บทที่ 18 เสียใจทีหลัง
เซียวหยางหรี่ตาลง พร้อมกวาดสายตาไปยังตระกูลเย่ทุกคน
เย่เสี่ยวหวั่นเธอใจผิดอย่างเห็นได้ชัด เขาช่วยเย่เสี่ยวหวั่นเอาไว้ แต่กลับถูกเย่เสี่ยวหวั่นเข้าใจผิดคิดว่าถูกตนขืนใจ
หากแต่ เซียวหยางขี้เกียจที่จะอธิบาย เขายังคงยืนยันคำเดิม ผู้ที่แข็งแกร่งพอ ไม่จำเป็นต้องแคร์คำพูดใคร ไม่จำเป็นต้องร้องเรียกหาความยุติธรรม
เขาเป็นถึงคิงดราก้อน ต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจให้คนธรรมดาพวกนี้ได้รับรู้อย่างนั้นหรือ
ตัดความสัมพันธ์ ไร้ความเกี่ยวข้องต่อกันอีก
“เธอ แล้วก็พวกคุณ ทำให้ผมผิดหวังในตัวพวกคุณมาก”
เซียวหยางเพ่งมองไปทางเย่หยุนซู ก่อนหมุนตัวจากไป
ก่อนที่เขาจะออกไป เซียวหยางฝากกำปั้นไว้ที่เสาต้นใหญ่
ทุกคนต่างตกตะลึง บนเสาต้นนั้น เกิดรอยบุ๋มลึกขนาดใหญ่
เขามีพลังแข็งแกร่งเพียงไหนกันแน่?
เย่ถันหมิงที่ล้มลงกับพื้นเหงื่อแตกโซกไปทั้งตัว ถูกก้าวข้ามผ่านเสมือนร่างที่ไร้วิญญาณ
ส่วนเย่หยุนซูนั้นน้ำตาเอ่อนองอย่างหนัก เธอเจ็บปวดจนแทบขาดใจ
เพราะอะไร?
ทำไมเขาไม่แม้เสียใจเลยแม้แต่น้อย ทำไมเขาไม่อธิบายแม้สักคำ!
กำปั้นของเขาเมื่อครู่หมายความว่าอย่างไร ประกาศสงครามหรือ?
หลังเซียวหยางจากไป ภายในห้องโถงเงียบกริบ ยังคงตกอยู่ในภวังค์กับภาพเมื่อครู่นี้
“ไปซะได้ก็ดี คนประเภทนี้ อยู่ในตระกูลต่อไปมีแต่ทำให้ตระกูลเสื่อมเสีย!”
เย่เสี่ยวหวั่นโมโหไม่หาย เธอยังคงก่นด่าด้วยความโกรธแค้น สงสารก็แต่ตัวเอง ที่เสียบริสุทธิ์ให้กับคนพันธ์นั้นได้
ในเวลานี้เอง ประตูถูกผลักออก บอดี้การ์ดเรียงเป็นแถวหน้ากระดานที่หน้าประตู ชายชราคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น
“คุณปู่ เป็นคุณปู่!”
“คุณปู่ ทำไมท่านกลับมากะทันหัน?”
ภายในห้องโถง ลูกหลานตระกูลเย่ต่างดีดตัวลุกขึ้นยืนตัวตรง หลายปีมานี้แม้เหล่าไท่จวินเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องน้อยใหญ่ภายในตระกูล แต่ผู้กุมอำนาจที่แท้จริง ยังคงหนีไม่พ้นเจ้าบ้านอย่าง เย่วั่นเหนียน!
“วั่นเหนียน คุณไม่ได้รักษาตัวที่ต่างประเทศหรือ ทำไมถึงได้กลับมากะทันหัน แถมไม่บอกสักคำ?” เหล่าไท่จวินลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรนราน พร้อมปรี่ตัวเข้าไปประคองชายชรา
เย่วั่นเหนียนกวาดสายตามองสมาชิกทุกคนในตระกูล ก่อนจับจ้องไปที่เหล่าไท่จวินอย่างดุดัน ด้วยความผิดหวัง
“เหอะ ถ้าฉันยังไม่กลับมา ไม่รู้ว่าบ้านนี้จะเละตุ้มเปะแค่ไหน”
เหล่าไท่จวินหน้าชา พร้อมเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “วั่นเหนียน หมายความว่ายังไง?”
เย่วั่นเหนียนตอบกลับประโยค “ได้ข่าวว่าคุณจะให้หยุนซูหย่ากับเซียวหยางอย่างงั้นหรือ?”
เหล่าไท่จวินฉงนไป คิดว่ามีเรื่องใหญ่อะไรกัน ที่แท้เรื่องนี้เองหรือ
“ไม่ผิดหลอก มีเรื่องพันธ์นี้เกิดขึ้นจริง เรื่องเล็กแค่นี้คุณไม่จำเป็นต้องกังวลไป คุณกลับมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เหตุใดต้องลงทุนขนาดนี้?”
แต่ ทุกคนต่างตัวแข็งทื่อ
เย่วั่นเหนียนตบโต๊ะอย่างแรง พร้อมเอ่ยอย่างโมโห “บังอาจสิ้นดี! ก่อนผมไปกำชับว่ายังไง ห้ามไม่ให้หยุนซูหย่าเด็ดขาด หยุนซูและเซียวหยางเหมาะสมกันที่สุดแล้ว!”
เหมาะสม?
สมาชิกของตระกูลเย่ได้ยินประโยค ต่างงงเป็นไก่ตาแตก เซียวหยางก่อเรื่องเลวร้ายแค่ไหน คุณปู่คงยังไม่รับรู้
“คุณปู่ ทำไมต้องเข้าข้างคนนอกด้วย คุณปู่คงยังไม่รู้ ว่าไอ้สารเลวนั่นทำอะไรกับหนู”
“เขาขืนใจหนู เขาเป็นพี่เขยหนูนะ ไอ้สารเลวนั่น หย่าร้างยังถือว่าน้อยไป!”
เย่เสี่ยวหวั่นเอ่ยอย่างโมโห
เย่วั่นเหนียนส่ายหน้าอย่างละอา พร้อมเอ่ยเสียงแข็ง “งี่เง่าสิ้นดี ไม่ทันได้สืบหาความจริง ก็สรุปไปก่อนแล้ว”
“ฉันจะให้พวกเธอดูอะไรบางอย่าง แล้วพวกเธอจะรู้เองว่าเกิดอะไรขึ้น”
เย่วั่นเหนียนสั่งลูกน้องเปิดภาพวงจรปิด
วีดีโอเล่นตั้งแต่ต้นจนจบอย่างรวดเร็ว ทั้งภาพและเสียงชัดเจน
“คุณชายจุน เรียบร้อยแล้ว”
“ถ่ายให้ชัดๆเลยนะ ทุกรายละเอียด โดยเฉพาะเสียงร้องคราง…..”
ในวีดีโอ ปรากฏภาพสนทนาของคนขับรถและเฉิงจุน ส่วนเย่เสี่ยวหวั่นนั้นหมดสติอยู่ที่เบาะหลัง
“ตระกูลเฉิงสมควรตาย ฉันไม่ปล่อยมันเอาไว้แน่” เหล่าไท่จวินกระพริบตาปริบอย่างเสียหน้า
ส่วนเย่เสี่ยวหวั่น เธอกำหมัดด้วยความโกรธจัด และสั่นเทาไปทั่วร่าง เมื่อเห็นภาพที่เฉิงจุนกระชากเสื้อผ้าเธอจนฉีกขาด
ในเวลานี้เองปรากฏชายหนุ่มคนหนึ่งกระโดดเข้ามาทางหน้าต่าง
“เซียวหยาง!”
เย่เสี่ยวหวั่นและเย่หยุนซูต่างตกตะลึงไปตามๆกัน
ไม่คิดเลยว่าเซียวหยางจะประกฎกายด้วยบทบาทเช่นนี้ เธอตกตะลึงมากกว่าเก่า เมื่อได้เห็นเซียวหยางจัดการเฉิงจุนจนหมดสภาพ
ส่วนเย่เสี่ยวหวั่นภายในคลิปวิดีโอ เธอแดงก่ำไปทั่วร่าง มือไม้ลูบไล้ไปมาบนร่างของเซียวหยางอย่างซุกซน
ผ่านไปสักพัก ไม่รู้ว่าเซียวหยางทำอะไร เย่เสี่ยวหวั่นถึงได้สงบลง ในเวลานี้เองเธอลืมตาตื่นขึ้น พลันเห็นเซียวหยางตรงหน้า ส่วนเซียวหยางนั้นไม่ทันได้สังเกตเห็น
ท้ายที่สุด ทุกคนต่างเห็นเป็นตาเดียว เซียวหยางอุ้มร่างที่หลับลึกของเย่เสี่ยวหวั่นขึ้น
ทุกคนต่างนิ่งอึ้งพูดไม่ออก โดยเฉพาะเย่เสี่ยวหวั่น
เธอไม่คาดคิดเลยว่า เซียวหยางกลับช่วยตนเอาไว้
เขาเป็นคนดี เป็นฮีโร่!
ส่วนเธอกลับโยนความให้เขาที่ห้องโถงเมื่อครู่ เธอเสียใจนัก เหตุใดถึงได้ป่าวประกาศเรื่องพันธ์นี้ออกไป โดยไร้หลักฐาน
เวลานี้ เย่หยุนซูน้ำตาเอ่อนองไปทั่วหน้า เธอยังจำสายตาคู่นั้นที่จับจ้องเธอก่อนที่เขาจะจากไปได้ดี
เขาต้องเกลียดตนมากเป็นแน่ ไม่แยกแยะขาวดำ ฟาดเขาไปเต็มแรง
“ตอนนี้พวกเธอยังมีอะไรอยากจะพูดอีกไหม?”
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ที่ฉันไม่อยู่หลายปีมานี้ พวกเธอทำอะไรกับเซียวหยางบ้าง!”
“โดยเฉพาะคุณ ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องเข้าไปยุ่งกับครอบครัวหยุนซู แต่คุณไม่เชื่อผมเลย”
ต่อหน้าลูกหลานตระกูลเย่ หญิงชราถูกต่อว่า เธอรู้สึกขายหน้านัก “แล้วยังไง ครั้งนี้เราเข้าใจเขาผิด แต่หลายปีที่ผ่านมา เซียวหยางไม่เอาการเอางาน เกาะหยุนซูไปวันๆ พวกเขาไม่เหมาะสมกันเลยแม้แต่น้อย!”
เย่วั่นเหนียนถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เธอจะไปรู้อะไร บางเรื่องผมพูดอะไรมากไม่ได้ ช่างเถอะ ผมจะไปพูดกับเซียวหยางเอง จากนี้ไป ห้ามใครพูดเรื่องนี้อีก”
ทุกคนต่างยืนนิ่งไม่กล้าปริปาก คำสั่งท่านถือเป็นเด็ดขาด ไม่มีใครกล้าขัดขืน
…..
ฝั่งแม่น้ำของเมืองหยินโจว สายลมพัดผ่าน เซียวหยางยืนบนชายฝั่ง ชื่นชมทิวทัศน์ด้วยสายตาที่ยากที่จะคาดเดา
“ท่านปู่ กลับมาคราวนี้ น่าจะแจ้งให้ผมทราบก่อน”
เย่วั่นเหนียนส่ายหน้าอย่างละอา “คิงดราก้อน ผมต้องขออภัยแทนตระกูลเย่ด้วย หวังว่าคุณจะไม่ถือสาเอาความ”
“ระหว่างเรา ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันหลอก”
เย่วั่นเหนียนจับจ้องชายตรงหน้าด้วยความซาบซึ้ง เซียวหยางเป็นถึงคิงดราก้อนแห่งสำนักดราก้อน เพียงแค่ตระกูลเล็กๆอย่างตระกูลเย่
จัดการตระกูลเย่ง่ายดายราวบี้มดตัวหนึ่ง ช่างน่าขันที่ภรรยาตนดูหมิ่นเซียวหยาง
“อาการป่วยของท่านคงดีขึ้นมากแล้ว”
“หากไม่ใช่เพราะท่านคิงดราก้อนยื่นมือเข้าช่วย ร่างกายที่เหี่ยวแห้งนี้คงไม่รอด”
“ใช่แล้ว ผมมีข่าวจะมาบอกคุณ” เย่วั่นเหนียนเคร่งขรึมขึ้นมา ที่เอ่ยประโยค
“สายรายงานว่า มีคนคิดไม่สื่อต่อหยุนซู”
ได้ยินประโยค สีหน้าเรียบเฉยของเซียวหยางในคราแรก เกิดประกายราวนักฆ่า
“เพราะp-oneหรือเปล่า?”
บริษัทคิดค้นยาของหยุนซู ได้ทำการพัฒนาสารพิเศษที่ผ่านการสังเคราะห์ด้วยกล้องจุลทรรศน์ มีชื่อว่าp-one
เพราะเหตุนี้ บริษัทของเย่หยุนซูกลายเป็นบริษัทที่มาแรงที่สุดในเมืองหยินโจว ที่มีมูลค่ากว่าพันห้าร้อยล้าน
สรรพคุณที่ดีที่สุดของP-one คือมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นประสาทสูง ที่สามารถฟื้นฟูเซลล์ประสาทที่ตายแล้วให้กลับมาทำงานได้ใหม่อีกครั้ง
ซึ่งสามารถรักษาอาการสมองตาย อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
หากแต่ เย่หยุนซูไม่รู้เลย เพียงแค่ปรับเปลี่ยนp-oneนิดๆหน่อยๆ ก็สามารถกลายเป็นยาพิษได้แล้ว
เมื่อเซียวหยางได้เห็นเย่หยุนซูอภิปรายลงในวารสารทางวิทยาศาสตร์ เขาก็รู้ได้ทันที
ดูท่า สิ่งที่จะเกิดยังไงก็ต้องเกิดสินะ
“เซียวหยางแรงดึงดูดของp-oneสูงเกินไป บริษัทหยุนซูถูกโลกที่มืดมนทางด้านตะวันตกจับตาแล้ว ผมกลัวว่าหยุนซูจะตกอยู่ในอันตราย ผมหวังว่าคุณจะไม่ถือสาหยุนซูที่ไม่รู้ความ หวังว่าคุณยังจะอยู่กับเธอต่อไป”
เซียวหยางส่ายหน้า ก่อนเอ่ย “สบายใจเถอะ ผมไม่ยอมให้หยุนซูเกิดเรื่องขึ้นหลอก”
ยังไงซะเขาใช้ชีวิตอยู่กับเย่หยุนซูมาสามปี หากบอกว่า สามปีมานี้เขาอยู่กับเธอเพื่อตอบแทนคุณ แต่สามปีให้หลัง เขาได้ตกหลุมรักหญิงสาวเข้าอย่างจัง
ได้ยินประโยค เย่วั่นเหนียนถึงได้วางใจ ก่อนเดินขึ้นรถจากไป
หลังเย่วั่นเหนียนจากไป สายตาของเซียวหยางเย็นชาขึ้นมาอีกครั้ง
“ดูท่าอ่อนข้อสามปี ตัวอะไรต่อมิอะไรถึงได้กล้าออกมาเพ่นพ่าน”
“กล้าแตะต้องผู้หญิงของเซียวหยาง อยากรู้จริงๆ บนบ่าพวกแกมีกี่หัวกัน!”