พอถอดแว่นดำออก รูปร่างหน้าตาของเธอก็พอใช้ได้ ดู ๆ แล้วก็สวยอยู่
ความเป็นจริงแล้วหวังตันตันก็เป็นคนธรรมดา ตัวสูง ผิวขาว หน้าตาธรรมดา แต่ว่าแต่งตัวเป็นก็เท่านั้น
อยู่ในวงการถ้าแต่งตัวไม่เป็นก็ไม่ได้หรอก ถ้านำมาเทียบกับหลินเยวี่ยเหยาแล้ว ถ้ามองในแวบแรกหวังตันตันจะดูสวยกว่าแน่นอน แต่ถ้ามองส่วนต่าง ๆ ดูหุ่นอย่างละเอียดแล้ว หลินเยวี่ยเหยายังสวยกว่า
หวังตันตันเป็นใครกัน?
ทุกคนต่างพากันชะงัก ไม่รู้จะเอายังไงกันต่อ
เพราะรู้ว่าเป็นดาราดัง แต่พอพูดถึงชื่อหวังตันตันพวกเขากลับไม่รู้จักจริง ๆ
ถังเจียนเฉียงฝืนยิ้มออกมา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ ออกมาเปิดเพลง
“ความรักก็เหมือนเหล้า แก้วแล้วแก้วเล่า……”
เมื่อได้ยินท่วงทำนองที่คุ้นเคยนี้ ทุกคนดูประหลาดใจ
ถังเจียนเฉียงเอ่ย “เพลงนี้เป็นผลงานชิ้นโบแดงของหวังตันตัน?ผมว่าทุกคนน่าจะเคยได้ยินใช่ไหมครับ?”
“เคยได้ยิน ๆ ต้องเคยได้ยินสิ เพลงนี้ฉันคุ้นเคยเป็นอย่างดี เวลาไปเต้นกว๋างฉางอู่เราชอบใช้เพลงนี้กัน”
“ไม่คิดว่าเพลงของตันตันจะดังเป็นพลุแตกขนาดนี้ เก่งจริงๆ”
“เจียนเฉียงนี่โชคดีจริง ๆ หาแฟนได้เก่งแบบนี้”
หวังตันตันยิ้มบาง ๆ “เพลงของหนูดัง แต่ว่าหนูไม่ได้ดังหรอกค่ะ แค่ทุกคนชอบก็พอใจแล้ว”
“ดูสิ เป็นถึงดาราดัง แต่พูดจาท่าทางอ่อนน้อมแบบนี้ ต่อไปพวกเราจะเป็นแฟนคลับหนูเองจ้ะ!”
จริง ๆ แล้วหวังตันตันก็เป็นแค่นักร้องในโลกออนไลน์ มีหลายเพลงที่ได้รับความนิยมมาก ได้รับความนิยมเป็นช่วย ๆ
นักร้องเหล่านี้หาเงินได้ไว ไม่ใช่เพื่ออนาคตของตัวเอง แต่เป็นเพียงเพื่อหาเงินมากองไว้ตรงหน้าตัวเองให้ได้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สนใจว่าตัวเองจะร้องเพลงอะไร
ถ้าหากยังเปลี่ยนฐานะตัวเองไม่ได้ หรือยังไม่เจอคนรวยสักที โดยปกติแล้วผ่านไปสักสองสามปีก็หมดไฟแล้ว
หวังตันตันเองก็รู้ว่าในอนาคตตัวเองคงไม่มีโอกาสจะได้โด่งดังแล้ว เธออยู่ในวงการมานานมาก เธอค่อนข้างเข้าใจในสถานการณ์จริง ๆ ของตัวเอง
หน้าตาและเสียงแบบนี้ของเธอ โดยปกติแล้วไม่น่าจะได้โด่งดัง
เพราะฉะนั้นรีบหาเงินไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วก็แต่งงานกับผู้ชายดี ๆ
ถังเจียนเฉียงถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นมหาเศรษฐีอะไร แต่ว่าก็เป็นถึงแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียง อายุยังน้อยแถมยังหล่ออีกด้วย
หวังตันตันก็ไม่ได้คาดหวังอะไรสูง แค่ได้ใช้ชีวิตร่ำรวยสุขสบายก็พอ เธอไม่ได้อยากหาพวกเฒ่าแก่หัวล้านพุงพลุ้ยมาเป็นสามี เพราะฉะนั้นเธอจึงเลือก ถังเจียนเฉียง
หาแฟนเป็นดาราได้เป็นเรื่องที่ถังเจียนเฉียงภาคภูมิใจที่สุด
เขามองหลินเยวี่ยเหยาแล้วถาม “เยวี่ยเหยา ตอนนี้เธอเป็นไงบ้างล่ะ มีแฟนหรือยัง?”
หลินเยวี่ยเหยาส่ายหน้า “ยังไม่มี”
ถังเจียนเฉียงก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง อีกอย่างหลินเยวี่ยเหยาก็สวยเป็นที่ประจักษ์ขนาดนี้ ตอนนี้ที่ยังไม่มีแฟนต้องเป็นเพราะรสนิยมสูง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พูดอะไร
แต่ว่ากับฉินจุนมันไม่เหมือนกัน เพราะฉินจุนก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน ผู้ชายหาแฟนไม่ได้เลือกหน้าตา แต่เลือกที่ความสามารถ
“ฉินจุน ตอนนี้นายเองก็โสดเหมือนกันเหรอ?”
ถังหมิ่นรีบเอ่ย “อีกเดี๋ยวแฟนของเสี่ยวจุนก็มาเหมือนกันจ้ะ”
“อ๋อ?จริงหรือครับเนี่ย แฟนของฉินจุนทำงานอะไรล่ะ?”
ฉินจุนเงยหน้าสบตาคนพวกนั้นแล้วเอ่ย “ก็เป็นคนในวงการเหมือนกันครับ”
“หืม?เป็นคนในวงการเหมือนกัน?อย่ามาอะไรจะบังเอิญขนาดนี้!”
ถังเจียนเฉียงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาหันไปสบตาหวังตันตันแล้วยิ้ม แล้วพูดกับฉินจุนว่า
“คงจะไม่ได้หาแฟนเป็นพวกเน็ตไอดอลใช่ไหม?”
หวังตันตันทำเป็นเอามือกุมปากแล้วแสร้งทำเป็นพูดอย่างอ่อนโยน
“เดี๋ยวนี้ในวงการบันเทิงมีคนทุกรูปแบบ ทั้งเน็ตไอดอล บล็อกเกอร์ติ๊กต่อก พวกนี้ก็ถือว่าเป็นคนในวงการหมด อีกอย่างพวกที่ทำงานเบื้องหลังก็มีเยอะ จริง ๆ พวกเขาก็ไม่ได้ต่างจากคนธรรมดา”
แม้ว่าหวังตันตันจะพูดจาอย่างสงวนท่าที แต่ว่าก็เผยความนัยออกมา
ในวงการบันเทิง มีเพียงดาราที่แถวหน้าเท่านั้นที่นับได้ว่าเป็นคนในแวดวงบันเทิง ส่วนพวกคนทำงานเบื้องหลัง รวมถึงพวกเน็ตไอดอลที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ถือเป็นคนธรรมดาเท่านั้น
อย่างเช่นตากล้อง
พวกตากล้องในวงการบันเทิง แตกต่างกับพวกตากล้องข้างนอกไหมล่ะ?
ก็ไม่ต่าง
ต่อให้คุณถ่ายรูปให้ดาราดังแถวหน้าของวงการ คุณก็เป็นแค่ตากล้องทั่วไป
หวังตันตันในขณะนี้รู้สึกว่าตัวเองเหนือมาก เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นเจ้าของผลงานอันโด่งดัง ถือว่าเป็นคนในวงการจริง ๆ
อีกอย่างคนแบบฉินจุน ก็คงแค่หาพวกดาราปลายแถวมาทำให้ตัวเองดูมีตัวตนเท่านั้นแหละ
ถังเจียนเฉียงยิ้มบาง ๆ “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เองเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ เรียกเข้ามากินข้าวด้วยกันสิ เพิ่มตะเกียบอีกคู่หนึ่ง”
ถังเจียนเฉียงสวมท่าทางเป็นเจ้าภาพ จริง ๆ แล้วโรงแรมแห่งนี้ฉินจุนเป็นคนหา และฉินจุนก็เป็นคนเลี้ยงอาหารมื้อนี้ด้วย นอกจากจะทำตัวไร้ยางอายแล้วยังสำคัญตัวเองผิดมาทำตัวเป็นเจ้าภาพพูดเหมือนตัวเองเป็นคนเลี้ยง หลินเยวี่ยเหยานั้นหมดคำจะพูด เธอได้แต่กลอกตาแรง ๆ
ฉินจุนหยิบโทรศัพท์ออกมาดูข้อความ เห็นว่าซูเหวินฉีบอกว่าน่าจะใกล้ถึงแล้ว
“งั้นผมออกไปรับเธอก่อนนะครับ จะได้ไม่วุ่นวาย”
ฉินจุนพูดจบ หวังตันตันก็หัวเราะเยาะขึ้นมาทันที
“วุ่นวายเลยเหรอ?นายเว่อร์ไปหรือเปล่า แฟนนายเป็นใครกัน เป็นราชินีแห่งวงการหรือยังไง?”
“ตอนฉันเข้ามาตอนแรกก็มีไม่กี่คนรู้จักฉัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแฟนโนเนมของนายเลย ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร อย่าเว่อร์ไปหน่อยเลย”
ถังเจียนเฉียงหัวเราะ “ที่ตันตันพูดก็มีเหตุผล มีคนแค่ไม่เท่าไหร่เอง จะเกิดความวุ่นวายได้ยังไง แฟนนายก็น่าจะเป็นแค่เน็ตไอดอลธรรมดาปะ?”
ใบหน้าของหวังตันตันเผยให้เห็นถึงเยาะเย้ย “พวกเน็ตไอดอลสมัยนี้ มีแต่ปลอม ๆ ทั้งนั้น แค่ไลฟ์สดไม่กี่ครั้งก็คิดว่าตัวเองเป็นเน็ตไอดอลแล้ว แต่จริง ๆ แล้วก็ทำงานพวกอาชีพน่าอาย พอหาเงินได้ ก็หาผู้ชายโง่ ๆ แต่งงานด้วย พวกนายต้องตาสว่างกันหน่อยนะ”
คำพูดของหวังตันตันทำให้ทุกคนตะลึงในทันที สมกับที่เธอเป็นนักร้องในวงการบันเทิง อะไรก็กล้าพูดจริง ๆ
หลาย ๆ คนก็เคยได้ยินเรื่องแบบนี้ หลายคนในวงการบันเทิงก็ทำงานพิเศษแบบนั้น พอหาเงินได้แล้ว ก็หาจับผู้ชายโง่ ๆ แล้วก็แต่งงาน ผู้ชายโง่ ๆ พวกนี้ถูกเรียกว่า พวกรับของเหลือ
หวังตันตันดูจากท่าทางของฉินจุนแล้ว ไม่แน่ก็อาจจะเป็นพวกรับของเหลือ อาจจะหาพวกนักแสดงหรือไม่ก็นางแบบ คงคิดว่าตัวเองเจ๋งมากล่ะมั้ง
ฉินจุนไม่ได้สนใจพวกเขา แต่เดินออกไปทันที
ถังหมิ่นกับหลินเยวี่ยเหยาก็ส่งสายตากัน ทั้งสองสบตากับด้วยใบหน้าสงสัย
พวกเธอต่างก็ไม่รู้ว่าใครคือแฟนของฉินจุน เหมือนว่าแค่เคยพูดถึงครั้งสองครั้งแต่ไม่เคยเห็นมาก่อน วันนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเธอจะได้พบ ค่อนข้างรู้สึกประหม่าอยู่เหมือนกัน
ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับแฟนสาวของถังเจียนเฉียงแล้ว พวกเขาก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นไปอีก หากแฟนของฉินจุนเทียบกับหวังตันตันอะไรนี่ไม่ได้ คาดว่าครอบครัวของถังเหวินจะยิ่งหยิ่งผยองขึ้นไปอีก
ไม่นานฉินจุนก็กลับมา ที่ด้านข้างมีผู้หยิงคนหนึ่งเดินมาด้วย
เธอตัวสูง ผิวขาว สวมเสื้อกับกางเกงกีฬา ใส่หมวกเบสบอล แต่งตัวดูเหมือนเด็กสาววัยแรกแย้ม สวมแว่นกันแดดและหน้ากากปิดปาก ผมยาวสลวยของเธอถูกมัดเป็นหางม้าไว้ด้านหลังศีรษะ
หวังตันตันเบ้ปาก “คิดว่าตัวเองเป็นคนดังมากนักหรือไง ทำไมต้องปลอมตัวขนาดนั้น?”
พอเธอพูดจบ หญิงสาวก็ถอดหมวก ถอดหน้ากากและแว่นกันแดด เผยให้เห็นใบหน้าอันงดงาม พร้อมกับยิ้มอย่างเขินอายกับทุกคน
“สวัสดีค่ะทุกคน ฉันคือซูเหวินฉี”
ทันใดนั้นทั้งห้องก็เงียบกริบ!
ทุกคนมองไปที่ซูเหวินฉีอย่างตะลึงงัน พวกเขาประหลาดใจมาก เบิกตากว้างด้วยสีหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ราชินีของวงการ?
“นี่มันราชินีแห่งวงการจริง !