เย่ฉ่าวเฉินก้าวไปข้างหน้าแล้วบีบมือเธอสุดแรง พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาของเขา ” มู่เวยเวยเธอนี่โง่เขลาจริงๆ โง่จนไม่รู้จะพูดยังไงเลย ในสมองของเธอมีรอยหยักบ้างมั้ยเนี่ย? ทำเหมือนตัวเองฉลาดมาก เธออยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ฉันนี่นับถือเธอมากเลย ทำไมมู่เทียนเย่ถึงมีน้องสาวซื่อบื่อแบบเธอเนี่ย? ”
เขาพึ่งรู้นะเนี่ยว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้นิสัยดื้อรั้นอย่างเดียว แถมยังซื่อบื้ออีก!
นี่เธอไม่สังเกตเห็นหรอว่าตอนที่เธอกำลังพูดปกป้องและออกตัวแรงแทน ” เพื่อนรัก ” เธอมากขนาดนี้ เพื่อนเธอกลับทำหน้าตาไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย?
เมื่อได้ยินคำดูถูกของเย่ฉ่าวเฉิน มู่เวยเวยโกรธจนควันออกหู จ้องมองเขาด้วยสายตาดุร้ายพร้อมกับพูดว่า ” เย่ฉ่าวเฉิน คุณด่าฉัน ฉันไม่ว่า ทำไมต้องเอาพี่ชายฉันมาเกี่ยวด้วย มันชักจะเกินไปแล้วนะ! ”
เย่ฉ่าวเฉินมองไปทางเฉียวซินโยวแบบไม่ได้ตั้งใจ เหลือบมองเห็นเธอกำลังนั่งจิบกาแฟและทำหน้าแบบไม่รู้ไม่ชี้ แต่พอเธอรู้ว่าเขามองอยู่ กลับทำหน้าทำตาน่าสงสารขึ้นมาทันที
เปลี่ยนหน้าไวยิ่งกว่าเปลี่ยนหน้ากระดาษอีก เย่ฉ่าวเฉินรู้สึกว่าความสามารถของเฉียวซินโยวสามารถไปเป็นนักแสดงได้เลย รับรองว่าเธอต้องได้รับรางวัลออสการ์ในฐานะนักแสดงดีเด่นแน่นอน
เดิมทีเฉียวซินโยวตั้งใจจะรอดูเขาสองคนทะเลาะกัน ยิ่งพวกเขาทะเลาะกันแรงเท่าไหร่เธอก็ยิ่งสะใจมากเท่านั้น ทางที่ดีเธออยากให้มู่เวยเวยทำให้เย่ฉ่าวเฉินโกรธและไล่เธอออกจากบ้านไปเลย!
แต่จู่ๆเธอก็รู้สึกได้ว่าเย่ฉ่าวเฉินกำลังจ้องมองเธออยู่ ท่าทีของเขาเหมือนรู้ว่าในใจของเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ทำให้เฉียวซินโยวพอคิดได้อย่างงั้นก็รีบตีหน้าเศร้าและสะกิดมือมู่เวยเวยพร้อมกัแกล้งบพูดอย่างหวังดีว่า ” เวยเวย เธออย่าโกรธไปเลย อยากทะเลาะกับเย่ฉ่าวเฉินเพราะฉันเลย ฉันไม่ได้มีค่าขนาดนั้น ”
” ได้ไงหล่ะ? เธออย่าพูดแบบนี้ เธอเป็นเพื่อนรักฉันนะ ”
มู่เวยเวยจับมือเธอแล้วพูดอย่างหนักแน่น
เย่ฉ่าวเฉินหัวเราะแห้งๆ เขาอยากทุบสมองเธอออกแล้วดูว่าสมองกลวงๆของเธอนั้นมีอะไรอยู่ข้างในนั้นบ้าง แต่ไม่นานความคิดนั้นก็หายไป ก็เธอเลือกเพื่อนโดยไม่ดูดีๆเอง ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา!
” ฉ่าวเฉิน เวยเวย อยู่กันหมดเลย ”
ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงดังมาจากด้านหลัง ทำให้พวกเขาสนใจเสียงนั้นแล้วหันไปมองตาม ปรากฏว่าคือหนานกงเฮ่านั้นเอง
แต่ว่าเย่ฉ่าวเฉินได้ยินหนานกงเฮ่าใช้สรรพนามเรียกมู่เวยเวยอย่างสนิทสนม เขาก็ขมวดคิ้วทันที แววตาของเขามีรังสีบางอย่างและในใจของเขารู้สึกว่าสายตาที่หนานกงเฮ่าใช้มองมู่เวยเวยเหมือนแฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง ทำให้เขาคิดไปต่างๆนาๆ
” วันนี้ทำไมคุณถึงมีเวลามาหาผมได้เนี่ย? “เย่ฉ่าวเฉินซ่อนความคิดที่แท้จริงของเขาไว้ แล้วค่อยๆฉีกยิ้มจากนั้นวถามอย่างสุขุม
” วันนี้เบื่อๆ ก็เลยอยากมาหาคุณ ทำไมไม่ต้อนรับฉันหรอ ฉันเสียใจนะ! ”
เมื่อมองไปที่ใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ เขาพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ ” เจ้าเลห์ ”
ดวงตาน่าหลงใหลคู่นั่นของหนานกงเฮ่ายังคงมองไปที่มู่เวยเวย เขาสังเกตเห็นคนข้างๆเธอจึงถามขึ้นว่า ” เวยเวย สาวสวยข้างเธอคนนี้เป็นใครกันหรอ? ”
“เธอชื่อเฉียวซินโยว เป็นเพื่อนรักของฉัน ” มู่เวยเวยแนะนำเธออย่างภูมิใจพร้อมกับมองไปที่เย่ฉ่าวเฉิน แล้วพูดขึ้นว่า “คุณดูหนานกงเฮ่าสิ มีมารยาทมากเลย ”
ผู้หญิงซื่อบื่อคนนี้นี่จริงๆเลย!กล้าเอาเขาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นได้ยังไง!
เย่ฉ่าวเฉินใช้ดวงตาอันเย็นชาของเขาจ้องไปที่เธอ เหมือนจะสื่อว่า: ได้ ฝากไว้ก่อนเถอะ คืนนี้เห็นดีกันแน่!
มู่เวยเวยเข้าใจว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร ร่างกายก็สั่นสะท้านไปหมด เธอคิดในใจ:เย่ฉ่าวเฉิน ถือว่าคุณแน่มาก คุณคิดว่าฉันไม่มีวิธีเอาตัวรอดรึไง ฮึ้ม!
เธอชื่อเฉียวซินโยวงั้นหรอ! อย่าบอกนะว่าเธอเป็นเจ้าของงานออกแบบนั้น?