ฉินจุนลุกขึ้นและเดินออกไปพร้อมกับเฉินหยวน
เติ้งเจียหน้าซีดด้วยความโกรธ
“ดูสิ นี่มันน้องสาวจอมปลอม พอฉันมีเรื่อง มันหนีเร็วกว่าใครเลย ! ”
ขณะที่ฉินจุนพึ่งจะได้ก้าวเท้าหน้าของพวกเขาออกไป ทันใดนั้นก็ปรากฎร่างผู้หญิงในชุดสีแดง เดินเข้ามาในห้องโถงพร้อมกับบอดี้การ์ดสี่คน
ผู้หญิงคนนั้นใส่ชุดสีแดง รองเท้าสีแดง ผมยาวสีดำขลับ มีบุคลิกที่น่านับถือ บรรดาผู้ที่ติดตามเธอล้วนเป็นทหารผ่านศึกที่มีความชำนาญสูง ท่าเดินน่าเกรงขาม เธอมีดวงตาที่เฉียบคมเหมือนหมาป่าหิวเหยื่อ ซึ่งมันทำให้คนมองรู้สึกหวั่น
“ผู้หญิงคนนี้……หรือว่าคือเหลยหง ? ”
เหลยหง ?
ทุกคนตกตะลึง ไม่คาดคิดว่าเหลยหงจะมาที่นี่ ?
เมื่อครู่นี้พวกเขาเพิ่งได้เห็นเหลยหงในรูปภาพ โดยยืนอยู่ข้างกับพี่เปียวและฐานะของเธอสูงส่ง นักธุรกิจเหล่านั้นถ่ายรูปกับเธอด้วยความเคารพ
เหลยหงมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?
ทันทีที่เหลยหงเดินเข้ามา ทางด้านพี่เปียวก็รีบลุกขึ้นยืนเสยผมและทั้งกลุ่มก็รีบลุกขึ้นเช่นกัน
หลังจากท่าทีขี้เล่นก่อนหน้านี้ ไม่นานก็เข้าเรื่องจริงจังทันที
พี่เปียวจ้องมองและตะโกนออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“รีบใส่เสื้อผ้าซะ ! ”
ทุกคนหยิบเสื้อผ้าของตน แต่งกายให้เรียบร้อย และยืนตัวตรง
“พี่หง ! ”
เหลยหงมองพี่เปียวจากนั้นก็เหลือบมองไปที่เติ้งเจีย และถาม
“คุณฉินอยู่ที่ไหน ? ”
สีหน้าของพี่เปียวว่างเปล่า “คุณฉินคือใคร ? ”
เหลยหงไม่สนใจเขาและเดินไปที่ฝั่งของเติ้งเจียและเอ่ยถาม
“ใครคือเติ้งเจีย ? ”
เติ้งเจียลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นตระหนกและตอบอย่างรวดเร็ว
“ฉัน ฉันเอง พี่…… พี่หงสวัสดีค่ะ ”
เหลยหงจ้องมองตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอพยักหน้าและกล่าวว่า
“เธอไม่เป็นไรแล้ว กลับไปได้ ”
เติ้งเจียดูประหลาดใจที่ได้รับความช่วยเหลือ “ฉัน ฉันไปได้แล้วหรอ พี่หง พี่หมายความว่า ? …… ”
เหลยหงเหลือบมองไปที่พี่เปียวและถามว่า “ไม่ข้องใจอะไรใช่ไหม ? ”
คำพูดของพี่หง อย่าว่าแต่ไม่ขัดข้องใจเลย แม้ว่าจะมีความเกลียดชังแค้นฝังลึกจริงๆ ก็จะต้องปล่อยวางมันไป
“พี่หง ไม่มีอะไร แค่ความขัดแย้งเล็กน้อย ! ในเมื่อพี่หงพูดแล้ว เราก็ไม่เอาเรื่องครับ ! ”
เหลยหงพยักหน้า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ฉันแค่มาช่วยนายไกล่เกลี่ย น่าเสียดายที่นายคุณฉินไม่อยู่ซะแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันอยากจะดื่มให้เขาสักแก้ว ”
คำพูดของเหลยหง ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้น !
ดื่มให้คุณฉิน ?
ทุกคนต่างรู้ดีว่าใครคือคุณฉิน
คนนามสกุลฉินในที่นี้มีเพียงคนเดียว ซึ่งก็คือฉินจุนที่เพิ่งจากไป
การปรากฏตัวของเหลยหงเป็นเพราะฉินจุนงั้นหรอ ?
พี่หงจะดื่มให้ฉินจุน ?
เติ้งเจียตกใจและไม่อยากจะเชื่อ เธอถามอย่างไม่มั่นใจ
“พี่หง คุณกับคุณฉินเป็น……”
หากเป็นคนอื่นถาม เหลยหงก็คงขี้เกียจที่จะอธิบาย แต่เมื่อครู่คุณฉินถึงกับส่งข้อความเพื่อพูดถึงเติ้งเจียผู้นี้ เธอคิดว่าพวกเขาคงเป็นเพื่อนกัน
เหลยหงกล่าวว่า “คุณฉินเป็นคนที่ฉันเคารพมาก เนื่องจากคุณเป็นเพื่อนของเขา ต่อไปหากต้องการความช่วยเหลือคุณสามารถติดต่อฉันได้ ”
แม้ว่าเหลยหงจะพูดอย่างนั้น แต่เธอก็ไม่ได้ทิ้งนามบัตรไว้
ในเมื่อคุณฉินเป็นคนที่ขอความช่วยเหลือจากเธอ ทำไมเขาไม่อยู่ที่นั่นหละ ?
สีหน้าของเพื่อนร่วมชั้นหลายคนต่างก็แปลกไป ฉินจุน……เป็นคนที่ถูกเติ้งเจียไล่ไป หลังจากกลับไปแล้วเขายังด่าอยู่เลย ผลสุดท้าย ฉินจุนแค่ส่งข้อความแบบลวกๆ กลายเป็นเหลยหงเข้ามาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งให้ด้วยตัวเอง
ฉินจุนเป็นผู้มีอิทธิพลตัวจริง !
รถสปอร์ตรุ่นคลาสสิค การดื่มเหล้า และบาร์เทนเดอร์ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ของปลอม เพราะพวกเขาไม่มีตาเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เห็นความเก่งกาจของฉินจุน
ในขณะนั้นเติ้งเจียรู้สึกเสียใจ และเธออยากจะตามออกไปจริงๆ !
แน่นอนว่าเติ้งเจียไม่มีหน้าจะไปตาม เธอถึงกับประชดประชันเฉินหยวน แล้วเธอจะมีหน้าไปตามฉินจุนด้อย่างไร ?
โต้วหมิงหยางสีหน้าไม่ดีขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าฉินจุนจะเป็นผู้มีอิทธิพลขนาดนี้ ?
เขาจะมีคุณสมบัติอะไรไปเทียบได้ ?
ต่อหน้าฉินจุน แม้แต่เหลยหงก็ยังดื่มให้เขา นับประสาอะไรกับพี่เปียว
เหลยหงพูดกับพี่เปียว และเดินตรงออกไปทันที
พี่เปียวไม่กล้าสร้างปัญหาให้กับเติ้งเจียอีกต่อไป และส่งคนเหล่านี้ออกไปอย่างสุภาพ
เติ้งเจียรอให้คนอื่นกลับกันไปให้หมดก่อน จากนั้นเธอก็ถอนหายใจด้วยอารมณ์โล่งและอกตื่นเต้นที่สุด หรือว่าเราจะแก่แล้วนะ
เมื่อครู่ฉินจุนเพิ่งคุยกับประธานเถียนหรือเถียนเจียอิ้นทางโทรศัพท์ และตกลงที่จะรับรถฟ็อลคส์วาเกินหนึ่งคัน
ถ้าฉินจุนเจ๋งจริง งั้นรถคันนี้ก็ต้องเป็นของจริงด้วย ?
“ฉันจะไปอู่รถสักหน่อย ”
เมื่อทุกคนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ก็อยากจะพากันไปด้วย “ฉันจะไปด้วย ”
“ฉันก็อยากไปด้วย ! ”
ไม่มีอะไรมาก ทุกคนก็แค่อยากจะไปดูให้เห็นกับตาว่าตกลงแล้วฉินจุนมีอิทธิพลมากแค่ไหน
ทุกคนขับรถมาถึงที่อู่รถด้วยกัน ทันทีที่เข้ามา พนักงานขายก็เดินเข้ามาถามอย่างกระตือรือร้น
“ทุกท่าน อยากดูเป็นรถรุ่นไหนดีครับ ? ”
เหล่าฝูลังเลอยู่ครู่หนึ่งและจึงเอ่ยว่า “ก่อนมาผมได้ติดต่อกับประธานเถียนของพวกคุณไว้แล้ว และประธานเถียนก็บอกว่าจะมอบรถฟ็อลคส์วาเกินให้ผมหนึ่งคัน ”
ขณะที่เหล่าฝูกำลังพูด ยิ่งพูดน้ำเสียงของเขาก็ยิ่งเบาลง และความมั่นใจก็ยิ่งน้อยลง ถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริงหละก็ คงจะขายขี้หน้าน่าดู
พนักงานขายชะงักไปครู่หนึ่งและเขาก็พูดดูถูก
“คุณผู้ชาย คุณล้อเล่นอยู่เหรอ ? ”
เหล่าฝูหน้าแดงขึ้นมา เขาอายจนอยากจะรีบแทรกแผ่นดินหนี
“ผมไม่ได้ล้อเล่น คุณลองถามท่านประธานเถียนดู ”
พนักงานขายยิ้มเยาะ “คุณเล่นตลกอะไรเนี่ย ประธานเถียนอยู่ตำแหน่งไหน ผมติดต่อเขาได้หรือไง ? เอาล่ะคุณเป็นพวกทำวิดีโอสั้นอะไรนั่นใช่ไหม ? หยุดก่อเรื่องแล้วออกไปได้แล้ว ”
สีหน้าของเหล่าฝูและคนอื่นๆดูไม่สู้ดีขึ้นมาในทันที
“นี่มันเกิดอะไรกันแน่ คนนามสกุลฉินคนนั้นเจ๋งจริงงั้นเหรอ ? ”
“แน่นอนอยู่แล้วสิ ซื้อรถฟ็อลคส์วาเกินคันหนึ่งต้องใช้เงินกว่า 300,000 หยวน เงินมหาศาลขนาดนี้ ใครมันจะเอาไปให้คนอื่นตามใจกันหละ ? ”
“ฉันเดาว่าที่เขาโทรหาประธานเถียน เขาต้องแกล้งทำแน่ๆ ไปแสดงละครให้เด็กดูเถอะ ! ”
“บ้าจริงๆ ลากเรามาขายขี้หน้าด้วย ! ”
“…… ”
ในขณะนั้นมีชายในชุดสูทคนหนึ่งเดินเข้ามาท่ามกลางการก่นด่าของทุกคน
“สวัสดีครับ ผมเป็นผู้จัดการฝ่ายขายที่นี่ มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ ? ”
เหล่าฝูเมื่อเห็นผู้จัดการออกมา เขาจึงพูดออกมาอีกครั้งอย่างขมขื่น
“ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง และเขาบอกว่าคุยกับประธานเถียนเรียบร้อยแล้วว่าจะมอบรถฟ็อลคส์วาเกินกับผม …… ”
ผู้จัดการขมวดคิ้ว “อย่างนั้นหรอครับ เดี๋ยวผมโทรไปถามสักครู่นะครับ ”
ผู้จัดการเดินไปที่แผนกต้อนรับและยกหูโทรศัพท์ทันทีพร้อมกับกดหมายเลขโทรออก
หลังจากคุยไปสองสามประโยคได้ ผู้จัดการก็เดินกลับมาอย่างรวดเร็วและถามว่า
“ขอโทษนะครับคุณคือฝูเหวินป๋อหรือเปล่าครับ ? ”
“ใช่ครับผมเอง ”
“งั้นก็ดีเลยครับ คุณฝูเชิญด้านในเลยครับ รถของคุณพร้อมแล้ว คุณสามารถรับได้ทุกเมื่อ เราจะทำเรื่องให้คุณโดยเร็วที่สุด ! ”
เหล่าฝูประหลาดใจอย่างมาก “จริงเหรอครับ ดีเลย ดีมาก ! ”
เพื่อนร่วมชั้นหลายคนรีบตามไปดูเหล่าฝูทุกขั้นตอนด้วยตาของพวกเขาเองและผู้จัดการก็มาดำเนินขั้นตอนต่างๆให้ด้วยตัวเองและได้รับการจัดการอย่างรวดเร็วที่สุด ทั้งเอกสารใบอนุญาตและทะเบียนรถ
ในที่สุดเหล่าฝูก็ได้รับรถฟ็อลคส์วาเกินคันใหม่เอี่ยมไป
ขณะที่นั่งอยู่บนรถใหม่ เพื่อนร่วมชั้นหลายคนมองหน้ากัน
ถ้างั้นฉินจุนก็มีอิทธิพลมากเลยสิ รู้แบบนี้พวกเขาคงสานสัมพันธ์ที่ดีกับเขาไปนานแล้ว บางทีพวกเขาอาจให้รถมาอีกก็ได้
เห้อ น่าเสียดายจัง
……