ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 94 หอยทากทะเล

บทที่ 94 หอยทากทะเล
โดย
Ink Stone_Fantasy

เข้าตรู่ตอนหกโมง ฉินสือโอวที่หลับสนิทลืมตาตื่นขึ้นมา เขาเอามือลูบหน้า หาวแล้วลุกขึ้นมาจากเตียง ยื่นมือผลักหน้าต่างบนหัวเตียงออก เพียงครู่เดียว ก็มีลมทะเลบริสุทธิ์พัดเข้ามา
ลมทะเลในหน้าร้อนทั้งอบอุ่นและชุ่มชื่น โดนพัดเพียงทีเดียว ฉินสือโอวก็ตื่นทันที
ใต้ลำตัวคือฟูกที่อ่อนนุ่ม ผ้าห่มคือผ้าห่มผ้าไนลอนบางเบา ใต้ขามีสุนัขอยู่สองตัว ด้านข้างยังมีหมีสีน้ำตาลเงอะงะนอนอยู่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าจะมีชีวิตแบบนี้
แต่ว่า ฉินสือโอวถอนหายใจ บนเตียงของเขายังขาดคนอีกคนข้างกาย ทั้งเตียงมีมนุษย์เพียงคนเดียวคือตัวเขาเองช่างไม่สบอารมณ์จริงๆ
เขาอยากลิ้มรสความรู้สึกที่โอบกอดภรรยาแล้วนอน นั่นต้องเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมแน่นอน น่าเสียดายตอนนี้สิ่งเดียวที่กอดได้คือหมอนข้างเท่านั้น
หมีสีน้ำตาลตัวน้อยหูดีมาก ฉินสือโอวเพิ่งลุกออกจากเตียง มันก็สะลึมสะลือลืมตาขึ้นมา ‘ฮึบ’ พลิกตัวลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เดินโซเซไปที่หัวเตียง ยื่นอุ้งมือไปหาฉินสือโอวขอให้อุ้ม
ฉินสือโอวเกี่ยวหนังต้นคอของมัน ออกแรงดึงมันขึ้นมา
เมื่อนั่งอยู่บนเตียง ฉงต้าที่ได้ลองสัมผัสความนุ่มสบายของฟูก พอออกแรงขยับตูดไปมา เตียงก็ขยับไปมาตาม มันเหมือนกับได้ค้นพบเกมใหม่ ดวงตาคู่เล็กนั้นเบิกโพลงจนกลมโต ต่อด้วยขยับก้นและเขย่าอย่างแรง
ขณะเขย่าเตียงอย่างสนุกสนาน ฉงต้าหันหน้าไปทางฉินสือโอวแล้วร้อง ‘อูอู’ขึ้นมา เวลานี้เสี่ยวหมิงที่กระโดดเข้ามาจากทางหน้าต่าง เมื่อเห็นฉงต้าราชาในป่าใหญ่แล้ว ก็ตกใจ จนชูหางขึ้นมาในฉับพลัน จ้องมองมันอย่างระมัดระวัง
แต่ทว่าฉงต้ากลับไม่ไยดีเจ้าตัวเล็กนี้ ตอนที่เสี่ยวหมิงกระโดดเข้ามามันปรายตามองครู่หนึ่ง จากนั้นก็กลับมาตั้งหน้าตั้งตาเขย่าเตียงต่อไป
ฉินสือโอวใส่เสื้อเสร็จก็กระโดดลงจากเตียง เขากวักมือเรียกฉงต้า แต่มันกำลังเล่นอย่างเมาส์มัน ดูท่าความนุ่มเด้งของเตียงคงจะถูกใจมันเข้าแล้ว มันไม่ได้ตามฉินสือโอวลงไปข้างล่าง ตัวมันเหมือนกำลังเล่นแทรมโพลีนก็ไม่ปานเขย่าไปมาไม่หยุด
ฉินสือโอวแบกเสี่ยวหมิงไว้บนไหล่ ตามหลังด้วยหู่จือและเป้าจือ แล้วออกไปวิ่งรอบฟาร์มปลา
บนท่าเรือมีรถยก เครื่องขุดเจาะและเครื่องตอกเสาเข็มจอดอยู่ หินทรายบล็อกจำนวนมากเพิ่งถูกเทลงมาจากเรือขนส่งเมื่อวานนี้ เพราะวางกองกันไว้ที่ชายหาดทำให้ดูเกะกะไม่เป็นระเบียบ แต่ว่าหากไม่ทำลายของเก่า จะสร้างของใหม่ขึ้นมาได้อย่างไร ครั้งหน้าหลังทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ฟาร์มปลาก็จะมีท่าเรือที่ใหญ่โตถึงสองท่าแล้ว
ฉินสือโอววิ่งอยู่ข้างหน้า ข้างหลังมีแลบราดอร์ริทรีฟเวอร์สองตัววิ่งตามอยู่ ตอนนี้พวกมันสามารถวิ่งตามทันฉินสือโอวแล้ว หูใบใหญ่สะบัดไปมา วิ่งไปไม่หยุด บางทียังสามารถวิ่งนำหน้าฉินสือโอวด้วยซ้ำ
เวลานี้ แสงสีทองของพระอาทิตย์ยามเช้าได้สาดส่องไปที่พื้นดิน และส่องไปยังขนสีทองของแลบราดอร์ริทรีฟเวอร์ แลดูเหมือนมีแสงกำลังไหลผ่านไป ภาพที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างอากาศยามเช้าและพลังชีวิตนั้น ทำให้ฉินสือโอวรู้สึกได้ถึงความมั่นใจในการใช้ชีวิต
ต่อจากวิ่งเสร็จก็คือเตรียมอาหารเช้า ฉงต้าที่เล่นจนหนำใจแล้ว นั่งรออยู่หน้าประตู เมื่อเห็นฉินสือโอวกลับมาก็ดีใจจนโผเข้าไปหา กอดขาของเขาไว้วิ่งไปมา จากนั้นก็ขบฟันแน่น เป็นการขอของกินนั่นเอง
ฉินสือโอวเห็นว่า ปลาทอดและปลาเผาที่เหลือจากเมื่อคืนยังไม่ได้โยนทิ้ง เขานำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟจากนั้นก็ป้อนให้ฉงต้ากิน ต่อด้วยปิ้งขนมปัง คู่กับนมและน้ำผลไม้ เท่านี้อาหารเช้าก็เสร็จแล้ว
เสี่ยวหมิงยังคงดื่มด่ำกับการกินผลไม้เป็นอาหารเช้าเหมือนอย่างเคย หู่จือและเป้าจือกินขนมปังในซุปปลา หนึ่งคนหนึ่งกระรอกหนึ่งหมีและสองสุนัข ต่างกินอาหารเช้าอย่างสงบ
เก้าโมงเช้า งานก่อสร้างท่าเรือเริ่มงานแล้ว ฉินสือโอวที่ไม่ได้ขี่เจ็ทสกีออกทะเลหลายวันแล้ว จึงขึ้นขี่เจ็ทสกีขับออกทะเลไป
นกนางนวลบินโฉบผิวน้ำเพื่อหาอาหาร หากจับได้ปลาเล็กสักตัว พวกมันก็จะสยายปีกทั้งสองข้างบินขึ้นฟ้าทันที ส่วนนกนางนวลที่หาอาหารไม่ได้นั้นจะส่งเสียงร้องเสียงแหลมแล้วบินอยู่บนผิวน้ำต่อ
สิ่งที่ฉินสือโอวต้องทำคือสำรวจฟาร์มปลา นี่คือหน้าที่ของเจ้าของฟาร์มปลาทุกคนที่ต้องทำทุกวัน เพราะตอนนี้ฟาร์มปลาสาธารณะนั้นขาดแคลนทรัพยากรอย่างมาก บางคนจึงมีความคิดที่จะมุ่งเป้าไปที่ฟาร์มปลาส่วนบุคคลแทน
คนแคนาดาไม่ใช่ทุกคนที่จะนิสัยดี เรื่องขโมยปลาที่เลี้ยงไว้ในฟาร์มปลาส่วนบุคคล ก็มีให้พบเห็นบ่อยครั้ง นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ฉินสือโอวไปซื้อปืนมาเก็บไว้
ตอนนี้ฉินสือโอวคุ้นเคยกับการขับเทพเจ้าสายฟ้ามืดแล้ว จึงเร่งความเร็วตามอำเภอใจ จนความเร็วทะลุถึงหนึ่งร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง ลมทะเลพัดโชกมากระทบหน้า แต่เขาสวมแว่นกันลมไว้จึงไม่กลัวลม แล้วเร่งความเร็วขึ้นไปอีก
เมื่อได้ยินเสียงอันอึกทึกของเจ็ทสกี บอลหิมะที่ประสาทสัมผัสไวก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำ มันในตอนนี้มีขนาดยาวถึงสองเมตรแล้ว สามารถเรียกได้เต็มปากว่าเป็นวาฬขาวขนาดใหญ่ปานกลาง โดดเด่นทั้งความเร็วและความแรง ถึงขนาดว่ายตามฉินสือโอวทันไปครู่หนึ่ง
เมื่อฉินสือโอวเห็นเจ้าบอลหิมะก็หยุดเจ็ทสกี เขาลูบไปที่หัวอันกลมมนและลื่นของมันอย่างอ่อนโยน ปล่อยพลังโพไซดอนออกไปจับปลาค็อดขนาดสามสิบกว่าเซนติเมตรได้ตัวหนึ่ง จึงนำขึ้นมาป้อนให้เจ้าบอลหิมะ
 “เด็กดี มาเถอะ พวกเราออกไปสำรวจมหาสมุทรนี้ด้วยกัน” ฉินสือโอวค่อยๆเพิ่มความเร็ว บอลหิมะที่เมื่อได้กินปลาค็อดแล้วก็ร้องส่งเสียงด้วยความดีใจ ดำหัวลงน้ำแล้วว่ายตามไปอยู่ข้างหลัง
เจ็ทสกีโต้ลมโต้คลื่นอยู่บนผิวน้ำทะเล มีปลาวาฬขาวตัวน้อยตัวหนึ่งว่ายอยู่ข้างๆอารักขาอยู่ ในใจฉินสือโอวก็เกิดความคิดพิเรนขึ้นมา เขาอยากใช้พลังโพไซดอนเรียกทั้งปลาทูน่าครีบเหลืองและปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือออกมา แล้วออกผจญภัยในมหาสมุทรพร้อมปลาใหญ่ทั้งสามตัว
แต่ว่าพลังโพไซดอนกลับหาเจอเพียงปลาทูน่าครีบเหลืองเท่านั้น เจ้าตัวนี้กำลังแหวกว่ายไปมาอย่างรวดเร็ว พูดถึงปลาประเภทนี้พวกมันก็สุดยอดจริงๆ นอกจากมีพลังที่เหลือล้นแล้วยังชอบดำน้ำลึกด้วยความเร็วสูงอีก ไม่แปลกที่ราคาจะแพง มันจับยากนี่นา
เมื่อเจอปลาทูน่าครีบเหลืองแล้วก็ไปหาปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือต่อ ปลาชนิดนี้ก็ชอบลงสู่ทะเลลึก แต่ถ้าเทียบกับปลาทูน่าครีบเหลืองแล้วปลาชนิดนี้จะขี้เกียจกว่ามาก มันหมอบอยู่ในเหวในทะเลลึก มีสะบัดตัวไปมาบ้างบางครั้ง เหมือนกับกำลังนอนหลับอยู่
ฉินสือโอวเจอตัวมันแล้วก็ใช้พลังโพไซดอนบังคับให้มันว่ายมาหา แต่พอพลังโพไซดอนแผ่คลุมไปตัวมันเท่านั้น เขาถึงรู้ว่าเจ้าปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือตัวนี้กำลังล่าเหยื่ออยู่
สถานที่ที่ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนืออยู่นั้นคือร่องน้ำเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่มีความยาวเพียงแค่พันกว่าเมตร ความกว้างและความลึกประมาณสองเมตรเท่านั้น ข้างในมีหอยกาบอาศัยอยู่ไม่น้อย ซึ่งหอยชนิดนี้ก็คือหนึ่งในอาหารของปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือเช่นกัน
ในบรรดาหอยกาบพวกนี้ ฉินสือโอวเห็นหอยทากทะเลตัวใหญ่ตัวหนึ่ง มีเส้นผ่านศูนย์กลางลำตัวยี่สิบห้าถึงยี่สิบหกเซนติเมตร และมีความสูงถึงสี่สิบเซนติเมตร มองไปเหมือนกับเจดีย์ทรงยอดปรางค์
เป็นสิ่งที่หายากจริงๆ ปากของเปลือกหอยทากทะเลประเภทนี้มีรอยแตกเล็กๆอยู่ เปลือกนอกมีสีเหลืองอ่อนคั่นไว้ด้วยลายสีแดงเข้ม ดูเหมือนลูกไฟที่กำลังลุกโชน พอมองออกไป หอยทากทะเลตัวนี้แลดูเหมือนโมเดลลูกภูเขาไฟ
เมื่อเห็นหอยทากทะเลตัวนี้ ในใจฉินสือโอวเต้นรัวไปครู่หนึ่ง พับผ่าสิ เจ้าตัวนี้ก็คือEntemnotrochus rumphiiในตำนานไม่ใช่หรือ?
Entemnotrochus rumphii หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Slit-shell หมายความว่าทากที่มีรอยแยก และปากเปลือกของหอยตัวนี้ก็มีรอยแยกเป็นทรงกลม นอกนั้นเมื่อดูจากรูปลักษณ์ภายนอกและสีสันอันฉูดฉาดของเปลือกแล้ว ช่างเหมือนกับทากEntemnotrochus rumphii ที่ฉินสือโอวรู้จักนัก
ฉินสือโอวยังไม่เคยเห็นทาก Entemnotrochus rumphii ของจริงมาก่อน ความจริงแล้วตลอดชีวิตของคน กว่าร้อยละเก้าสิบเก้าก็ยังไม่เคยเห็นรูปร่างที่แท้จริงของหอยทากทะเลมาก่อน พวกมันมีค่ามากมาย มีจำนวนน้อย ยิ่งกว่านั้นแม้จะถูกพบก็พบเพียงแค่เปลือกของมันเท่านั้น จากนั้นก็ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา
นี่คือหอยทากทะเลที่มีค่ามาก คุณค่าของมันไม่เพียงอยู่ที่ความสวยงามและความหายาก แต่อยู่ที่คุณค่าทางวิชาการสำหรับการวิเคราะห์วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตเก่าแก่มากกว่า
เหล่านักชีววิทยานำหอยทาก Entemnotrochus rumphii สต๊าฟและฟอสซิลที่ถูกค้นพบที่เก็บไว้ในพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาในเมืองร็อตเตอร์ดัมประเทศเนเธอร์แลนด์มาเปรียบเทียบกัน พบว่าพวกมันยังคงสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแม้จะผ่านมาแล้ว5. 7ร้อยล้านปีแล้ว ถึงขั้นถูกเรียกให้เป็น’ฟอสซิลที่มีชีวิต’ในบรรดาสัตว์ประเภทมีเปลือกทั้งหมด
ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ต่อมหาสมุทรก็มากขึ้นตาม แต่ว่าร่องรอยของหอยทาก Entemnotrochus rumphii ก็ยังหายากตลอดมา
จนถึงปัจจุบัน ทั่วทั้งโลกกลับพบเห็นหอยชนิดนี้เพียงแค่สามร้อยกว่าตัวเท่านั้น แถมยังพบเพียงแค่เปลือกหอย หอยตัวเป็นๆที่โชคดีพบเจอ สุดท้ายก็ตายไปอย่างน่าเสียดาย
ตอนนี้ ฉินสือโอวกลับไปพบกับหอยEntemnotrochus rumphiiตัวเป็นๆ แถมเจ้าตัวนี้ยังเป็นตัวที่มีขนาดใหญ่มหึมาด้วย
หอยทาก Entemnotrochus rumphii อาศัยอยู่ใต้ท้องทะเลลึก กินฟองน้ำและสาหร่ายทะเลเป็นอาหาร เหตุผลที่มนุษย์มักพบแต่เปลือกของหอยทากทะเลชนิดนี้ก็เพราะเนื้อของมันหอมหวานอร่อยเป็นพิเศษ อย่างปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือตัวนี้ก็จ้องจะกินเนื้อมันอยู่เหมือนกัน
ฉินสือโอวใช้พลังบังคับให้ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนืออ้าปากกว้างแล้วอมหอยตัวนี้ไว้ในปาก จากนั้นก็สะบัดหางว่ายกลับพืดหินปะการังไปฝากหอยไว้ที่นั่น ส่วนเขานั้นไม่สำรวจฟาร์มปลาแล้ว เร่งความเร็วของเจ็ทสกีแล้วขับกลับไปบ้านทันที
ปลาทูน่าครีบเหลืองที่เพิ่งว่ายกลับมา ครีบหลังของมันโผล่ขึ้นบนผิวน้ำแล้วว่ายมาด้วยความเร็วสูง สงสัยจะอยากว่ายเลียนแบบฉลาม แต่อย่าว่างั้นงี้ มองผิวเผินแล้วก็เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามเหมือนกัน
มันว่ายไปข้างๆฉินสือโอวเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ฉินสือโอวในตอนนี้จะสนใจมันเหรอ? ถีบขาออกไปให้มันกลับลงไปใต้ท้องทะเล จากนั้นก็ขับเจ็ทสกีต่ออย่างเร่งรีบ
บอลหิมะนั้นค่อนข้างฉลาด เมื่อเห็นฉินสือโอวรีบกลับ ก็ไปหาที่เล่นใหม่เอง มันเห็นว่าปลาทูน่าครีบเหลืองน่าจะเป็นเพื่อนเล่นที่ดี จึงว่ายตามไปอยู่ข้างหลัง ปลาทูน่าครีบเหลืองที่ไม่รู้อะไรก็ได้แต่ว่ายหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต
……………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset