นเรื่องจริงกันแน่?”
ฉินสือโอวมองวินนี่ตาโต “ใช่ วินนี่ ผมมาครั้งนี้ เพื่อมาสารภาพรักกับคุณ ผมชอบคุณ ไม่ใช่แค่เพราะคุณสวยเซ็กซี่ แต่เพราะจิตใจที่ดีงามและความน่ารักนั้น ผมเลยอยากจีบคุณครับ”
วินนี่จิ้มปลายจมูกเล็กๆ ตอบว่า “พ่อรูปหล่อ ฉันจะให้โอกาสคุณ แค่โอกาสในการจีบเท่านั้นนะ ยังไม่ได้ตกลงว่าฉันจะเป็นแฟนคุณหรอก”
ได้ยินดังนั้นฉินสือโอวก็ยิ้มกว้าง หันไปทำท่าชูสองนิ้วให้เหมาเหว่ยหลง อีกฝ่ายก็ยกนิ้วโป้งให้เงียบๆ ทำได้สวย!
ฉินสือโอวและเหมาเหว่ยหลงพักอยู่ในกรีนเฮาส์ด้านข้างที่พักของสายการบินแคนาดา โรงแรมนี้เหมือนกับเซเว่นเดย์ อินน์[2]ของจีน เป็นโรงแรมสำเร็จรูป หรือห้องพักริมทางที่มักเห็นได้บ่อยในหนังฮอลลีวูดและซีรีส์อเมริกันนั่นเอง
วางของเสร็จฉินสือโอวก็โทรไปยังฟาร์มปลา บอกชาร์คว่าจะกลับช้าอีกสองวัน
ได้ฟังดังนั้น ชาร์คก็พูดด้วยความลำบากใจ “บอส ฟาร์มปลาไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกครับ แต่ลูกๆ คุณน่ะปัญหาเยอะมาก ตั้งแต่วันที่คุณไป ลูกคุณก็เริ่มดื้อกันเลย หู่จือกับเป้าจือวิ่งหาคุณทั่วฟาร์มปลาตลอด ฉงต้าก็ร้องเอ๋งๆ ไม่ยอมกินอะไร ทำพวกเราหัวหมุนไปหมด”
ฉินสือโอวให้ชาร์คเปิดวิดีโอ หู่จือกับเป้าจือนอนแผ่บนพรมอย่างหม่นหมองโดยมีฉงต้าเอนอยู่ด้านข้าง ต้าป๋ายปีนขึ้นไปบนพุงมัน ดูหมดอาลัยพอกัน บนพื้นมีของเคี้ยวเล่นวางกองไว้ แต่ไม่มีตัวใดสนใจของพวกนี้เลย
ฉินสือโอวพลันปวดใจ จึงพูดผ่านกล้องวิดีโอว่า “เด็กๆ มาเร็ว ดูซิใครอยู่ตรงนี้ หันมาสิ นี่พ่อเองนะ”
ทันทีที่ได้ยินเสียงเขา หู่จือกับเป้าจือก็พุ่งเข้ามา ฉงต้าเงยหน้าขึ้นแล้วพยายามจะพลิกตัว แต่มันอ้วนเกินไป ลองอยู่สองครั้งก็ไม่สำเร็จ ตัวอ้วนกลมของมันดุ๊กดิ๊กไปมา ทว่าแม้แต่ต้าป๋ายยังไม่สะเทือนด้วยซ้ำ
พอเห็นอย่างนั้น วินนี่ก็หลุดหัวเราะ
หมีสีน้ำตาลโคดิแอคเป็นหมีที่แข็งแรงที่สุดชนิดหนึ่ง ความแข็งแกร่งนี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงอุปนิสัยของพวกมัน ยังรวมถึงโครงสร้างทางร่างกายอีกด้วย พวกมันไม่เหมือนหมีสีน้ำตาลทั่วไปที่อ้วนเชื่องช้า เพราะมันมักจะวิ่งและปีนเขา ทำให้ร่างกายพวกมันค่อนข้างผอมเพรียว
ตอนนี้ฉงต้ากลายเป็นก้อนเนื้อกลมไปแล้ว ปกติพอกินอิ่มก็นอนแผ่กับพื้นทันที ทำให้หัวกลม ตัวกลม ใบหูกลม เท้าทั้งสี่ค่อยๆ กลม หางฟูกลม จนทั้งตัวกลายเป็นก้อนเนื้อกลมขนฟูในที่สุด
หู่จือกับเป้าจือยืนสองขา ขาหน้าเกาะบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ ส่งเสียงร้องเอ๋งๆ หู่จือร้องสักพักก็อยากเลียฉินสือโอว แต่มันทำได้เพียงเลียโดนหน้าจอเท่านั้น ยิ่งทำให้มันกระวนกระวายกว่าเดิม จึงอยู่ไม่สุขอยากกระโดดขึ้นโต๊ะให้ได้
ฉงต้าที่ลุกขึ้นมาได้ในที่สุด ใช้อุ้งมือดันเจ้าสองตัวออก ยื่นหน้าเข้ามามองฉินสือโอวในหน้าจออย่างโง่งม มันกะพริบตาเล็กสีดำปริบๆ ชี้อุ้งมือไปที่ฉินสือโอว แล้วร้องด้วยความเสียใจ
หู่จือกับเป้าจือร้องตามด้วยเสียงอันโศกเศร้า ตาสีดำน้ำตาคลอดูน่าสงสาร
ในใจฉินสือโอวรู้สึกผิด ตั้งแต่เลี้ยงเจ้าสามตัวนี้มา เขาไม่เคยห่างจากพวกมันไกลขนาดนี้เลย เขารีบปลอบ
ฉงต้ายังร้องไม่หยุด วินนี่จึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น ฉินสือโอวยิ้มขมตอบว่า “เจ้าเด็กโง่พวกนี้เหมือนจะเข้าใจว่าผมโดนขังอยู่ในคอมล่ะมั้ง? คุณไม่เห็นเหรอ มันพยายามยื่นอุ้งมือมาดึงผมให้ได้อยู่น่ะ?”
มองเผินๆ เจ้าสามตัวนี้อาจดูน่าขำ โง่งม แต่ถ้าได้รู้ถึงความผูกพันอันบริสุทธิ์ไร้สิ่งใดแอบแฝงที่มีต่อฉินสือโอว ก็คงประทับใจฉากนี้ทีเดียว
ฉินสือโอวปลอบอยู่พักใหญ่ แทบอยากทะลุผ่านคอม กลับคฤหาสน์ไปกอดเจ้าสามตัว วิดีโอคอลไปสักพักทั้งสามตัวถึงสงบลง
จากนั้นก็เหลือแค่พักร้อน วินนี่มีวันหยุดสองวัน เหมาเหว่ยหลงบอกว่าไม่ต้องสนใจเขา ไปกับวินนี่ก็พอ
ทำไมฉินสือโอวถึงรู้สึกผิดที่ทำแบบนี้กัน? เขากับวินนี่มีโอกาสเจอกันอีกเยอะ แต่เหมาเหว่ยหลงกลับมีโอกาสหยุดแค่ปีละครั้ง
สองวันต่อมา วินนี่ทำหน้าที่เป็นไกด์พาฉินสือโอวกับเหมาเหว่ยหลงเที่ยวชมไมอามีรอบหนึ่ง แล้วได้สัมผัสถึงความหรูหราของเมืองอเมริกาเหนือ และช่วงนั้นก็ต้องวิดีโอคอลด้วยไม่งั้นเจ้าสามตัวจะไม่ยอมกินข้าวอีก
ที่ไมอามี ฉินสือโอวและเหมาเหว่ยหลงกลายเป็นคนดัง การปล้นที่ร้านสะดวกซื้อจนตอนนี้ก็ยังปิดคดีไม่ได้ ยังมีรายงานจากสื่อออกมาเรื่อยๆ เดิมตอนพวกเขาอยู่สถานีตำรวจก็ถูกนักข่าวถ่ายรูปด้วย และตอนนี้ยังโดนนำมาแปะไว้ตรงมุมระหว่างประกาศข่าว
วินนี่พูดถูก นักข่าวไมอามีไร้จรรยาบรรณเกินไปแล้ว แถมใช้รูปพวกเขาเป็นขาวดำ ที่ถึงจะปิดตาไว้ ก็น่ากลัวอยู่ดี บางสื่อยังใช้รูปพวกเขาส่งเดช บอกว่า ‘ชาวจีนวัยรุ่นสองคนเสียชีวิตจากการปล้นครั้งรุนแรง’ น่ากลอกตานัก
ฉินสือโอวโกรธมาก พูดอย่างโมโหว่า “ผมควรให้ปู่เออร์บักเชิญหน่วยงานทนายมาจัดการพวกสื่อเวรนี่ดีไหมเนี่ย?”
วินนี่ปลอบเขา “อย่าลดตัวลงไปหาพวกเขาเลย ในอเมริกาเหนือสิ่งที่กลัวทนายที่สุดคคือหน่วยงานราชการ และสิ่งที่ไม่เกรงทนายมากที่สุดคือสื่อ ถ้าคุณยิ่งทำเรื่องใหญ่โตพวกเขายิ่งชอบ เพราะสิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือหัวข้อประเด็นร้อน”
นี่ค่อนข้าง…เป็นเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจฉินสือโอวทีเดียว แต่ที่เหลือก็ไม่เลว ผ่านไปสองวันที่ไมอามี ฉินสือโอวถือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ใบเล็กเข้าสนามบินนานาชาติไมอามี
พอดีกับที่วินนี่มีเที่ยวบิน พวกเขาจึงขึ้นรอบของวินนี่จากไมอามีไปโทรอนโต
การเที่ยวไมอามีครั้งนี้ ฉินสือโอวได้ประสบการณ์มากมายทีเดียว แม้วินนี่บอกว่าแค่ให้โอกาสเขาจีบเท่านั้น แต่ลึกๆ ก็ยอมรับเขาไปแล้ว
เหมาเหว่ยหลงก็ได้ประสบการณ์ไม่น้อยเช่นกัน เขาโพสต์วิดีโอการปล้นร้านสะดวกซื้อลงในบอร์ด ทำให้เขาเริ่มโด่งดังในโมเมนท์[3]
เมื่อขึ้นเครื่องบิน ก็หมายถึงเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันของสือโอวกับวินนี่กำลังนับถอยหลัง ฉินสือโอวไม่อยากไปแต่ก็คิดถึงบ้านใจจะขาด ยิ่งมีเจ้าโง่สามตัวคอยเขาที่บ้านอยู่
วินนี่แอบหยิบโหลปลาแบบมีฝาปิดขนาดเท่าฝ่ามือให้เขาดู ด้านในเป็นทรายละเอียดที่เปียกชื้นและชิ้นส่วนของแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส มังกรน้ำเงินอยู่ด้านในอย่างเอื่อยเฉื่อย
“ฉันเลี้ยงดีใช่ไหมล่ะ” วินนี่ค่อนข้างภูมิใจ
อาจเพราะพลังโพไซดอนที่ช่วยวิวัฒนาการร่างกายของมัน รูปลักษณ์มันจึงเป็นสีฟ้ากว่าเดิม และอาศัยน้ำทะเลธรรมชาติน้อยลง ทีแรกเจ้าสองตัวนี้เป็นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกมา ตอนนี้กลับสามารถอยู่บนบกได้นานกว่าเดิม ตราบใดที่สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยไอน้ำ
“ถ้าโดนตรวจเจอ คุณจะโดนไล่ออกไหม?” ฉินสือโอวถามอย่างเป็นห่วง
วินนี่หัวเราะหึๆ ตอบว่า “ถ้าทำได้น่ะนะ แต่ไม่มีใครตรวจฉันหรอก เส้นสายฉันดี เพื่อนสาวฉันช่วยปกปิดได้”
ฉินสือโอวหยอกว่า “ไม่ ที่รัก คุณเข้าใจความหมายผมผิดแล้ว ถ้าคุณสามารถถูกไล่ออกเพราะเรื่องนี้ ผมจะได้แจ้ง แล้วคุณก็ต้องไปฟาร์มปลาของผมไง”
เพราะได้รับการศึกษาและสภาพแวดล้อมที่เติบโตมาต่างกัน ทำให้มีบางครั้งที่วินนี่กับฉินสือโอวมีโลกทัศน์ไม่เหมือนกัน พอได้ยินเขาพูดเช่นนั้น วินนี่ก็ถามอย่างหดหู่ “คุณไม่หวังให้ฉันได้ทำงานเป็นแอร์โฮสเตสแบบนี้จริงๆ เหรอ? แต่ฉันไม่อยากเป็นแม่บ้านอยู่บ้านนี่นา”
ฉินสือโอวรู้ว่าหญิงสาวจริงจังกับมุกของเขาไป จึงกอดปลอบเธอ “ผมแค่ล้อเล่น คุณชอบงานนี้ก็ทำไปเถอะ ไม่ชอบก็ค่อยลาออก ชอบอะไรทำเลย ผมสนับสนุนคุณทั้งนั้น”
แอร์โฮสเตสสองคนเดินคุยเล่นผ่านมา และเห็นฉินสือโอวกำลังกอดวินนี่พอดี ทั้งสองจ้องตาโตอย่างตะลึงแล้วร้อง ‘ว้าว’ ออกมาพร้อมกัน
เหมาเหว่ยหลงที่นั่งอยู่เก้าอี้พักผ่อนขนาดใหญ่ด้านข้างรีบเข้าช่วยเพื่อน ทำหน้ายิ้มขี้เล่น เอ่ยว่า “สาวๆ ทั้งสอง พวกคุณใครชอบถักไหมพรมบ้าง? พวกคุณจะอาจไม่รู้ อะแฮ่ม แต่ผมน่ะเป็นเจ้าพ่อถึงแห่งการถักไหมพรมเลยะ”
วินนี่มองฉินสือโอวอึ้งๆ ส่วนฉินสือโอวเองก็ทำหน้ายุ่งยากใจ
…………………………………………..
[1] The Ladies Man หนังปี 2000 เกี่ยวกับตัวเอกที่เป็นคนเจ้าเสน่ห์สามารถมัดใจผู้หญิงได้ทุกคน
[2] 7 Days Inn โรงแรมในเครือของจีน
[3] หน้าไทม์ไลน์ของ WeChat