จางเฉียงจ้องเซียวหยาง ราวกับเป็นหมาป่าตัวหนึ่งที่ต้องการจู่โจม ฉันกลายเป็นแบบนี้ ทั้งหมดนี่ก็เพราะแก เพราะแกทั้งนั้น!
ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเป็นสีแดงก่ำ สองมือกำหมัดแน่น ในหัวเต็มไปด้วยความโกรธแค้น จางเฉียงพุ่งเข้าไปหาเซียวหยางอย่างบ้าคลั่งในทันที “เซียวหยาง ฉันจะเอาแกให้ตายเลยคอยดู!”
สำหรับคนประเภทนี้ เซียวหยางไม่เก็บมาใส่ใจเลยสักนิด มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มเหยียดหยามออกมา แล้วยกหมัดขึ้นมาชกเข้าไปที่หน้าของจางเฉียง
“โอ๊ย!”
จางเฉียงร้องโอดครวญ จมูกมีเลือดไหลออกมา จากนั้นเซียวหยางได้เตะเข้าไปที่เข่าของจางเฉียงหนึ่งครั้ง จางเฉียงขาอ่อนคุกเข่าลงกับพื้นทันที เซียวหยางยกมือขึ้นมาตบเขาอีกหนึ่งฉาด!
เสียงฮือฮาดังขึ้นทันที คิดไม่ถึงว่าเซียวหยางจะเก่งกาจขนาดนี้!
คนในฝ่ายขายต่างรู้ว่าจางเฉียงกับเซียวหยางมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แต่คิดไม่ถึงว่าจะร้ายแรงถึงเพียงนี้!
เห็นจางเฉียงถูกชกต่อยเหมือนหมาตัวหนึ่ง สายตาที่ทุกคนมองไปยังเซียวหยางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ใครแม่งบอกว่าสามีของประธานเย่เป็นแค่สวะคนหนึ่ง!
เซียวหยางตบเพียงฉาดเดียวก็ทำให้แว่นตากรอบทองของจางเฉียงลอยละลิ่วตกลงบนพื้นจนแตกละเอียด
จางเฉียงรู้สึกเวียนหัวจนฟุบลงไปบนพื้น นอนแน่นิ่งไม่ขยับเขยื้อน
เซียวหยางยกเท้าขึ้นมาเหยียบหน้าจางเฉียง แล้วสั่งสอน “ถ้าเป็นคนดีไม่ได้ก็มุดเข้าไปอยู่ในท้องแม่ซะ ไม่อย่างนั้น ถ้าฉันเจอแกอีกครั้งฉันก็จะซัดแกอีก!”
จางเฉียงในตอนนี้ได้แต่กระอักเลือดออกมา พูดอะไรไม่ได้แล้ว
เซียวหยางกวักมือเรียกรปภ.ที่อยู่หน้าประตูเข้ามา “ลากมันออกไป!”
รปภ.ทั้งสองคนรีบเดินเข้ามา แล้วยกจางเฉียงออกไปเหมือนกับจับดินโคลนยังไงยังงั้น
เซียวหยางเดินไปนั่งตรงที่ของจางเฉียงแล้วดำเนินการอะไรสักอย่างกับคอมพิวเตอร์ ภาพที่อยู่บนจอโปรเจคเตอร์ได้หยุดลงแล้ว แต่ได้ปรากฏภาพลิงน้อยที่น่ารักขึ้นมาเหมือนก่อนหน้านี้
เย่หยุนซูนั่งมองนิ่ง ๆ ผ่านไปสักครู่ก็พูดขึ้นมาอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า “เลิกประชุมเถอะ!”
ในห้องประชุมเงียบสงัดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันออกไป
ภายในห้องประชุมว่างเปล่า มีเพียงเซียวหยางกับเย่หยุนซูเท่านั้น ดวงตาของเย่หยุนซูดูเหม่อลอย ผลที่ตามมาของเรื่องตลกร้ายที่จางเฉียงก่อไว้ครั้งนี้ร้ายแรงมาก ข้อมูลโครงการสำคัญทั้งสองโครงการสูญหาย ทั้งยังมีค่าผิดสัญญาอีกหลายบริษัท รวม ๆ กันแล้วเกิดความเสียหายราวสามร้อยล้าน
หากประกาศเรื่องนี้ออกไป ภาพลักษณ์ของบริษัทหยุนซูต้องได้รับผลกระทบจนไม่อาจประเมินได้
ขาดเงินทุน บริษัทอาจต้องเผชิญกับวิกฤติล้มละลาย
เมื่อครู่นี้เธอยังมีความหวังว่าจางเฉียงจะแก้ไขเรื่องนี้ได้ แต่ตอนนี้ไม่มีความหวังอะไรอีกแล้ว
“เซียวหยาง เรื่องวันนี้ต้องขอโทษด้วยนะ” เย่หยุนซูค่อย ๆ เอ่ยขึ้น
เซียวหยางยิ้มกว้าง “ไม่เป็นไร ขอแค่เธอเชื่อฉันก็พอแล้ว!”
เย่หยุนซูฝืนยิ้มแล้วส่ายหน้า “ไม่มีแล้ว ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว!”
พูดจบ เย่หยุนซูก็เดินเหมือนร่างไร้วิญญาณตรงไปยังห้องทำงาน เซียวหยางแอบตามเธออยู่ด้านหลัง เผชิญหน้ากับเรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายจริง ๆ
เย่หยุนซูเดินเข้าไปในห้องทำงานแล้วปิดประตู มองไปยังวิวที่อยู่นอกหน้าต่าง นิ่งเงียบไม่พูดจา
เธอต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบากมาตั้งนาน บริษัทกำลังดีขึ้น แต่จู่ ๆ ก็ต้องมาเจอเรื่องหนักหนาสาหัสแบบนี้ เป็นใครก็ยากจะรับได้ทั้งนั้น
ทันใดนั้น เบ้าตาของสาวแกร่งคนนี้ก็แดงขึ้นมา น้ำตาไหลรินบนใบหน้า
เซียวหยางยืนอยู่ด้านนอก เขาเข้าใจความรู้สึกของเย่หยุนซูตอนนี้เป็นอย่างดี
ปกติเธอเป็นคนฉลาดมากความสามารถ มีความมั่นใจในตัวเองสูง ราวกับไม่มีเรื่องอะไรสามารถทำให้ผู้หญิงคนนี้ล้มลงได้
แต่ต่อให้เธอเก่งมากแค่ไหนยังไงก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เผชิญหน้ากับเรื่องแบบนี้ ต่อให้เป็นผู้ชายที่เข็มแข็งห้าวหาญก็แบกรับไม่ไหวหรอก
เซียวหยางถอนหายใจ แล้วผลักประตูเข้าไป “อย่าเสียใจเพราะเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้เลยนะ”
เย่หยุนซูรีบเช็ดน้ำตาบนหน้า แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “นี่เรียกว่าเรื่องเล็กเหรอ? บริษัทของฉันกำลังจะล้มละลายนะ!”
“ช่างเถอะ นายออกไปซะ ฉันอยากอยู่เงียบ ๆ!”
“เรื่องเล็กจริง ๆ เธออย่ากังวลไปเลย เรื่องนี้ฉันจัดการได้” เซียวหยางเอ่ย
เย่หยุนซูดีใจทันที เหมือนคว้าที่พึ่งสุดท้ายเอาไว้ได้ “เซียวหยาง นายพูดจริงเหรอ? มีวิธีดึงข้อมูลกลับมางั้นเหรอ?”
“แน่นอน ง่ายมาก!” เซียวหยางพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
เย่หยุนซูตื่นเต้นจนน้ำตาไหลออกมา แล้วดึงมือเซียวหยางไว้พลางพูดว่า “เร็วเข้า พวกเรารีบไปห้องประชุมกัน”
เห็นท่าทางรีบร้อนของเย่หยุนซู เซียวหยางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เขาจับมือสวย ๆ ของเย่หยุนซูเอาไว้ แล้วกดเธอให้นั่งลงไปบนเก้าอี้พลางกำชับว่า “เธอนั่งรออยู่ที่นี่แหละ อย่ากังวลไปเลย เดี๋ยวฉันช่วยเธอจัดการเองนะ”
พูดจบ เซียวหยางก็ยกโทรศัพท์ในห้องทำงานโทรไปหาเลขา “คุณประกาศหน่อยว่าให้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในบริษัทเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต”
เย่หยุนซูรีบเปิดคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะทำงานของตัวเองแล้วเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
เซียวหยางพิงเข้ากับโต๊ะทำงานของเย่หยุนซู เห็นท่าทางร้อนรนของเย่หยุนซู ก็รู้สึกว่าน่ารักมาก!
“ตอนนี้ควรทำยังไงต่อ?” เย่หยุนซูถามอย่างร้อนใจ
เซียวหยางหันไปมองคอมพิวเตอร์ของเย่หยุนซู จากนั้นกดปุ่ม Enter คอมพิวเตอร์หยุดทำงานทันที
จากนั้นกดเลือกคำสั่งบนคอมพิวเตอร์ แล้วพิมพ์อักขระเข้าไปหนึ่งคู่ แสร้งทำท่าเหมือนกำลังดำเนินการอะไรกับคอมพิวเตอร์อยู่
ที่จริงเซียวหยางรู้เรื่องพวกนี้ที่ไหนกัน เขาแค่โทรศัพท์ไปหาแฮกเกอร์สาวสวยให้ช่วยจัดการ
ไวรัสคอมพิวเตอร์กระจอกแบบนี้ สำหรับแฮกเกอร์ยอดฝีมือแล้วก็แค่ยกมือขึ้นมาเกาเท่านั้น
ผ่านไปครู่เดียว ไวรัสคอมพิวเตอร์ของบริษัทก็ถูกกำจัดจนหมดสิ้น เลขารีบเดินเข้ามาแจ้งข่าวดีให้ทราบ
เย่หยุนซูตื่นเต้นดีใจจนเข้าไปกอดเซียวหยางแล้วร้องไห้ออกมา เรื่องวันนี้น่าหวาดเสียวเกินไปแล้ว
โชคดีที่มีเซียวหยางช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นผลที่ตามคงร้ายแรงอย่างคาดไม่ถึงจริง ๆ
เซียวหยางกอดหุ่นเพรียวบางของเย่หยุนซูไว้พลางพูดปลอบใจว่า “เอาน่า อย่าเสียใจไปเลย มีฉันอยู่ตรงนี้เธอจะกลัวอะไร!”
เขาเป็นถึงคิงแห่งสำนักดราก้อน มีเขาอยู่ข้างกาย รับรองว่าเย่หยุนซูจะไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องกังวล
เย่หยุนซูผละตัวออกจากเซียวหยาง แล้วรีบนั่งลงที่โต๊ะทำงานเพื่อหาเอกสารที่เกี่ยวข้องในคอมพิวเตอร์ ดีที่เอกสารสำคัญยังอยู่ครบ
คิ้วที่ขมวดด้วยความกลัดกลุ้มใจของเธอค่อย ๆ ผ่อนคลายลง จากนั้นเธอได้หยิบโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานโทรถาม “คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในบริษัทกลับมาเป็นปกติหมดแล้วหรือยัง?”
“ใช่ค่ะ ประธานเย่ เพิ่งได้รับการตอบกลับจากผู้รับผิดชอบของทุกแผนกเมื่อครู่นี้ค่ะ ตอนนี้คอมพิวเตอร์ของบริษัทกลับเป็นปกติหมดแล้ว เอกสารสำคัญก็อยู่ครบค่ะ” เลขาพูดอย่างกระตือรือร้น
เย่หยุนซูนั่งเอนพิงเก้าอี้ มองเซียวหยางด้วยสีหน้าขอบคุณ “ขอบคุณนายนะ!”
“ขอบคุณอะไรกัน เธอเป็นภรรยาของฉันนะ ฉันช่วยเธอเป็นเรื่องที่ควรทำอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?” เซียวหยางเอ่ย
เย่หยุนซูแอบดีใจอยู่พอสมควร เซียวหยางมีเรื่องเซอร์ไพรส์เธอมากมายเหลือเกิน เธอถึงกับรู้สึกเป็นเกียรติที่ตัวเองได้เป็นภรรยาของเซียวหยาง
“นายก็มีความสามารถแบบนี้ด้วยเหรอ?”
เซียวหยางยิ้มพลางเอ่ย “เมื่อก่อนตอนอยู่ต่างประเทศเคยเป็นผู้ดูแลระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ถ้าไม่มีความสามารถเลยจะเลี้ยงชีพยังไงล่ะ”
“ครั้งนี้นายช่วยฉันเอาไว้เยอะเลย นายบอกมาสิว่าจะให้ฉันขอบคุณนายยังไงดี?” เย่หยุนซูนั่งอย่างผ่อนคลายอยู่บนเก้าอี้ประธานแล้วเอ่ยถาม
เซียวหยางเผยรอยยิ้มมีเลศนัยออกมา “งั้นเธอจูบสามีสักหน่อยดีไหม?”
เย่หยุนซูชะงักไป แล้วหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทันที
จากนั้นเธอได้มองไปที่เซียวหยางแล้วพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “ทำเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็คิดจะเอาความดีความชอบ ไม่มีจิตสำนึกบ้างเลย!”
เซียวหยางพูดอะไรไม่ออกทันที เธอเป็นคนพูดเองว่าฉันช่วยเธอเอาไว้เยอะเลย ทำไมเพียงชั่วพริบตาเดียวกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปได้ล่ะ
“เราสองคนแต่งงานกันมาตั้งนานแล้ว จูบสักหน่อยจะเป็นไรไป?” เซียวหยางยังคงพูดอย่างไม่ยอมแพ้
โดยเฉพาะเมื่อมองริมฝีปากอวบอิ่มที่น่าเชยชมนั่น เหมือนกับลูกเชอร์รี่สีชมพูไม่มีผิด ดูท่าทางน่ากินมาก
เย่หยุนซูถูกสายตาของเขาจับจ้องจนรู้สึกทำตัวไม่ถูก รู้ได้ทันทีว่าเจ้าหมอนี่ต้องคิดไม่ซื่ออีกแล้ว จึงรีบแสร้งทำท่าทางทำงานขึ้นมา
“ฉันยังมีงานอีกเป็นกองที่ต้องทำ ถ้าไม่มีธุระอะไร นายก็ออกไปได้แล้ว”
เซียวหยางรู้สึกหมดคำพูดทันที นี่ได้ผลประโยชน์แล้วถีบหัวส่งกันเลยนะ