Return of The 8th Class Mage Return Of The 8th Class Mage – Chapter.33
ตอนที่ 33 คําเชิญของหอคอยงาช้าง (3)
ขอบคุณที่ยอมมาตามคําเชิญจากหอคอยงาช้างของเรา ”
ประการแรกทางหอคอยได้ทําการต้อนรับเขียน
เอียนเป็นเด็กชายอายุ 12 ปี
อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังทักทายเอียนด้วยมารยาทที่ดี
“ มานั่งสิ ทําตัวตามสบายได้เลย ”
จอมมเวทย์ล้อมรอบเอียนเป็นวงกลม
เก้าอี้ตั้งอยู่ตรงกลางเพื่อให้อาร์ชเมจทุกคนมองเห็นเอียน จากทุกๆด้าน
และเอียนก็ได้ไปนั่งบนเก้าอี้ตัวนั้น
“ มันอาจทําให้คุณสับสน ฉันเข้าใจ ”
ในไม่ช้ามานาสีน้ําเงินก็ปรากฏขึ้นมาในอากาศ
“ ไม่จําเป็นต้องกลัวไปหรอก ในฐานะสมาชิกของหอคอยงาช้างทุกคนต่างก็ผ่านกระบวนการนี้มาแล้วและแค่ครั้งเดียวเท่านั้น”
“ ตามที่ได้ยินมาฉันพอจะรู้จักความสามารถของคุณแล้ว แต่คุณก็ยังทําสิ่งที่น่าฟังอีกมากมาย มันไม่ใช่แค่ “ความประทับใจ” ในสิ่งที่คุณทําเพียงอย่างเดียว”
ในขณะที่อ่านรายงานของหอคอย จอมเวทย์พูด
แม้ว่าเขาจะอ่านมามากกว่าร้อยครั้งแล้วแต่เขาก็ยังคงอ่านมันต่อไปเพราะเขายังสนใจสิ่งที่อยู่ในรายงาน
“ แต่เราเป็นพี่น้องกันในสายสัมพันธ์มานาซึ่งมากกว่าในสายเลือดใช่ไหม? แต่ถ้ามีความเข้าใจผิดหรือข้อสงสัยระหว่างเรา เราก็จะแก้ไขมันให้ดีขึ้นในตอนนี้ ”
ความสงสัยของหอคอยงาช้างและการสอบสวนของพวกเขา
นอกจากนี้ห้องนี้ยังเต็มไปด้วยเวทย์มนตร์การซักถาม
อย่างที่เขียนได้คาดการณ์เอาไว้
ดังนั้นเขาจึงเตรียมยาที่ทํามาจากเห็ดหัวใจหินมาเพื่อการนี้
“พวกเขามองเห็นเวทมนตร์ของพวกเขา
ที่สุดของที่สุดของหอคอยงาช้างนั้นได้สร้างเวทมนต์ซักถาม
นี้ขึ้นมา
พวกเขาจะต้องมีความไว้วางใจและรู้สึกภาคภูมิใจในเวทย์มนต์นั้นเอามากๆ
หากเอียนสามารถเอาชนะการสอบสวนในวันนี้ไปได้
“พวกเขานั้นจะต้องหยุดสงสัยและสนใจในตัวฉันอย่างแน่
นอน
แต่พวกเขาจะสนใจแค่ความสามารถของเอียนเท่านั้น
พรสวรรค์ที่มีค่า
“ เอ่อ..คุณจะทรมานฉันหรือทําอะไรที่ไม่ดีเหรอ? ”
เอียนถามราวกับว่า
ด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นจอมเวทย์แห่งหอคอยก็ตอบ
รอยยิ้มของเขาประสานกันได้ดีกับรอยย่นบนใบหน้าของ
เขา
“ ฮ่า ฮ่า! นี่คุณล้อเล่นใช่มั้ย วิธีการปาเถื่อนเหล่านั้นไม่ใช่สไตล์ของพวกเราเลย เราแค่จะถามคําถามคุณและคุณก็แค่ต้องตอบคําถามเหล่านั้นก็พอ ”
ในขณะที่เขาพูดอย่างนั้นจอมเวทย์แห่งหอคอยก็มองไปที่เหล่าจอมเวทย์คนอื่นๆ
มันเป็นการสัญญาณอย่างเงียบๆที่จะสั่งให้เริ่มต้นเวทย์ซักถามได้แล้ว
เวลาได้มาทดสอบยาที่เลดิโอนั้นปรุงแล้ว
“ เอียน เพจ เกิดในปี 488 ตามในปฏิทินของจักรวรรดิ ดาวแพะแดง พ่อเป็นนักเดินทางที่หลงทางในการเดินทางและหายตัวไป แม่เป็นแม่บ้านในครัวของปราสาทเมืองโมเกรียน วาเนสซ่า เพจ มีอะไรที่ฉันพูดผิดไปหรือเปล่า”
“ ไม่มีอะไรผิดทุกอย่างที่พูดมานั่นเป็นความจริง”
ไม่มีการโกหก
เขาถามคําถามต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับเอียน
เอียนตอบอย่างใจเย็น
หลังจากนั้นคําถามหลักก็ได้เริ่มต้นถาม
“ คุณรู้ได้อย่างไรว่าศพก็อบลินนั้นสามารถนําไปขาย แลกรับเงินได้”
“ ในกรณีนี้นั้นฉันเคยได้ยินมาว่ามันขายได้และฉันก็แค่ลองทํามันดู”
“ ฉันสงสัยในความสัมพันธ์ของคุณกับนักเล่นแร่แปรธาตุเลดิโอ ”
“ แม่ของฉันมีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอ ฉันต้องการคนที่สามารถปรุงยาให้เพื่อรักษาเธอและฉันได้พ่อค้าคนหนึ่งแนะนําให้ฉันรู้จักกับเลดิโอ อย่างที่ฉันเคยได้ยินมาว่าจอมเวทย์นั้นจะมีรายได้เยอะมากใช่ไหม? ดังนั้นฉันจึงจ้างเขามาไง”
“ อะไรคือจุดประสงค์ที่แท้จริงในการไปที่ซากหอคอยเก่างาช้าง? ”
“ ฉันเคยเห็นทั้งรูปและสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับมันมามากมายในหนังสือ ฉันจึงอยากไปที่นั่นจริงๆสักครั้งในชีวิต”
เอียนต้องคําตอบอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
เพื่อให้ทุกสิ่งที่เขาพูดนั้นดูเป็นความจริง
“ คุณจําจอมเวทย์เซซิเลียได้ไหม”
” แน่นอน ฉันจําได้”
“ และคุณบอกว่าคุณเห็นเธอกําลังคุยกับชายสวมหน้ากากและจากนั้นเซซิเลียก็ได้พยายามที่จะฆ่าคุณเมื่อเธอเห็นคุณอยู่ที่นั่น… คุณแน่ใจหรือว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นเป็นความจริง? เพราะเธอยังไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย”
“ มันคือเรื่องจริง ฉันเกือบจะตายไปแล้ว ”
คําถามที่ไม่มีที่สิ้นสุดจากอาร์ชเมจ
เมื่อใดก็ตามที่เอียนตอบคําถามไป คําถามต่อไปก็เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ
“ และคุณไม่เคยเรียนรู้เวทย์มนต์ได้โดยไม่มีใครสอนเลยจริงๆเหรอ? ”
” ใช่ ฉันไม่เคยเรียนเวทย์มนต์กับใครเลย ”
“ ถ้างั้นเวทย์ไฟบอล เวทย์อัญเชิญวิญญาณและรวมไปถึงเวทย์ฟอสต์โนวา คุณจะรู้สูตรเวทย์ทั้งหมดเหล่านั้นมาได้อย่างไร ฉันอยากฟังคําตอบที่ดีกว่านี้ ”
เวทย์มนตร์นั้นจะถูกร่ายโดยการท่องสูตรเวทย์อย่างรวดเร็วผ่านมานาสมอง แต่อย่างไรก็ตามเอียนบอกว่าเขาไม่ได้ว่าไม่ได้เรียนรู้สูตรเวทย์นั่นมาจากที่ใดเลยแต่เขานั้นสามารถใช้เวทย์มนตร์ได้เพราะในแง่ของจอมเวทย์แล้วมันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
“ ได้โปรดอย่าบอกฉันว่า “คุณคิดมันขึ้นมาได้เอง” นะ ”
คําที่เอียนพูดในขณะทําการทดสอบมานาในเมืองบ้านเกิดของเขา
ผู้ถามนั้นทราบในรายละเอียดนั่นแล้ว
แต่อย่างไรก็ตามเอียนตอบแบบเดียวกัน
“……..ฉันเพิ่งเห็นภาพ”
“ เห็นภาพ? ”
“ ยกตัวอย่างเช่นฉันนั้นจินตนาการว่ามีไฟปรากฏออกมาบนฝ่ามือของฉัน ”
ในขณะที่ตอบเอียนก็จุดประกายไฟเล็กๆมาที่มือของเขา
มันเป็นเวทย์ไฟบอลระดับต่ํา
“ ฉันแค่จินตนาการถึงมันจนอยู่มาวันหนึ่งมันก็กลายเป็นค
วามจริง ?
ร่ายคาถาด้วยการจินตนาการ?
หากจินตนาการถึงลูกไฟขนาดเล็กไฟก็จะปรากฏขึ้น
หากเขาต้องการอัญเชิญวิญญาณจากนั้นเขาก็แค่จินตนาการแล้วเสกมันขึ้นมาเหรอ?
หากเขาพยายามที่จะหยุดสิ่งที่อยู่รอบตัวของเขาให้ถูกแช่แข็งเขาก็แค่จินตนาการถึงฟอสต์โนวาเช่นกันเหรอ?
“ คุณพูดเรื่องไร้สาระอะไรในหอคอยแห่งนี้
”
มันไร้สาระโดยสิ้นเชิง
อาร์ชเมจทั้งหมดเหล่านั้นตะโกนพร้อมกัน
เวทย์ซักถามนั้นจะคอยจับผิดคําโกหกของเขา
แต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แค่พูดในสิ่งที่เขียนบอกว่ามันคือความจริง
ผลลัพธ์ไม่เปลี่ยนแปลง
“เขาไม่ได้พูดโกหกเหรอ?”
อาร์ชเมจต่างตรวจสอบเวทย์ซักถามอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย จอมเวทย์ที่กําลังใช้เวทย์ซักถามที่แข็งแกร่งที่สุดของหอคอยงาช้างได้กล่าวต่อว่าเอียนที่กําลังพูดความจริง
“เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง
จอมเวทย์คนแรกในตํานาน
เอียนคือการกลับชาติมาเกิดของเขาจริงๆเหรอหรือว่ามีใครบางคนที่เป็นอย่างเขา?
“ถ้าเขาพูดเรื่องโกหก”
มันก็ไม่สมเหตุสมผลเลย
นั่นแปลว่าเวทย์มนตร์ของพวกเขาใช้ไม่ได้ผลกับเอียน
นั่นหมายความว่าอย่างไร
“เขาประสบความสําเร็จจนอยู่ในขั้นที่สูงกว่าเราไปแล้วหรือไม่?”
เวทย์ซักถามนั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยจอมเวทย์แห่งหอคอยและอาร์ชเมจหลายคน
แต่มีจอมเวทย์ที่ไม่ได้ผลจากเวทย์นี้
“นั่นมันเป็นไปไม่ได้ มันไม่สมเหตุสมผลเลย”
“ อืม …”
คําถามที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้หยุดชั่วคราวในขณะที่ทุกคนกําลังรอการตัดสินใจของจอมเวทย์แห่งหอคอย
“ ฮี! ฉันไม่สนใจแล้ว! ”
ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยถามเอียนเลย
เธอเคยเป็นจอมเวทย์ที่อายุน้อยที่สุดของขั้นที่ 4 ก่อนที่เอียนจะปรากฏตัว
“หญิงแห่งไฟ” เฮลีน” ยืนขึ้นขณะทุบโต๊ะ ฉายาของเธอถูกตั้งขึ้นไม่เพียงเพราะเธอชอบใช้เวทย์ไฟ แต่เป็นเพราะความอดทนต่ําของเธอด้วยนั้นเอง
“ คุณเป็นใครกันแน่ หือ? ”
“ เฮลีน! ใจเย็นๆ จอมเวทย์แห่งหอคอยอยู่กับเรา…”
“ มาสิ พวกเราไม่ได้มารวมตัวกันเพื่อฟังคําตอบแบบนี้ใช่ไหม? หยุดถามคําถามที่น่าเบื่อเหล่านั้นซะ แล้วถามถึงสิ่งที่เราต้องการไปเลยนั่นคําถามที่พวกเรานั้นอยากจะถามเขาจริงๆ!
จอมเวทย์ที่อยู่ในขั้นเดียวกันนั้นจะมีความแตกต่างในระดับ
ของพวกเขา
และเฮลีนก็เป็นหนึ่งในจอมเวทย์ขั้นที่ 4 ที่แข็งแกร่งที่สุด
อย่างน้อยก็ในตอนนี้
“ ด้วยปากของเจ้าไหนบอกข้าหน่อยสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่ หยุดโกหกได้แล้ว บอกความจริงข้าสักที ”
เฮลีนพูดอย่างก้าวร้าว
จอมเวทย์คนอื่นๆมองด้วยความลําบากใจแต่พวกเขาก็มองดูเอียนด้วยความสนใจด้วยเช่นกัน
พวกเขาไม่สามารถถามเช่นนั้นได้เพราะความภาคภูมิใจของพวกเขาในการเป็นจอมเวทย์ของหอคอย
ใช่แล้ว นั่นคือสิ่งที่เธอเป็น
ในชีวิตในอดีตของเขาเฮลีนก็ทําตัวแบบนี้เหมือนกันไม่แตกต่างกันเลยกับในตอนนี้
น้ําเสียงและภาษาที่หยาบคายและก้าวร้าว
“ ฉันคิดว่าคุณรู้แล้วใช่ไหม? ”
” อะไร? ”
“ ที่มีมานาลอยอยู่ตรงนั้นก็ด้วย ”
มานาที่แสดงข้อมูลย่อๆของเอียน
“ เอียน เพจ เกิดในปี 488 ตามในปฏิทินของจักรวรรดิ ดาวแพะแดง พ่อเป็นนักเดินทางที่ได้หลงทางและหายตัวไป แม่เป็นแม่บ้านในครัวของปราสาทประจําเมืองโมเกรียน วาเนสซ่า เพจ ”
ยิ่งไปกว่านั้นเอียนก็ได้เริ่มอ่านให้เธอฟัง
ทุกคําอย่างช้าๆ
“ ฉันไม่รู้จะพูดอะไรต่อแล้ว”
คําพูดของเอียนไม่สนใจอะไรเลย
และเฮลีนก็รู้
“ นี่คุณกล้าพูด…”
” หยุด! ”
เสียงสั้นๆของจอมเวทอย์แห่งหอคอยได้หยุดเสียงที่กําลังโกรธของเฮลีน
แม้แต่เฮลีนก็ต่อต้านเขาไม่ได้
“ โปรดให้ฉันได้ถามคําถามสุดท้าย ”
คราวนี้จอมเวทย์แห่งหอคอยจะเป็นคนถามคําถามของเขาเอง เขาคิดคล้ายกับสิ่งที่อาร์ชเมจคนอื่นๆคิด หากสิ่งที่เอียนพูดนั้นเป็นความจริง พวกเขาก็จะต้องยอมรับในความสามารถของเอียนถึงแม้ว่ามันจะเป็นคําโกหกก็ตาม แต่เอียนก็เป็นจอมเวทย์ที่ยอดเยี่ยม
อย่างไรก็ตามมันไม่เกินไป… ธรรมดา?”
จอมเวทย์แห่งหอคอยนั้นก็อยากรู้อยากเห็น
ร่างของเอียนยังคงเป็นปกติไม่ว่าจะถูกถามด้วยคําถามใดๆที่พวกเขาถาม
อาจเป็นเพราะความสงบเยือกเย็นของเขา
อย่างไรก็ตาม
“ต้องมีการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจ
คําถามที่อาจส่งผลต่อความสงบเยือกเย็นของเขา
จอมเวทย์แห่งหอคอยถามคําถามที่จะทําให้ส่งผลต่อความสงบเยือกเย็นของเอียน
“ ในวันที่คุณทําการทดสอบปฏิกิริยามานาฉันรู้ว่ามีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น คุณจําทหารโจนาธานที่ดูถูกคุณและแม่ของคุณได้ใช่ไหม? ”
เอียนพยักหน้าเล็กน้อย
ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้น
“ ในวันถัดไปได้มีการพบทหารนั้นเสียชีวิต ”
ด้วยสายตาที่แหลมคมของจอมเวทย์แห่งหอคอยที่มองไปยังเอียนและยังถามคําถามของเขาต่อไป
เขาตั้งใจที่จะตรวจจับความวุ่นวายทางจิตใจของเอียน
“ การตายของทหารคนนั้นมันเกี่ยวข้องกับด้วย คุณหรือเปล่า ”
จอมเวทย์แห่งหอคอยเป็นคนฉลาด
เขาแตกต่างจากคนอื่นๆมาก
แต่เอียนก็ไม่ได้มองข้ามเวทย์ของพวกเขาเลย
เขายังไม่หยุดสงสัยและจะทดสอบทุกกรณีที่มีความเป็นไปได้ที่จะทําให้พวกเขานั้นได้รู้ความจริง
“อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้เลยว่ามันเป็นเพราะพลังของยาเห็ดหัวใจหิน
มันเป็นขีดจํากัดของจอมเวทย์แห่งหอคอยในตอนนี้
จอมเวทย์และนักเล่นแร่แปรธาตุที่ค่อนข้างสนิทกัน
พวกเขายังมีโอกาสอีกมากมายที่จะได้ร่วมมือกัน
พวกเขามักจะได้รับยาอายุวัฒนะที่ดี
“แต่จอมเวทย์ก็รู้เพียงแค่พื้นฐานของการทํายาเท่านั้น”
เช่นเดียวกับเอียนที่รู้ว่าสมุนไพรบางอย่างนั้นสามารถใช้เป็นพื้นฐานของการเล่นแร่แปรธาตุได้
ฮาเบิร์ทก็เป็นเช่นเดียวกัน
เพียงแต่เขานั้นจะรู้ดีมากกว่าคนอื่นๆ
“อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่ามีเห็ดหังใจหินอยู่จริงในช่วงเวลา
ยาที่สามารถต้านเวทย์กถามได้อย่างสมบูรณ์
ฉันสามารถลบพิษของมันได้
ในกรณีนี้ส่วนใหญ่แล้วสารพิษนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อจอมเวทย์
จอมเวทย์นั้นสามารถใช้มานาของตัวเองเพื่อกําจัดพิษออกจากร่างกายได้
และนั่นคือเหตุผลที่แร็กนาร์นั้นขอให้ดักลาสสร้างพิษพิเศษขึ้นมาในอดีต
“เขาบอกว่ามันจะเป็นคําถามสุดท้ายแล้วสินะ
จอมเวทย์แห่งหอคอยสนใจเพียงว่าเอียนจะมีปฏิกิริยาอย่าง
เขาน่าจะรักษาสัญญาที่เขาพูดไว้ครั้งหนึ่ง
เฉพาะในกรณีที่เขานั้นได้รับคําตอบที่น่าพึงพอใจ
“ฉันจะให้คําตอบที่คุณต้องการ
เอียนลบล้างผลกระทบของยาเห็ดหัวใจหิน
เมื่อเลี่ยนตัดสินใจได้แล้วเขาก็เริ่มพูด
“
ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ”
“ คุณปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับคุณใช่หรือไม่ ”
“ ใช่แล้ว”
สิ่งที่เอียนพึ่งพูดไปนั้นเป็นการโกหกที่ชัดเจน
โดยตามธรรมชาติแล้วร่างกายของเอียนนั้นจะต้องตอบสนองกับเวทย์ซักถาม
ปฏิกิริยาร่างกายหลายๆอย่างที่จอมเวทย์แห่งหอคอยนั้นต้องการ
การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นได้แจ้งให้จอมเวทย์ทุกคนรู้ในทัน
“เขาโกหก?”
ทุกคนรู้แล้วว่าเอียนนั้นโกหก
นั่นทําพวกเขาแสดงสีหน้าที่โล่งใจออกมา
เวทย์ซักถามนั้นยังคงสมบูรณ์แบบไม่ได้ผิดพลาดประการใด
มันไม่ใช่ปัญหาเรื่องสูตรเวทย์ของพวกเขาหรือพวกเขาถูกต่อต้านโดยจอมเวทย์ในขั้นที่สูงกว่าและไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆจากบุคคลที่สาม
สิ่งที่เด็กคนนี้พูดมาทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง
“เด็กก็ยังคงเป็นเด็ก
มันเป็นความคิดทั่วๆไปของจอมเวทย์แห่งหอคอยและคนอื่นๆ
เด็กนั่นพูดความจริงจนกระทั่งคําถามสุดท้ายเขาโกหก
ในที่สุดเขาก็โกหกเรื่องการฆาตกรรม
มันมีความหมายมากสําหรับพวกเขา
“เป็นเด็กที่มีความสามารถดีกว่าจอมเวทย์ทั่วๆไปในหอคอย
นี่จะไม่ใช่เรื่องที่ดีที่สุดเหรอ?
ที่จะครอบงําพลังของเขาไว้
“ แน่นอน ฉันก็ไม่คิดว่าเป็นคุณจะเป็นคนที่ฆ่าเขาเช่นกัน
หลังจากความคิดของเขา จอมเวทย์แห่งหอคอยก็ยิ้ม
ในที่สุดเขาก็ได้ความมั่นใจของเขากลับคืนมา
“ขอบคุณที่ตอบคําถามที่ยุ่งยากของเราทุกคําถาม ”
ไม่มีใครท้วงเขาเกี่ยวกับเรื่องโกหกของเอียน
การฆ่าทหารไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรนัก
เว้นแต่เขาจะเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่บ้าคลั่งก็อีกเรื่องหนึ่ง
“ ฉันอยากทานอาหารร่วมกับคุณจริงๆ แต่ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่ฉันนั้นต้องทํา โปรดให้ฉันได้แก้ตัวใหม่ในภายหลัง”
เขาได้ทุกสิ่งที่เขาต้องการจากเอียน
และเขาได้ตรวจสอบทุกสิ่งที่เขาต้องการแล้ว
ตอนนี้สิ่งเดียวที่เหลือคือพรสวรรค์ของเอียน
“ อย่างที่คุณรู้ความสามารถที่คุณมีนั้นพวกเราไม่เคยได้พบเจอมาก่อน มันเป็นพลังปริศนาที่ยังไม่มีใครรู้ ดังนั้น”
จอมเวทย์แห่งหอคอยถือลูกแก้วคริสตัลมาวางไว้บนโต๊ะ
มันเป็นเหมือนลูกแก้วกลมๆที่ใช้ในการสื่อสารซึ่งมันจะเชื่อมต่อกับทุกชั้นของหอคอยงาช้าง
“ เราต้องการวัดพลังมานาที่แม่นยํายิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงเพื่อดูค่าพลังในปัจจุบันของคุณเท่านั้นแต่เพื่อที่เราจะได้ช่วยนําทางให้คุณในฐานะผู้อาวุโสของหอคอยงาช้างคุณเข้าใจไหม?”
การวัดพลังมานาที่แม่นยํายิ่งขึ้น
นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องการเปลี่ยนจาก ‘การประมาณค่า” เป็น “ค่าความจริง” ซึ่งเอียนนั้นได้เป็นจอมเวทย์ขั้นที่ 3 ตั้งแต่เริ่มต้น
“ตอนนี้มันเป็นปัญหาใหญ่แล้วจริงๆ”
มีสองวิธีของการจําแนกแบ่งขั้นของเวทย์มนตร์
อย่างแรกคือปริมาณของมานา
อย่างที่สอง “พลังในการร่ายเวทย์” ของสมองมานา
ขั้นที่สูงๆจําเป็นต้องใช้สมองมานาในการร่ายสูตรเวทย์ที่ยากขึ้น
หากจอมเวทย์ไม่สามารถร่ายสูตรเวทย์ได้อย่างรวดเร็วและสมบูรณ์แบบ เวทมนตร์จะไม่ถูกปลดปล่อยออกมา
แท้จริงแล้วมันคือ “ปัญญาที่มีมาตั้งแต่กําเนิด” ซึ่งจอมเวทย์หลายคนไม่สามารถเอาชนะกําแพงที่กั้นไว้ในแต่ละขั้นนี้ได้
“ฉันคงจะไม่ถูกขอให้แสดงพลังการร่ายสูตรเวทย์ของฉันหรอกนะ
เอียนโกหกคนอื่นว่าเขาสามารถใช้เวทย์ได้ด้วยจินตนาการของเขา พวกเขาคงจะไม่ทดสอบสมองมานาของเขาแน่ๆ
“พวกเขาน่าจะตรวจสอบเฉพาะปริมาณมานาของฉันเท่านั้น”
เอียนคาดว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น
จอมเวทย์เด็กมาถึงห้องนี้ได้โดยการใช้ลิฟต์มานาขึ้นมา
จอมเวทย์ที่นําทางเอียนมาด้วยคววามหยาบคายได้นําลูกแก้วกลมกึ่งโปร่งใสขนาดใหญ่มาที่ศูนย์กลางของห้องจอมเวทย์แห่งหอคอย
“อะไร? เขาได้ใช้เวทย์ซักถามหรือไม่?” (ตามที่ผมเข้าใจคือคนที่นําทางเอียนขึ้นมาคิดว่าความลับเรื่องฆ่าทหารจะต้องถูกเปิดเผยแต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะคนในห้องนั้น ไม่ใส่ใจกับการฆ่าทหารไปเพียงคนเดียว)
ใบหน้าของจอมเวทย์หนุ่มซีด
พวกเขาคิดว่ามันเป็นข่าวลือที่พูดเกินจริง
พวกเขาเชื่อว่าความลับของเอียนจะถูกเปิดเผยโดยเวทย์ซัก
ถาม
พวกเขาคิดว่าเอียนจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในคุกมานา
“ข่าวลือทั้งหมดเป็นจริง
?”
พวกเขายังคงไม่อยากเชื่อเรื่องนี้ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามเอียนยังคงยืนอยู่ที่ห้องของจอมเวทอย์แห่งห
อคอย
” นี่คืออะไร? “
ลูกแก้วกลมขนาดใหญ่ลอยลงมาหยุดอยู่ที่ตรงหน้าเอียน
เขาไม่ได้ถามเพราะเขาไม่รู้การใช้งานจริงๆ
มันกลายเป็นนิสัยของเอียนที่มักจะแกล้งทําเป็นเด็กที่ไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“ เรียกว่ามานาสโตเรจ มันเป็นหนึ่งในทรัพยากรที่สําคัญและยังเป็นแหล่งพลังมานาในหอคอยงาช้าง “
ลิฟต์มานา ลูกแก้วสื่อสารและอื่นๆ แหล่งพลังมานาที่จําเป็นสําหรับอุปกรณ์ที่ใช้มานานั้นเรียกว่ามานาสโตเรจ
“ ในตอนนี้มันไม่มีสีที่เฉพาะเจาะจง แต่เมื่อใดก็ตามที่มันถูกชาร์จด้วยมานามันจะเรืองแสงเป็นสีน้ําเงิน คุณมองเห็นหรือไม่ ?
มีมานาสโตเรจที่หอคอยนี้
มันไม่ใช่แค่แสงสีน้ําเงิน แต่ลูกแก้วกลมนั่นเปร่งแสงสีน้ําเงินเข้มข้นออกมา
มานาสโตเรจเมื่อเก็บมานาจนเต็มจะมีมานาเทียบเท่ากับจอมเวทย์ขั้นที่ 3 และสีของมันก็จะเข้มข้นขึ้น
“ ลองพยายามอักมานาของคุณเข้าไป ”
“ ทั้งหมดเลยเหรอ?
” ใช่มันคงจะดีกว่า เพราะเราต้องการเห็นขีดจํากัดของคุณ
“ วิธีการก็ทําเช่นเดียวกับการอัดมานาใส่วัตถุอื่นๆ ? ”
” โอเค ”
จอมเวทย์แห่งหอคอยตอบอย่างชัดเจน
เอียนเหยียดแขนออกไปอย่างระมัดระวัง
เพื่อปล่อยมานาในตัวของเขาออกไป
ฉันควรลดพลังมานาของฉันหรือไม่
นี่เป็นการแสดงครั้งสุดท้ายของเอียน
“ถ้าฉันอัดมานาลงไปในระดับของจอมเวทย์ขั้นที่ 2 ..”
ในขณะนี้จอมเวทย์ในอคอยงาช้างคาดหวังว่าเอียนจะได้เป็นจอมเวทย์ขั้นที่ 2 ซึ่งนับว่าเป็นผู้เริ่มต้นคนที่ 3 ที่เริ่มจากวันที่ 2 ถ้าเอียนแสดงมานาออกมาจํานวนมาก? มันจะลดความกดดันของอาร์ชเมจคนอื่นๆและเอียนจะได้รับสถานะที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
“นี่คงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันจะคิดได้
เขาสามารถกระทําการอย่างชาญฉลาด เพื่อหลอกลวงผู้อื่นและเปลี่ยนสถานการณ์รอบตัวของเขาให้เป็นไปตามที่เขา
มันง่ายมาก
“แต่…”
เขาไม่ได้แสดงมันออกมาอย่างฉลาดเสมอไป
เขามักจะต้องแก้ปัญหาทางอารมณ์
แม้เขาจะใช้ชีวิตที่สองของเขาแล้วในตอนนี้
เหมือนตอนนี้ที่สมองของเขาบอกว่าไม่ แต่หัวใจตอบว่าใช่
ไม่น่าพอใจ
บางสิ่งบางอย่างทําให้เอียนรู้สึกไม่พอใจ
“ทําไม?
เขาสามารถหาคําตอบได้อย่างง่ายดาย
แหล่งที่มาของความไม่พอใจ
“พลังเวทย์”
เขาสามารถอดทนต่อสิ่งอื่นได้
โดยพิจารณาจากสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ของเขา
เขาสามารถสั่นร่างกายของเขาเหมือนเด็กที่กําลังกลัวได้
หรือหลอกลวงผู้อื่นด้วยการโกหก
แต่เมื่อใดก็ตามที่เขาต้องเกี่ยวข้องกับพลังเวทย์เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
และเมื่อใดก็ตามที่เขาต้องใช้เวทย์มนตร์เขาก็จะกลายเป็นคนเจ้าอารมณ์
ไม่ใช่เป็นเพียงแคในชีวิตนี้ แต่ชีวิตในอดีตของเขาก็เป็นด้วยเช่นกัน
“เพื่อเวทย์มนตร์”
เอียนเป็นแค่จอมเวทย์ขั้นที่ 8
เขาไม่ได้เป็นปราชญ์หรือผู้นําที่จะได้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์
ภูมิปัญญา ปรัชญา ความมุ่งมั่น
เขาอาจจะยังขาดสิ่งเหล่านั้น
อย่างไรก็ตามสําหรับพลังเวทย์แล้ว
“ฉันยอมรับข้อจํากัดอื่นๆของฉันได้ แต่สําหรับพลังเวทย์ ฉันยอมไม่ได้”
ไม่มีจอมเวทย์คนใดในหอคอยงาช้าง
หรือจอมเวทย์คนอื่นๆในทวีปนี้
หรือจอมเวทย์คนอื่นที่ยังมีชีวิตอยู่
“ไม่มีจอมเวทย์คนใดจะมีพลังเวทย์สูงไปกว่าฉัน”
ความเย่อหยิ่งของเขาทําให้เอียนหน้ามืดตามัว ใช้พลังไปทั้งหมด
เอียนอัดมานาเข้าในลูกแก้วคริสตัลทั้งหมดที่เขามี
โดยไม่ลังเล
โดยไม่มีการไตร่ตรอง
“ อะไรนะ… ?”
ทันใดนั้นผู้คนก็มองไปที่มานาสโตเรจ
มันได้กักเก็บมานาเอาไว้จํานวนมากจนกลายเป็นสีน้ําเงินเข้ม จากนั้นมันเข้มมากจนเริ่มมืดทึบและยังเข้มข้นขึ้นไปอีก
จากสีฟ้าเป็นสีน้ําเงิน
จากสีน้ําเงินเป็นสีน้ําเงินเข้ม
จากสีน้ําเงินเข้มไปเป็นสีดําเพราะเข้มเกินไป
ในที่สุด
* แคร็ก! แคร็ก! แคร็ก! *
ผิวด้านนอกของมานาสโตเรจเริ่มแตกร้าว
*ปัง !*
ในไม่ช้ามันก็ระเบิดพร้อมกับเสียงที่ดังมาก
มันไม่สามารถที่จะกักก็บมานาของเอียนไว้ได้
วิ้งงง!
ในไม่ช้ามานาก็กระจายไปทั่วทุกที่ภายในห้อง
พลังมานาสีฟ้าของมันหมุนวนเหมือนพายุทอร์นาโด
“ อั๊คคค! ”
จอมเวทย์ปกคลุมใบหน้าของพวกเขาจากแรงลมที่รุนแรง
ลิฟต์มานาเริ่มเคลื่อนที่ขึ้นและลงจากผลกระทบมานาของเอียน
ลูกแก้วคริสตัลส่องแสงกระพริบอย่างรวดเร็ว
เอกสารรายงานต่างๆก็ถูกพัดให้รอยไปทั่วห้อง เก้าอี้ล้มลงและกลิ้งไปมา
หลังจากนั้นไม่นาน
มีเพียงความเงียบงัดที่หลงเหลืออยู่
ไม่มีใครสามารถอ้าปากพูดได้เพราะพวกเขานั้นกําลังอึ้งกันทุกคน
* แฮก! … แฮก! .. แฮก! *
เสียงลมหายใจที่กําลังหอบสะท้อนอยู่ในหอคอย
มันคือการหายใจของเอียนที่เหนื่อยจากการใช้มานาจํานวน
มาก
เอียนยืนแทบจะไม่ไหวแล้วจากนั้นเขาก็นั่งลงกับพื้น
ถึงกระนั้นเอียนก็เฝ้าดูคนอื่นรอบตัวเขา
“ดูหน้าของพวกเขาสิ”
จอมเวทย์หนุ่มที่นํามานาสโตเรจมา
อาร์ชเมจผู้ที่คิดไว้ว่าอยากให้เอียนเป็นจอมเวทย์ขั้นที่ 2
และแม้แต่จอมเวทย์แห่งหอคอยผู้ซึ่งไม่ค่อยแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกของเขา
สีหน้าของพวกเขาดูตกใจ
“ ฉันฝันไปใช่ไหม…”
เฮลีนพูดโดยไม่รู้ตัว
“ เป็นไปยังไง”
ตอนนี้เฮลีนเริ่มเก็บเศษของมานาสโตเรจ
เธอตรวจสอบว่าได้มาตรฐานหรือไม่
ถึงแม้ว่ามันจะไร้ความหมายที่จะทําอย่างนั้น
“เด็กคนนี้เป็นยังไงกันแน่
คนอื่นไม่ได้แสดงความคิดเห็นที่น่าตกใจเหมือนเฮลีน
แต่พวกเขารู้สึกกดดันมาก
มานาสโตเรจไม่สามารถกักเก็บมานาของเอียนได้
มันสามารถกักเก็บมานาของจอมเวทย์ขั้นที่ 3 ได้
นั่นคือขีดจํากัดของมานาสโตเรจ
และเขียนก็ทําลายมันโดยการอัดมานาในปริมาณที่มากเกินไปที่มานาสโตเรจจะเก็บได้
มันหมายถึงอะไร?
ผู้เริ่มต้นเป็นจอมเวทย์ที่มีขั้นมากกว่าขั้นที่
อย่างน้อยเอียนก็ต้องเป็นผู้เริ่มต้นที่อยู่ในขั้นที่ 4 หรือมากกว่านั้น
นอกจากนี้เขาไม่จําเป็นต้องร่ายสูตรเวทย์
มันเป็นจุดเริ่มต้นของการปรากฏตัวของอาร์ชเมจคนที่สิบสอง
End…