ตอนนี้มันก็ถือได้เลยว่าเหลยหงเป็นคนที่คุมอำนาจเมืองเอกในมณฑลเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นความมั่งคั่งหรือความแข็งแกร่ง เธอมีมันทั้งหมด
ฉินจุนไม่สนใจอะไร เค้าก็เลยเก็บมันเอาไว้
หลังจากที่เก็บมันแล้ว จู่ๆโทรศัพท์ของเค้ามันก็ดังขึ้นมา มันเป็นจู้หลินหลินที่โทรเข้ามา หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาซักพัก ทั้งสองก็พูดคุยกันไม่หยุด
ตั้งแต่มีปัญหากับตระกูลจู้ในตอนนั้น ครอบครัวของจู้หลิงหลิงก็ย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านของตัวเอง เนี่มันก็นานมากแล้วที่พวกเค้าไม่ได้ติดต่อกับนายหญิงและคนพวกนั้น พวกเค้าทั้งหมดห่างกันออกไป
ฉินจุนเองก็ไม่ได้ไปที่นั่นนานแล้ว
“พอดีเลย ฉันมีของขวัญ เดี๋ยวจะเอาไปให้เธอ”
ฉินจุนยิ้มและขอให้จู้หลินหลินโชคดี ถ้าเธอไม่โทรมา ฉินจุนเองก็ไม่รู้ว่าจะเอาสร้อยทับทิมนี่ไปให้ใคร
หลังจากนั้นไม่นาน ฉินจุนก็มาถึงบ้านของจู้หลินหลิน ทันทีที่เค้าเข้ามา เค้าก็ได้ยินเสียงภายในที่มีชีวิตชีวาพร้อมกับเสียงหัวเราะของพวกผู้หญิง
หลังจากเข้าไปในบ้าน เค้าก็มองเห็นครอบครัวของจู้หลินหลินและผู้หญิงสองสามคนที่นั่งอยู่บนโซฟา
“พี่เสี่ยวจุน นี่คือเพื่อนสนิทของฉัน เจียงนานา ก่อนหน้านี้เธอไปเรียนที่เมืองนอก ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว”
ทันทีที่ฉินจุนเข้ามา สีหน้าของหวังหยุนก็ดูไม่ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ย้ายออกจากคฤหาสน์ชิงเหม่ยแล้ว เธอเองก็ไม่ค่อยพอใจซะเท่าไหร่
คิดอยู่เสมอว่าจะหลอกเอาบ้านของฉินจุนนั่นมาได้ยังไงกัน
หลังจากที่ฉินจุนเข้ามาแล้ว หวังหยุนกับเจียงนานาก็ขยิบตาให้กัน เจียงนานาใช้หางตาเหลือบมองไปที่ฉินจุนแล้วขมวดคิ้วขึ้นมา
“สวัสดีครับ” ฉินจุนทักทายตามปกติอย่างสุภาพ
เจียงนานาก็ขมวดคิ้วขึ้นมา เธอพูดด้วยท่าทางแปลกๆ ว่า “สวัสดีอะไรกัน ฉันขอนายเป็นแฟน นายกลับเอาฉันทำเพื่อนซี้ นี่นายจะตกลงแล้วอย่างงั้นเหรอ?”
“บอกฉันทีเถอะ วันนี้ฉันได้เจอนายแล้ว ฉันรู้สึกผิดหวังในตัวนายมาก เรื่องของนายกับหลินหลินฉันไม่เห็นด้วย!”
เจียงนานา พูดอย่างก้าวร้าวและไม่สุภาพ
ฉินจุนก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “เธอพูดอะไรของเธอ?”
เจียงนานาก็หัวเราะเยาะเย้ย “จะมาเสแสร้งอะไรกับฉัน”
“ฉันถามเรื่องของนายมาแล้ว อดีตเศรษฐีและหนุ่ม แพทย์แผนปัจจุบันของคลินิกการแพทย์ นอกจากบ้านของบรรพบุรุษที่ครอบครัวทิ้งไว้ให้นาย ดูเหมือนว่านายจะไม่มีอะไรเลยนะ?”
“ฉันได้ยินมาว่าหลินหลินกำลังช่วยนายหางาน? ให้หลินหลินเลี้ยงนาย? ฉันคิดว่านายมีบ้านของตัวเองซะอีก จะมาให้หลินหลินแต่งงานกับนายอย่างงั้นเหรอ?”
“ฉันจะบอกนายให้นะ สำหรับคนอย่างนาย ฉันไม่เห็นด้วยหรอกนะกับการที่เพื่อนซี้ของฉันจะแต่งงานกับนาย!!”
เจียงนานาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดี แววตาของเธอจ้องมองด้วยความโกรธ
ฉินจุนขมวดคิ้วแล้วยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา
“ฉันต้องถามเธอมากกว่า เธอมายุ่งอะไรกับเรื่องของฉันด้วย ตัวตนของเธอ ฉันยังไม่ถามเลย”
“ส่วนหลินหลินกับฉัน เรายังไม่ได้คุยกันเรื่องการแต่งงานเลย”
“แม้ว่าคุณจะพูดเกี่ยวกับการแต่งงานหรือการแต่งงานจริงๆ ก็ตาม คุณก็จะไม่ต้องมาขัดจังหวะ”
“จะมาบอกว่าฉันไม่มีสิทธิอะไรอย่างงั้นเหรอ แล้วนายเป็นใครกัน?”
คำพูดไม่กี่คำของฉินจุน มันก็ทำให้สีหน้าของเจียงนานาซีดลง
“นาย…นายกล้าพูดแบบนี้กับฉันเหรอ!”
จู้หลินหลินก็รีบดึงเจียงนานาออกไป “นานา! เธอทำอะไรของเธอ ทำไมเธอถึงไปพูดกับพี่เสียวจุนแบบนั้นหละ!”
เจียงนานาไม่พอใจ เธอเท้าเอวแล้วถอนหายใจ
“ฉันแค่บอกว่าเค้าจะจะมีบางอย่างที่ผิดปกติ เค้าอยากได้หงส์ แต่เค้าไม่ยอมเสียอะไรเลย จริงๆแล้วเค้ายังมาว่าฉันว่าฉันเป็นใครอีก ฉันโกรธ ฉันโกรธมาก!”
“หลินหลิน เธอว่าเค้าเป็นแบบนี้ เค้าเทียบอะไรกับจอห์นไม่ได้เลยนะ”
จู้หลินหลินขมวดคิ้ว “นานา อย่าพูดเรื่องไร้สาระเลย ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับจอห์นซะหน่อย”
เจียงนานาก็ถอนหายใจออกมา “เธอไม่คิดอะไร แต่จอห์นเค้าชอบเธอ ไม่งั้นเค้าจะบินมาหาเธอจากอเมกาทำไมกัน”
จู้หลินหลินขมวดคิ้ว ในตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี
การที่เจียงนานากลับมาครั้งนี้ เธอไม่ได้มาคนเดียว แต่ยังเป็นเพื่อนต่างชาติของเธอกลับมาด้วย
เพื่อนร่วมชั้นของเธอก็คือจอห์น เค้ามาจากสหรัฐอเมริกา เค้ามาที่ประเทศจีนหลายครั้งในช่วงวันหยุดพักร้อนและได้เจอกับจู้หลินหลิน หลังจากได้พบกันครั้งแรก เค้าก็ไม่เคยลืมเธอเลยและมักจะคิดถึงเธออยู่เสมอ
คราวนี้เมื่อรู้ว่าจู้หลินหลินมีแฟนแล้ว จอห์นก็ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป ดังนั้นเค้าก็เลยกลับมาเพื่อนที่จะสารภาพความในใจกับเธอ
หวังหยุนก็แสดงท่าทีเย้ยหยันเมื่อได้ยินคำพูดนี้ “จริงหรือ ฉันได้ยินมาว่าจอห์นเก่งมากในต่างประเทศ เขาเป็นคนหัวการค้าและดูเหมือนว่าบางคนจะเทียบเค้าไม่ได้เลย?”
หวังหยุนเหลือบมองที่ฉินจุนแปลกๆแล้วจ้องมองมาที่เขา
ทันใดนั้นเอง เค้าก็มองเห็นกล้องที่วางอยู่บนชั้นวางรองเท้า
“เห้ นี่อะไรน่ะ?”
หวังหยุนหยิบกล่องและฉีกห่อเพื่อเปิดดูมัน
ในตอนที่ฉินจุนกำลังจะพูดอะไรออกมานี้เอง หวังหยุนก็จ้องมองมาที่เค้า
“ทำอะไรน่ะ ของฉันนะ!”
หลังจากพูดแล้ว หวังหยุนก็เปิดกล่องแล้วดวงตาของเธอก็สว่างขึ้น
“ว้าว สร้อยคอทับทิม!”
ในบรรดาเครื่องประดับมากมาย สร้อยคอทับทิมเป็นสไตล์คลาสสิกและล้าสมัย
มันมีทับทิมมากมายในท้องตลาด แต่มีน้อยมากที่จะโดดเด่น
ทับทิมนี้ใสมากแทบไม่มีจำหนิเลย มันดูมีระดับมาก มันไม่น่าจะเป็นของถูก
“ทับทิมนี้สวยเกินไป ราคาอย่างน้อยๆก็แพงหลายแสน? หลินหลิน หนูซื้อให้แม่เหรอ?”
สำหรับคนหน้าหนาอย่างหวังหยุน ทุกครั้งที่เธอเห็นของดีๆ เธอก็มักจะคิดว่ามีคนมอบมันให้เธออยู่เสมอ
จู้หลินหลินก็ส่ายหัวอย่างว่างเปล่า “ไม่ใช่หนู หนูไม่ได้ซื้อมันมานะ”
หวังหยุนถามอีกครั้ง “นานา หนูซื้อให้ป้าหวังอย่างงั้นเหรอ?”
เจียงนานาเองก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน “ถ้าหนูซื้อให้ป้าหวัง หนูจะต้องใช้เงินตัวเองซื้อ หนูไม่มีเงินซื้อแพงขนาดนั้นหรอกค่ะ”
หวังหยุนพยักหน้า ที่เธอพูดมันก็สมเหตุสมผลอยู่
“แล้วใครเป็นคนซื้อให้ฉัน”
ใบหน้าของหวังหยุนมันเหมือนกับกำแพงหนาๆ เมื่อเธอหยิบมันขึ้นมาแล้ว เธอไม่อยากวางมันลงเลย
“น่าจะเป็นของจอห์น?” เจียงนานาพูดขึ้นมา
หวังหยุนตบเข้าไปที่ต้นขาของเธอ “ใช่ จอห์น ต้องเป็นจอห์นที่ซื้อมาให้ฉันแน่ๆ”
หลังจากพูดจบ จอห์นก็เดินออกมาจากห้องน้ำ “คุณป้า คุณกำลังพูดถึงผมเรื่องอะไรเหรอ?”
จอห์นคนนี้ตามจีบจู้หลินหลินมานาน เค้าก็พูดภาษาจีนได้คล่องมาก
หวังหยุนถือกล่องสร้อยคอนี้ด้วยความตื่นเต้น เธอเปิดออก มันเผยให้เห็นอัญมณีสีแดงอยู่ข้างในแล้วเธอก็ถามขึ้นมาว่า
“จอห์น นี่ นี่คือของขวัญที่เธอซื้อให้ป้าใช่ไหม? ”
จอห์นชะงักไปครู่หนึ่ง “นี่…”
อัญมณีชิ้นนี้ แค่มองก็รู้แล้วว่ามันมีราคาแพงมาก อย่างน้อยก็หลายแสนหยวนหรืออาจจะหลายล้าน จอห์นจะซื้อมันมาได้ยังไงกัน?
เจียงนานายิ้ม “จอห์น นายมีเงินมากขนาดนี้ไม่เห็นบอกกันเลย ยังจะมาซื้อของขวัญราคาแพงขนาดนี้อีก นายนี่นะหลอกฉันเหรอ!”
เมื่อเจียงนานาพูดออกมาแบบนั้น จอห์นก็ยิ้มและพยักหน้า
“ฮะฮะ ป้าชอบก็ดีแล้ว”
ในเมื่อทุกคนคิดอย่างนั้น เค้าก็ยอมรับมัน เค้าเองก็ไม่ได้เตรียมของฝากอะไรมาด้วยแล้วก็คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีใครส่งของมาให้แบบนี้
ใบหน้าของหวังหยุนก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ดีมากเลย ฉันชอบเครื่องประดับแบบนี้มากที่สุด เธอนี่เลือกเก่งจริงๆเลยนะๆ ทับทิมเข้ากับฉันมากที่สุด มา ฉันขอลองสร้อยนี้ดูซะหน่อย”