“สองคนนั้นที่สู้กับชาวต่างชาติผิวดำคือหลี่ต๋าคางกับมังกรฝ้าใช่ไหม? ให้ตาย ไม่คิดเลยว่าสองคนนี้จะร่วมมือกันได้”
“ตระกูลหลี่กับต้าเซี่ยหลงเช่ว มีความสัมพันธ์ทางด้านยุทธดีต่อกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว พวกเขาจับมือกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ฉันสงสัยประวัติของต่างชาติผิวดำนั่นมากกว่า คนที่ต้องให้หลี่ต๋าคางและมังกรฟ้าจับมือกัน ความสามารถของเขาจะน่าเกรงขามแค่ไหน”
“ชาวต่างชาติผิวขาวคนนั้นก็ไม่ด้อยเลย สามารถต่อสู้กับหงส์แดง เสือขาว เต่าดำสามคนประลองอย่างไม่รู้ผลแพ้ชนะ ความสามารถของเขาอย่างนั้นต้องอยู่สูงสุดของแดนเต๋า”
“ฉันเดาว่าพวกเขาคงจะมุ่งไปที่หินคริสทัลในซากปรักหักพังลึกลับ ตอนแรกฉันคิดว่าฝีมือของฉันก็ไม่ด้อย เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้วห่างไกลมาก ฉันว่าฉันไม่ไปที่ซากปรักหักพังเพื่อเป็นเศษขี้เถ้าดีกว่า เผ่นก่อนดีกว่าๆ ……”
“ฉันก็ด้วย กลับไปฝึกดีกว่า อย่าคิดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่เลย”
……
การต่อสู้ในครั้งนี้ดุเดือดอย่างมาก ในเวลาเดียวกันก็ทำให้นักรบที่อยู่ในระดับกลางละทิ้งความคิดที่จะไปซากปรักหักพังเพื่อชิงหินคริสทัล
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เหล่าผู้คนที่รุมล้อมนับร้อยเหลือเพียงยี่สิบคนเท่านั้น
“ไอ้บ้า! ปล่อยฉันนะ!” ฉินวี่เฟยเห็นว่าเสือดำใช้เธอเป็นโล่กำบังอยู่ตลอด แถมหลี่ต๋าคางและมังกรฟ้ายังได้รับบาดเจ็บเพราะเธอ ภายใต้ความโกรธจึงกัดแขนของเสือดำเข้าอย่างจัง
เธอใช้แรงทั้งหมดที่มี ถึงแม้ความปวดเจ็บเช่นนี้สำหรับเสือดำแล้วจะไม่ระคายผิว แต่ก็เพียงพอที่จะเบี่ยงความสนใจของเขา
ในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีสั้นๆ นี้ หลี่ต๋าคางและมังกรฟ้าก็ได้โอกาส ปล่อยคนละหมัดใส่แขนของเสือดำซ้ายขวา
พริบตาแขนของเสือดำทั้งสองข้างนองเลือดเนื้อฉีก มือที่เขาจับฉินวี่เฟยเองก็คลายออก
เมื่อไร้การควบคุมจากเสือดำ ฉินวี่เฟยร่วงหล่นลงมาจากหลายสิบเมตร เพราะแรงกระแทกอย่างหนัก ทำให้ฉินวี่เฟยหมดสติกับที่
หลี่ต๋าคางคิดที่จะไปช่วยฉินวี่เฟย เสือดำที่อยู่อีกด้านก็ปล่อยพลังอันแรงกล้า ทำให้หลี่ต๋าคางและมังกรฟ้าตัวปลิวออกไปสิบกว่าเมตร
ในตอนนี้คิดที่จะไปช่วยฉินวี่เฟยก็ไม่ทันแล้ว ในขณะที่ทุกคนคิดว่าโศกนาฏกรรมกำลังจะเกิดขึ้นนั้น เงาร่างสีขาวแว็บผ่าน อุ้มฉินวี่เฟยขึ้น ก่อนไปห่างจากสนามที่เกิดเหตุ
“แกเป็นใคร!” หลี่ต๋าคางสีหน้าดุดันจับจ้องที่ชายเสื้อคลุมสีขาวที่อุ้มฉินวี่เฟยเอาไว้ น้ำเสียงเต็มไปด้วยการกล่าวเตือน
ต่างชาติสามคนนี้ยังจัดการไม่เสร็จ ทำไมถึงได้มีชายชุดคลุมสีขาวโผล่เข้ามาได้
“แค่ก วางใจเถอะ ฉันไม่มีจุดประสงค์ร้าย แค่รู้สึกว่าหญิงสาวที่สวยขนาดนี้ ไม่สมควรที่จะถูกลากเข้าไปอยู่ในสนามรบ” ชายเสื้อคลุมสีขาวกระแอมไป กล่าวกับหลี่ต๋าคางด้วยรอยยิ้ม
เมื่อจบประโยคของชายเสื้อคลุมสีขาว ไม่ทันที่หลี่ต๋าคางจะได้ปริปากเสียง ต้นเสียงที่หนักแน่นแล่นเข้าสู่แก้วหูของทุกคน
“ท่านชายป๋ายยู่ ไม่คิดเลยเวลาผ่านไปหลายปีท่านไม่เปลี่ยนไปเลย ไม่เพียงแต่หน้าตาที่ไม่ได้เปลี่ยน แม้แต่ยุทธเองก็ไม่มีความก้าวหน้าด้วย
เมื่อหันกลับไปที่ต้นเสียง ก็ได้พบกับชายวัยกลางคนสวมชุดเขียวคนหนึ่งยืนอยู่กลางอากาศ ตอนนี้เขามีใบหน้าเย้าแหย่จ้องมองท่านชายป๋ายยู่
“อ้าว นักพรตเต้าฝ่าเองหรือ เราไม่ได้เจอกันสามสิบปีแล้วใช่ไหม? เราสองคนนี่ไม่ต่างกันเลยนะ”
เมื่อท่านชายป๋ายยู่ได้ยินประโยคของนักพรตเต้าฝ่าไม่โมโหแม้แต่น้อย พลันหยิบพัดออกมาด้วยรอยยิ้ม เขาเปิดพัดออก กล่าวอย่างเสียดแทง
“แม่งเอ๊ยใครเหมือนกับใครกัน แกมันไอ้หน้าจิ้งจอก ต่อหน้าเป็นสุภาพบุรุษ อันที่จริงก็แค่ชายวิตถารที่บ้ากาม!”
เห็นได้ชัดว่านักพรตเต้าฝ่าเป็นคนใจร้อน เพียงแค่ท่านชายป๋ายยู่เสียดแทงหน่อยก็ตกหลุมพรางเสียแล้ว ชี้หน้าด่ากราดท่านชายป๋ายยู่แล้ว
“โบราณว่าไว้ นงรามงามตรู สมคู่สุชน หญิงสาวที่งดงามขนาดนี้ แกไม่หวั่นไหวหรือไง?”
ท่านชายป๋ายยู่กล่าวพร้อมเอื้อมมือทัดปอยผมบนใบหน้าที่ยุ่งเหยิงของฉินวี่เฟย นักพรตจ้องมองฉินวี่เฟยทั้งเขินอายทั้งโมโห
“ฉัน ชอบของฉันเพียงแค่ชื่นชมเท่านั้น แกคิดว่าเหมือนแกหรือไง ไอ้วิตถารที่น่ารังเกียจ!”
“เหอะ ชอบของแกเพียงแค่ชื่นชมเท่านั้นหรือ ชอบของชอบน่ารังเกียจใช่ไหม? ไอ้หมาจาง แกอย่าสองมาตรฐานขนาดนี้จะได้ไหม?”
ถูกคนอื่นด่าว่าเป็นชายวิตถารอยู่ตลอด ท่านชายป๋ายยู่เองก็ทนไม่ไหวแล้วเช่นเดียวกัน พลันหัวเราะอย่างเย็นชาพร้อมเหยียดหยาม
ชื่อไอ้ไอ้หมาจางเป็นสิ่งที่ต้องห้ามที่สุดของนักพรตเต้าฝ่า ตั้งแต่เขามีชื่อเสียงก็ไม่มีใครกล้าเรียกเขาชื่อนี้อีกเลย วันนี้ท่านชายป๋ายยู่เรียกชื่อนี้ต่อหน้าคนมากมาย เท่ากับตบหน้าของเขาต่อหน้าทุกคนเห็นๆ
“ป๋ายเจินเจิน ฉันจะฆ่าแก!” ฆ่าได้หยามไม่ได้ นักพรตเต้าฝ่าคำรามอย่างโกรธแค้นก่อนเริ่มการโจมตี
“เข้ามาสิ คิดว่าฉันกลัวแกจริงๆ หรือ?” เมื่อได้ยินนักพรตเต้าฝ่าเรียกชื่อจริงของเขา ท่านชายป๋ายยู่เองก็มีน้ำโหขึ้นมาเช่นเดียวกัน
เมื่อสมัยยังหนุ่มท่านชายป๋ายยู่หน้าตาสะสวย แถมยังมีเชื่อเหมือนผู้หญิง ตอนนั้นมีคนมากมายต่างหยอกล้อกลั่นแกล้งเขา
เสียงของนักพรตเต้าฝ่าเหยียบระเบิดของท่านชายป๋ายยู่เข้าเต็มๆ ทำให้ท่านชายป๋ายยู่ฟิวส์ขาดโดยสมบูรณ์
“พวกแกพูดจบหรือยัง? ส่งเธอคืนมาซะ!”
ในขณะที่ท่านชายป๋ายยู่และนักพรตเต้าฝ่ากำลังจะสู้รบกันนั้น เสียงที่ไม่เหมือนกับผู้หญิงและผู้ชายก็ดังขึ้น ก่อนที่ลำแสงสีดำแดงก็มุ่งโจมตีไปที่ท่านชายป๋ายยู่
ท่านชายป๋ายยู่อุ้มฉินวี่เฟยเอาไว้กระโดดไปด้านหลังสามครั้ง ถึงได้หลบพ้นลำแสงนั้นได้
แต่นักรบที่อยู่ข้างเขาไม่โชคดีขนาดนั้น ถูกลำแสงยิงเข้าให้เต็มๆ ทันใดนั้นร่างของนักรบคนนั้นก็เกิดไฟสีดำแดงปะทุ
นักรบหลายคนคิดที่จะเข้าไปช่วยเขา แต่ไฟนั่นน่าประหลาด ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ไม่สามารถดับไฟได้ เพราะงั้นพพวกเขาได้แต่มองดูเขาถูกไฟคลอกตายเป็นเถ้าถ่านต่อหน้าต่อตา
“ให้ตาย นี่มันตัวอะไรกัน!” ท่านชายป๋ายยู่มองดูร่างที่เต็มไปด้วยเกล็ดสีดำที่อยู่ไม่ไกล บนหัวมีเขายาว ดวงตาเป็นไฟ สัตว์ประหลาดที่มีเขี้ยวยาวคำรามลั่น
เหล่าเสือขาวที่กำลังสู้รบกับจอห์นเมื่อเห็นอย่างนั้นหน้าถอดสีทันที เมื่อใช้อาวุธลับกับเสือขาวแล้วจึงรีบหลบไปอยู่หลังของนิคทันที
“พี่ใหญ่กำเริบแล้ว! ยาระงับที่เอามาด้วยพอไหม? เราต้องระงับเขาตอนนี้!”
เมื่อเห็นจอห์นหยิบยาระงับออกมาจากกระเป๋า นิครับจับมือของเขาทันที
“ไม่ ใช้ยาระงับไม่ได้ สถานการณ์ตอนนี้ไม่ต่อดีเรา มีเพียงแค่วิธีนี้ถึงจะจัดการคนพวกนี้ได้”
จอห์นที่ถือยาระงับเอาไว้ลังเลเช่นเดียวกัน “แต่พี่ใหญ่กำเริบแบบนี้ต่อไป ฉันกลัวว่าเขาจะควบคุมไม่ได้ ถ้าหาก……”
นิคแย่งยาระงับมาจากมือของจอห์นอย่างเด็ดขาด สายตาเย็นชาจนน่ากลัว “ไม่มีแต่ เพื่อประเทศญี่ปุ่น ศึกในครั้งนี้เราต้องชนะเท่านั้น!”
เมื่อได้ยินอย่างงั้น ท้ายที่สุดจอห์นก้มหน้า กัดฟันไม่จ้องมองเสือดำที่กลายเป็นครึ่งปีศาจอีก
NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 1227 กลายร่างเป็นครึ่งปีศาจประหลาด
Posted by ? Views, Released on November 15, 2021
, NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง
พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….
Recommended Series
Comment
Facebook Comment