วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ – ตอนที่ 43 : ความรู้สึกเมื่อถูกสามีไม่เชื่อใจ

มู่เวยเวยถอนหายใจ ความรู้สึกที่ถูกสามีตัวเองไม่เชื่อใจมันเป็นแบบนี้นี่เอง ช่างน่าเศร้าจริงๆ แต่โชคดีที่เธอไม่ได้รักเย่ฉ่าวเฉิน บางทีคงต้องรอให้เขาเบื่อเธอก่อน แล้วรอให้พี่ชายกลับมา เธอยังมีทางหย่ากับเขาได้

เธอยังเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ได้

มู่เวยเวยครุ่นคิด เธอลุกจากพื้น เอนหลังลงบนเตียงนอน เธอหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองจนเจอ แล้วโทรหาคุณลุงมู่จางรุ่ย เย่ฉ่าวเฉินอาจไม่พาเธอมา หรือให้เธอกลับมาอยู่บ้านตระกูลมู่อีก ดังนั้นสิ่งที่เธอทำได้จึงเพียงแค่โทรถามข่าวเกี่ยวกับพี่ชายทางโทรศัพท์

เธอโทรติด แต่กลับไม่มีคนรับสาย

หลังจากสายตัดไป มู่เวยเวยก็กดโทรอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีคนรับสาย

มู่เวยเวยไม่ถอดใจ เธอโทรอีกครั้งที่สาม แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม

พอเธอจะโทรอีกครั้งที่สี่ ในที่สุดก็มีข่าวคราว แต่มันเป็นเพียง : เลขหมายปลายทางที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้

ใจของมู่เวยเวยอยู่ไม่สุข เธอไม่ได้โง่ คุณลุงและครอบครัวจ้องอยากได้ของของพวกเขามานาน เธอรู้ดี แต่เธอยังบริหารบริษัทไม่ได้ เธอไม่อยากเห็นมู่ซื่อที่แม่พ่อเฝ้าทำงานหนักมานานหลายปี ต้องมาพังทลายลงด้วยมือของเธอเอง พี่ชายก็ยังหาตัวไม่เจอ เธอก็มีเพียงแค่คุณลุงเท่านั้นที่พึ่งพาได้

ภายในใจรู้สึกอึดอัด ในหัวของมู่เวยเวยก็มีเรื่องให้ครุ่นคิดเธอจึงผล็อยหลับ แม้ว่าคนรับใช้จะเข้ามาเรียกให้ลงไปรับประทานอาหาร แต่เธอก็ไม่รู้สึกตัว

เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าสว่างแล้ว ดวงอาทิตย์ส่องแสงอยู่นอกหน้าต่าง มู่เวยเวยรู้สึกเหมือนมีอะไรเย็นๆ ถูที่ด้านหลัง เธอรู้สึกสบายตัวอย่างมาก

เธอหันไปดูด้วยความประหลาดใจ เป็นฉินหม่านั้นเอง (คนรับใช้)

เมื่อเธอเห็นมู่เวยเวยตื่น ก็ยิ้มทันที “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหนู”

มู่เวยเวยพยักหน้ารับ แล้วเอ่ยถาม “ที่ใช้ถูหลังให้ฉันอยู่คืออะไรเหรอ? สบายตัวมากเลย”

“เป็นยาที่เอามาจากคุณหมอหานค่ะ มันช่วยบรรเทาความเจ็บปวด และมีผลช่วยลบรอยแผลเป็นด้วยค่ะ พ่อบ้านหวังเห็นว่าคุณยังไม่ตื่น และกังวลเรื่องรอยแผลตามร่างกายคุณเลยให้ฉันเอายามาทาให้คุณค่ะ” ฉินหม่าพูด แล้วกล่าวขอโทษ “ต้องขอโทษคุณหนูด้วยนะคะ ฉันคงออกแรงหนักไปจนปลุกคุณหนูตื่น”

มู่เวยเวยส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ทาต่อสิ”

แม้จะแปลกใจที่ตื่นมาตอนเช้าก็พบว่ามีคนกำลังทายาให้ตัวเอง แต่เมื่อเทียบกับมันต้องทิ้งรอยแผลไว้แล้วหละก็ เธอชอบอย่างแรกมากกว่า

หลังจากทายาเสร็จฉินหม่าก็ออกไป มู่เวยเวยลุกขึ้นจากเตียง หลังจากบิดขี้เกียจจึงรู้ว่าตอนนี้ร่างกายของตัวเองดีขึ้นมาก แผลที่ด้านหลังก็ไม่ค่อยเจ็บ และตกสะเก็ดไปแล้ว

สุดยอด!

ถ้าฟื้นตัวดีแล้ว เธอจะได้ไปเรียน แบบนี้ก็ไม่ต้องอยู่เผชิญหน้าตายด้านของเย่ฉ่าวเฉินตลอดทั้งวัน

หลังจากล้างหน้าล้างตาอย่างมีความสุข มู่เวยเวยก็เดินลงไปรับประทานอาหารเช้า เวลานี้เย่ฉ่าวเฉินออกไปทำงานแล้ว เขาไม่อยู่บ้าน เธอจะได้อยู่คนเดียวอย่างมีความสุข

หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย มู่เวยเวยก็ขึ้นไปชั้นบน ในขณะที่เธอเตรียมตัวกลับเข้าห้อง เธอก็ได้ยินเสียงกระดิ่งไพเราะดังแว่วมา

มู่เวยเวยหยุดฝีเท้าทันที เสียงลมพัดกระดิ่งสั่นไหว อาจจะเป็นกระดิ่งที่แขวนอยู่หน้าประตูห้องชั้นบนก็ได้… เธอคิดเช่นนั้น จึงมองขึ้นไปชั้นบนโดยไม่รู้ตัว เป็นไปตามที่คิด เพียงแต่ครั้งนี้ ประตูห้องไม่ได้ถูกเปิดไว้ มันปิดสนิท

ดวงตาสีม่วงส่องประกาย…

คนบินได้ และยังมีถ้วยชาและกาน้ำชาที่บินได้อีก…

ขณะครุ่นคิดมู่เวยเวยก็ก้าวเท้าเดินขึ้นไปชั้นบน… เขตหวงห้ามของคฤหาสน์ตระกูลเย่ เย่ฉ่าวเฉินไม่ยอมให้เธอเข้าใกล้ห้องนี้ และไม่อยากให้เธอขึ้นไปชั้นสามด้วยซ้ำ…

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

“ผู้หญิงคนนี้ ฉันต้องการแล้ว” มู่เวยเวยซึ่งถูกแฟนหนุ่มขายตัวเธอไป จนเธอต้องกลายเป็นภรรยาของเย่ฉ่าวเฉิน ภายในห้อง ความดุของเขาทำให้เธอทรุดลง “คุณแต่งงานกับฉันด้วยเหตุผลอะไร” ชายหนุ่มแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย “แต่งงานกับคุณ แน่นอนว่าเพื่อที่จะได้รังแกคุณไง” หลังจากนั้น…………. “คุณห้ามคิดถึงผู้ชายคนนั้น ไม่อย่างนั้นผมจะจัดการเขา” “ผู้หญิงของผมมีแค่ผมเท่านั้นที่จะรังแกได้ ใครกล้ามาแตะต้องคุณแม้แต่ปลายผม มันต้องตาย” “ใครบอกให้คุณไม่กลับบ้านตอนค่ำ ได้บอกผมรึยัง” ความทรมานที่ฉันพูดถึงมันเปลี่ยนรสชาติไปได้อย่างไร …………. เขาช่วยเธอ และปกป้องเธอเหมือนขุมทรัพย์ จนกระทั่งเธอพบว่าสามีที่เพิ่งแต่งงานคนนี้มีความลับที่เธอไม่รู้ … ห้องที่ห้ามเข้าใกล้ … ผู้ชายที่มีม่านตาสีม่วงและดวงตาเป็นประกาย … ทั้งสองหน้าเหมือนกันมาก … ใครคือสามีที่แท้จริงของเธอ?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset