บทที่ 42 แอสซาซิน
“ ฉันจะเอาไอ้ตัวใหญ่นั่นเอง ส่วนที่เหลือพวกนายก็จัดการกันเองแล้วกัน!” ถังเส้าหยางพุ่งไปข้างหน้า
ลู่อันพุ่งตามไปในทันที “ ฉันจะจัดการกับลิงสองตัวทางขวาเอง!”
“ อะไรนะ เดี๋ยวก่อนสิ รอเดี๋ยว!” จางเหมิงเหยาร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกในขณะที่ผู้ชายทั้งสองได้ทิ้งเธอไว้เพียงลำพัง
เธอรู้สึกว่าชายสองคนนั้นประมาทเกินไป พวกเขาพุ่งเข้าโจมตีพวกตัวใหญ่โดยสนใจสิ่งรอบข้างเลยด้วยซ้ำ มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีลิงตัวเล็กๆแอบซุ่มโจมตีพวกเขาจากในหมอก ถึงตอนนั้น มันก็อาจจะเป็นอันตรายถึงตายได้
จางเหมิงเหยาอยู่ข้างหลังขณะตรวจสอบสภาพแวดล้อม
ดูเหมือนว่ากลุ่มลิงสี่ตัวนี้จะรับรู้ได้ถึงเจตนาของมนุษย์ ลิงตัวเล็กสองตัวพุ่งเข้าหาลู่อันในขณะที่อีกตัววิ่งเข้าหาจางเหมิงเหยา และปล่อยให้ลิงที่ตัวใหญ่ที่สุดเผชิญหน้ากับถังเส้าหยาง
*** ***
จางเหมิงเหยาก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังจนกระทั่งเธอรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังพุ่งเข้ามาหาเธอ
เธอเงยหน้าขึ้นและพบกับลิงตัวใหญ่ที่กำลังพุ่งตรงมาที่เธอ ระยะห่างระหว่างพวกเขาคือสองเมตร
ด้วยความเร็วของลิงในปัจจุบัน หญิงสาวก็รู้ได้ในทันทีว่าเธอจะไม่สามารถหลบหมัดของมันได้ทันอย่างแน่นอน
จางเหมิงเหยาวางโล่ของเธอไว้ข้างหน้าและรับการโจมตีของมันโดยตรง
” กรี้ๆๆๆ!” ลิงคำรามอย่างหนักในขณะที่จางเหมิงเหยาถอยหลังกระเด็นกลับไปห้าเมตร
ในช่วงเวลาดังกล่าว จางเหมิงเหย่าก็ได้เปิดใช้งาน [การตรวจสอบขั้นพื้นฐาน] ใส่ลิง
————————————————
[ สัตว์ร้าย – วานรเมฆาผู้พิทักษ์ ]
สังกัด : เผ่าวานรเมฆา
วิวัฒนาการ: ระยะที่ 3
เลเวล: 52
สกิล:???
————————————————
“ เลเวล 52!? ระยะที่ 3!!!” จางเหมิงเหยาอุทานออกมาอย่างประหม่า เธอเริ่มรู้สึกชาไปทั่วตัว
ลิงที่แข็งแกร่งที่สุดที่เธอเคยสูงด้วยนั้นมีเลเวลอยู่ที่ 40 และอยู่ในระยะที่ 2
อย่างไรก็ตาม คู่ต่อสู้ในปัจจุบันของเธอก็มีเลเวล 52 และอยู่ในระยะที่ 3 ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงเป็นเรื่องปกติที่เธอจะประหม่า
‘ แล้วลิงยักษ์นั่นล่ะ’ เช่นเดียวกับที่เธอต้องการจะตรวจสอบลิงตัวที่ใหญ่ที่สุด ลิงที่อยู่ข้างหน้าเธอก็ได้กระโดดเข้าหาเธอแล้ว มันทำให้เธอไม่มีโอกาสได้ใข้ [การตรวจสอบขั้นพื้นฐาน] กับลิงอีกตัว
คราวนี้จางเหมิงเหยาตอบสนองเร็วขึ้น เธอกระโดดถอยหลังไปหนึ่งก้าว
‘ ค่าคุณลักษณะของมันสูงกว่าของฉันอย่างแน่นอน ดังนั้นการตั้งรับการโจมตีนั้นจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดเลย ดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือการหลบและหาโอกาสโจมตีจุดอ่อนของมัน
บู้มมมม!
แขนใหญ่ทั้งสองทุบลงตรงจุดที่จางเหมิงเหยายืนอยู่เมื่อกี้
“ จุดอ่อน? ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องลิงมากนัก แต่คอก็น่าจะเป็นจุดอ่อนทั่วไป! แต่ฉันก็เอื้อมไปไม่ถึงคอของมัน”
‘ อ่า ถ้าฉันทำให้มันเคลื่อนที่ไม่ได้ด้วยการโจมตีที่เท้าของมันล่ะ อย่างนั้นฉันก็จะสามารถฆ่ามันได้ในภายหลัง!’
ด้วยแผนที่กำหนดไว้ในใจของเธอ จางเหมิงเหยาก็ก้าวไปข้างหน้าและฟันดาบของเธอไปที่ข้อเท้าของลิงผู้พิทักษ์
เฉือน!
ดาบฟันทะลุและทิ้งรอยแผลตื้นๆไว้ข้างหลัง ขนสีเทาเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ลิงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
หลังจากนั้นจางเหมงเหยาก็กระโดดถอยหลังไปสองก้าว สิ่งนี้ทำให้ลิงผู้พิทักษ์เหวี่ยงแขนอันหนาทึบของมันไปปะทะเข้ากับอากาศที่ว่างเปล่าเท่านั้น
ปฏิกิริยาการตอบโต้ของจางเหมิงเหยาเร็วขึ้นมาก อันที่จริง เธอนั้นสามารถอ่านการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ได้
“ แกเลือกคู่ต่อสู้ผิดแล้ว เจ้าลิงโง่!” หญิงสาวเยาะเย้ยเจ้าลิงอย่างหน้าด้าน
แม้ว่าเธอจะพูดอย่างนั้น แต่ความคิดของเธอนั้นก็แตกต่างกัน เธอกำลังดูบาดแผลของลิง
‘ ลิงมีหนังที่หนามาก และดาบของฉันก็เป็นแค่ดาบธรรมดา! ดังนั้นมันจึงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น! และในมื่อมันเป็นอย่างนี้ งั้นฉันก็จะต้องโจมตีไปที่จุดเดิมซ้ำๆ!’
“ กูวู!” ดูเหมือนลิงจะเข้าใจสิ่งที่หญิงสาวพูด มันคำรามและพุ่งเข้าใส่เธออย่างโกรธเกรี้ยว
ชน! ชน! ชน!
ฟ้าว!
ลิงพุ่งเข้าไปยังจุดที่เธออยู่และใช้ทั้งสองแขนของมันฟาดลงไปที่พื้น
บู้มมมม!
อีกครั้งที่มันกระทบกับอากาศเปล่าและทิ้งรอยลึกไว้บนพื้น
จางเหมิงเหยาหลีกเลี่ยงการโจมตีด้วยการก้าวเท้าไปทางขวาและฟันดาบของเธอที่ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง
คราวนี้เธอไม่ได้โชคดีเหมือนครั้งที่แล้ว ลิงผู้พิทักษ์ได้ตอบโต้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่มันถูกดาบฟัน มันก็เหวี่ยงแขนหนาของมันไปที่จางเหมิงเหยาในทันที
ในช่วงเวลาที่กระชั้นชิดเช่นนี้ จางเหมิงเหยาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้โล่ของเธอป้องกันการโจมตีที่เข้ามา
แบ้มม!
“ อ๊ากกกกก!” จางเหมิงเหยาร้องออกมาในขณะที่เธอรับการโจมตีที่พุ่งเข้ามา
เธอเกือบจะถูกโยนทิ้งจากการรับการโจมตี สิ่งนี้พิสูจน์ว่าค่าคุณสมบัติของลิงนั้นสูงกว่ามาก
‘ มันตอบสนองได้เร็วกว่าเมื่อก่อน ฉันจะต้องระวังให้ดีเพราะมันอาจเร็วกกว่านี้ได้’ เธอยังคงวิเคราะห์คู่ต่อสู้ของเธอในขณะที่การต่อก็ยังคงสู้ดำเนินต่อไป และยิ่งเวลาผ่านไป เธอก็ยิ่งได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ
ในอีกด้านหนึ่ง ลิงยักษ์สองตัวก็กำลังเผชิญหน้ากับลู่อัน
ลู่อันไม่ได้เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ของเขาอย่างซึ่งๆหน้า เขายังคงวิ่งหนีจากลิงทั้งสองตัวไปเรื่อยๆ มันไม่ใช่เพราะเขากลัวหรือต้องการที่จะถ่วงเวลา แต่เขากำลังตรวจสอบความเร็วของศัตรูอยู่
ในสามคนนี้ ลู่อันก็เป็นคนเดียวที่มีค่าคุณสมบัติที่ไม่สมดุล เขามีค่าคุณสมบัติความเร็วที่สูงมาก ดังนั้นมันจึงทำให้ความเร็วของเขาเป็นข้อได้เปรียบของเขา
และในตอนนี้ เขาก็กำลังตรวจสอบความเร็วของลิงทั้งสอง และพบว่าลิงทั้งสองนี้ช้ากว่าเขามาก
‘ ด้วยความเร็วของฉัน ฉันก็จะสามารถเผชิญหน้ากับมันได้ และฉันก็จะไม่ต้องกังวลว่าพวกมันจะจับฉันได่’
“ หน้าจอค่าสถานะ!”
———————
ชื่อ: ลู่อัน
คลาส: แอสซาซิน
อายุ: 18
สังกัด: จักรวรรดิถัง
เลเวล: 32
พรสวรรค์: คล่องแคล่ว
คะแนนค่าคุณสมบัติ: 0
ความแข็งแกร่ง: 62
ความว่องไว: 208
พลังชีวิต: 20
สถามิน่า: 20
พลังเวทย์: 3
ประสาทสัมผัส: 8
สกิล: [การตรวจสอบขั้นพื้นฐาน], [พุ่ง], [โจมตีร้ายแรง]
———————
ใช่แล้ว ลู่อันเลือกคลาสยูนิต แอสซาซิน อันที่จริงเขาต้องการที่จะเลือกคลาสพื้นฐานเพราะเขามีเงินไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม บอสของเขาก็ได้ช่วยเขาด้วย GC และบังคับให้เขาเลือกคลาสยูนิค แน่นอนว่าแอสซาซินก็คือตัวเลือกของเขา
ถังเส้าหยางไม่ได้เข้าไปยุ่งหรือบอกอะไรเกี่ยวกับคลาสที่เขาจะต้องเลือก
เขาเลือกคลาสแอสซาซินตามคำแนะนำของออริจิ้น และนั่นก็ทำให้ค่าคุณสมบัติของเขาไม่สมดุล อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้เสียใจกับการเลือกของเขา มิหน้ำซ้ำเขายังรู้สึกพึงพอใจกับทางเลือกที่เขาเลือกอีกต่างหาก
คลาสแอสซาซินนั้นจะให้ค่าคุณสมบัติเพิ่มเติมแก่เขาทุกครั้งที่เขาเลเวลอัพ โดยมี +2 ความว่องไว และ +1 ความแข็งแกร่ง นอกจากนี้มันกยังให้สกิลเขามาอีกได้แก่ [พุ่ง] และ [โจมตีร้ายแรง]
เขายังคงวิ่งไปรอบๆโดยรักษาระยะห่างระหว่างเขากับผู้ที่ไล่ตามเขาประมาณเจ็ดเมตร
‘ ฉันสามารถใช้ [พุ่ง] ร่วมกับ [โจมตีร้ายแรง]…’
ลู่อันหยุดและหันกลับมา เขาพุ่งเข้าหาลิงทั้งสิงที่ไล่ตามเขา อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเขาก็จับจ้องไปที่ลิงทางด้านขวา
[พุ่ง]
ทันใดนั้น ร่างของลู่อันก็กลายเป็นสีแดงและร่างกายของเขาก็พร่ามัวไป
[โจมตีร้ายแรง]
วู้!
ดาบสีแดงของเขาเรืองแสงเป็นสีแดง และลู่อันก็ฟันดาบของเขาไปทางคอของลิง
เฉือน!
ชายหนุ่มตกใจกับสกิลของเขาในขณะที่เขาเฉือนหัวลิงขาดด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว
หัวของลิงผู้พิทักษ์ลอยขึ้นไปในอากาศและน้ำพุโลหิตก็ก่อตัวขึ้นจากบริเวณคอของมันที่โดนตัดออกไป
ฉากดังกล่าวกินเวลาห้าวินาทีก่อนที่ร่างของลิงผู้พิทักษ์จะทรุดตัวลงกับพื้น หัวของมันกลิ้งไปบนพื้นและลิงผู้พิทักษ์ตัวหนึ่งก็ได้ถูกฆ่าตายแบบนั้น
ลู่อันยิ้มอย่างมีความสุขหลังจากได้สัมผัสถึงความสามารถที่น่าทึ่งของเขา
เขาหันกลับมาและเผชิญหน้ากับลิงผู้พิทักษ์ที่เหลืออยู่อีกตัว มันยังคงจ้องมาที่เขาด้วยดวงตาสีแดงก่ำที่ดูโกรธเกรี้ยว จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นลิงตัวนั้นเรืองแสงเป็นสีแดง
ว้าว!
ลิงพุ่งเข้าหาเขาด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม ลู่อันก็ทำเพียงยิ้มเยาะและเริ่มการเคลื่อนไหวของเขา
บู้มมม!
ลิงทุบกับพื้นด้วยสองแขนหนาของมัน มันทำให้เกิดหลุมขนาดย่อมๆ ลิงมีพละกำลังมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ก็โชคไม่ดีที่ถึงแม้มันจะมีพลังมหาศาลขนาดนั้น แต่มันก็ไม่มีประโยชน์หากมันไม่สามารถโจมตีคู่ต่อสู้ของมันได้
ลิงผู้พิทักษ์ทุบลงบนพื้นเปล่า และลู่อันก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งบนหลังของมัน
[โจมตีร้ายแรง]
เฉือน!
ลิงผู้พิทักษ์อีกตัวเสียชีวิตลงในลักษณะเดียวกันกับเพื่อนของมัน หัวของมันถูกตัดขาดจากตัวและร่างของมันก็ล้มลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
*** ***
ในอีกด้านหนึ่ง
บูม! บูม! บูม!
หลังจากผ่านไปไม่นาน จางเหมิงเหยาก็ได้เริ่มเปรียบ อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้น ลิงตัวนั้นก็เรืองแสงสีแดง มันไม่เพียงแต่มันจะแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น แต่มันยังเร็วขึ้นอีกด้วย
จางเหมิงเหยาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกลิ้งไปบนพื้นเพื่อหลบหลีกการโจมตีขอบมัน เธอยังเปิดใช้งาน [การคาดการณ์] เพื่อหลบหมัดอันเกรี้ยวกราดของลิง
เวลาผ่านไปห้านาทีแล้วนับตั้งแต่เธอกลิ้งไปมาบนพื้น
และในขณะที่เธอกำลังจะกลิ้งหลบอีกครั้งนั่นเอง เธอก็สังเกตุเห็นลิงยักษ์ทรุดเข่าลงกับพื้นอยากหมดแรง
เธอไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆมันถึงได้ล่วงลงมาแบบนั้น แต่เธอก็รู้ว่านี่เป็นโอกาสของเธอแล้ว
จางเหมิงเหยาพุ่งเข้าไปหามันพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างไม่รีรอ “ ตาย!!!”
เธอแทงดาบเข้าไปที่คอของลิง
เฉือน!
ดาบแทงทะลุคอ หลังจากนั้นเธอก็เหวี่ยงดาบไปทางขวา และตัดคอของมันออกมา
ปรี๊ด!
จางเหมิงเหยายืนอาบเลือดขณะที่ร่างของลิงยักษ์ก็ล้มลงไปกองกับพื้น เธอชนะการต่อสู้แล้ว แต่ในตอนนี้เธอก็ไม่ได้รู้สึกดีใจเลย เธอกำลงัรู้สึกเป็นห่วงผู้ชายของเธอ
หลังจากที่เธอฆ่าลิงเสร็จ เธอก็ออกค้นหาร่างของถังเส้าหยาง และในไม่ช้า เธอก็พบร่างๆหนึ่งกำลังยืนอยู่ข้างๆศพยักษ์
ชายที่เธอกำลังมองหากำลังอาบเลือดอยู่ในตอนนี้ เขามีขวานศึกวางอยู่บนไหล่ขณะที่มือขวาก็จับหัวลิงยักษ์เอาไว้
ในเวลาเดียวกัน เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัวของเธอ
[ ยินดีด้วย! คุณได้ยึดครองดินแดนแห่งหมอกได้สำเร็จ คุณได้รับ +1 เลเวลและ 5 คะแนนสกิล]