ถ้าคุณเกือบตายด้วยน้ำมือของคนคนหนึ่ง และคนๆนั้นยืนอยู่ตรงหน้าคุณตอนนี้ คุณจะทำอย่างไร?
เชื่อว่าเมื่อคนส่วนใหญ่ประสบปัญหานี้ พวกเขาจะยกมีดขึ้นและแทงหน้าอกของเขาอย่างดุเดือดโดยไม่ลังเล
ยังไงแล้ว ถังเฉาก็เป็นแค่คนธรรมดา
ความรัก ความเกลียดชัง อารมณ์ความรู้สึกความปรารถนาแบบปุถุชนทั่วไป หนีไม่พ้น
เผชิญหน้ากับคนรักของเขา เขาสามารถทุ่มเททุกอย่างที่เขามี
เผชิญหน้ากับศัตรู—-เขาไม่เคยแก้แค้นข้ามคืน และเขามักจะแก้แค้นในวันที่เขามีความแค้น
ดังนั้น เนื่องจากหน้ากากถูกหัวหน้าใหญ่ทำลาย ถังเฉาจึงหยุดเสแสร้ง และระบุจุดประสงค์ของคืนนี้โดยตรง
พวกเขาคือเย่จงซือและถังหลิน
สำหรับการพาเย่หรูอี้ไป สองเรื่องนี้มันเป็นเรื่องเดียวกัน
หลังจากจัดการเย่จงซือและถังหลินแล้ว เย่หรูอี้ก็เป็นอิสระเช่นกัน
ในขณะนี้ งานแต่งงานของตระกูลถังและตระกูลเย่ได้กลายเป็นสนามสังหารที่โหดร้ายอย่างสิ้นเชิง
ก่อนหน้านี้คือถังหลินและเย่จงซือลงมือกับเย่เทียนหลง ตอนนี้เป็นถังเฉาที่ลงมือกับถังหลินและเย่จงซือ—-ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ตะ! ตะ! ตะ!
ในสถานการณ์ที่เงียบสงบ มีเพียงเสียงฝีเท้าทุ้มต่ำของถังเฉาเท่านั้น ฟังเหมือนเป็นการเตือนใจ ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นตระหนก
เย่หรูอี้และเย่เซ่าเตี๋ยไม่ได้ห้ามมัน เพราะพวกเธอมีความสุขมากที่ได้เห็นสถานการณ์ปัจจุบัน
แต่เย่จงซือกับถังหลิน และทุกคนในตระกูลเย่ไม่สามารถนั่งนิ่งได้
นายท่านเย่ เย่หยวนซานยืนขึ้นด้วยความโกรธด้วยไม้ค้ำยัน และตะโกนว่า “ถังเฉา คนดีผีคุ้ม คุณไม่ตายในหายนะ และคุณจะต้องได้รับพรหลังจากนี้ —-ทำไมคุณถึงไม่ยอมปล่อย มาหาที่ตายทำไม?”
“หาที่ตายเหรอ?”
ถังเฉาเยาะเย้ยและพูดอย่างเฉยเมย“นายท่าน ผมว่าคุณแก่แล้ว สายตาเลยไม่ค่อยดี? ตาข้างไหนของคุณหรือที่เห็นผมเดินอยู่เส้นทางตาย?”
“คุณ!”
คำถามที่ถามกลับไปอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้เย่หยวนซานจ้องเขม็งด้วยความโกรธ ขมวดคิ้ว และความกดดันก็ผุขึ้นมา
เย่หยวนซานเหมือนกับฉินโช่ววง เป็นซากดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิตมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ได้เห็นคนหนุ่มสาวนับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยพบชายหนุ่มเช่นถังเฉาที่สามารถกดดันเขาได้อย่างมากเช่นนี้
ใช่ ตั้งแต่ที่ถังเฉาปรากฏตัว มันนานมากแล้ว ถ้าเขาถูกบีบบังคับไปสู่ทางตัน ตั้งแต่ที่เขาปล่อยให้ผู้คุ้มกันหญิงที่อยู่ข้างๆเขาจัดการคุณชายหวังเชาของตระกูลหวาง ก็ตายไปแล้ว
ทำไมต้องรอจนถึงตอนนี้ล่ะ?
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังทำให้ผู้คนในนี้รู้สึกตกตะลึง
เมื่อตระกูลเย่โกรธจัด และเชิญหัวหน้าสิบอันดับแรกของสมาคมการต่อสู้มา ถังเฉายังคงเดินเล่นสบายๆในลานบ้าน ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันหมือนได้เหยียบใบหน้าที่สง่างามของตระกูลเย่!
ในที่สุด ถังเฉาก็เดินมาถึงเวทีวิวาห์
ในขณะนี้ ไฟในฉากแต่งงานก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสีเลือด
รูม่านตาทั้งคู่ของถังเฉาฉายแววเจตนาฆ่าอย่างเข้มข้น จ้องไปที่ถังหลินและเย่จงซือ
ตุ้ม!
หลังจากเห็นถังเฉาสู้กับหัวหน้าใหญ่ และเดินอยู่ในลานสบายๆเช่นนั้น ถังหลินก็ไม่สามารถระงับความกลัวในใจของเขาได้อีกต่อไป และเขาก็ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยอาการสั่นเทา พูดด้วยเสียงสั่นว่า
“ไว้…ไว้ชีวิตผมด้วย!”
“งานแต่งนี้ผมจะไม่แต่งแล้ว และเย่หรูอี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผมอีกต่อไป”
“เธอเป็นผู้หญิงของคุณ เป็นของคุณ เป็นของคุณเสมอ!”
เขามองถังเฉาด้วยความสยดสยอง ตะโกนด้วยความหวาดกลัว และถึงกับถอดชุดเจ้าบ่าวออกโดยตรง และวิ่งหนีไปอย่างน่าสังเวช
ว้า!
เมื่อเห็นว่าเจ้าบ่าวที่เป็นตัวเอกในคืนนี้ตกใจและหนีไป แขกทุกคนในที่เกิดเหตุแสดงความประหลาดใจอย่างไม่น่าเชื่อ
“ไอ้เวร!”
เมื่อเห็นถังหลินที่หนีออกจากที่เกิดเหตุอย่างน่าสังเวช ทุกคนในตระกูลเย่ก็โกรธจัด
“ถังหลิน คืนนี้เป็นการแต่งงานของสองตระกูลหลวงของเรา คุณไปแล้ว หรูอี้ของเราจะแต่งงานกับใคร?”
“ยังไม่รีบกลับมาอีก นี่มันอะไรกัน?”
“จะให้คนอื่นหัวเราะเยาะเหรอ?”
……
คนในตระกูลเย่ต่างโกรธจัด แต่ถังหลินหนีกลับไปที่ฝั่งของตระกูลถังโดยไม่หันกลับมามอง
ขณะที่เขาหนี เขาพูดว่า “ใครอยากแต่งก็แต่ง ผมจะไม่แต่ง!”
ดูเหมือนว่า ถังหลินจะกลัวถังเฉาและเขาตั้งใจที่จะไม่แต่งงาน
ทุกคนในตระกูลเย่มีสีหน้าที่มืดมน มองไปทางตระกูลถัง เย่หยวนซานตะโกนถามอีกฝ่ายว่า “ถังเหนียนหู่ ยังไม่รีบเกลี้ยกล่อมหลานชายคุณอีก มีหัวหน้าสิบคนควบคุมอยู่ที่นี่ กับแค่ถังเฉาคนเดียว มีอะไรน่ากลัว ?”
ถังเหนียนหู่ที่ไม่ได้พูดเป็นเวลานานยิ้มจางๆ ไม่ได้พูด เขาเหลือบไปที่ถังฮันเจี๋ย
ตอนนี้เขาไม่ใช่ผู้นำของตระกูลถังอีกต่อไป และเขาได้มอบอำนาจทั้งหมดให้ถังฮันเจี๋ย
ถังฮันเจี๋ยยืนขึ้นช้าๆ มองไปที่ถังหลินด้วยท่าทางเย็นชา จากนั้นจึงพูดเสียงดัง “ตระกูลถังของเราเป็นคนสบายๆ เนื่องจากลูกพี่ลูกน้องของผมไม่ต้องการแต่งงาน งั้นก็ไม่ต้องแต่ง”
“แต่ตระกูลเย่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียศักดิ์ศรีไป คุณเย่เป็นผู้หญิง เป็นคนเซนซิทีฟอ่อนไหวง่าย สำหรับเรื่องนี้ ตระกูลถังของผมยินดีที่จะรับผิดชอบทั้งหมด รวมถึงค่าจัดงานแต่งยามค่ำด้วย”
ถังฮันเจี๋ยพูดอย่างอ้อมค้อม แต่ทุกคนในตระกูลเย่ก็โกรธหลังจากฟังจบ
เย่หยวนซานตะโกน”ผมกำลังคุยกับคุณปู่ของคุณ เด็กอย่างคุณมาพูดแทรกทำไม?”
นี่เทียบเท่ากับการยอมรับโดยปริยายต่อการทำการวุ่นวายในงานแต่งของถังเฉา
และท่าทีของตระกูลถัง ก็ทำให้หัวใจของทุกคนสั่นสะท้าน
พวกเขาคิดขึ้นมาได้ว่า ตั้งแต่ต้นจนจบ ตระกูลถังไม่ได้พูดอะไร และพวกเขาก็ยังถูกลืมโดยผู้คน
ถังฮันเจี๋ยยิ้มจางๆ “ท่านเย่ โทษทีนะ ตอนนี้ตระกูลถังอยู่ในความดูแลของผม ไม่ใช่ปู่ของผม หากคุณมีความไม่พอใจ บอกผมได้”
ทัศนคติที่ไม่เกรงกลัวอะไร ทำให้ทุกคนประหลาดใจ
ในฐานะผู้นำตระกูลที่อายุน้อยที่สุดของเมืองซื่อจิ่ว ดูเหมือนว่า ถังฮันเจี๋ยจะมีความสามารถที่โดดเด่นเป็น ของตัวเอง
“……”
สายตาของเย่หยวนซานก็มืดมนทันที
เห็นได้ชัดว่า เขาเห็นทัศนคติของตระกูลถัง และดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับพวกเขา
“ผมว่า ตระกูลถังของพวกคุณไม่ได้อยากแต่งงานตั้งแต่แรก!”
เย่หยวนซานโกรธ โดยใช้ไม้เท้ามังกรพยุงตัวไว้ ค่อยๆลุกขึ้นยืนด้วยดวงตาคู่ที่ชรา แต่มีความใส กวาดมองไปที่ ทุกคนในตระกูลถัง
“ท่านเย่ คุณพูดถูก พวกเราตระกูลถังเปลี่ยนใจแล้วจริงๆ แต่เป็นเพียงเพราะเห็นแก่หน้าคุณ จึงไม่ได้พูดออกมา”
เหนือความคาดหมายของทุกคน ถังฮันเจี๋ยได้พูดต่อจากคำพูดของเย่หยวนซาน
ไม่เพียงแต่ทุกคนในห้องรับแขกเท่านั้นที่ประหลาดใจ แต่เจ้าบ่าวในคืนนี้ ถังหลินก็ตกใจและเงยหน้าขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
นี่คือ… เปลี่ยนใจและไม่อยากแต่งงาน?
“ท่านปู่ ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นถมึงทึง และเขาถามด้วยสีหน้าที่น่าเกลียด
ถังฮันเจี๋ยเหลือบมองเขาจางๆ “ตอนนี้คุณไม่ปลอดภัยแล้ว”
ตั้งแต่ที่ถังหลินหนีลงจากเวทีงานแต่ง ก็บ่งชี้ว่าทั้งสองตระกูลได้ผิดใจกันแล้ว
ถังฮันเจี๋ยมองไปที่เย่หยวนซาน แม้ว่าทั้งสองจะอายุต่างกันมาก แต่ออร่าของเขาก็ไม่แพ้เขาแม้แต่น้อย
“ท่านเย่ เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ถือว่าตระกูลถังของเราผิด หลานสาวของคุณแต่งงานสองครั้งก็ล้มเหลว”
“อย่างไรก็ตาม หากตระกูลเย่ของคุณมีความไม่พอใจ พูดออกมาได้เลย ตระกูลถังของผมจะรับไว้ทุกอย่าง”
ถังฮันเจี๋ยพูดอย่างหนักแน่น
