หลี่โม่ส่งสายตาให้กับเฉินเสี่ยวถง พูดเสียงเบาว่า “เอาใบรับรองให้ไอ้หลิวดูหน่อย”
เฉินเสี่ยวถงล้วงเอาใบรับรองของตัวเองออกมา แล้วเชิดหน้ายื่นให้กับไอ้หลิว “นายดูใบรับรองของฉันสิ ทีนี้ก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วใช่มั้ยละ”
ไอ้หลิวรับเอาใบรับรองของเฉินเสี่ยวถงมาดู แล้วดวงตาก็เบิกโพลงในทันที พลิกใบรับรองไปมาดูหลายรอบ แล้วสุดท้ายก็ยื่นใบรับรองคืนเฉินเสี่ยวถงด้วยปากแผล็บๆ
“คือ…..ผมโทรไปหาหัวหน้าเพื่อขอคำแนะนำก่อน พวกคุณรอสักครู่ครับ”
ไอ้หลิวพูดจบก็รีบเดินกลับไปที่ห้องรับแขก แล้วหยิบเอาโทรศัพท์บนโต๊ะเพื่อโทรออก
เฉินเสี่ยวถงเก็บใบรับรองกลับ แล้วส่งเสียงหึออกมาทีหนึ่ง เชิดหน้าอย่างกับว่าเป็นดั่งนกยูงซะอย่างนั้น
ไม่นานไอ้หลิวก็วางโทรศัพท์ แล้วเดินออกจากห้องรับแขกอีกครั้ง “ทั้งสองท่าน ผมพาพวกคุณไปพบกับผู้อำนวยการหวาง
“ขอบใจไอ้หลิว” หลี่โม่เอก็รู้สึกขอบใจไอ้หลิวมาก ถ้าหากไม่มีไอ้หลิว อาจจะต้องยุ่งยากมากกว่านี้อีก
ไอ้หลิวพาหลี่โม่และเฉินเสี่ยวถงเดินเข้าไปในเขตการทำงานของโรงงานพิมพ์ธนบัตร ระหว่างทางก็แนะนำสถานการณ์ของโรงงานพิมพ์ธนบัตรง่ายๆ
เมื่อมาถึงหน้าประตูสำนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงงานพิมพ์ธนบัตร ไอ้หลิวก็เคาะประตู
“เข้ามา”
ไอ้หลิวดันประตูเปิดเข้าไป “ผู้อำนวยการหวางครับ สองท่านนี้ครับ คุณหลี่โม่หัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของหยุนจงหลันกรุ๊ปและคุณเฉินเสี่ยวถงแผนกหน่วยสืบราชการลับครับ”
ผู้อำนวยการหวางเงยหน้าขึ้น กวาดมองทั้งสองคนทีหนึ่ง “เรื่องของพวกคุณไอ้หลิวบอกกับผมแล้ว เรื่องนี้ก็ให้ไอ้หลิวประสานงานจัดการกับพวกคุณแล้วกัน เมื่อก่อนไอ้หลิวเคยเป็นสายตรวจ เคยมีประสบการณ์ในการทำคดี และก็คุ้นเคยกับโรงงาน แต่ว่าเขตการผลิตของโรงงานพวกคุณห้ามเข้าไป”
ผู้อำนวยการหวางพูดจบแล้วก็มองไอ้หลิว โบกมือเบาๆ แสดงออกว่าให้ไอ้หลิวพาพวกหลี๋โม่ทั้งสองออกไป
“ได้ครับผู้อำนวยการหวาง ผมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่แน่นอนครับ เชิญผู้อำนวยการหวางยุ่งเลยครับ พวกผมขอตัวก่อน”
เมื่อพาหลี่โม่และเฉินเสี่ยวถงออกมาจากห้องทำงานแล้ว ไอ้หลิวก็พูดด้วยสีหน้าขมขื่นว่า “เป็นคนดีนี่ยากลำบากจริงๆ พวกคุณว่ามาว่าจะทำยังไงแล้วกันครับ ผมให้ความร่วมมือกับพวกคุณ จะดูกล้องวงจรปิดหรือว่าเดินสำรวจในโรงงานครับ?”
“ไม่ต้องทั้งนั้น หาที่เงียบๆที่หนึ่ง ผมถามคำถามคุณไม่กี่อย่างก็พอแล้ว” หลี่โม่ไม่ได้คิดจะทำให้ยุ่งยากอย่างนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แล้วเวลาเองก็ไม่เป็นใจด้วย
การมาโรงงานพิมพ์ธนบัตรในครั้งนี้ หลี่โม่ทำเพื่อให้คนร้ายตื่นตูม แล้วให้ฆาตกรคนนั้นปรากฏตัวออกมาเอง
ไอ้หลิวมองหลี่โม่อย่างประหลาดใจ แล้วเดินไปยังห้องทำงานที่อยู่ด้านข้าง ล้วงเอากุญแจเปิดประตู “งั้นพวกเราก็มาคุยกันที่นี่แล้วกันครับ นี่คือห้องทำงานของผม แต่ว่าปกติไม่ได้ค่อยได้ใช้”
แต่ว่าปกติไม่ค่อยได้ใช้? หลี่โม่รู้สึกว่าประโยคสุดท้ายของไอ้หลิว ดูจงใจพูดเพื่อปกปิดอยู่สักหน่อย เหมือนว่าไอ้หลิวจงใจอยากจะย้ำอะไรบางอย่าง
ไอ้หลิวเปิดประตูห้องทำงานออก ก้าวเท้าเดินเข้าไป เดินไปที่หน้าต่างก่อน แล้วเปิดผ้าม่านออก จากนั้นก็เปิดประตูหน้าต่าง
“ไม่ได้ใช้ห้องทำงานที่นี่เลย จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีกลิ่นแปลกๆ พวกคุณอย่าได้รังเกียจละ จะให้ผมฉีดสเปรย์ปรับอากาศมั้ยครับ?”
ไอ้หลิวพูดจบไม่ทันรอให้หลี่โม่ตอบรับ ก็หยิบเอาสเปรย์ปรับอากาศขึ้นมาจากบนโต๊ะ แล้วก็เริ่มฉีดไปทั่วห้อง
หลี่โม่มองดูที่วางขวดสเปรย์ปรับอากาศ
นั่นเป็นที่กลางโต๊ะที่สามารถหยิบจับได้ง่าย โดยปกติแล้วของอย่างพวกสเปรย์ปรับอากาศ จะไม่ได้ใช้กันบ่อยๆ ปกติแล้วมักจะถูกเก็บไว้ในมุม
แต่ว่าสเปรย์ปรับอากาศของไอ้หลิว กลับวางไว้ในจุดที่สามารถหยิบจับได้ง่าย ดูแล้วเหมือนกับว่าใช้เป็นปกติวิสัย
หลี่โม่นั่งลงบนเก้าอี้ นึกย้อนถึงกลิ่นเมื่อกี้ที่ได้ดมตอนเข้ามา
กลิ่นนั้นมันค่อนข้างจะแปลก แต่ว่าหลี่โม่สามารถมั่นใจได้ว่า นั่นไม่ใช่กลิ่นแปลกที่เกิดขึ้นจากการที่ไม่ได้ระบายอากาศเป็นเวลานาน
สายตาของหลี่โม่สำรวจดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน สำรวจดูทุกมุมทุกรายละเอียดของในห้องนี้ ยิ่งดูหลี่โม่ก็ยิ่งรู้สึกว่าห้องนี้มันแปลกประหลาด
ของที่ผู้คนมักจะใช้งานถูกเก็บเข้าไว้ในมุม แต่ของที่วางไว้ในจุดที่สามารถหยิบใช้ได้ง่าย กลับเป็นสิ่งของไม่ค่อยได้ใช้ในเวลาปกติ
อย่างเช่นกล่องเครื่องมือ แผงวงจร แล้วยังมีพวกเครื่องวอร์คแมนและอุปกรณ์ไฟฟ้าเก่าแก่ประเภท MP3 ที่ถูกถอดแกะเครื่อง
ในถังขยะที่อยู่ในมุม หลี่โม่เห็นด้านในมีพวกหนังสือพิมพ์เก่าถูกโยนทิ้งไว้ หนังสือพิมพ์พวกนั้นเก่าจนเปลี่ยนสี ดูแล้วเหมือนว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์เมื่อหลายปีก่อนแล้ว
ไอ้หลิววางสเปรย์ปรับอากาศลง และยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติสักเท่าไหร่
“ที่ผมตรงนี้รกมาก ปกติผมมักจะซ่อมแซมของเล็กน้อยอยู่ที่นี่ ผมชอบแกะเครื่องของใช้ไฟฟ้าเล็กๆมากที่สุด ศึกษาโครงสร้างวงจรด้านใน พวกคุณอย่าได้ถือสานะครับ”
ก้มตัวลงเอาน้ำเปล่าออกมาสามขวดจากกล่องในมุมด้านล่างมาวางไว้บนโต๊ะ ไอ้หลิวหัวเราะแห้งสองทีแล้วก็พูดว่า “ที่นี่ผมไม่ค่อยได้ใช้ จึงไม่ได้มีน้ำร้อนเตรียมไว้ พวกเราดื่มน้ำเปล่าแล้วกันนะครับ”
หลังจากที่ยื่นน้ำเปล่าให้หลี่โม่และเฉินเสี่ยวถงแล้ว ไอหลิวก็นั่งลงที่เก้าอี้ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเป็นมิตร “พวกคุณอยากจะถามอะไรครับ? ถ้าผมรู้จะบอกให้ทราบทุกอย่างแน่นอนครับ”
“เมื่อกี้ได้ยินผู้อำนวยการหวางบอกว่าคุณเป็นสายตรวจ แล้วทำไมคุณถึงได้มาเป็นรปภ.ที่นี่ละ?” หลี่โม่ถามอย่างสงสัยเล็กน้อย
ตัวตนของไอ้หลิว ทำให้หลี่โม่เกิดความสงสัยอย่างมาก ในใจของหลี่โม่ ได้มั่นใจแล้วว่าไอ้หลิวก็คือหนึ่งในฆาตกร
หลี่โม่มั่นใจว่าไอ้หลิวไม่ใช่ฆาตกรเดี่ยว แต่เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มฆาตกร แล้วยังมีตำแหน่งที่ไม่ต่ำซะด้วย
สายตาของไอ้หลิวสะดุ้งไปเล็กน้อย เหมือนไม่คิดว่าหลี่โม่จะถามคำถามแบบนี้ออกมา “คือ…ไม่ตอบได้มั้ยครับ?”
หลี่โม่ส่ายหัวอย่างเด็ดขาด แผ่นหลังที่นั่งตรงของไอ้หลิวก้มงอในทันที บนใบหน้าปรากฏสีหน้าที่เจ็บปวด
“ก่อนหน้านี้ผมเคยเป็นสายลับคนหนึ่งมาก่อน ในตอนนั้นหัวหน้าองค์กรที่ผมเข้าไปเป็นสายลับมันสงสัยในตัวผม ในตอนนั้นมีทางเลือกเพียงสองทางที่อยู่ตรงหน้าของผม ทางหนึ่งคือพิสูจน์ตัวเอง อีกทางหนึ่งคือคิดหาทางหนี เมื่อพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้ผมไม่มีทางที่จะเลือกได้ ดังนั้นผมจึงปรึกษากับหัวหน้าของผม เพื่ออยากจะหนีออกมาจากองค์กรนั้น แต่ว่าหัวหน้าของผมกลับไม่อยากยอมแพ้ เพราะยังไงซะสิ่งนี้พวกผมก็เล็งมาไว้แล้วสองปี กว่าจะเข้าไปเป็นสายลับได้ก็ไม่ง่ายเลย ผมถูกเขากล่อมจนยอม และเพื่อความยุติธรรมที่น่าขำ จึงอยู่ต่อในองค์กรนั้น แต่ว่าหลังจากนั้น หัวหน้าองค์กรก็จับหัวหน้าของผมได้ และหัวหน้าของผมก็คิดจะแฉผมออกไปเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง และผมเองก็ไม่มีทางเลือก และเพื่อรักษาชีวิตตัวเองไว้ ผมจึงทำได้เพียงฆ่าเขาซะ”
ดวงตาของไอ้หลิวน้ำตาไหลออกมา สองมือกำเข้าที่ผม ใช้แรงดึงขยี้ผมอย่างแรง “ชีวิตผมรักษาไว้ได้แล้ว องค์กรนั้นก็ถูกทำลายแล้ว แต่ว่ามโนธรรมของผมมันรับไม่อยู่ ดังนั้นผมจึงยื่นเรื่องขอย้ายออกจากแผนกสายตรวจ แล้วมาเป็นรปภ.ที่นี่ครับ”
ไอ้หลิวพิงหลังไปที่พนักพิงเก้าอี้อย่างหมดแรง สองมือปิดตาไว้ น้ำตาไหลลงตามซอกนิ้วมือ ดูแล้วท่าทางไม่ดีเป็นอย่างมาก
“ขอโทษด้วยนะ ไม่รู้ว่ามันจะเป็นเรื่องราวที่น่าสลดใจแบบนี้” ปากของหลี่โม่พูดปลอบใจ แต่สายตากลับจ้องมองฝ่ามือที่ปิดตาไว้ของไอ้หลิว และใบหน้าที่เผยออกมาครึ่งหน้า
นิ้วโป้งของไอ้หลิวกระตุกเบาๆ ใบหน้ากระตุกขึ้นมาเบาๆสองที เหมือนว่ากำลังกัดฟันไว้
มองดูท่าทางการแสดงออกที่ละเอียดอ่อนของไอ้หลิวแล้ว หลี่โม่ก็ยิ้มเยาะทีหนึ่ง หยิบเอากล่องทิชชูบนโต๊ะขึ้น แล้วดึงเอากระดาษทิชชูออกมาไม่กี่แผ่นยื่นให้กับไอ้หลิว