ถึงโซกังจะไม่ได้ต้องการรู้สึกด้วยตนเอง แต่ยอดถันทั้งสองข้างก็ชูชันขึ้นราวกับร้องขอการรังแก
อีกทั้งร่างกายยังขึ้นสีแดงจัด ส่วนหัวของส่วนอ่อนไหวผงกชันขึ้นทีละนิดระหว่างเส้นขนนุ่มลื่นคล้ายกำลังขลาดเขิน สองมือถูกมัดรวบ กระทั่งดวงตาก็ถูกปิด ส่งผลให้ท่าทางยั่วยวนมากเสียจนเหมือนไม่ได้มีอยู่จริงบนโลก
“มะ…ไม่รู้…พ่ะย่ะค่ะ”
“เช่นนั้นลองสัมผัสความรู้สึกอีกคราสิ”
ทันทีที่ถ้อยคำของจาฮอนจบลง ปลายพู่กันจึงสัมผัสลงบนผิวกายอีกครา ทว่ามันกลับแตะลงบริเวณเหนือยอดอกจนร่างกายบอบบางสะท้านเฮือกโดยไม่ตั้งใจ
“ฮื้อ!”
ตัวขนให้สัมผัสอ่อนนุ่มคล้ายกับพู่กันด้ามก่อน แต่ว่ามันเป็นคนละด้าม แน่นอนว่าโซกังไม่มีสติมากพอจะรับรู้ถึงความแตกต่างของสัมผัส พู่กันไล้วนรอบฐานอก สัมผัสผ่านเหนือยอดอกซ้ำๆ เพียงแค่อดกลั้นเสียงครางก็เกินกำลังแล้ว
ขยับวาดผ่านแผ่นอก เคลื่อนสัมผัสเป็นแนวเส้นขวางไปสู่ด้านตรงข้าม โซกังขบกัดริมฝีปากแน่นขึ้น แต่นิ้วของจาฮอนก็ลูบไล้ลงบนริมฝีปาก
“อย่ากัดสิ ประเดี๋ยวเลือดจะออก”
“อ๊ะ! อึก พู่กันมัน… อื้อ”
“จะไม่บอกว่าจะเขียนที่ใด ทายให้ถูกก็จบแล้ว”
“ตะ แต่ตรงไหน…อ๊ะ!”
ทันทีที่ปลดปล่อยสิ่งที่พยายามปิดกลั้น เสียงครวญครางก็หลุดออกจากปากโซกังอยู่เรื่อย ส่วนพู่กันก็เริ่มขยับไล้กระดูกซี่โครงทีละส่วน ร่างบางบิดสะโพกเร่าและพยายามหุบเรียวขาที่คอยแต่จะกางออก สุดท้ายส่วนล่างก็ถูกกระตุ้นจนเครียดเกร็ง ช่องทางด้านหลังขมิบถี่ แม้จะเป็นร่างกายของตนเองแต่กลับไม่สามารถควบคุมได้เลย
เมื่อพู่กันเคลื่อนผ่านสีข้าง ศีรษะของโซกังก็พลันสะบัดเชิดขึ้น กระทั่งมันเคลื่อนลงอย่างอ่อนโยน ไล้ผ่านกล้ามเนื้อปรากฏชัดและเริ่มเคลื่อนกลับไปมาที่ท้องน้อย
“อา หยุด… อื้อ จาฮอนหยุด…ฮึก!”
ปลายแกนกายผงกส่วนหัวแข็งขืนอยู่เรื่อยๆ ตอนนี้อีกฝ่ายคล้ายไม่มีความคิดจะเขียนตัวอักษรแล้ว และตนก็ไม่หลงเหลือสติจะทายชนิดจากสัมผัสของมันแล้วเช่นกัน โซกังพยายามเค้นสตินึกถึงชนิดของพู่กันอ่อนนุ่มก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหอบหายใจ
“เป็นพู่ พู่กันขนแพะพ่ะย่ะค่ะ!”
“ช่างมีฝีมือในการคาดเดายิ่งนัก ถูกต้อง คราวนี้เป็นด้ามสุดท้ายแล้ว”
เขาสูดหายใจอย่างหนักหน่วงขณะพยายามบังคับร่างกายร้อนรุ่มให้สงบลง ทว่าจาฮอนกลับไม่ปล่อยให้เป็นเช่นนั้น หลอกล่อให้ตื่นตัวจนถึงส่วนปลายด้วยพู่กัน ส่งผลให้เจ้าของร่างกายกระสับกระส่ายตกสู่ห้วงแห่งความลุ่มหลง
นำพู่กันด้ามสุดท้ายทำให้เปียกชุ่มด้วยน้ำ จากนั้นก็กางขาเรียวออกและขยับเคลื่อนตรงระหว่างช่องทางด้านหลัง พู่กันอ่อนนุ่มสัมผัสส่วนผิวเนื้อบาง
“จาฮอน อย่าทำ…ฮื้อ!”
แม้จาฮอนจะไม่ได้จับอ้ากว้างมากนัก แต่เรียวขาของโซกังอ้ากว้างเองอย่างรู้งาน ทันทีที่ขนอ่อนนุ่มสัมผัสช่องทางด้านหลัง สะโพกอิ่มก็บิดเร่า ร่างสูงขยับปลายพู่กันแตะสัมผัสส่วนถุงน้ำกลมกลึง ความอ่อนนุ่มไล้ผ่านคล้ายกำลังถูกไล้เลีย
ในที่สุดความร้อนรุ่มก็ทำให้เสียงครางเกินต้านทานดังออกมาจากปากของโซกังอย่างต่อเนื่อง
แกนกายของจาฮอนเองก็ตื่นตัวจนแทบระเบิด แต่กลับขยับพู่กันขึ้นด้านบนไล้ส่วนอ่อนไหวของโซกัง จนของเหลวหนืดข้นเอ่อล้นจากส่วนปลายแปดเปื้อนขนพู่กัน ปลุกปั่นท่อนเนื้อชโลมด้วยของเหลว ก่อนจะขยับขึ้นลงหลายครั้ง ถูไถพู่กันไล้รูดส่วนหัวป้านและเบียดบี้ส่วนปลาย ขณะนั้นแผ่นหลังของโซกังโก่งโค้งขึ้นดั่งคันศร
“อ๊า!! อื้อ!”
หยาดของเหลวฉีดพ่นจากแกนกายจนเปียกชุ่มพู่กันที่ทาบทับอยู่บนนั้น จาฮอนหัวเราะแผ่วเบาพลางขยับมืออีกข้างสัมผัสช่องทางคับแคบและเอ่ยกระซิบ
“เปียกไปหมดแล้ว”
“อะไรกัน อา เหตุใด…”
“พู่กันน่ะ เปื้อนน้ำของเจ้าหมดแล้ว”
“อา”
โซกังไม่เพียงหน้าแดง แม้กระทั่งร่างกายก็ยังแดงจัด จาฮอนหัวเราะและขยับพู่กันไปยังช่องทางด้านหลังอีกครั้ง
“ไม่มีอันใดน่าอาย ข้าจะช่วยให้เจ้าเปียกทั้งข้างนอกข้างในเลย”
“อึก! ไม่ได้นะ! อา อ๊าา!”
ทันทีที่พู่กันชุ่มชื้นและอ่อนนุ่มหยอกเย้าช่องทาง โซกังก็บิดสะโพกและเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะหวีดร้องออกมา เขาขยับพู่กันแปดเปื้อนอย่างไม่หยุดพักจนกระทั่งช่องทางรักเปียกชุ่มขมิบถี่ ยามนี้มันบีบรัดและขึ้นสีดอกท้อราวกับกำลังเขินอาย ทั้งยังเปิดอ้าออกเล็กน้อย คล้ายบอกว่าเตรียมพร้อมรองรับตัวตนอีกฝ่ายแล้ว
จาฮอนโยนพู่กันทิ้งไปด้านข้าง แล้วส่งแกนกายของตนเองเข้าสู่ช่องทางภายในคราวเดียว
“อึก!!”
เสียงร้องอย่างตื่นตระหนกเล็ดลอดออกมาจากปากโซกัง ทันทีที่อีกคนรุกรานเข้ามา ส่วนอ่อนไหวก็กระตุกเกร็งราวกับจะปลดปล่อยหยาดวสันต์ออกมาในทันใด จาฮอนคลายผ้ามัดมือทั้งสองออกให้ รวมถึงกระชากผ้าปิดตาออกด้วย จากนั้นก็เอ่ยถามคนหอบหายใจอย่างหนักด้วยน้ำเสียงกระด้าง
“แล้วพู่กันอันสุดท้ายเป็นชนิดใด”
“อ๊ะ อา พู่กันขนเตียว…ชะ ฮือ ใช่หรือไม่”
“ถูกต้อง”
ร่างสูงดึงตัวคนรักเข้ามากอดพร้อมเอ่ยตอบรับ จนตนเองเอนหงายลงทางด้านหลังและร่างบางขึ้นมานั่งทาบทับบนตัว ยามนี้โซกังจึงอยู่ในตำแหน่งผู้ควบคุม จาฮอนดึงรั้งท่อนขาเรียวเมื่อฝ่าเท้าเหยียบบนแท่นบรรทม แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเปี่ยมความปรารถนา
“เจ้าเป็นฝ่ายชนะ เช่นนี้แล้วก็โปรดเมตตาข้าด้วย ข้ายอมอดทนอยู่นานจนปวดไปหมด”
โซกังหอบหายใจแรงพร้อมกับแตะมือลงบนแผ่นอกแกร่ง ก่อนจะพับเรียวขาตั้งชันให้เข่ากลับลงมาแนบสัมผัสแท่นบรรทม จากนั้นก็ค่อยๆ ขยับโยกสะโพกพลางเอ่ยกระซิบ ด้วยสีหน้าโอหังราวกับตั้งใจยั่วยวนไม่หยุด
“แล้วผู้ใดที่เอาแต่กลั่นแกล้งกันเช่นนั้นเล่า กระหม่อมเองก็จะลองแกล้งฝ่าบาทให้นานขึ้นสักหน่อย”
“นั่นมัน…อึก!”
ก่อนจาฮอนจะทักท้วงจบ ช่องทางรักก็บีบรัดและบีบเคล้นโคนแกนกายภายใน ผนังกระตุกรัดซ้ำและดูดกลืน ความกระสันซ่านทำให้เจ้าตัวต้องคำรามร้องพร้อมขมวดคิ้วมุ่น
โซกังขยับโยกสะโพกอย่างเนิบนาบ ซ้ำยังออกแรงเกร็งบั้นท้ายให้ช่องทางของตนสลับรัดคลาย บีบรัดจนถึงขีดสุดแล้วคลายออก จาฮอนเสียวซ่านจนไม่สามารถจะกล่าวอะไรได้ ทว่าเขาก็ยกสะโพกขึ้นจนโซกังต้องกดแผ่นอกเอาไว้
“ห้ามขยับพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเป็นผู้ชนะพนันมิใช่หรือ วันนี้กระหม่อมจะขอทำตามใจตนเอง”
พูดจบก็โอบกอดตัวตนของอีกฝ่าย และขยับสะโพกอย่างนุ่มนวลราวกับบดเบียดช่วงล่างให้ทลาย ช่องทางบีบรัดแล้วผ่อนคลายซ้ำไปเรื่อยๆ หากจาฮอนจะแตะมือบนกายก็จะเหลือบมอง หากคิดจะยกสะโพกสวน ก็จะค่อยๆ กดลงบนแผ่นอกหรือตีเบาๆ เป็นการตักเตือน
ภายในอบอุ่นและคับแคบทำให้ส่วนกลางกายของจาฮอนกักตุนความต้องการเต็มเปี่ยม เพียงไม่กี่ครั้ง… อีกเพียงไม่กี่ครั้งก็จะสามารถไปถึงจุดหมายได้แล้ว ทว่าโซกังกลับไม่ยินยอม สุดท้ายจึงไม่อาจไปถึงฝั่ง เมื่อความต้องการไปไม่ถึงก็ส่งผลให้เขาแทบคลั่ง ขณะเดียวกันโซกังก็ชักรูดแกนกายของตนเองจนกระทั่งปลดปล่อยบนหน้าท้องแน่น และนั่นทำให้ผนังด้านในตอดรัดแกนกายอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น ในที่สุดจาฮอนก็ต้องยอมยกมือทั้งสองข้าง
“โซกัง อย่าทำเช่นนั้นเลย แรงกว่านี้ ขยับแรงๆ”
“ไม่เอาพ่ะย่ะค่ะ ทรงกล่าวว่าเป็นของขวัญ แต่กลับทำเช่นนั้น พู่กันจะไม่พังหมดหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ”
ร่างบางบ่นออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ ทั้งๆ ที่หน้าขึ้นสีแดงซ่านด้วยความตื่นเต้น จาฮอนยื่นมือไปทางใบหน้าหวาน เจ้าตัวก็ยอมขยับแก้มลงมาให้สัมผัสมือใหญ่
“เพราะเจ้างดงามยิ่ง ข้าจึงเผลอหยอกเย้าแรงเกินอยู่เรื่อย พู่กันนั่นข้าจะสั่งทำให้อีก”
เมื่ออีกฝ่ายแสดงท่าทียอมจำนนให้เห็น โซกังจึงยอมขยับกายโยกขึ้นลงอยู่ด้านบนราวกับกำลังควบขี่ม้า และหลังจากภายในกายได้รับหยาดน้ำรักเติมเต็ม เขาก็ทรุดแนบตัวกับคนรักพร้อมหอบหายใจแรง
ทั้งสองอิงแอบแนบชิดเช่นนั้นอยู่ชั่วครู่จนสามารถควบคุมการหายใจได้ จึงเปลี่ยนมานอนหนุนแขนของกันและกันดั่งเช่นปกติ
จากนั้นจาฮอนก็พึมพำออกมาทั้งๆ ที่ยังกอดโซกัง
“ว่าแต่พู่กันนั่นดีถึงเพียงนั้นเชียวหรือ เหตุใดเจ้าจึงเสร็จสมเร็วกว่ายามข้าทำให้เล่า”
“ทรงว่าอย่างนั้นหรือ หากทรงสงสัย ก็ลองสัมผัสดูสักครั้งสิพ่ะย่ะค่ะ พู่กันขนเตียวก็พอทำให้รู้สึกดี”
“เจ้าพูดจริงหรือ ข้าต้องหึงหวงพู่กันขนเตียวจริงๆ อย่างนั้นหรือ”
“กระหม่อมหยอกเล่นพ่ะย่ะค่ะ จะให้เปรียบเทียบสิ่งของเช่นพู่กันกับสวามีได้อย่างไรกันพ่ะย่ะค่ะ”
จาฮอนกับโซกังพูดคุยเรื่องราวสนุกสนานเช่นนั้นต่ออีกสักพัก
และหลังจากนั้น ขันทีโชก็ต้องไปแจ้งคำสั่งแก่ช่างทำพู่กันว่าให้อีกฝ่ายทำพู่กันขนเตียวมาเพิ่มอีกสิบแท่ง