สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 181 นางฟ้าในใจของใครบางคน

จี้หนานเฟิงเข็นกระเป๋าเดินทางของซูสือเยว่ออกจากเกสเฮ้าส์ แล้วเดินไปยังบ้านหลังเตี้ยที่เจ้าของบ้านชี้บอก

ซูสือเยว่ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงเดินตามไปอย่างเงียบ ๆ

“ฉันไป……”

ภายในรถที่อยู่ด้านนอกโรงแรม ไป๋ลั่วจ้องมองซูสือเยว่ที่ตามจี้หนานเฟิงเข้าไปในบ้านหลังเตี้ยด้วยความตกใจ”คุณชายครับ นี่…”

ภายในหลังคาของรถkiaต่ำจนเหมือนกับท้องฟ้าทั้งผืนกำลังกดทับลงมา

ฉินโม่หานขมวดคิ้ว จ้องมองไปยังทิศทางที่ซูสือเยว่กับจี้หนานเฟิงจากไป คิ้วของเขาก็ขมวดหนักยิ่งกว่าเดิม

คนทั้งกองถ่ายนั้นพักอยู่ในเกสต์เฮาส์ มีแต่สองคนนี้เท่านั้นที่ได้พักในบ้านหลังเตี้ยด้านข้างนั่น

นี่มันหมายความว่ายังไง ไม่ต้องบอกก็รู้

เส้นเลือดบนหน้าผากของชายหนุ่มเต้นตุบๆขึ้นมา”ไปหาเจ้าของบ้าน”

“ผมก็จะเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นเหมือนกัน”

ไป่ลั่วชะงัก จากนั้นเงยหน้าขึ้นเหลือบมองไปยังบ้านหลังเล็กๆเก่าๆนั้น “คุณชายครับ ผมว่าอย่าดีกว่าครับ……”

“บ้านหลังนั้นทรุดโทรมเกินไป คุณที่อยู่ในระดับที่สูงขนาดนี้……”

เขายังไม่ทันได้พูดจบ ฉินโม่หานก็เหลือบมองมาที่เขา

ไป่ลั่วหยุดพูดไปอย่างเชื่อฟัง “ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลยครับ!”

สิบนาทีต่อมา ไป่ลั่วกลับที่รถอย่างรีบร้อน “เจ้าของบ้านบอกว่า ที่นั่นยังพักได้อีกคนครับ!”

“ผมเองก็ถามมาแล้ว”

เขาดื่มน้ำไปพักหายใจไป แล้วอธิบายให้ฉินโม่หานฟังว่า “สมาชิกในกองมามากกว่าห้องที่จองไว้อีก 2 คน และไม่มีนักแสดงคนไหนเต็มใจที่จะออกไปพักข้างนอก”

“บางทีภรรยาของผมอาจจะอารมณ์ไม่ดีจากข่าวเมื่อคืนนี้ก็ได้ เธอเสนอตัวออกไปพักข้างนอก แต่จี้หนานเฟิงนั่นก็ตามไปอย่างหน้าไม่อาย!”

หลังพูดจบ ไป๋ลั่วก็แอบสังเกตสีหน้าของฉินโม่หานอย่างระมัดระวังจากทางกระจกมองหลัง “คุณชายครับ ต้องเชื่อมั่นว่าคุณนายกับคนแซ่จี้นั่นไม่ได้มีอะไรกัน!”

ฉินโม่หานเหลือบมองเขาอย่างอวบหนึ่ง “จำเป็นต้องให้คุณมาเตือนด้วยเหรอ?”

ผู้หญิงของเขา เขาจะไม่เข้าใจได้ยังไง?

เธอก็แค่โกรธเขาเท่านั้น

“จี้หนานเฟิงที่พักอยู่ในบ้านเตี้ยนั้นได้อยู่ตรงข้ามกับคุณนายครับ แต่เจ้าของบ้านบอกว่าคุณสามารถพักห้องข้างๆของคุณนายได้ครับ”

“เพื่อนบ้านนั้นถูกคั่นแค่กำแพงชั้นเดียว แต่ห้องตรงข้ามถูกคั่นด้วยโถงทางเดิน เราอยู่ใกล้กว่าก็ต้องได้เปรียบกว่าอยู่แล้วครับ!”

ฉินโม่หานพยักหน้าเบา ๆ รับกุญแจที่ไป๋ลั่วยื่นให้อย่างสง่างาม “ไปกันเถอะ”

พฤติกรรมและสายตาของเขาดูเย็นชา แต่ฝีเท้าที่เดินเข้าไปในบ้านเตี้ยนั้นกลับดูเร่งรีบ ก็ยังทรยศต่อความร้อนรนของเขาอยู่ดี

ไป่ลั่วถอนหายใจแล้วรีบยกกระเป๋าสัมภาระเดินตามเข้าไป

……

หลังจากที่จี้หนานเฟิงเอากระเป๋าเดินทางของซูสือเยว่ส่งไปที่ห้องของเธอ เขาก็ออกไปทันที

ถึงแม้ว่าเขาจะมีใจให้เธอ แต่เขาก็ยังมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่ ไม่มีทางทำอะไรผิดศีลธรรมเด็ดขาด

หลังปิดประตูลง ซูสือเยว่ก็พักหายใจยาวและนอนลงบนเตียงใหญ่

เมื่อคืนอดนอนมาทั้งคืน วันนี้ก็ได้นอนในรถไปช่วงเช้า ตอนนี้ เธอรู้สึกแค่คอและไหล่นั้นกำลังปวดเมื่อยมากเท่า

คงเป็นเพราะเมื่อเช้านอนผิดท่าแน่ๆ

นอนอยู่บนเตียงที่แสนนุ่ม หลังจากที่เธอหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความรายงานตัวกับเด็กๆทั้งสองแล้ว เธอก็ตั้งใจจะมองดูไปที่เพดานแล้วเข้านอนทันที

“ตูมตูมตูม…”

“ตูมตูมตูม…”

ทันทีที่เธอหลับตาลง ข้างๆก็มีเสียงที่แสบหูดังขึ้น

หญิงสาวขมวดคิ้ว เธอลุกขึ้นด้วยความรำคาญแล้วเดินออกจากห้องไป

ประตูห้องถัดไปเปิดออกกว้าง และเจ้าของบ้านกำลังนั่งทำสายไฟอยู่ตรงพื้นด้วยใบหน้าที่มอมแมม

เธอพูดอะไรไม่ออก “ทำอะไรอยู่ค่ะเนี่ย?”

เจ้าของบ้านปาดเหงื่อ พอเห็นว่าเป็นเธอ เขาก็ยิ้มอย่างซื่อตรง “มีเศรษฐีคนหนึ่งต้องการเช่าห้องนี้ครับ”

“ก่อนหน้านี้มันเป็นห้องเก็บของ ไม่มีไฟฟ้า ผมจึงจะต่อไฟเข้ามาครับ”

ซูสือเยว่หมดอะไรจะพูด “ที่นี่ไม่มีที่อื่นให้พักแล้วเหรอคะ?”

“มีครับ เกสเฮ้าส์ของเจ้าอื่นใหญ่กว่านี้ หรูหรากว่านี้ มีถมเถไปครับ”

“ที่ให้พวกคุณมาพักอยู่ที่นี่ เป็นเพราะในบ้านของผมนั้นเหลือแค่บ้านหลังเล็กหลังนี้เท่านั้นแล้วครับ”

เจ้าของบ้านถอนหายใจพร้อมกับพูดว่า “ไม่รู้จริงๆ ว่าคนรวยเขาคิดอะไรกัน มีบ้านดีๆให้พักก็ไม่พัก ยังไงก็จะพักในห้องเก็บของนี้ให้ได้……”

“แต่คนๆนี้ดูแล้วจะรวยมากจริงๆ เขามีคนขับรถตามมาด้วย คนขับเอาแต่เรียกเขาว่าคุณชายครับคุณครับ”

“รู้สึกว่าจะเหมือนกับพวกคุณ ที่มาจากเมืองหรงด้วยนะครับ ฟังจากที่คนขับรถพูด เหมือนเศรษฐีคนนี้จะทำให้ภรรยาของเขางอลเข้า จึงตั้งใจตามภรรยามา……”

“ผู้ชายคนนั้นดูดีมีราศี แถมยังรวยมากด้วยรวย ภรรยาของเขาจะเป็นนางฟ้าที่สวยขนาดไปนะ…”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้วและกำลังจะพูดอะไรออกมา แต่มือถือของเธอก็ดังขึ้นก่อน

เป็นข้อความจากซิงเฉิน

“หม่ามี๊ครับ วันนี้แด๊ดดี้ไม่ได้กลับบ้านนะครับ ผมไปถามคุณปู่พ่อบ้านมาแล้ว คุณปู่พ่อบ้านก็บอกว่าแด๊ดดี้ตามหม่ามี๊ไปแล้วครับ”

พอมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ริมฝีปากของซูสือเยว่ก็ได้มีรอยยิ้มปรากฏขึ้น

ประกอบกับสิ่งที่เจ้าของบ้านพูดเมื่อกี้ เธอก็พอจะเดาได้แล้ว…

นางฟ้าที่เจ้าของบ้านพูดถึงน่าจะเป็นตัวเธอนี่แหละ

“คุณเจ้าของบ้านคะ”

เธอยิ้มให้เขาอย่างอารมณ์ดี “ตอนนี้แขกคนนั้นอยู่ที่ไหนเหรอคะ?”

เจ้าของบ้านชี้ไปทางแม่น้ำเล็กๆที่อยู่หลังบ้านเตี้ย “ไปรับโทรศัพท์แล้วครับ”

ซูสือเยว่เลิกคิ้วขึ้นแล้วมองไปทางแม่น้ำเล็กๆนั่น

เป็นไปตามที่บอก ในที่ไกลๆได้มีร่างดำๆของคนๆหนึ่งยืนอยู่

เธอมองไม่ชัดเลยเพราะมันอยู่ไกลเกินไปแต่เธอมั่นใจว่าคนๆนั่นคือผู้ชายที่อยู่ในใจของเธอ

ไม่รู้ว่ามันตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอคุ้นเคยกับเขาถึงขั้น…แค่เห็นแผ่นหลังก็สามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจนแล้ว

เจ้าของบ้านเริ่มกวักแกว่งเครื่องมือของเขาอีกครั้ง

“ไม่ต้องทแล้วค่ะ”

เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย “ห้องของฉันมีไฟฟ้า ให้เขามาอยู่ห้องเดียวกับฉันก็ได้ค่ะ”

เจ้าของบ้านหยุดชะงักไป “ตะ……แต่ว่าคุณเป็นผู้หญิง…”

ทันใดนั้น ดวงตาของเขาเป็นประกายราวกับว่าเขาเข้าใจอะไรบางอย่าง “คุณคือนางฟ้าคนนั้นเหรอครับ?”

ซูสือเยว่รู้สึกขบขันกับคำพูดของเขา “ไม่ใช่นางฟ้าอะไรซะหน่อย”

“ก็แค่นางฟ้าในดวงใจของใครบางคนเท่านั้นเอง”

หลังจากพูดจบ เธอหันหลังและมุ่งหน้าไปทางแม่น้ำเล็กๆ

สายลมในชุมชนนั้นค่อนข้างเย็น

ลมเย็นสดชื่นพัดผ่านร่างกาย ทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมา

ซูสือเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ มองไปยังคนที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ แล้วเดินเข้าไปช้าๆ

ตอนแรกฝีเท้าของเธอค่อนข้างสงบ

แต่ยิ่งเธอเข้าใกล้ เธอก็ยิ่งแน่ใจว่าชายคนนั้นคือฉินโม่หานแน่ๆ

ความสุขและความตื่นเต้นทำให้การก้าวของเธอไม่สามารถสงบได้อีกต่อไป

สุดท้าย หญิงสาวแทบจะวิ่งเข้าไปหาฉินโม่หานเลยทีเดียว

ชายหนุ่มร่างใหญ่เป็นสง่ากำลังคุยโทรศัพท์อยู่

เมื่อได้ยินเสียงฝีที่ดังมาจากเท้าข้างหลัง เขาขมวดคิ้วแล้วหันหน้าไปมองอย่างไม่รู้ตัว

ช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน แสงตะวันส่องกระทบไปบนรอยยิ้มอันเจิดจ้าของเธอ ทำให้คนที่เห็นต้องรู้สึกใจสั่นครู่หนึ่ง

มือของชายหนุ่มที่ถือโทรศัพท์ต้องชะงักไปอย่างกะทันหัน

“รอผมกลับไปค่อยว่ากัน”

หลังจากพูดไปอย่างเร่งรีบ ชายหนุ่มก็วางสายไปทันที

“คุณมาได้ยังไงครับ?”

มือของซูสือเยว่ประสานกันอยู่ด้านหลัง น้ำเสียงของเธอดูมีความสุขและเขินอาย และยังแฝงความภาคภูมิใจอยู่ด้วยเล็กน้อย

พอมองไปที่ใบหน้าของเธอ ฉินโม่หานก็รู้สึกว่าการตัดสินใจของเขาในครั้งนี้นั้น ถูกต้องแล้ว

ถึงแม้ระหว่างทางจะวิ่งวุ่นไปทั่ว ถึงแม้จะไม่ได้พักผ่อนดีๆ

แต่ในเวลานี้ รอยยิ้มของเธอทำให้เขารู้สึกว่าทุกอย่างที่ทำมานั้น มันคุ้มค่า

ดวงตาที่ลึกจนไร้ก้นของชายหนุ่มจ้องมองมาที่เธอ “แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะครับ?”

“ไม่ใช่ว่าคุณกำลังยุ่งอยู่กับเรื่องบริษัทข้ามชาติเหรอ?”

เธอรู้ว่าเมื่อคืนเขาเหนื่อยจากการทำงานล่วงเวลา เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ก็ไม่กล้าบอกเขาให้เขารู้ เพราะกลัวจะไปรบกวนเขา

“เสร็จแล้วครับ”

“เสร็จแล้วไม่พักผ่อนเหรอคะ?”

“ผมกลัวว่าพอคุณได้เห็นข่าวแล้วจะเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเย่เชียนจิ่วผิดไปครับ ดังนั้นผมจึงไม่พักครับ”

ท่าทางที่แน่วแน่ของชายหนุ่ม ทำให้หัวใจของซูสือเยว่อ่อนแรง

“ดังนั้น……ที่คุณไล่ตามมาถึงที่นี่ เป็นเพราะเรื่องนี้เหรอคะ?”

“ใช่ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดครับ”

“แล้วมีอะไรอีกเหรอคะ?”

“อีกอย่างก็คือ……”

ชายหนุ่มขำออกมาเบาๆ “ตั้งแต่แต่งงานกันมา นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ที่รักอยู่ห่างจากผมขนาดนี้ ผมจึงไม่สบายใจครับ”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset