ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 135 ไกลโอมา มัลติฟอร์ม

บทที่ 135 ไกลโอมา มัลติฟอร์ม
โดย
Ink Stone_Fantasy

จากอาการที่ฉินสือโอวบรรยายให้ฟัง เพื่อนคนนั้นของเขาก็ลองไต่ตรองดูสักครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “นายบอกว่าเขาดูเหนื่อยล้าอย่างมาก นี่พูดยากนะทุกโรคก็ทำให้เหนื่อยล้าได้เกือบทั้งหมดแหละ แต่นายบอกว่าเขาอ้วกแบบพ่นออกมา งั้นฉันคิดว่าน่าจะเป็นส่วนสมองที่อาจจะมีปัญหา นี่คือตัวอย่างอาการแรงกดดันในช่องกะโหลกศีรษะเพิ่มสูงขึ้นที่เห็นได้ชัด!”
เมื่อได้ยินว่าเป็นส่วนสมองที่อาจจะมีปัญหา ฉินสือโอวก็เริ่มวิตกกังวลขึ้นมา หมอคนนั้นจึงปลอบเขาว่า “อย่าตกใจไป แรงกดดันในช่องกะโหลกศีรษะเพิ่มสูงขึ้นมีปัจจัยอยู่หลายอย่าง ถึงจะเป็นเนื้องอกในสมองที่น่ากลัวที่สุด ในตอนนี้การรักษาก็ทำได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งโดยทั่วไปแล้วเนื้องอกในสมองมักจะไม่ร้ายแรง อย่ากังวลไปเลย”
ทว่า ฉินสือโอวจะไม่กังวลได้ยังไงกันล่ะ?
พูดได้ว่าเออร์บักเป็นคนที่มีความใกล้ชิดกับเขาที่สุดในแคนาดาแล้ว ชายชราเดินทางไปที่เกาะไหเต่าที่อยู่ไกลหมื่นลี้เพื่อที่จะพาเขามายังเมืองแฟร์เวล เปลี่ยนแปลงชีวิตกระจอกๆของเขา หลังจากนั้นยังก็ทุ่มเทช่วยเหลือเขาอย่างสุดกำลัง บุญคุณเหล่านี้ เขาจดจำไว้จนถึงขั้วหัวใจ!
เออร์บักฟังภาษาจีนออก หลังจากที่ฉินสือโอววางสายโทรศัพท์ลงด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด เขาก็พูดขึ้นมาอย่างไร้ความกังวลว่า “ไม่ต้องสงสัยแล้ว ใช่แล้วล่ะ เนื้องอกในสมอง”
ใจของฉินสือโอวกระตุก แต่เขาก็รีบยิ้มออกมาด้วยความผ่อนคลาย แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ตอนนี้เทคโนโลยีการแพทย์พัฒนาไปมากแล้ว เนื้องอกก้อนเล็กๆ แค่ตัดทิ้งก็หายแล้วล่ะครับ”
เมื่อมองดูฉินสือโอว เออร์บักก็ถอนหายใจออกมา แล้วพูดเสียงเบาว่า “ขอโทษด้วยนะ ฉิน ฉันเกรงว่าคงจะไม่ได้ ฉันเป็นเนื้องอกแบบไกลโอมา มัลติฟอร์มตรงบริเวณสมองส่วนหน้า”
ฉินสือโอวมีความเข้าใจทางการแพทย์ที่จำกัดอยู่เพียงความรู้ทั่วไปเท่านั้น เขารีบใช้โทรศัพท์ค้นกูเกิ้ล หลังจากที่เขาค้นสารานุกรมทางการแพทย์ในกูเกิ้ลที่ระบุข้อมูลของโรคนี้ไว้แล้ว ในใจของเขาก็มีเสียงคร่ำครวญขึ้นมา!
“เนื้องอกแบบไกลโอมา มัลติฟอร์ม เป็นเนื้องอกชนิดที่เกิดกับเซลล์เพาะเลี้ยงจากประสาท เป็นโรคที่เกี่ยวกับเนื้องอกในสมองที่ร้ายแรงที่สุด……”
“เนื้องอกในมองชนิดนี้มีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว สามารถเคลื่อนย้ายไปได้อย่างกว้างขวาง อยู่รวมกันกับกลุ่มสมองที่ยังแข็งแรง ทำให้แทบจะไม่สามารถทำการผ่าตัดโดยไม่มีผลลัพธ์ที่รุนแรงตามา……”
“เนื้องอกสามารถแยกกระจายได้ง่าย เมื่อก่อตัวขึ้นเป็นเซลล์มะเร็งจะสามารถหลบหลีกการรักษาได้ จึงมักจะทำให้อาการกำเริบขึ้นอีก……”
สุดท้าย เป็นประโยคที่ว่า “เนื้องอกชนิดนี้พัฒนาได้อย่างรวดเร็ว และคาดคะเนอาการได้ยาก ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเสียชีวิตลงภายในสองปี……”
ลูกกระเดือกของฉินสือโอวกระดก เขากลืนน้ำลายลงไป เหมือนว่าเออร์บักจะยอมรับผลลัพธ์นี้ได้แล้ว ใบหน้าของเขาไร้ความกังวล ค่อยๆจิบนมลงไปทีละอึก
เสียงเงียบไปครู่หนึ่ง ตอนนี้ความสามารถในการรับความกดดันของฉินสือโอวนับว่าเข้มแข็งมากแล้ว เขาสูดหายใจเข้า ปรับเปลี่ยนท่าทาง แล้วไม่ได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก จากนั้นก็เรียกเด็กๆให้เข้ามาทานข้าวเช้า
อาหารเช้าก็ยังคงเป็นไข่ทอด เบคอน ไส้กรอกชิ้นเล็ก มีอาหารหลักเป็นขนมปังโฮลวีท พัฟ และมีเครื่องดื่มเป็นนมสดและน้ำผลไม้
เด็กๆมีความรู้สึกที่ว่องไวและเฉียบแหลม ถึงแม้ฉินสือโอวและเออร์บักไม่ได้แสดงอะไรออกมา แต่พวกเขากลับตระหนักได้ว่ามีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น จึงลอบมองผู้ใหญ่ทั้งสองคนอย่างเงียบๆ
ทว่านิสัยของเด็กๆทั้งสี่คนค่อนข้างจะเก็บตัว จึงไม่มีใครถามว่าเกิดอะไรขึ้น จึงทำแค่กินข้าวไปอย่างช้าๆ
เมื่อทานข้าวเช้าเสร็จ ฉินสือโอวก็ไปส่งพวกเข้าขึ้นรถบัสหน้ากว้างของโรงเรียน เมื่อกลับมาแล้วจึงพูดกับเออร์บักว่า “คุณปู่เออร์ ได้รับการวินิจฉัยที่แน่นอนแล้วใช่ไหมครับ? ผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลนั้นมีความคิดเห็นว่ายังไงบ้างครับ?”
เออร์บักวางช้อนส้อมของทั้งสองมือไปบนโต๊ะ เขาพูดเรียบๆว่า “คำแนะนำของคุณหมอคือให้รักษาอาการไปเรื่อยๆ ตำแหน่งของสมองส่วนหน้านี้ค่อนข้างจะเฉพาะเจาะจง นอกจากนี้อายุของฉันก็ค่อนข้างมากแล้ว ความสามารถในการฟื้นตัวน้อยเกินไป ถ้าหากทำการผ่าตัด ก็จะอันตรายเกินไป”
ฉินสือโอวคิดอยู่สักพัก ก็พูดขึ้นมาว่า “ผมคิดว่าทางที่ดีพวกเราควรจะไปลองตรวจที่บอสตัน หมอของคณะแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดอาจจะมีความคิดเห็นที่ต่างออกไป”
บอสตันตั้งอยู่ทางตอนปลายของฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือในสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้กับนิวฟันด์แลนด์ที่สุด มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่มีชื่อเสียงก้องโลกก็ตั้งอยู่ที่เมืองเก่าแก่แห่งนี้ อีกทั้งแผนกอายุรกรรมของคณะแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดก็มีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่ง
พอจบคำ ฉินสือโอวก็รีบตะลีตะลานเตรียมตัวเก็บของเพื่อออกเดินทาง เออร์บักจึงขัดเขาไว้ “ก่อนหน้านี้นายถามฉันไม่ใช่เหรอว่าฉันไปไหนมา? ฉันไปบอสตันมา คำแนะนำนี้ เป็นของศาสตราจารย์แครัท พิสเซล แพทย์อายุรกรรมคณะแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นอกจากนี้เขายังเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนแล้วก็เป็นเพื่อนเก่าของฉัน”
คราวนี้ฉินสือโอวก็นิ่งอึ้งไป เขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อ มองเห็นใบหน้าที่สงบเงียบของเออร์บัก เขาก็ส่ายหน้าแรงๆแล้วพูดว่า “เป็นไปไม่ได้ คุณปู่เออร์ มันจะต้องมีทางรักษาแน่ๆ! บนโลกใบนี้ไม่มีโรคอะไรที่ไม่มีทางรักษาหรอก! พวกเราร่ำรวยขนาดนี้ ผมมีเงินร้อยล้าน! ผมต้องหาทางรักษาคุณให้หายได้แน่!”
เออร์บักดึงให้เขานั่งลง แล้วพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มว่า “ฉิน นายมีความคิดแบบนี้ ฉันก็ดีใจมาก ที่จริงแล้ว เรื่องนี้ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย ฉันก็ใกล้จะเจ็ดสิบปีแล้ว ใกล้ถึงเวลาไปพบพระเจ้าแล้วเช่นกัน เป็นแค่เรื่องของการได้พบพระเจ้าเร็วหน่อยหรือช้าหน่อยเท่านั้นเอง ไม่ใช่เหรอ?”
ฉินสือโอวพูดด้วยความวุ่นวายใจส่วนหนึ่งว่า “ไม่ใช่อยู่แล้ว ผมต้องหาทางช่วยรักษาคุณให้หายได้แน่……”
เมื่อพูดเสร็จ เขาก็เดินขึ้นไปข้างบนเพื่อค้นหาช่องทางการติดต่อของสถาบันที่มีอำนาจในการรักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาทของอเมริกาเหนือ อีกหลายวันต่อมา เขาก็พยายามติดต่อผู้เชี่ยวชาญของทุกๆโรงพยาบาลใหญ่ด้วยความกระตือรือร้น และทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาของโรคนี้
ยิ่งเข้าใจปัญหา เขาก็ยิ่งกลัว ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลหรือนายแพทย์ที่มีหน้าที่หลักในการรักษาโรค เมื่อทราบว่าชายชราอายุเกือบเจ็ดสิบปีมีเนื้องอกชนิดไกลโอมา มัลติฟอร์ม ต่างก็แนะนำให้ใช้การรักษาแบบประคับประคองอาการ ทำการรักษาด้วยรังสี ยื้อได้เท่าไรก็เท่านั้น
หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมประสาทท่านหนึ่งของโรงพยาบาลซันนีบรูคในโทรอนโต ได้ดูผลการสแกนสมองของเออร์บักที่ฉินสือโอวส่งแฟกซ์ไป ก็บอกกลับเขาอย่างจนหนทางว่า “ชายชราท่านนี้ถูกพระเจ้าเรียกขานให้เข้าพบแล้ว ส่วนจะพบเขาเมื่อไร ก็อยู่ที่พระประสงค์ของพระองค์แล้ว”
ฉินสือโอวไปรับเออร์บักมาที่ฟาร์มปลา เมื่อมีเนื้องอกในสมอง สิ่งที่รับมือได้ยากที่สุดก็คืออาการนอนหลับ เมื่อเขาหลับสนิท ก็จะเกิดอาการปวดหัวจากการที่น้ำในกระดูกสันหลังไหลย้อนกลับได้อย่างไม่เต็มที่ ซึ่งเป็นอาการปวดหัวในยามเช้าที่หมอได้บอกไว้บ่อยๆ
สองวันมานี้ เนื่องจากฉินสือโอวต้องค้นหาแผนการรักษา และติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลจึงมักจะอดหลับอดนอนจนถึงตีสามตีสี่ ทุกๆครั้งๆเขามักจะได้ยินเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดของเออร์บักมาจากห้องทางชั้นล่าง!
ทางนี้ที่กำลังยุ่งจนปลีกตัวไม่ได้ วันที่ 10 มิถุนายน เหมาเหว่ยหลงก็โทรเข้ามาหาเขา “ฉินโซ่ว ในที่สุดพวกฉันก็จะไปหาแกได้แล้ว เที่ยวบินรอบบ่ายของพรุ่งนี้ ดูเวลาให้ดีล่ะ อย่าลืมไปรับฉันที่นครเซนต์จอห์นด้วย!”
เมื่อคิดว่าจะได้เจอเหมาเหว่ยหลงแล้ว ฉินสือโอวก็ร่าเริงขึ้นมานิดหน่อย แต่นี่ไม่ได้ช่วยเรื่องอาการป่วยของเออร์บักเลย
ฉงต้านั่งยองๆอยู่ข้างๆเขา คล้ายว่ามันสัมผัสได้ถึงความกลัดกลุ้มของเขา มันยื่นอุ้งเท้าอ้วนๆของมันออกมาเกาะขาของเขาไว้แล้วใช้หัวของมันถูไปมาราวกับว่าต้องการจะปลอบเขา
“แกเป็นภูติตัวน้อยๆของฉันนะ”ฉินสือโอวเกาหัวที่เต็มไปด้วยขนปุกปุยของฉงต้า คำนี้ขัดกับความรู้สึกอยู่นิดหน่อย ก้นเอวกับอ้วนๆของฉงต้า จะเรียกว่าภูติน้อยคงไม่ไหวจริงๆ
ฉงต้ายื่นอุ้งเท้าออกไปจับมือของฉินสือโอวไว้ มันอยากจะเล่นกับเขา ฉินสือโอวมองเห็นรอยแผลเป็นที่เหลืออยู่ แผลได้มาจากครั้งที่แล้วที่มันโดนปูราชินีหนีบ พลังของจิตสำนึกโพไซดอนสมานแผลได้ แต่กลับทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้
ระหว่างนั้นเอง ใจของฉินสือโอวก็กระตุกขึ้นมา พลังของจิตสำนึกโพไซดอนสามารถประสานบาดแผลของสัตว์ได้ งั้นถ้าใช้วิธีนี้กับร่างกายของเออร์บัก จะสามารถมีผลต่อการรักษาเนื้องอกในสมองได้ไหม?
ความคิดนี้ทำให้ใจของฉินสือโอวดัง ‘ตึกตึก’ เต้นขึ้นมาอย่างรุนแรง เมื่อก่อนเขาไม่เคยนำพลังของจิตสำนึกโพไซดอนมาเชื่อมต่อกับมนุษย์ ตอนนี้ เขาคิดว่าตัวเองสามารถเปลี่ยนแนวคิดนี้ได้
เขาคิดได้ว่าไม่ควรทำมันออกมาโดยตรง ต้องเตรียมทุกสิ่งให้เรียบร้อย ถ้าหากพลังของจิตสำนึกโพไซดอนใช้กับคนไม่ได้ นั่นก็ยังพอคุยกันได้ แต่ถ้าสามารถรักษาโรคได้จริง เขาคงต้องหาข้ออ้างอย่างอื่นแล้วล่ะ!
………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset