เย่หยุนซูดึงรั้งตัวเซียวหยางเอาไว้แล้วพูดว่า“ ช่างมันเถอะ อย่ามีเรื่องกันเลย เลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็นดีกว่า”
เซียวหยางพยักหน้า “งั้นก็ได้ ผมก็ไม่อยากทะเลาะกับพวกขยะเหมือนกัน ”
จ้าวฟางสงรู้ว่าเซียวหยางกำลังด่าว่าตัวเอง แต่ก็ไม่กล้าตอบโต้ วันนี้เขาไม่ได้พาบอดี้การ์ดมาด้วย ดีไม่ดีคนที่จะถูกทำร้ายอาจเป็นตัวเอง
ในเมื่อได้เจอกันแล้ว เขาคงต้องหาวิธีที่ทำให้เซียวหยางอับอายขายหน้าบ้างแล้วล่ะ
“เซียวหยาง ฉันเหนื่อยแล้ว เรากลับกันเถอะ”เย่หยุนซูเอ่ยพูดขึ้นมา
“คุณไม่ใช่อยากจะซื้อคริสทัลแห่งรักนี้หรอกเหรอ ? ”เซียวหยางเอ่ยถามขึ้น
เย่หยุนซูเม้มปาก “มันแพงเกินไป ไปดูที่อื่นกันก่อนเถอะ”
มุมปากจ้าวฟางสงยกยิ้มเยาะ เขาจ้องมองไปที่เซียวหยาง จากนั้นก็พูดกับหลิ่วเฟยเฟยที่อยู่ข้างๆว่า
“ที่รัก คุณอยากได้อะไรก็บอกผม ผมซื้อให้คุณทุกอย่าง ผมไม่เหมือนใครบางคน ไม่มีปัญญาซื้อของก็ยังพาผู้หญิงเข้าร้านเครื่องประดับอีกช่างหน้าไม่อาย”
เซียวหยางไม่คิดอยากจะสนใจคนผู้นี้ แต่จ้าวฟางสงก็ยังจะวางท่าได้ใจยิ่งขึ้นไปอีก
“ที่รัก ฉันชอบคริสทัลแห่งรักนี้ คุณซื้อให้ฉันได้ไหมคะ ?” หลิ่วเฟยเฟยพูดอย่างพึงใจ
เซียวหยางพูดอย่างเย็นชาว่า“ชิ้นนี้เราดูอยู่ก่อนแล้ว หากคุณจะซื้อก็ซื้อชิ้นอื่นเถอะ”
หลิ่วเฟยเฟยเบะปาก แล้วพูดอย่างดูหมิ่นไปว่า
“เชอะ คุณดูอยู่ก่อนแล้วก็เป็นของคุณเหรอ จะว่าไป คุณมีปัญญาซื้อเหรอ ? อย่าเพียงเพราะอยากเอาชนะแฟนฉัน แล้วมาเนียนทำเป็นคนรวย ถึงตอนนั้นคนที่ขายหน้าจะเป็นตัวคุณเองเสียเปล่า”
จ้าวฟางสงแอบพอใจอยู่ในใจ คำพูดนี้พูดได้จี้ใจเขามาก เขาอยากเห็นเซียวหยางถูกบีบให้ยอมรับความพ่ายแพ้
“คริสทัลแห่งรักคริสทัลแห่งรักเส้นนี้ราคาเท่าไหร่ ? ”จ้าวฟางสงเอ่ยถามออกไปอย่างไม่มีมารยาท
พนักงานขายเห็นจ้าวฟางสงก็รู้ว่าเป็นคนรวย รีบกล่าวอย่างเคารพนบนอบไปว่า “คุณผู้ชายท่านนี้ คริสทัลแห่งรักเส้นนี้ของเราราคาขายอยู่ที่หนึ่งล้าน”
“เชอะ แค่หนึ่งล้านเอง ก็คิดว่าจะสักเท่าไหร่กันเชียว”
จ้าวฟางสงจุ๊ๆเสียงดังแล้วพูดว่า “ประธานเย่ ผมรู้สึกมันไม่คุ้มกับคุณเลย ของราคาล้านหนึ่งสามีคุณยังไม่มีปัญญาซื้อให้ แล้วจะยังทนใช้ชีวิตลำบากกับเขาไปอีกทำไม ”
เย่หยุนซูขมวดคิ้ว กำลังจะเอ่ยปากพูด เซียวหยางก็ยืนขึ้นแล้วพูดว่า“ ผมบอกเหรอว่าผมไม่มีปัญญาซื้อ ? ”
“เนียน ทำเนียนได้อีก หากคุณมีปัญญาซื้อ ผมจะกินขี้ให้ดู !”
จ้าวฟางสงรู้ว่าเซียวหยางมีสถานะยังไง ลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลเย่ ไม่ได้มีเงินอะไรหรอก
อย่าว่าแต่หนึ่งล้านเลย กะอีแค่หนึ่งแสนไม่รู้จะมีปัญญาไหม
หลังจากนั้น เขาหยิบบัตรเครดิตออกมา แล้ววางไปที่เคาน์เตอร์ พูดว่า “คริสทัลแห่งรักนี้ ฉันซื้อ ห่อให้ฉันด้วย”
เซียวหยางคิ้วขมวด ยิ้มร้ายแล้วพูดว่า “จ้าวฟางสง นายยังอยากจะโดนอีกใช่ไหม ครั่นเนื้อครั่นตัวมากอีกแล้วใช่ไหม?”
ในใจของจ้าวฟางสงเต้นโครมคราม อดก้าวถอยหลังไปไม่ได้ ที่นี่มันร้านจิวเวลรี่ เขาไม่เชื่อว่าเซียวหยางจะกล้าลงไม้ลงมือทำอะไร
“นี่คุณยังมีเหตุผลอยู่ไหม ไม่มีเงินแล้วยังอยากจะทำร้ายร่างกายคนอื่นอีกเหรอ ?”
“นายก็ลองดูแล้วกัน ฉันไม่เชื่อ……”
ป้าบ!
ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดจบ เซียวหยางก็เหวี่ยงมือตบเข้าไปที่ใบหน้าของเขา
จ้าวฟางสงหมุนไปหลายครั้งกว่าจะหยุดลง ใบหน้าซีกซ้ายมีรอยนิ้วมือแดงปรากฏ ทำให้ฟันของเขาถึงกับสะเทือนเคลื่อนไหวไปด้วย
ทันใดนั้น บรรยากาศก็เงียบลงทันที แขกในร้านและพนักงานขายต่างก็จ้องมองมาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
หลิ่วเฟยเฟยยิ่งตะลึงงัน เธอไม่คิดว่าชายคนนี้จะกล้าลงไม้ลงมือในที่สาธารณะแบบนี้จริงๆ
ไม่เกรงกลัวกฎหมาย มีเรื่องบ้าๆแบบนี้ที่ไหนกัน!
เย่หยุนซูมือกุมหน้าผาก พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ คนชอบใช้กำลัง ทำเรื่องวุ่นวายอีกจนได้
แต่เธอก็สงสัยมาก ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงชอบใช้กำลังกับคนอื่นนัก แต่กับตัวเองเหมือนราวกับเป็นลูกแกะน้อยตัวหนึ่ง ปล่อยให้เธอรังแกเขาได้ตามใจ นี่มันสองมาตรฐานหรือเปล่า ?
“แก……แกกล้าลงมือเหรอ ?”
จ้าวฟางสงกุมใบหน้าเอไว้ แล้วร้องลั่นออกมา
“หากนายยังไม่ไสหัวไป ฉันไม่ทำแค่นี้แน่ !”
จ้าวฟางสงร่างกายสั่นเทิ้ม ไอเด็กนี่ใช้กำลังรุนแรงเกินไปแล้ว เพราะความไม่ระวัง ตัวเองคงต้องไปเช็กร่างกายที่โรงพยาบาลแล้ว
“ฟางสง คุณเป็นยังไงบ้างคะ ? ”
หลิ่วเฟยเฟยรีบเข้าไปประคองจ้าวฟางสง เอ่ยถามด้วยความเป็นกังวล
“นี่เธอตาบอดหรือไง ดูเองไม่เป็นเหรอ ?”
จ้าวฟางสงที่กำลังโมโห ผู้หญิงเซ่อๆคนนี้ก็ยังจะมาถามอะไรที่เห็นๆกันอยู่อีก
“ฟางสง ไอเด็กคนนี้กล้าลงมือ เราอย่าไปกลัวมัน รีบโทรตามคนมาเลยค่ะ”
จ้าวฟางสงจ้องมองไปที่เซียวหยางอย่างอาฆาตแค้น แล้วถอยชิดไปยังอีกมุมหนึ่ง
ตามคน ?
ตามคนมาบ้าอะไรเล่า หากตามคนมาได้ฉันตามแล้ว จะรอให้เธอมาพูดเหรอ ?
เซียวหยางคลี่ยิ้มเล็กน้อย วางกล่องคริสทัลแห่งรักลงตรงหน้าของเย่หยุนซูแล้วพูดว่า“ลองดู ดูสิว่าเป็นยังไง ?”
เย่หยุนซูถอนหายใจ ไหนๆเรื่องก็เป็นแบบนี้แล้ว ก็คงต้องลองแล้วล่ะ
แม้ว่าสร้อยคอราคาหนึ่งล้านจะค่อนข้างแพง แต่เธอก็จ่ายไหว ถือซะว่าตัวเองให้เซียวหยางออกหน้า และตัวเองก็หาทางลงให้กับเขาด้วยแล้วกัน
เธอตั้งใจจะควักเงินจ่ายซื้อสร้อยคริสทัลแห่งรักคริสทัลแห่งรักเส้นนี้ เซียวหยางมีเงินเท่าไร เธอรู้ดี อย่าว่าแต่สร้อยเลยแค่กล่องยังไม่รู้เลยว่าจะมีปัญญาซื้อหรือเปล่า
เซียวหยางยิ้มแล้วหยิบสร้อยออกมา พูดว่า“เย่หยุนซู ผมใส่ให้คุณนะ ”
เย่หยุนซูกัดริมฝีปากแน่น และไม่ได้ปฏิเสธ
หลังจากใส่มันแล้ว ทุกความสนใจก็พุ่งมาที่ร่างของเย่หยุนซูทันที
ไม่พูดไม่ได้ สร้อยคริสทัลแห่งรักเส้นนี้เหมาะและเข้ากับเย่หยุนซูเป็นอย่างมาก
ด้วยบุคลิกของเย่หยุนซูเป็นคนมีเสน่ห์ สง่างาม และคริสทัลแห่งรักคริสทัลแห่งรักนี้ ยิ่งเสริมให้บุคลิกของเย่หยุนซูนั้นดูดีมากขึ้นไปอีก
ทุกคนต่างส่งเสียงอันน่าทึ่งออกมา ผู้ชายบางคนก็แทบละสายตาออกไม่ได้ ลูกค้าผู้หญิงก็มองไปที่เย่หยุนซูด้วยความอิจฉาริษยา
เย่หยุนซูมองดูตัวเองในกระจก พยักหน้าอย่างพึงพอใจ เผยรอยยิ้มที่สวยงาม ราวกับว่าบัวหิมะเบ่งบาน กุหลาบแผ่กลีบเกสร
“เย่หยุนซู มันเข้ากับคุณมาก”
เซียวหยางพูดอย่างหลงใหล จากนั้นก็หยิบบัตรเครดิตออกจากกระเป๋า แล้วพูดว่า “ผมเอาสร้อยคริสทัลแห่งรักคริสทัลแห่งรักเส้นนี้ ชำระผ่านบัตรแล้วกัน”
ทันทีที่พูดจบ พนักงานขายก็นิ่งอึ้งไป เธอมองดูบัตรเครดิต แล้วเอ่ยถามเสียงเบาไปว่า “คุณผู้ชาย คุณต้องการซื้อมันจริงๆใช่ไหมคะ?”
หากบัตรใบนี้ไม่มีเงิน หรือวงเงินไม่เพียงพอ คงเป็นเรื่องสนุกแน่
อันที่จริงแล้วพนักงานขายก็ไม่ได้พอใจกับการทำร้ายร่างกายคนอื่นของเซียวหยาง เพราะชายคนเมื่อกี้นั้นแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูก็รู้ว่าเป็นคนมีฐานะ ย่อมมีเงินซื้อแน่นอน แต่กับเซียวหยาง ในสมองของเธอเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
“แน่นอนครับ”เซียวหยางตอบกลับอย่างนิ่งเรียบ
“เซียวหยาง คุณมีเงินขนาดนั้นที่ไหนกัน ฉันไม่ให้คุณซื้อให้หรอก”เย่หยุนซูคิ้วขมวดเล็กน้อย
“เงินแค่นี้ก็พอมีอยู่บ้าง”เซียวหยางกล่าว
เงินแค่นี้ ?
เย่หยุนซูนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ หากเงินหนึ่งล้านยังเป็นเพียงเงินแค่นี้ แล้วเท่าไรถึงจะเรียกว่ามากมายกัน
จากนั้นไม่นาน เครื่องPOSก็แจ้งยืนยันการรูดบัตรสำเร็จ พนักงานขายก็ตะลึง มีเงินหนึ่งล้านจริงๆด้วย!
ทันใดนั้นเธอก็ไหล่หดลง ยังดีที่เมื่อกี้เธอไม่ได้แสดงท่าทีที่ไม่พอใจออกไป เธอรีบคืนบัตรให้เซียวหยาง จากนั้นก็ทำการห่อสร้อยคริสทัลแห่งรักคริสทัลแห่งรักนั้นให้ทันที
หลิ่วเฟยเฟยราวกับแมวที่โดนเหยียบหาง เกือบลุกกระโดดขึ้นมา
บัดซบ เขามีเงินล้านจริงๆด้วย
ล้อเล่นอะไรกัน ไหนบอกว่าไอเด็กคนนี้มันพวกกระจอกไง
จ้าวฟางสงมุมปากกระตุก ไม่ต้องถาม เงินนี้ต้องเป็นเงินที่เย่หยุนซูให้ไอเจ้าเด็กบ้านั้นแน่นอน
เย็Xแม่ง ผู้ชายที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิง มันมีอะไรดีนักจนเย่หยุนซูต้องให้เงินมันใช้
“ยังไงเสีย ไอเด็กคนนี้ก็กระโดดโลดเต้นได้ไม่นานหรอก คนตระกูลถังคนนั้นกลับมาจากยุโรปแล้ว หากเขารู้ว่าผู้หญิงที่เขารักนั้นได้กลายเป็นภรรยาของคนอื่นไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีท่าทียังไง ”
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็รู้สึกเศร้าแทนเซียวหยาง ในช่วงหลายวันมานี้เขาไม่ได้ไปตามรังควานเย่หยุนซู เหตุผลหลักอาจจะเป็นเพราะเรื่องนี้ด้วย
คนตระกูลถังคนนั้น เป็นคนที่ไม่ยอมแบ่งปันของตัวเองให้ใคร
“คุณผู้ชายค่ะ นี่คือใบเซอร์ และใบรับประกันพร้อมด้วยใบเสร็จ โปรดเก็บไว้ด้วยค่ะ” ในตอนนี้ พนักงานขายยื่นใบต่างๆให้กับเซียวหยางอย่างสุภาพ
เซียวหยางรับมาแล้วเก็บมันไว้
ที่สุดแล้วเย่หยุนซูก็ทนไม่ไหวจึงได้ถามไปว่า
“เซียวหยาง คุณไปเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหน ? ”