ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง – ตอนที่ 469 สุดยอดราชินีจอเงิน

น้ำเสียงของพระองค์ทั้งแหบแห้งและฝืดเฝื่อน ราวกับเรียกผ่านกระดาษทรายออกมา
 
 
ตู๋กูซิงหลันเห็นรอยแผลไฟไหม้ที่อยู่บนพระศอของพระองค์ก็รู้ว่าเปลวเพลิงของอสุกายโลกันตร์ตัวนั้นแผดเผาคอของเขา
 
 
ตู๋กูซิงหลันมองดูริมฝีปากที่ซีดขาวของพระองค์ เห็นมันแห้งผาดจนหลุดลอกออกมา ในใจก็รู้สึกปวดร้าว
 
 
นางเดินเข้าไป นั่งลงที่ข้างๆพระองค์ พลางจับพระหัตถ์ของจีเฉวียนเอาไว้ กล่าวอย่างจริงจังว่า “ท่านวางใจเถอะ ……อยู่ในโลกปัจจุบันนี้….ข้าร่ำรวยมากเลยนะ ต่อให้ท่านเป็นคนพิการไปแล้ว ข้าก็ยังเลี้ยงดูท่านได้”
 
 
นางคิดเช่นนี้อยู่จริงๆ……..ให้นางเลี้ยงดูฮ่องเต้สุนัขผู้หนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร
 
 
ตอนแรกจีเฉวียนกำลังอยู่ในความยินดีที่ได้กับมาเจอกัน พอเจอกับประโยคนี้ของนางเข้าไปก็เหมือนกับโดนสาดน้ำเย็นราดรดใส่พระเศียร
 
 
ตอนที่อยู่ที่ภูเขาไร้สิ้นสุด พระองค์ทุ่มเทพละกำลังทั้งหมดเพื่อจะกดดันให้มันกลับลงไปใต้ภูเขา ตอนสุดท้ายที่ใกล้จะหมดสติไปนั้น ทรงรู้สึกว่าได้ทรงพระเนตรเห็นเงาคนในชุดสีม่วงเงาหนึ่ง
 
 
จากนั้น ก็จำอะไรไม่ได้อีกแล้ว
 
 
พระศอของพระองค์ทั้งเจ็บและแสบร้อนราวกับไฟลุก
 
 
แต่ก็ยังฝืนตอบออกมาว่า “ต่อให้เราต้องไปขอทาน ก็จะต้องเลี้ยงดูเจ้าให้มีอยู่มีกิน เป็นถึงบุรุษ แล้วจะปล่อยให้คนรักต้องเหนื่อยยากได้อย่างไร”
 
 
ตู๋กูซิงหลันคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ส่ายศีรษะ “เกรงว่าจะไม่ได้ คงจะไม่ได้หรอก ท่านไม่รู้จักโทรศัพท์มือถือ We chatใช้ไม่เป็น QR code ก็ไม่รู้เรื่อง แล้วจะสั่งข้าวมากินได้ยังไง”
 
 
ใช่แล้ว…..โลกปัจจุบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีล้วนก้าวหน้า ตอนนี้ออกจากบ้านไม่มีใครเขาใช้เงินสดกันอีกแล้ว แล้วอย่างนี้ฮ่องเต้สุนัขจะไปขอทานได้อย่างไร?
 
 
จีเฉวียนรับฟังด้วยพระพักตร์มึนงง พระองค์ละสายพระเนตรไปจากตัวตู๋กูซิงหลัน มองออกไปรอบด้าน
 
 
เป็นห้องที่ดูแปลกประหลาดมาก ……ไม่มีกำแพงเลย ทั้งๆที่เห็นอยู่ว่าดอกกุหลาบในสวนกำลังถูกสายลมพัดจนไหวเอน แต่ว่ากลับไม่มีลมพัดเข้ามาในห้อง
 
 
เครื่องเรือนภายในบ้านหลังนี้ก็แปลกประหลาด …..โต๊ะเก้าอี้ล้วนดูแปลกตา แม้กระทั่งเบาะนุ่มที่พระองค์นอนอยู่นี้ก็ยังใหญ่เสียงจนน่าฉงนใจ สวยงามหรูหราเสียจนน่าแปลกใจ
 
 
พระองค์หันซ้ายหันขวาไปมาโดยรอบ ที่ที่อยู่ในตอนนี้ไม่ใช่แคว้นต้าโจว….และยิ่งไม่ใช่โลกที่พระองค์เคยอยู่?
 
 
“โทรศัพท์มือถือ We Chat Qr Code คืออะไร?” พระองค์ทรงฝืนทนต่อความเจ็บปวดบนพระศอ ไถ่ถามออกไป
 
 
ตู๋กูซิงหลันมองดูรอยเลือดที่ซึมออกมาตามพระวรกาย ก็ได้แต่ตบลงไปบนพระหัตถ์เบาๆ เอ่ยตอบอย่างเนิบนาบว่า “ยังมีเวลาอีกมากมาย ให้ท่านค่อยๆทำความเข้าใจ”
 
 
เสินฟางยืนอยู่ด้านหลังของนาง มีอยู่ชั่วแวบหนึ่ง ที่อยู่ๆเขาก็รู้สึกขึ้นมาว่าร่างกายของนางกำจายความชั่วร้ายบางประการออกมา
 
 
…………………….
 
 

 
 
เนื่องเพราะสภาพร่างกายที่บาดเจ็บสาหัส ตลอดครึ่งคืนหลังเขาจึงอ่อนล้าจนหลับใหลไปอีกครั้ง
 
 
ตู๋กูซิงหลันห่มผ้าให้เขากับมือ ตนเองก็ดื่มน้ำไปสองแก้วค่อยออกไปรับลมเย็นๆในสวน
 
 
พึ่งจะเดินออกไป ก็เห็นภายในสวนดอกกุหลาบของนางมีความเคลื่อนไหว
 
 
นางกวาดสายตาราวกับคมดาบไปในทันที “ใครอยู่ที่นั่น?”
 
 
พอสิ้นเสียง ก็เห็นก้นของไก่ตัวหนึ่งกระดุ๊กกระดิ๊กอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้
 
 
ก้นไก่สีเงินยวง เส้นขนเงางาม อ้วนกลมจนปุกปุยอย่างยิ่ง
 
 
“กะ กะ กะต๊าก….” เจ้าไก่ดำขนฟูกระพือปีกทั้งสองข้าง กระโจนออกมาอย่างกระตือรือร้น
 
 
“พี่สาวตัวน้อยไม่ต้องตกใจไป…กะ กะ กะต๊าก …..ข้าก็คือติ๊งต๊องที่ท่านรักเอ็นดูที่สุดไง ….กะกะกะต๊าก…..”
 
 
มันทางหนึ่งกระพือปีก ทางหนึ่งก็พูดไปด้วย
 
 
จากนั้นก็ตกตะลึงไปครู่ใหญ่ แล้วอยู่ๆเจ้าไก่ดำขนฟูก็แตกตื่นขึ้นมาอีก
 
 
“เฮ้ย …แม่เจ้า! นี่เฮียพูดได้แล้วนี่ กะกะกะต๊าก?”
 
 
“กุ๊กๆๆๆ….เฮอะๆๆๆ…ฮ่าๆๆๆๆ….แม้เจ้าโว้ย ไก่อย่างเฮียพูดได้แล้วรึนี่? กะกะกะต๊าก!”
 
 
ตู๋กูซิงหลันมองดูท่าทางที่มันยืนยันกับตนเองด้วยความตื่นเต้นจนแทบเสียสติ ……ก็รู้สึกอายแทนจนพูดอะไรไม่ออก
 
 
“โอ้วๆๆๆ…….นี่จะต้องเป็นเพราะแรงระเบิดที่สุดแสนน่าสะพรึงกลัวที่ก้นทะเลลึกนั่น ทำเอาไก่อย่างเฮียตกใจจนพูดภาษาคนได้!”
 
 
เจ้าไก่ดำขนฟูพร่ำเพ้อจนวิ่งวนไปรอบๆตัวตู๋กูซิงหลัน
 
 
“พี่สาวตัวน้อย เฮียจะบอกอะไรให้ฟังนะ….”
 
 
“ตอนที่อยู่ในเผ่ามังกรทมิฬ….เฮียกับราชาสุนัขป่าถูกพี่รองของท่านแอบปล่อยออกมา คิดจะไปช่วยพี่สาวชือหลี…แต่ปรากฏว่า…..ปรากฏว่าไอ้หมาป่าอึเหม็นนั่น…..มันกลับพาเฮียไปหลงทางเสียได้!”
 
 
“จากนั้นยังโชคดีที่ข้าได้กลิ่นหอมจากกายของพี่สาวตัวน้อย จนตามมาเจอท่าน กะกะกะต๊าก!”
 
 
ตู๋กูซิงหลันกำหมัดต่อยลงไปบนศีรษะของมัน จนส่งเสียงดังป๊งออกมาราวกับทุบลงไปบนแผ่นเหล็ก
 
 
แต่ว่าอย่างน้อยๆก็ยังทำให้เจ้าตัววุ่นวายนี้สงบลงได้บ้าง
 
 
มันหุบปีกนั่งลงที่ข้างกายนางอย่างเรียบร้อยเชื่อฟัง ใช้ปลายปีกกรีดลงไปบนขอบตาที่ไม่ได้มีน้ำตาสักหยด “ฮือฮือ ฮือ…..พี่สาวตัวน้อย เอาเลย ทุบอีกทุบให้หนักๆ ใช่แล้ว ตบแก้มซ้ายแล้วก็ตบแก้มขวา ท่านทุบตีแบบนี้ข้ารู้สึกสบายมากๆเลย กะกะกะต๊าก!”
 
 
ตู๋กูซิงหลันอยากจะต่อยมันให้สลบไปในหมัดเดียว แต่จนปัญญาที่เจ้าตัวนี้เนื้อหนากล้ามใหญ่เกินไป
 
 
เสินฟางที่ผลุบๆโผล่ๆได้ทุกที่ทุกเวลาเหมือนกับภูตผี จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ข้างกายของนางอีกครั้ง
 
 
เขากล่าวว่า “คุณหนู ที่ติดตามท่านกลับมาจากโลกมิติโบราณนั้น ก็มีฮ่องเต้ชาวมนุษย์ผู้หนึ่ง ไก่ตัวนี้….แล้วก็มีจู๋จู๋ที่หัวเป็นมนุษย์ตัวเป็นมังกร กับดาบยักษ์อีกเล่มหนึ่ง”
 
 
“อ๋อ จู๋จู๋นั้นตัวใหญ่เกินไปแล้ว ข้าก็เลยเอามันไปปล่อยเอาไว้ที่ทะเลสาบหลังภูเขา”
 
 
ตู๋กูซิงหลันคิดอยู่ในใจว่า ตั้งแต่ที่ตนเองกลับมานั้น หลับลึกไปนานเท่าไหร่แล้ว?
 
 
“เจ็ดวันแล้ว” เสินฟางทำเหมือนกับว่าอ่านใจของนางออกอย่างไรอย่างนั้น เขายืนตัวตรงดุจพู่กันอยู่ที่ด้านหลังของนาง “ท่านนอนหลับไปนานถึงเจ็ดวันเต็มๆ”
 
 
ตู๋กูซิงหลันเงียบงันไปครู่หนึ่ง พลางเหลือบตามองดูเงาของตนเองแวบหนึ่ง อืม…เจ้าวิญญาณทมิฬนั่นยังคงหลับลึกอยู่ในเงาของนาง เกรงว่าตอนที่อยู่ในก้นทะเลลึกก็คงจะได้รับบาดเจ็บด้วยไม่น้อย
 
 
อยากจะนอนก็นอนไปเถอะ ไม่มีร่างเนื้อก็ถือเป็นข้อดีอยู่เหมือนกัน…..
 
 
ตอนนี้ติ๊งต๊องก็พูดได้แล้ว…..แค่คิดว่าหากทั้งสองตัวมาถกเถียงกันอยู่ที่ริมหู ตู๋กูซิงหลันก็รู้สึกปวดสมองขึ้นมาทันทีแล้ว
 
 
“พี่สาวตัวน้อย…..” ติ๊งต๊องใช้ปีกของมันโอบขาของตู๋กูซิงหลันเอาไว้ กระพริบสองตาปริบๆใส่นาง “โลกแห่งนี้ช่างน่าตื่นตาตื่นใจเสียจริงๆ ท่านพาข้าออกไปเปิดหูเปิดตาหน่อยได้ไหม?”
 
 
ตั้งแต่ที่มาถึงมันก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่างแล้ว บนภูเขาแห่งนี้มีจิตวิญญาณสมบูรณ์มาก ไอหยินก็ลึกล้ำ
 
 
บ้านหลังนี้ก็สร้างอย่างแปลกประหลาด มันเห็นว่าบนถนนด้านนอกมีคนเดินทางผ่านไปมา ก็ยิ่งรู้สึกสนอกสนใจอย่างยิ่ง
 
 
ตู๋กูซิงหลันไม่สนใจมัน นางเอาแต่นวดขมับ รู้สึกปวดสมอง
 
 
……………………..
 
 

 
 
ความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายของจีเฉวียนแข็งแกร่งจนน่าแตกตื่นใจ
 
 
เพียงแค่เจ็ดวัน กระดูกที่หักทั่งร่างก็ฟื้นฟูไปกว่าครึ่ง
 
 
ตู๋กูซิงหลันสั่งซื้อรถเข็นชั้นดีมาจากในเน็ต ตอนที่เด็กส่งสินค้าด่วนมาถึง เขาก็ต้องขนหัวลุกไปทั้งตัว
 
 
ได้ยินมานานแล้วว่า บนหุบเขาปีศาจนี้มีคฤหาสน์สุดหรูหราอยู่หลังหนึ่ง บ้านบนภูเขาหลังนี้เล่ากันว่าเป็นที่พักอาศัยของบุคคลลึกลับระดับตำนาน
 
 
แต่ต่อให้ฝันเขาก็ยังคิดไม่ถึงว่า ……บุคคลลึกลับผู้นี้ จะเป็นราชินีจอเงินที่หายตัวไปอย่างลึกลับมาตลอดสองปี….เยี่ยซิงหลัน!
 
 
ถึงแม้ว่ายามปกติเขาจะไม่ค่อยได้ชมดูละครสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังต้องยอมรับเลยว่าเยี่ยซิงหลันมีชื่อเสียงโด่งดังมากขนาดไหน…..
 
 
นางหายตัวไปตั้งสองปี ข่าวลือต่างๆมีอยู่มากมายจนกลายเป็นเรื่องพาดหัวข่าวเต็มไปหมด
 
 
บ้างก็ว่าราชินีจอเงินอำลาวงการไปแต่งงาน แต่งไปเป็นเมียเก็บของพวกผู้ดีในตระกูลใหญ่โต
 
 
บ้างก็บอกว่าเพราะได้รับความบอบช้ำทางจิตใจ จึงแอบหนีไปออกบวช…..
 
 
ราชินีจอเงินอย่างนั้นอย่างนี้……
 
 
ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือใต้หัวข้อข่าวลือเหล่านั้นก็มีภาพโฆษณาหนังAVต่อท้ายอยู่เต็มไปหมดอีกด้วย…..
 
 

 
 

 
 
……………………………..
 
 
ตอนต่อไป “บุรุษที่อยู่เบื้องหลังของราชินีจอเงิน”

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset