เมื่อพี่เฟยโบกมือ พวกหนุ่มเลวพวกนั้นก็ตะโกนพุ่งเข้าใส่หลี่โม่เพื่อลงมือ
พี่ใหญ่ออกคำสั่งแล้ว ก็ต้องแสดงออกให้ดีสิ อีกอย่างถ้าจัดการหลี่โม่แล้ว สาวงามข้างกายหลี่โม่ก็หนีไม่พ้นแล้ว ไอ้พวกหนุ่มเลวพวกนั้นเดิมทีก็มีความคิดที่ต้องการเฉินเสี่ยวถงอยู่แล้ว
เมื่อเห็นว่าที่บาร์มีการลงไม้ลงมือกัน มีผู้คนไม่น้อยที่หันมามองดู พี่หลันจุดบุหรี่ม้วนหนึ่ง นั่งอิงอยู่ที่โซฟา และมองดูเงียบๆ
เฉินเสี่ยวถงกรีดร้องทีหนึ่ง แกล้งทำเป็นว่าตกใจแล้วหลบซ่อนอยู่ด้านหลังหลี่โม่ ร่างกายท่อนบนที่นูนโค้ง แนบชิดติดกับแผ่นหลังของหลี่โม่
หลี่โม่เผชิญหน้ากับหมัดหลายมือที่เหวี่ยงเข้ามาด้วยสีหน้านิ่งเฉย แล้วค่อยๆยื่นแขนออก ก็ไม่เห็นว่าหลี่โม่ทำอะไรมาก แต่ที่ตามมาก็คือเสียงร้องครวญคราง
ไอ้พวกหนุ่มเลวแต่ละคนกุมท้องตัวเอง ล้มลงนั่งกับพื้น
“อึก! พี่ฮั่ว ไอ้นี่มันจัดการยาก พวกผมสู้ไม่ไหวครับ”
“เจ็บ! เจ็บท้องชิบหายเลย ไอ้หนุ่มนี่ออกแรงหนักเกินไปแล้ว”
ทุกคนล้วนดูการกระทำของหลี่โม่ไม่ทัน
แต่ว่า ก็เพราะว่าทุกคนดูไม่ทัน ถึงได้ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเก่งกาจ
พวกผู้คนที่มุงดูตามดูอย่างไม่สนใจว่าเรื่องจะใหญ่โตมั้ย ต่างก็ปรบมือดังขึ้น มีคนปบมือตะโกนส่งเสียง มีคนส่งเสียงเป่าปาก และก็มีคนตะโกนบอกให้สู้กันต่อ
การต่อสู้กันในไนต์คลับมีเป็นเรื่องปกติ ยิ่งเรื่องใหญ่มากเท่าไหร่ พวกคนดูถึงจะยิ่งรู้สึกสนุกสะใจมาเท่านั้น
สายตาขอพี่หลันเปลี่ยนเป็นส่องประกาย สายตาที่มองหลี่โม่ก็กลายเป็นโหดเหี้ยม เหมือนกับว่าทนรอไม่ไหวแล้วที่จะถอดแล้วจับหลี่โม่กดลงกับเตียง
เด็กนักเรียนในมุมหนึ่งที่แต่งตัวเป็นสาวสวยเองก็กำลังมองดูหลี่โม่แล้วซุบซิบกัน
เฉินเสี่ยวถงกอดอยู่ด้านหลังของหลี่โม่ พูดกระซิบว่า “นายจงใจมาอวดเก่งใช่มั้ย ฉันเห็นผู้หญิงแก่และสาวน้อยหลายคน มองนายด้วยสายตาที่ส่องประกายเต็มไปหมดแล้ว”
“อย่าหาเรื่องน่า ออกมาก็เพื่อทำธุระ” หลี่โม่จะไม่เข้าใจได้ยังไงว่าเฉินเสี่ยวถงกำลังหึงอยู่
พี่ฮั่วและพี่เฟยมองตากันทีหนึ่ง ต่างก็รู้สึกว่าหลี่โม่ฝีมือไม่ธรรมดา จึงไม่กล้าแข็งข้อกับหลี่โม่
“นายเป็นคนของกลุ่มไหน บอกชื่อสักหน่อยได้มั้ย? ที่นี่เป็นถิ่นของลุงไห่”
“ของคนกลุ่มไหน? ฉันน่าจะเป็นกลุ่มคนดีละมั้ง รีบไปเรียกหยางเฉียนจิ้นลงมา” หลี่โม่พูดด้วยสีหน้าเย็นชา
พี่ฮั่วและพี่เฟยต่างก็นิ่งไป คนดี? มึงแม่งอ่านนิยายการต่อสู้เยอะไปแล้วมั้ง
“ในเมื่อให้เกียรติแล้วนายไม่รับ ก็อย่าว่าพวกเราไม่เกรงใจละ” พี่ฮั่วจับไปที่เอว จากนั้นก็มีแสงประกาย มีดพกก็ปรากฏอยู่ในมือ
พี่เฟยล้วงเอามีดโยนออกมาจากกระเป๋ากางเกง กระตุกมือที่หนึ่ง ก็มีแสงของใบมีดส่องประกายออกมา
ไอ้พวกหนุ่มเลวเห็นว่าพี่ใหญ่ทั้งสองคนเอามีดออกมา ใบหน้าก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้น
“พี่ฮั่วและพี่เฟยออกตัวเอง ไอ้หนุ่มนี่ตายแน่นอน”
“ตาย? งั้นก็ง่ายสำหรับมันเกินไปแล้ว ต้องให้มันได้ลิ้มรสของความเจ็บปวดทรมานก่อนถึงจะถูก”
ลูกค้ารอบด้านลุกขึ้นมองไม่น้อย สายตาต่างก็มองไปที่ตัวหลี่โม่
กลุ่มคนที่เต้นอยู่ที่ฟลอร์ ก็มีคนไม่น้อยหยุดเต้น แล้วจับกลุ่มกันมองดูอยู่ที่ไม่ไกลจากบาร์
“ลงมือสิ รีบลงมือ มีคนรอดูไม่น้อยนะ”
“เหอะ ถึงกับใช้มีดแล้ว นี่มันยากเลยนะ ที่อิมพีเรียลนี้ไม่ได้เห็นใช้มีดมานานมากแล้วนะ”
พี่ฮั่วและพี่เฟยสูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากที่ทั้งสองมองตากันแล้ว ก็ลงมือพร้อมกันอย่างรู้ใจ
มีดพกเล็งไปที่ลำคอของหลี่โม่ มีดโยนพุ่งไปใส่ตรงหัวใจของหลี่โม่
แขนซ้ายของทั้งสองคนเองก็เหวี่ยงออกพร้อมกัน ต่อไปที่ปอดและหน้าท้องล่างของหลี่โม่
การร่วมมือของทั้งสองฝึกฝนมาแล้วหลายปี การต่อสู้ที่ผ่านมา แทบไม่เคยพบเจอคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อเลย
หลี่โม่มองทั้งสองคนอย่างเย็นชา แขนทั้งสองข้างปล่อยพุ่งออกไปดั่งมังกร มีความเร็วมากถึงขั้นมีภาพติดตา แล้วนำหน้าต่อยเข้าไปโดนพี่ฮั่วกับพี่เฟยก่อน
ปึก! ปึก!
หลังจากเสียงดังสองครั้ง พี่ฮั่วและพี่เฟยก็กระเด็นลอยไปยังกลุ่มผู้คนที่มุงดู มีคนดูบางคนถูกทั้งสองคนกระแทกล้มไปด้วย สถานการณ์มีความวุ่นวายขึ้นในทันที
“เหี้ย สองพี่ใหญ่ของอิมพีเรียลที่สะท้านถิ่นกลับถูกตีล้มในทีเดียว ไอ้หนุ่มนี่มันคือใครเนี่ย”
“แล้วแม่งยังถูกตีล้มด้วยมือเปล่าด้วย นี่แม่งก็เก่งเกินไปแล้วมั้ง”
“เมืองฮ่านมีคนแกร่งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน คงเป็นลูกน้องของพี่ใหญ่ต่างเมืองที่ถูกส่งมาละมั้ง คงเตรียมจะทำลายล้างพวกมีอำนาจของเมืองฮ่านแน่เลย”
ผู้คนต่างก็ออกความเห็น พี่หลันส่งสายตาที่สวยงามออกไป แววตาที่มองไปยังหลี่โม่เองก็เปลี่ยนไป”
พี่ฮั่วและพี่เฟยกุมหน้าอกแล้วลุกขึ้นยืน เพิ่งลุกขึ้นได้ครึ่งตัว ก็รู้สึกจุกลำคอ แล้วก็อ้าปากพ่นเลือดออกมา
พรู่!
เลือดพ่นออกจากปาก สีหน้าของพี่ฮั่วและพี่เฟยเปลี่ยนเป็นแย่มากในทันที ทั้งสองคนเข้าใจดีว่าถูกตีเข้าที่จุดแข็งแล้ว แล้วทั้งสองคนก็ยิ่งเข้าใจดีว่าหลี่โม่มีกำลังพอที่จะเอาชีวิตพวกเขาได้ตลอดเวลา
พี่ฮั่วและพี่เฟยลุกขึ้นยืนได้จากการที่พวกหนุ่มเลวประคองขึ้น แววตาของทั้งสองที่มองไปยังหลี่โม่มีความหวาดกลัวขึ้นมา
การจะอยู่ในวงการได้ก็ต้องใช้การสำนึกคิด พี่ฮั่วและพี่เฟยสามารถสะท้านถิ่นอิมพีเรียลได้ แน่นอนว่าต้องมีการสำนึกคิด
พี่ฮั่วอดทนต่อความเจ็บปวด กุมมือทำความเคารพพูดว่า “น้องชาย ฉันยอมแพ้ ตามกฎแล้ววันนี้ควรจะให้น้องชายทำตามสบาย แต่ว่าลุงไห่อยู่กับประธานหยาง ขอให้น้องชายเห็นใจ ออกจากอิมพีเรียลแล้วค่อยหาเรื่องประธานหยาง”
“ฮึบ!” ผู้คนที่มุงดูสูดหายใจเข้า
ลุงไห่แห่งอิมพีเรียลที่หากินทำอยู่ในวงการทั้งขาวดำ ที่ผ่านมานั้นไม่เคยกลัวใครมาก่อน
ที่ผ่านมาเพียงแค่มีคนกล้ามีเรื่องในอิมพีเรียล นั่นก็มีแค่ผลลัพธ์เดียวคือตีจนตาย
แต่ว่าวันนี้ พี่ฮั่วสะท้านวงการแห่งอิมพีเรียลกลับยอมแพ้ ถ้าหากว่าพูดออกไป จะต้องเป็นข่าวใหญ่แน่นอน
แววตาที่พี่หลันมองไปยังหลี่โม่ยิ่งอยู่ยิ่งส่องประกาย ในแววตามีความตื่นเต้นและคาดหวัง
นักศึกษาสาวพวกนั้น ในตอนที่มองหลี่โม่ ในสายตาก็ยิ่งมีความอยากลิ้มลอง
หลี่โม่ยิ้มเยาะมองไปยังพี่ฮั่ว “เห็นแก่ที่นายสำลักเลือด ก็จะไม่กดดันนายละกัน”
ในใจพี่ฮั่วถึงกับสบายใจไปเปลาะหนึ่งในทันที เพราะกลัวว่าหลี่โม่จะไม่ยอมจบ ตามฝีมือของหลี่โม่แล้ว พี่ฮั่วนั้นไม่มีความกล้าพอที่จะห้ามแล้ว
“ขอบใจมากน้องชาย ต่อไปถ้าหากว่านายมาที่อิมพีเรียลฉันจะให้นายครึ่งราคาตลอดเลย” พี่ฮั่นตบหน้าอก ใบหน้าเต็มไปด้วยสีหน้าความขอบคุณ
แต่ว่า ยังไม่ทันรอให้พี่ฮั่วดีใจได้สักพัก เสียงของหลี่โม่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ครึ่งราคาก็คงไม่จำเป็นแล้ว ขอเพียงแค่นายไปเรียกหยางเฉียนจิ้นมาเจอฉันในตอนนี้ก็พอแล้ว”
พี่เฟยรีบพูดขึ้น “น้องชาย บอกสถานการณ์กับนายไปแล้ว ลุงไห่ของพวกเรากำลังคุยธุระกับประธานหยาง ไม่สะดวกจริงๆ”
“ฮืม? เขาไม่สะดวก แล้วฉันสะดวกงั้นหรอ? ลุงไห่ของพวกนายก็เรียกลงมาด้วยก็ได้ ฉันไม่ว่าที่จะเจอกับคนเพิ่มอีกคน” หลี่โม่พูดอย่างเป็นใหญ่
แต่ผู้คนมุงดุกลับรู้สึกหวาดเสียวกัน คิดในใจว่าคนนี้มีเบื้องหลังอะไรกันแน่ ถึงได้กล้าไม่เคารพลุงไห่แบบนี้?
ในเมืองอ่านนั้นไม่มีเรื่องที่ลุงไห่จัดการไม่ได้ สูงถึงราชการระดับสูง ต่ำถึงผู้คนระดับต่างๆ เมื่อพบเจอลุงไห่ยังต้องทำความเคารพอย่างนับถือ
“คนนี้เป็นใครกันแน่? หรือว่าจะเป็นคนแกร่งต่างถิ่นจริงๆ?”
“ฉันดูท่าทางนี้แล้ว เหมือนว่าการมาหาประธานหยางนั้นจะล้อเล่น แต่มาหาเรื่องลุงไห่นั้นน่าจะจริงมากกว่านะ”