บทที่ 45 [ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 2 ]
ถังเส้าหยางขมวดคิ้ว หน้าจอค่าสถานะนี้เป็นของผู้ใต้บังคับบัญชาคนใหม่ของเขา ไพลด์
เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่มันก็มีบางอย่างเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน มันควรจะเป็นราชาวานรเมฆา ไม่ใช่ราชาวานรอสูร
ในแถบวิวัฒนาการของหน้าต่างค่าสถานะ มันก็ระบุว่าลิงตัวนี้มีวิวัฒนาการกลายพันธุ์
‘ เป็นเพราะฉันเหรอ? หรือเพราะชื่อที่ฉันมอบให้? หรืออาจเป็นเพราะตอนนี้มันเป็นลูกน้องของฉันแล้ว?’
แน่นอนว่ามันเป็นเพียงการเดาสุ่มๆของเขาเท่านั้น มันอาจจะเป็นเพราะอย่างอื่นก็ได้ใครจะไปรู้?
ถังเส้าหยางทิ้งความคิดที่ซับซ้อนและมองไปที่ลิงหน้าตาประหลาดที่สูงห้าเมตร
“ เอาล่ะ ฉันจะมอบหมายงานแรกให้นาย”
“ เป็นเกียรติที่ได้รับคำสั่งจากท่าน ฝ่าบาท!” ไพลด์คุกเข่าลงข้างหนึ่ง
ถังเส้าหยางมองไพลด์อย่างงุนงง เช่นเดียวกับจางเหมิงเหยาและลู่อัน
ปฏิกิริยาของจางเหมิงเหยาและลู่อันดูเกินจริงไปเล็กน้อย พวกเขากระโดดถอยหลังไปหลายก้าวและมองดูไพลด์ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
ถังเส้าหยางยังคงสงบ แต่มันก็เห็นได้ชัดว่ามันมีแวบหนึ่งนี่แววตาของเขาดูเปลี่ยนไป
“ นายพูดได้แล้วหรอ?”
“ ใช่แล้ว ฝ่าบาท! ในทันทีที่ท่านได้ประทานชื่อให้แก่ข้า ข้าก็ได้เรียนรู้ภาษาของท่านด้วย!” ไพรด์ตอบด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว
“ ดี! ดีมาก” ถังเส้าหยางพยักหน้าอย่างมีความสุขและกล่าวต่อว่า “ แบบนี้ฉันก็จะไม่จำเป็นต้องทนฟังเสียงคำรามของนายแล้ว”
ดวงตาของไพลด์กระตุกเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้พูดอะไร
“ โปรดประทานคำสั่งแก่ข้า ฝ่าบาท!”
“ อ๋อใช่ ฉันเกือบลืมไปเลย งานแรกของนายคือพาศพของราชาองค์ก่อนออกไปข้างนอก ฉันต้องการซากศพสำหรับสกิลของฉัน”
ถังเส้าหยางชี้ไปที่ร่างกายที่ถูกตัดศีรษะ
คำสั่งนี้ทำให้ไพลด์พูดไม่ออก กระนั้นมันก็ยังงทำตามคำสั่งอย่างไม่ขัดขืน
“ โอ้ แล้วก็เอาอีกสามศพมาด้วย ฉันจะโชว์พลังให้นายดู!”
หลังจากนั้นเขาเดินกลับไปที่ถนนสายหลัก หลังจากเก็บรวบรวมร่างแล้ว มันก็ถึงเวลาเรียกวิญญาณดวงใหม่
ใช่แล้ว เหตุผลที่ถังเส้าหยางรวบรวมศพของวานรเมฆาก็เพื่อเอาไว้ใช้กับสกิลของเขา [อัญเชิญวิญญาณ]
เขาต้องการลองเรียกวิญญาณออกมาโดยใช้เครื่องเซ่นสังเวยต่างๆ เมื่อตอนที่เขาเรียกคารานออกมา เขาก็ใช้ซอมบี้ไปเป็นจำนวนมาก และตอนี้เขาก็กำลังจะใช้ซากวานรเมฆาแทน
เขาคิดว่าข้อเสนอที่แตกต่างนั้นจะทำให้วิญญาณที่อัญเชิญออกมานั้นแตกต่างกันด้วย ด้วยเหตุนี้เอง ครั้งนี้เขาจึงลองทดสอบโดยใช้ซากของวานรเมฆาเป็นเครื่องเซ่นสังเวยแทน
ระหว่างทาง เขาก็จำได้ว่าเขาได้เลเวลอัพขึ้นมา 3 เลเวล และเขาก็มีคะแนนค่าคุณสมบัติที่ยังไม่ได้ใช้
“ อ๋อใช่ ฉันยังมีคะแนนสกิลอีกด้วยนี่นา ฉันสงสัยจริงๆว่าคะแนนสกิลจะมีประโยชน์ยังไง?”
ถังเส้าหยางเปิดหน้าจอค่าสถานะของเขา
—————————————–
ชื่อ: ถังเส้าหยาง
คลาส: ผู้ทำสัญญาวิญญาณ
อายุ: 26
สังกัด: จักรวรรดิถัง
เลเวล: 48
พรสวรรค์: ร่างกายศักดิ์สิทธิ์
คะแนนค่าคุณสมบัติ: 6
ความแข็งแกร่ง: 175
ความว่องไว: 57
พลังชีวิต: 108
สตามิน่า: 53
พลังเวทย์: 49
ประสาทสัมผัส: 8
คะแนนสกิล: 10
สกิล: [ การตรวจสอบขั้นพื้นฐาน ] , [ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 1 ] , [ สัญญาวิญญาณ – เลเวล 1 ], [ ผสานวิญญาณ – เลเวล 1 ]
วิญญาณที่ทำสัญญา (1/3): [ คาราน – นักรบผู้ยิ่งใหญ่ ]
สกิลวิญญาณ:
[สกิลคาราน]: [สงครามร่ำไห้] [ขวานคลั่ง] [แยกปฐพี]
————————————–
ถังเส้าหยางจัดสรรสามคะแนนให้กับค่าความแข็งแกร่งและอีกสามคะแนนที่เหลือกับค่าพลังชีวิต
หลังจากนั้นเขาก็กดดูคะแนนสกิล
[ คุณสามารถใช้คะแนนสกิลเพื่อเพิ่มเลเวลสกิลของคุณได้! โปรดใช้อย่างชาญฉลาดและรอบคอบ สกิลของคุณจะเป็นสิ่งที่กำหนดความอยู่รอดของคุณ!]
“ เตือนคนอื่นเขาเป็นด้วยหรอ?” ถังเส้าหยางแสดงความคิดเห็นกับการเตือนความจำของเสียงหุ่นยนต์
มันเป็นเรื่องยากที่เสียงหุ่นยนต์จะเตือนเขาถึงบางสิ่ง แต่แน่นอนว่ามันก็ไม่มีคำตอบจากเสียงหุ่นยนต์เหมือนเช่นเคย
“ โฮะโฮะ… มาดูกันหน่อยสิ…”
ถังเส้าหยางกดไปที่หนึ่งในสกิลของเขา
[ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 1 (0/10) ]
“ นี่มันหมายความว่าฉันจะต้องใน 10 คะแนนเพื่อเพิ่มมันให้กลายเป็นเลเวล 2 สินะ”
จากนั้นเขาก็มองไปที่อีกสองสกิล เขาตรวจสอบว่ามันเหมือนกันหรือไม่
[ สัญญาวิญญาณ – เลเวล 1 (0/10)]
[ ผสานวิญญาณ – เลเวล 1 (0/10)]
สกิลทั้งหมดต้องใช้คะแนนสกิลเท่ากันเพื่อไปให้ถึงเลเวล 2
“ ฉันจะใช้ [อัญเชิญวิญญาณ] ดังนั้นฉันก็จะอัพเลเวลสกิลนี้ก่อน”
เขาใช้คะแนนสกิลทั้งหมดที่มีไปกับ [อัญเชิญวิญญาณ] มันไม่มีปรากฏการณ์พิเศษใดๆจากการอัพเลเวลสกิล
หลังจากนั้นเขาก็กดดูสกิลที่เขาเพิ่งอัพเลเวลไป เขาอยากรู้ว่ามันจะต้องใช้คะแนนสกิลกี่คะแนนในการอัพเลเวลสกิลของเขาให้เป็นเลเวล 3
[ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 2 (0/40) ]
คะแนนสกิลที่จำเป็นเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่า มันเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ แต่มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
“ สี่ดินแดน ฉันจะต้องไปยึดครองอีกสี่ดินแดน…”
หลังจากเดินไปไม่กี่นาที ถังเส้าหยางและกลุ่มก็มาถึงถนนสายหลัก ขณะที่ทั้งสามออกมาจากสวนที่มีหมอกหนาอย่างง่ายดาย ฝูงลิงก็หยุดอยู่ที่แนวเขต
“ นายทำอะไรอยู่ มานี่สิ ฉันต้องการศพ!” ถังเส้าหยางกระตุ้นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
อย่างไรก็ตาม การตอบสนองของไพลด์และวานรเมฆาตัวอื่นๆก็ค่อนข้างคาดไม่ถึง พวกเขาลังเลที่จะออกจากดินแดนแห่งหมอก
“ ราขาคนก่อนของเราบอกเราว่าอย่าออกไปจากดินแดนแห่งหมอก” หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไพลด์ก็พูดขึ้น
“ และคำสั่งนั่นก็คือคำสั่งที่ทำให้ราชาองค์ก่อนตาย! นายต้องการที่จะทำตามคำสั่งของราชาองค์ก่อนหรือทำตามคำสั่งของฉัน!?”
คำพูดของถังเส้าหยางตรงไปตรงมา แตหากไม่มีกฎนั้น เขาก็รู้ดีว่าเขาคงจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดมาจนถึงปัจจุบันได้
“ เราจะปฏิบัติตามคำสั่งของท่าน ฝ่าบาท!” เหล่าวานรเมฆาคุกเข่าลงและประกาศพร้อมกัน โดยไม่ต้องสงสัย ลิงเหล่านี้มีระเบียบวินัยที่ดี
“ เอาล่ะ ฉันไม่ต้องการคำพูดของพวกนาย แต่ฉันต้องการการกระทำของนาย! มาที่นี่และเอาศพมาไว้ที่นี่เดียวนี้!” เขาสั่งเหล่าวานรเมฆาให้รวบรวมร่างของพวกมันซึ่งเริ่มเน่ามาไว้ข้างนอก
โดยไม่ลังเลอีกต่อไป เผ่าวานรเมฆาก็ก้าวออกมาจากอาณาเขตของพวกมัน โดยมีไพลด์เป็นตัวแรกที่เดินนำออกมา
เมื่อมันมาหยุดอยู่ที่ข้างหลังของถังเส้าหยาง ไพลด์ก็แสดงความคิดเห็นด้วยความเสียดายว่า “ น่าเสียดายที่เนื้อมันเสียแล้ว”
ถังเส้าหยางรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินสิ่งนี้ จากคำพูดของไพลด์ มันก็ดุเหมือนว่าพวกมันจะกินพวกเดียวกันเองจริงๆ
“ เผ่าของนายขาดแคลนอาหารหรอ?” มันเป็นหน้าที่ของเขาที่จะเติมเต็มท้องของผู้คนของเขา ถ้าเขาปล่อยให้คนของเขาอดตาย เขาก็นับล้มเหลวในฐานะเจ้านายของพวกมัน
“ ขอบคุณฝ่าบาทที่ทรงเป็นห่วง เราไม่ได้อาหารขาดแคลนอีกต่อไปแล้ว เดิมทีอาหารนั้นน่าจะพอแค่เพียงสองสัปดาห์ แต่เนื่องจากท่านได้ฆ่าพวกเราไปหลายตัว ดังนั้นตอนนี้เราจึงมีอาหารเหลือเฟือแล้ว” ไพลด์ตอบตามความจริง
“ แต่ว่าการมีอาหารมากขึ้นก็ไม่ได้เป็นอันตรายอะไร!”
‘ มันตั้งใจประชดฉันหรือมันพูดจริงกันแน่ว่ะ’ นั่นคือสิ่งที่ถังเส้าหยางสงสัย
เผ่าวานรเมฆาได้ย้ายศพทั้งหมดไปยังที่สถานที่แห่งหนึ่ง ซากศพก่อตัวเป็นภูเขาสูง
“ อยู่นี่นะ ฉันจะไปคนเดียว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกนายทำแค่ดูก็พอ!” ถังเส้าหยางสั่งไพลด์
“ รับทราบ ฝ่าบาท!” ไพลด์ก้มศีรษะลง แม้ว่ามันจะอยู่สูงกว่าเจ้านายของมันก็ตาม
ถังเส้าหยางเดินไปที่ด้านหน้าภูเขาซากศพ
[ อัญเชิญวิญญาณ ]
ว้าว!
พายุทอร์นาโดสีดำพุ่งขึ้นจากด้านล่าง พายุทอร์นาโดสีดำกลืนกินซากศพในภูเขาในทันที
เปรี้ยง!
สายฟ้าสีน้ำเงินส่งเสียงดังก้องในพายุทอร์นาโดสีดำขณะที่ท้องฟ้ารอบตัวพวกเขาก็มืดลง มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับตอนที่ถังเส้าหยางอัญเชิญคาราน
ปรากฏการณ์นี้กินเวลาสิบนาทีก่อนที่พายุทอร์นาโดแห่งความมืดจะดับลงและแสดงให้เห็นร่างที่อยู่เหนือพายุทอร์นาโดสีดำ
“ ขอบคุณสำหรับอาหาร” เสียงแหบแห้งเล็ดลอดออกมาจากร่างในทอร์นาโดที่มืดมิด
ในเวลาเดียวกัน เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัวของถังเส้าหยาง
[ คุณได้อัญเชิญวิญญาณระดับสูง ซาเนียส นักดาบอสูร! ]