โซกังเนื้อตัวสั่นสะท้าน สะโพกยังบิดเร้าไปตามแรงอารมณ์ ด้วยร่างกายถูกทาบทับ ดังนั้นเมื่อขยับเคลื่อนไหว ส่วนล่างจึงบดเบียดกับอีกฝ่าย การเคลื่อนไหวเช่นนั้นของคนสวมอาภรณ์ตัวในเพียงชั้นเดียว จึงยิ่งเป็นการกระตุ้นอันรุนแรงแก่จาฮอนที่อดทนอดกลั้นมาระยะหนึ่งแล้ว
“อ๊ะ! อา อื้อ”
จาฮอนผละริมฝีปากออก ก่อนจะก้มกลืนกินยอดอกสีดอกท้อนูนเด่น ขณะเดียวกันมือข้างหนึ่งก็ค่อยๆ เลื่อนลงต่ำสัมผัสส่วนล่างของโซกัง บริเวณช่องทางที่ปิดสนิทมาเนิ่นนาน ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทาน้ำมันหอม แต่มันกลับเปิดรับเรียวนิ้วของเขาเป็นอย่างดี และเมื่อแทรกผ่านเข้าไปโดยไร้การต่อต้านกลับทำให้จาฮอนรู้สึกไม่ดี
ตัวเขามักจะเป็นผู้นำในการร่วมรักอยู่เสมอ ขณะเดียวกันก็คล้ายว่าแม้จะใช้ชีวิตอย่างอยากลำบากมาเพียงใด ก็ไม่เคยพบการแทรกผ่านอย่างราบรื่นเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าในคราแรก ตนถูกความรู้สึกพาไปจึงทำผิดพลาด แต่หากสัมผัสจุดหนึ่งภายในร่างกายก็จะทำให้รู้สึกดีได้ เช่นนั้นต่อมาต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถร่วมรักกันโดยไม่เจ็บปวด เขาค่อยๆ บอกให้อีกฝ่ายได้เรียนรู้
ยามนี้โซกังตระเตรียมร่างกายเพราะปรารถนาจะร่วมรักกับตัวเขา คงไม่ใช่ว่าถามเอาจากเหล่าขันที แล้วเรียกขันทีจากฝ่ายในมาจัดการหรอกนะ…
ขยายช่องทางออกไว้เช่นนี้ เป็นฝีมือของขันทีฝ่ายพิธีการหรอกหรือ ช่างบังอาจยิ่งนัก
หยุดความคิดเพียงเท่านี้ ก่อนจะผละจากการดูดเลียยอดอกแล้วเงยหน้าขึ้นมองโซกัง
“เหตุใดส่วนนี้จึงอ่อนนุ่มเช่นนี้เล่า”
จาฮอนเอ่ยถามพร้อมกับขยับเรียวนิ้วในตัวอีกฝ่ายแล้วกวาดวนไปทั่ว ทั้งๆ ที่มีสีหน้าเคร่งเครียด
การกระทำนั้นทำให้โซกังขยับโยกสะโพกรับและส่งเสียงคราง ร่างสูงจึงสอดนิ้วเพิ่มเข้าไปอีกหนึ่ง จากนั้นก็ขยับราวกับทำหน้าที่เป็นกรรไกรใช้ตัดเปิดทาง
“อึก ฮือ อ๊ะ…”
“อ่อนนุ่มขนาดพร้อมสอดใส่ทันทีเช่นนี้ เป็นผู้ใดกันที่บังอาจมาแตะต้องส่วนนี้”
“อื้อ ไม่มีผู้ใด…ฮึก จาฮอน อ๊ะ…!”
นิ้วเรียวสอดลึกเข้าไปภายในกาย กดสัมผัสตรงส่วนอ่อนไหวลึกจนสุด สะโพกอิ่มบิดเร้าตามทันใด ทั้งเสียงครางที่ดังก้อง ก่อนจะดึงกระชากมือลงมาทั้งๆ ที่ยังกางนิ้วกว้าง เมื่อนิ้วมือกางค้างอยู่หลุดออกมา ช่องทางก็ขยายเต็มที่ เมื่อความแน่นกระจุกรวมตัวอยู่บริเวณส่วนล่าง โซกังก็บิดร่อนสะโพกไม่หยุด
กล่าวเช่นนี้ก็ดูจะประหลาด แต่จาฮอนมองสบตาและแสดงออกด้วยความดื้อรั้น ด้วยก่อนหน้านี้เป็นความหวานล้ำดั่งขบกัดขนมยักกวา แล้วเพราะเหตุใดภายในชั่วพริบตาจึงแสดงความดื้อรั้นออกมาแทน
“จาฮอน ใยถึงต้องมีโทสะเช่นนี้”
โซกังจงใจใช้คำพูดเฉกเช่นสามัญชน แม้จะเพิ่งกระทำเป็นหนที่สอง ทว่าก็เพราะนึกได้ว่าหากใช้คำพูดเช่นนี้ อีกฝ่ายจะชื่นชอบเป็นอย่างมาก และจะชื่นชอบจริงหรือไม่ ก็ดูได้จากที่แก้มขึ้นสีจัด ทั้งยังหลุดเสียงอุทานด้วยความชอบใจอีก
จาฮอนรู้สึกดีเพราะเหมือนตนกลายเป็นเพียงคนสามัญธรรมดา ยามร่างบางกล่าววาจาเช่นนั้น มันให้ความรู้สึกเหมือนว่าเขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจเรื่องทายาท งานราชกิจ หรือการปรับแก้ไขปัญหาของกลุ่มใดๆ ทั้งสิ้น
ในช่วงแรกของการขึ้นครองราชย์ ด้วยการปรับแก้ไขปัญหาของแต่ละกลุ่มเฉกเช่นจักรพรรดิองค์ก่อน แม้ตนไม่คิดจะรับสนมผู้นั้นผู้นี้เลยก็ตามที ทว่าในความเป็นจริงก็ไม่อาจกระทำตามความตั้งใจได้ ตอนนี้จึงมีสนมอยู่ถึงสามนางเช่นนั้น เป็นจักรพรรดิมีอันใดดีกัน กระทั่งการรักใครสักคนตามใจตนดั่งเช่นพวกสามัญชนก็ยังเป็นเรื่องยากนัก
โซกังจ้องมองจาฮอน ก่อนจะเอื้อนเอ่ยด้วยเสียงกระซิบต่อ
“หากไม่บอก ข้าก็ไม่อาจทราบ แต่ข้าไม่ชอบให้ท่านมีโทสะเช่นนี้”
“นั่น… เฮ้อ เจ้าเรียกขันทีฝ่ายในเข้ามาหรือ”
ร่างสูงกระแอมแล้วย้อนถามออกมาอย่างยากลำบาก การเตรียมร่างกายสนมให้พร้อมต่อการร่วมหอกับฝ่าบาท ถือเป็นเรื่องปกติของวังหลวง ทว่าการกล่าวให้ปล่อยวางและอย่ามีโทสะ จึงคล้ายว่าตนกลายเป็นบุรุษจิตใจคับแคบ
หลังจากได้ฟังคำถามของอีกฝ่าย โซกังจึงเข้าใจว่าเหตุใดถึงแสดงท่าทีหงุดหงิดใจเช่นนี้ เป็นถึงจักรพรรดิผู้อยู่เหนือราษฎร ผู้ปกครองและรวบรวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่น แต่กลับหงุดหงิดใจด้วยเรื่องเพียงเท่านี้
โซกังหัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนจะอ้าแขนออกกว้างหันตัวไปทางฝ่าบาท เมื่อไม่อาจแสร้งเอาชนะได้ จาฮอนจึงยอมเข้าสู่อ้อมกอดแต่โดยดี ร่างบางรั้งศีรษะคนตรงหน้าลงมา ให้ริมฝีปากอีกฝ่ายได้ขบเม้มยอดถันของตน ทันทีที่ถูกขบกัดส่วนนั้นอย่างแผ่วเบา เจ้าตัวก็ถึงกับแอ่นตัวขึ้นพร้อมกระซิบไขข้อข้องใจ
“มีเพียงนิ้วมือของข้า ที่ได้เข้าไปในส่วนนั้น อ๊ะ!”
เรียวนิ้วที่ยังคงอ้ากว้างเบิกช่องทางอย่างดื้อรั้นพลันหุบลงแล้วรุกคืบเข้าไปด้านใน ร่างบอบบางกระตุกเฮือกพร้อมอ้าขาออกกว้าง จาฮอนดูดดุนขบเม้มส่วนยอดอกตามความต้องการของอีกฝ่ายอย่างกระหาย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจากแผ่นอก
ยามนี้ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสีแดงจัดที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา นิ้วซนกวาดควานด้านใน ทำการจู่โจมก่อนจะถอยร่นออกจากกายเพื่อปลดเปลื้องอาภรณ์ ทว่ากลับดึงผิดปมมันจึงยิ่งรัดแน่นขึ้น เขาสบถออกมาแผ่วเบาและกระชากมันออกอย่างแรง จนเสียงฉีกขาดดังขึ้นพร้อมกับอาภรณ์หลุดร่วง
จาฮอนก้มตัวลงเปลื้องอาภรณ์ของโซกังออกและเข้ามายืนตรงหว่างขาของร่างบาง นำกระปุกน้ำมันหอมออกมาด้วยใบหน้าแดงจัดเช่นเดิม ทาน้ำมันหอมลงกับแกนกายของตน ตามด้วยช่องทางรักหลังเบิกทางไว้พร้อมแล้ว จากนั้นก็แทรกตัวเข้าเป็นหนึ่งเดียวภายในอึดใจ
“อึก! อ๊า! จาฮอน อ๊ะ!”
“ไม่คิดเลยว่ายอดรักผู้งดงามของข้าจะหอมหวานเช่นนี้”
“อ๊ะ! ฮึก! เร็วไป… ช้าๆ อ๊า!”
จาฮอนยังคงชื่นชมคนรักว่างดงามไม่ขาดปาก ทั้งขยับสะโพกอย่างหนักหน่วงโดยจับยึดข้อเท้าของโซกังเอาไว้ เรียวขาอ้ากว้างออกขณะกลืนกินตน ทั้งยังร้องครางด้วยความกระสันซ่านอันเปี่ยมล้น ช่างน่าเอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งหยาดน้ำสีใสยังไหลเยิ้มจากปลายส่วนอ่อนไหว ตัวสั่นคลอนตามจังหวะของตน เย้ายวนนัก
“อ๊ะ! อา อ๊า!!”
แผ่นหลังของโซกังแอ่นโค้งดั่งคันธนู ปลายเท้าจิกเกร็ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ปลดปล่อย แต่ร่างกายของเจ้าตัวกลับกระตุกเกร็งและหวีดร้องราวกับถึงขีดสุดของห้วงอารมณ์ ขณะเดียวกันเสียงคำรามหนักก็หลุดเล็ดลอดจากปากของจาฮอน ระหว่างโจนจ้วงภายในกายของโซกังด้วยความรวดเร็ว
โซกังคงไม่รู้ตัว แต่ทันทีที่ไปถึงสุดห้วงความกระสัน ช่องทางของเจ้าตัวจะบีบคลายแล้วตอดรัดตัวตนของจาฮอนจนแน่น เป็นจังหวะซํ้าๆ อยู่เช่นนั้น ร่างสูงปล่อยข้อเท้าเรียวออก ก่อนจะยกสะโพกของอีกฝ่ายให้ลอยขึ้นกลางอากาศ ค้ำแขนไว้ข้างศีรษะของโซกัง จากนั้นก็จ้วงส่งส่วนแกนกายสู่ภายในราวกับกดประทับตราจากด้านบน แล้วถอยร่นออกมาจนแทบหลุดออกจากกัน ขยับเข้าออกซ้ำๆ อยู่เช่นนั้น
“อ๊า!!”
หยาดน้ำตาเอ่อคลอหางตาคู่สวยเพราะไม่อาจเอาชนะความเสียวซ่านและค่อยๆ ทยอยรินไหลลงมา เสียงครางที่ไม่ใช่การออดอ้อนดังจากกลีบปากเผยอค้าง ราวกับจะขาดใจทันทียามถูกความปรารถนาถาโถมเข้าใส่ ความสุขสมถึงขีดสุดจู่โจมโซกัง โดยมีจาฮอนจ้วงลึกเสียดสีภายในอย่างแรงอีกครา
“อ๊ะ!!”
“อึก!”
ส่วนอ่อนไหวปลดปล่อยหยาดวสันต์ จาฮอนเองก็ปลดปล่อยน้ำรักเติมเต็มภายใน โซกังสั่นสะท้านไปทั้งตัว ใช้แขนโอบยึดต้นคอแกร่งและค้นหาริมฝีปากของอีกคน เรียวลิ้นเกาะเกี่ยวกันจนเฉอะแฉะ ของเหลวที่ไหลออกจากส่วนเชื่อมติดกัน และจากบริเวณที่เปรอะเปื้อนบนกายบอบบาง มันเลอะเปื้อนไปตามเครื่องนอน
“โซกังของข้า ช่างงดงามนัก”
แกนกายที่แช่อยู่ภายในความอบอุ่นไม่มีทีท่าจะอ่อนกำลังลงเลย จาฮอนเพียงหยุดพักชั่วครู่แล้วเริ่มขยับสะโพกจู่โจมต่อเนื่องอีกครา
ไม่ยอมจบสิ้นลง ไม่ยอมให้การร่วมรักไร้ความหมายกระทั่งฟ้าสาง โซกังสลบแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่ถึงสองหนแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าอีกฝ่ายยังอยู่ภายในกายตน และหลังจากเอ่ยถามว่าคิดจะฆ่ากันหรืออย่างไร ร่างสูงจึงยอมหยุดมอบความรักได้เสียที
ยามจาฮอนถอนตัวตนออก ก็ได้ยินเสียงแจ้งว่าเป็นยามซาดังขึ้นจากด้านนอก
โซกังอ่อนล้าเสียจนไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับปลายนิ้ว ทว่าเขามีเรื่องจะต้องบอกคนตรงหน้า จึงพยายามฝืนสติแล้วเอ่ยปากบอกกล่าว หลังจากจาฮอนรับฟังเรื่องราวทั้งหมดก็พูดคุยสนทนากับโซกังอย่างตึงเครียด และผ่านไปไม่นานก็เข้าไปพูดคุยกับทันยองครู่หนึ่ง
สองสามวันถัดมา ทันยอง มือสังหารจากกลุ่มยาอึมก็ถูกคุมขังในคุกหลวงด้วยข้อหาบุกรุกเข้ามาในวัง ทว่าสองวันให้หลัง อีกฝ่ายก็ได้หลบหนีออกจากคุกหลวงไป
หลังจากเหตุการณ์นั้นก็ไม่ทราบว่าด้วยเหตุอันใด องค์จักรพรรดิถึงไม่เสด็จเยือนตำหนักฮงฮวาอีก สุดท้ายก็มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่ววังหลวงว่าฝ่าบาทหมดความสนใจในตัวสนมชายผู้นี้เสียแล้ว
และไม่นานหลังจากนั้น โซอีมามาแห่งตำหนักฮงฮวาก็ถูกลักพาตัว